สงบ เรียบง่าย จากบ้านป่าบงเปียงถึงลำปาง...

สวัสดีครับ ดีใจจริงๆที่วันนี้ได้กลับมาเขียนกระทู้เกี่ยวกับการท่องเที่ยว

เพราะนั่นหมายความว่า ผมได้เวลาผ่อนคลายตัวเองจากการทำงาน มุ่งหน้าไปท่องเที่ยวถ่ายรูปกลับมา

และสำหรับเป้าหมายของทริป เป็นอีกสถานที่ที่อยากจะไปมานานแล้ว เเต่ยังไม่ได้สบโอกาสเสียที 

คือการไปถ่ายภาพนาขั้นบันได ที่บ้านป่างบงเปียง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ 

ซึ่งรอบนี้แต่เดิมไม่ได้มีแผนจะไปคนเดียวเช่นทุกครั้ง แต่มีเพื่อนเก่า...แก่...ตั้งแต่สมัยม.ต้น ติดสอยไปด้วย

วางแผนเดินทางไว้ช่วงต้นเดือนกันยา จองที่พักไป 2 คืน โอนมัดจำไปเรียบร้อยหนึ่งพันบาท

พร้อมมากกับการเดินทาง...แต่เหมือนเช่นเคย กับทริปนี้

จากที่ได้เกริ่นเป็นต้นเรื่องไป ว่าเดิมทีมีแผนจะไปเที่ยวป่าบงเปียงด้วยกันกับเพื่อนสมัย ม.ต้น ผมเลยทำการจองที่พักไว้ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม

แต่ก็เกิดเหตุสุดวิสัยก่อนวันเดินทางไม่กี่วันที่เพื่อนจำเป็นจะต้องถอนตัวไป เราเลยจำเป็นจะต้องยกเลิกทริปนี้กันไปก่อน 

การเลื่อนวันค่อนข้างจะเป็นไปได้ยาก เพราะเพื่อนๆผมเองก็ติดงานไม่สามารถลาในช่วงเวลาเดียวกันได้ ประกอบกับที่พักเองก็อย่างที่ทราบๆกันจะเต็มกันเกือบหมด ข้อจำกัดในการเดินทางร่วมกับเพื่อนเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายผมก็กลับมาสู่จุดเดิม จึงไลน์ไปบอกเพื่อนๆว่า

“แก...ฉันไปคนเดียวก่อนนะทริปนี้” แล้วก็เป็นการบินเดี่ยวท่องเที่ยวถ่ายภาพของผมอีกครั้ง

 

ผมเช็คกับที่พักทำการจองที่พักอีกครั้งด้วยเงินมัดจำเดิม เป็นคืนวันพฤหัสจึงวางแผนเดินทางแบบฉุกละหุกทริป

คือ โยนของใส่รถตั้งแต่เช้าวันพุธไปทำงานก่อนออกเดินทางเกือบๆหกโมงเย็น โดยวางแผนไว้ว่าน่าจะถึงตากราวๆ 4 ทุ่ม

จัดแจงโทรจองห้องพัก โอนเงิน ที่โรงแรมสวนสินล้านนา ซึ่งเป็นทางผ่าน เพื่อนอนเอาแรงในคืนแรก 

ระหว่างขับรถไปใจก็ยังลังเลว่าจะออกเดินทางต่อตั้งแต่ตีสี่ เพื่อไปให้ทันแสงเช้าที่ วัดพระธาตุดอยพระฌาน 

หรือจะหลับให้สบาย ตื่นเมื่อไหร่เดินทางต่อเมื่อนั้น เพราะเหนื่อยจากการทำงานมาทั้งวันแล้ว

คิดไปคิดมา ประมวลผลจากการหาข้อมูล ที่นี่เปิดให้ขึ้นได้ตอน 6 โมงเช้าแล้วต้องขับรถต่อไปอีก 4-5 กิโล แต่พระอาทิตย์ขึ้น 6.07 นาฬิกา

ยังไงๆก็ไม่ทันช่วงฟ้าเปลี่ยนสีก่อนพระอาทิตย์ขึ้น คิดได้อย่างนั้นแล้ว ตื่นตอนไหนค่อยว่ากันดีกว่า 

คิดได้แบบนั้นแล้ว เมื่อมาถึงที่พักสี่ทุ่มกว่าๆก็เช็คอิน อาบน้ำพักผ่อนดีกว่า ไม่รีบตื่นเช้าแล้ว 

(แต่ยังแอบตื่นมาดูแมนยูเสมอกับทเวนเต้ไปหน่อย เซ็งจริงๆ)

 

เช้าตื่นมาก็หกโมงกว่าๆ ที่พักที่ป่าบงเปียงส่งไลน์มาว่าเข้าที่พักได้หลังบ่ายสองนะครับ ทีนี้ก็ไม่รีบเลยครับ

อาบน้ำแต่งตัว ตั้งใจไปสำรวจเส้นทางขึ้นวัดพระธาตุดอยพระฌานก่อนดีกว่า เพราะยังไม่ได้ออกเส้นทางไปไกลนัก

ผมเลือกเดินทางไปอ.แม่แจ่ม ทาง จ. ลำปาง ถนนจะขับง่ายกว่าเส้นลำพูนไปทะลุทางขึ้นอินทนนท์ 

เลยขอไปเช็คมุมเช็คแสงไว้ก่อน เนื่องจากแพลนไว้ว่าลงมาจากป่าบงเปียง จะนอนต่อที่ จ.ลำปาง เผื่อจะขึ้นมาถ่ายแสงเช้าที่นี่

 และแล้วก็ออกเดินทางจาก จ.ตาก มุ่งน่าตาม GPS สู่ลำปาง ซึ่งช่วงนี้เอง ลำปางมีข่าวระวังน้ำท่วมกันอยู่ 

และระหว่างเส้นทางแรกที่ขับมาก็เจอสิ่งนี้ เส้นทางถูกน้ำท่วม และน้ำในแม่น้ำก็มีปริมาณที่สูงมากๆครับ

 

เลยถอยหลังกลับมาตั้งหลัก ถามชาวบ้านแถวนั้นถึงเส้นทางและสถานการณ์น้ำบริเวณนั้นอีกครั้ง ก็ได้รับคำแนะนำให้ไปอีกเส้นทางหนึ่ง

ขับออกจากจุดนั้นไปอีกเส้นทางไม่เกิน 10 นาที เราก็มาถึงเป้าหมายแรกของทริปท่ามกลางสายฝนพรำ

 

 

ที่นี่จะแบ่งเป็น 2 โซน โซนแรกเป็นอุโบสถศิลปะแบบล้านนา เป็นวิวพระอาทิตย์ขึ้น และอยู่ในมุมสูง เหมาะสำหรับมาถ่ายแสงเช้า และสายหมอก

ในส่วนงานสถาปัตย์สวยงามมากๆ มีโอกาสควนมาเยือนนะครับ ในส่วนของสายถ่ายภาพ คงต้องวางแผนมาช่วงหน้าหนาวที่พระอาทิตย์ถึงหลังหกโมงครึ่ง เราจะได้ลากชัตเตอร์เส้นขอบฟ้าสีทองที่นี่กัน

 

ส่วนอีกโซน เป็นพระพุทธรูปไดบุตซึองค์ใหญ่ตั้งตระง่านอยู่บนเขา บริเวณโดยรวมก็จะตกแต่งเป็นแบบญี่ปุ่น ที่สวยงามไปอีกแบบในเมืองไทย

ถ้ามาช่วงหน้าหนาวคงจะได้ฟีลดีทีเดียวครับ

และมุมนี้จะขาดไปไม่ได้เลยทีเดียวเชียว

ผมใช้เวลาเดินถ่ายรูปเล่นที่นี่อยู่พักใหญ่ ด้วยความที่ท้องเริ่มเรียกร้องความสนใจ ผมจึงตัดสินใจลงจากเขาเข้าสู่เมืองลำปางเพื่อเติมพลังทั้งคนทั้งรถ

ก่อนจะเดินทางสู่อ.แม่แจ่ม เสิร์จเจอร้านติ่มซำลำปาง ติ่มซำชุดละ 10 บาท กับผัดหมี่รสชาติดีครับ

 

และก่อนเดินทางมาลำปางได้เจอรีวิวแนะนำร้านแคร๊บ ฝรั่งเศส ว่าเป็นทีเด็ดเลยไม่พลาดที่จะขอไปลองสักหน่อย 

จังหวะค่อนข้างดี คนไม่เยอะ แต่ๆๆๆๆๆ รอออเดอร์ก่อนหน้า 14 แผ่น ไหนๆก็ตั้งใจมาแล้ว รอได้ครับ

เอาเข้าจริง รอไม่ได้นานอย่างที่คิด ป้าใช้เวลาต่อแผ่นค่อนข้างไวเลย 2 กระทะ ไม่นานผมก็ได้แคร๊ป แอปเปิ้ลกลับไป

เมื่อได้ลองแล้ว สมคำร่ำลือจริงๆครับ เนื้อแป้งกรอบไม่ร่วนแตกต่างจากที่เคยๆชิมมา แอปเปิ้ลเขียวกรอบๆเย็น+แยมเปรี้ยวนิดๆ อร่อยมากมายครับ 

ขอบอก

 

เมื่อได้ชิมแคร๊ปสมใจแล้วผมก็มุ่งหน้าขึ้นสู่บ้านป่าบงเปียงทันที ใช้เวลา 2 ชม. นิดๆผมก็มาถึงที่พัก ผมจองที่วีรศักดิ์ โฮมสเตย์ไว้ วิวดีเลยทีเดียวครับ

ติดถนน มีห้องน้ำในตัว หลังจากนั้น ผมก็นั่งนิ่งๆรับลม รับอากาศดีๆ ถ่ายรูปเล่น เดินเล่นไปนิดๆหน่อยๆ สำหรับคนที่ยังเหนื่อยกับการเดินทางในวันนี้ครับ

อ้อ ตอนรถเลียบแม่น้ำวังที่ไหลผ่านตัวเมือง น้ำค่อนข้างเยอะมาก และไหลเชียวน่ากลัวเลยทีเดียวเชียว

 

มื้อค่ำมาส่งในช่วงเวลาที่ผมกำลังออกไปเดินเล่นพอดี

ส่วนอันนี้มื้อเช้าของอีกวัน

 

ความตั้งใจแรก อยากจะมาลุ้นถ่ายทางช้างเผือกที่นี่ด้วย แต่ก็ต้องแห้วไป เนื่องจากฝนตกตั้งแต่ช่วงเย็นๆ ทั้งคืน ไปจนยันเช้า

 

และแน่นอนในเมื่อเมื่อคืนฝนตกตลอด เช้านี้ผมเลยได้ถ่ายหมอกคลอเคลียทุ่งนา และทิวเขาสมใจเลยทีเดียว

 

ช่วงนี้มีข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์น้ำท่วมทั้งที่ลำปาง และเชียงใหม่หนักหนาน่าดู คนเลยยกเลิกการจองที่พักกันค่อนข้างเยอะ 

ผมเองก็ลังเลที่จะอยู่ต่ออีกสักคืน หรือจะลงมาลำปางตามแผนเดิมดี สุดท้ายก็ตัดสินใจกลับลงมานานที่ลำปางเพื่อสำรวจเมืองในวันรุ่งขึ้นต่อ

ตอนลงมาก็เจอ จนท. กำลังช่วยกันเคลียร์พื้นที่ริมน้ำตรงทางขึ้นอินทนนท์อยู่เช่นกัน ปีนี้นับว่าหนักหนาจริงๆ

เมื่อผมลงมาจากบ้านป่าบงเปียง ผมก็มุ่งหน้าไปหาที่พักในโซนลำปาง ผมเจาะจงเลือกที่พักในโซนนอกเมืองออกมานิด

เพราะไม่มั่นใจในสถานการณ์น้ำ และต้องการออกห่างจากตัวเมืองมาสักหน่อย คืนนี้ผมเลยได้นอนสบายๆที่โรงแรมทรีธารา