คืนวันที่ 2 หรือเช้าวันที่ 3 ตุลาคมนี้ (2557) เวลาประมาณ 02.40 น. น้องที่พักในแมนชั่นได้โทร.มาปลุกว่ามีเสียงคนทุบกระจกทางเข้าแมนชั่นแตก และทะเลาะกันเสียงดัง ฉันจึงไปดู ทางเข้าพบกระจกประตูแตก
เมื่อเดินเข้ามาในแมนชั่นสวนกับคนแปลกหน้าชาย 1 คน เธอบอกผู้ก่อเหตุอยู่ข้างบน เมื่อขึ้นไปชั้นบน พบผู้บุกรุกชาย 1 คน
นั่งอยู่ข้าง ๆ หญิงบุกรุกซึ่งนอนเป็นลมอยู่อีก 1 คน (โดนสามีซ้อม) เธอบอกเป็นเมียเธอและเธอรับผิดชอบทุกอย่าง ชื่อเบียร์ พักอยู่ที่หอพักข้างมินิมาร์ทกลางซอย และมีผู้บุกรุกชายหญิงอีก 1 คู่หนีขึ้นไปชั้นบนอีก(หญิงนั้นเป็นพี่สาวเธอ ผู้ชายเป็นเพื่อนพี่สาว) ฉันโทรแจ้ง สน.อุดมสุข สายตรวจเข้ามา ฉันให้ขนย้ายผู้บุกรุกทั้งหลายออกจากแมนชั่น สายตรวจวิทยุเรียกรถฉุกเฉินของตำรวจอีกประมาณ 2 คัน เพื่อขนคนเป็นลมไป รพ. และมีตำรวจตามมาอีกประมาณ 2 นาย (มีดาวด้วย) ตำรวจมาช่วงนั้นผู้บุกรุก และผู้เห็นเหตุการณ์อยู่กันครบ ฉันมัวแต่ยุ่งกับการให้น้องที่พักในแมนชั่นช่วยกันกำจัดกระจกแตก สายตรวจบอกให้เจ้าของผู้เสียหายไปแจ้งความที่ สน.เพราะลาย (line) ทุกอย่างไปแล้ว ฉันถามถึงคนที่บุกรุก สายตรวจบอกว่าคนเป็นลมนำส่ง รพ.และผู้ทำลายทรัพย์ต้องไป รพ.ด้วยเพื่อดูแลผู้ป่วย ให้ฉันไปแจ้งความก่อน คุณเข้าใจที่ผมพูดไหม ฉันจึงรีบไปแจ้งความโดยที่ไม่รู้ชื่อผู้บุกรุกหรืออะไรเลย และเชื่อในการทำงานของตำรวจ รุ่งเช้าประมาณ 8.30 โมงเช้า ฉันโทรหาร้อยเวรเธอแจ้งว่าคนป่วยอยู่ รพ.ศิขรินทร์ ให้โทรหาเธอ(ร้อยเวร)วันอังคารที่ 7 เวลา 9 โมงเช้า
ค่าใส่กระจกประตูที่เสียหาย 1,500 บาท
วันนี้ 7 ตุลา 9 โมงเช้าตรงเวลานัด ฉันโทรหาร้อยเวร เธอบอกจะให้สายตรวจมาหาที่บ้าน สายตรวจมาถึงสอบถามรายละเอียดอีกรอบเธอบอกว่าไม่รู้เรื่องให้มาก็มา ฉันต้องเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกรอบ เธอจึงให้พาไปหาผู้บุกรุกและทำลายทรัพย์(ชื่อ เบียร์) ฉันโทรขออนุญาตเจ้าของหอพักฯ ซึ่งเจ้าของหอพักฯแจ้งว่าเบียร์ได้ย้ายออกตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาและได้ขอเอกสารทุกอย่างคืน (ตอนเช้า 8 โมงเช้าวันเกิดเหตุฉันได้โทรเล่าให้เจ้าของหอฯที่ผู้บุกรุกพักอาศัยทราบแล้ว และเธอต้องโทรบอกลูกชายที่ดูแลหอพักอีกที (ลูกชายเธอมักไม่ค่อยรับโทรศัพท์)) สายตรวจจึงให้ฉันกลับไป สน.หาร้อยเวร ไปถึง ร้อยเวรถามชื่อของผู้บุกรุก “เบียร์” อ้าว..งง..ผู้บุกรุกทุกคนอยู่กับตำรวจวันเกิดเหตุ แต่ไม่มีการสอบถามชื่อเบอร์ติดต่อหรือรูปภาพ ฉันต้องนำกล้องที่ถ่ายภาพไว้ให้ร้อยเวร ร้อยเวรมีสำเนาทะเบียนราษฎร์ของหญิงบุกรุก 2 คนแต่ไม่มีเบอร์ติดต่อ เธอ(ร้อยเวร)ขอเวลา 10 วันออกหมายเรียกเพราะทะเบียนราษฎร์อยู่สกลนคร..รอ.. "บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว" (ใช้กับฝ่ายใด???)
การทำงาน กับ คำขวัญของตำรวจ "บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว"
ค่าใส่กระจกประตูที่เสียหาย 1,500 บาท
วันนี้ 7 ตุลา 9 โมงเช้าตรงเวลานัด ฉันโทรหาร้อยเวร เธอบอกจะให้สายตรวจมาหาที่บ้าน สายตรวจมาถึงสอบถามรายละเอียดอีกรอบเธอบอกว่าไม่รู้เรื่องให้มาก็มา ฉันต้องเล่ารายละเอียดให้ฟังอีกรอบ เธอจึงให้พาไปหาผู้บุกรุกและทำลายทรัพย์(ชื่อ เบียร์) ฉันโทรขออนุญาตเจ้าของหอพักฯ ซึ่งเจ้าของหอพักฯแจ้งว่าเบียร์ได้ย้ายออกตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาและได้ขอเอกสารทุกอย่างคืน (ตอนเช้า 8 โมงเช้าวันเกิดเหตุฉันได้โทรเล่าให้เจ้าของหอฯที่ผู้บุกรุกพักอาศัยทราบแล้ว และเธอต้องโทรบอกลูกชายที่ดูแลหอพักอีกที (ลูกชายเธอมักไม่ค่อยรับโทรศัพท์)) สายตรวจจึงให้ฉันกลับไป สน.หาร้อยเวร ไปถึง ร้อยเวรถามชื่อของผู้บุกรุก “เบียร์” อ้าว..งง..ผู้บุกรุกทุกคนอยู่กับตำรวจวันเกิดเหตุ แต่ไม่มีการสอบถามชื่อเบอร์ติดต่อหรือรูปภาพ ฉันต้องนำกล้องที่ถ่ายภาพไว้ให้ร้อยเวร ร้อยเวรมีสำเนาทะเบียนราษฎร์ของหญิงบุกรุก 2 คนแต่ไม่มีเบอร์ติดต่อ เธอ(ร้อยเวร)ขอเวลา 10 วันออกหมายเรียกเพราะทะเบียนราษฎร์อยู่สกลนคร..รอ.. "บริการดุจญาติ พิทักษ์ราษฎร์ดุจครอบครัว" (ใช้กับฝ่ายใด???)