ใครฝากเงินกับ ODFX ไว้เตรียมถอนเงินออกได้เลยค่ะ กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว

ใครฝากเงินกับ ODFX ไว้เตรียมถอนเงินออกได้เลยค่ะ กลายเป็นเรื่องใหญ่แล้ว



ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานว่า ขณะนี้มีการระบาดของการลงทุนที่คล้ายกับแชร์ลูกโซ่รูปแบบใหม่ที่ชื่อ "ODFX" ซึ่งเป็นของบริษัท OD Capital จดทะเบียนที่เกาะเซเชลส์ เปิดให้ผู้สนใจเข้ามาร่วมลงทุนเพื่อนำเงินไปลงทุนต่อในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างประเทศ (FOREX) โดยใช้วิธีเชิญชวนกันผ่านเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊ก

ทั้งนี้ การลงทุนใน ODFX จะเชิญชวนให้เข้าไปลงทุนถือหุ้นบุริมสิทธิ์แปลงสภาพได้ ในราคาหุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ และมีสิทธิ์ที่จะแปลงสภาพเป็นหุ้นสามัญได้ในอีก 5 ปีข้างหน้า เมื่อบริษัทสามารถนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐ ซึ่งคาดว่าราคาหุ้นที่เปิดขายให้แก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในเวลานั้นจะกลายเป็น15-20 ดอลลาร์ หรือเท่ากับราคาเพิ่มขึ้น 15-20 เท่าตัวใน 5 ปี


อ้างเทรดเงินจ่ายปันผล 2-10%

ผู้ลงทุนกับ ODFX รายหนึ่งเปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ตนได้เข้าไปลงทุนดังกล่าวมาระยะหนึ่ง ในจำนวนเงิน 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งผู้ที่มาแนะนำให้ลงทุนเป็นเพื่อนที่รู้จักกันในเฟซบุ๊ก โดยอธิบายว่าผลประโยชน์ที่จะได้รับจะมีทั้งรอยัลตี้โบนัส เสมือนการจ่ายเงินปันผลตอบแทนเข้าให้ในบัญชีการลงทุนทุกเดือน ในอัตราขั้นต่ำ 2-10% ต่อเดือนสำหรับผลประโยชน์ที่มาจ่ายโบนัส จะมาจากการฝากให้ทางบริษัททำหน้าที่เป็นตัวแทนเทรดเงินลงทุนเกี่ยวกับอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งอ้างว่าเป็นทีมนักลงทุนที่เชี่ยวชาญด้านการเทรดของบริษัทโบรกเกอร์ที่ชื่อ NZ Financial (NZF) ขณะเดียวกันหากผู้ลงทุนปรับสถานะตัวเองเป็น IB (Introduce Broker) หรือตัวแทนโบรกเกอร์ ที่ชักชวนคนอื่นมาร่วมลงทุนกับ ODFX ก็จะได้รับเงินผลประโยชน์กลับคืนอีกส่วนหนึ่งด้วย

นอกจากนี้ ในหลายเว็บไซต์ได้มีผู้โพสต์ข้อความให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ODFX และแนะนำการลงทุน รวมถึงมีคลิปวิดีโอเกี่ยวกับการจัดงานมอบรางวัลในชื่อ "1st ODFX Star Award" ซึ่งจัดที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อราวเดือนเมษายนที่ผ่านมา


ธปท.ใช้ไร้ใบอนุญาตผิดกฎหมาย

ด้านนายประสาร ไตรรัตน์วรกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ปัจจุบัน ธปท. ยังไม่ทราบเรื่อง และไม่ได้รับแจ้งข้อมูลเกี่ยวข้องกับการทำธุรกิจประเภทนี้ แต่เห็นว่าจำเป็นจะต้องตรวจสอบกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ว่าการกระทำของ ODFX ขัดต่อกฎหมายหลักทรัพย์หรือไม่ และนิยามของการเป็นผู้จัดการกองทุนของกฎหมายหลักทรัพย์ด้วย เพราะการจะทำธุรกิจลักษณะนี้ในประเทศไทยต้องมีใบอนุญาตจาก ก.ล.ต.เท่านั้น

"เข้าใจว่าภายใต้กฎหมายของ ก.ล.ต.จะกำหนดประเภทของการทำธุรกิจ โดยครอบคลุมไปถึงจำนวนคนที่จะมาร่วมทำธุรกิจด้วย หากเป็นการนำเงินจากเครือญาติมาลงทุนในตลาดอัตราแลกเปลี่ยนหรือตลาดทุนต่าง ๆ ที่ให้ผลตอบแทนสูงก็คงไม่ได้เป็นสิ่งผิด เพราะเป็นเงินของเขาเอง แต่หากระดมเงินจากประชาชนทั่วไปในวงกว้าง ปัจจุบันกฎหมายหลักทรัพย์ของประเทศไทยกำหนดไว้ว่าจะต้องขอใบอนุญาตเท่านั้น"

ส่วนกรณีที่โฆษณาว่านำเงินลงทุนจากประชาชนไปหาผลตอบแทนสูงๆในการซื้อ-ขายเงินสกุลต่างประเทศนั้นนายประสารกล่าวว่า ภายใต้กฎหมายของไทยก็ดำเนินการปราบปรามการเก็งกำไรประเภทนี้อยู่ ทั้งยังต้องเข้าใจว่ารายเล็กที่เข้ามาทำธุรกิจเช่นนี้ก็มักจะเสียเปรียบรายใหญ่ เช่น สถาบันการเงิน หรือกองทุนขนาดใหญ่ที่มีกระแสเงินต่างประเทศเยอะ โดยหลักการแล้วไม่น่าจะทำได้

นายประสารกล่าวอีกว่า ในอดีตมีกรณีแชร์แม่ชม้อย ซึ่งเกิดจากการทำสัญญาที่ให้ผลตอบแทนการลงทุนสูงเกินจริง จนนำมาสู่การออกกฎหมายฉบับหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชน เพื่อป้องปรามเรื่องนี้ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายฉบับดังกล่าวอยู่ภายใต้การบังคับใช้ของกระทรวงการคลัง

โดยในรายละเอียดก็จะระบุถึงความผิดกรณีหลอกลวงประชาชนและเอาเงินประชาชนไปบริหาร

"กรณีที่ระบุว่าจะไปจดทะเบียนในตลาดหุ้นจะออกหุ้นIPO ก็เป็นเพียงแค่สิ่งที่ธุรกิจกล่าวขึ้นมา เพราะการจะเข้าตลาดหุ้นก็ต้องไปดูว่าเข้าเกณฑ์ของกฎหมายหลักทรัพย์และหน่วยงานผู้กำกับดูแลหรือไม่ ซึ่งกรณีเช่นนี้เบื้องต้นเชื่อว่าไม่น่าจะเข้าตลาดหุ้นได้แน่นอน" นายประสารกล่าว


ฟันธง ODFX เข้าข่ายแชร์ลูกโซ่

นางดวงมน จึงเสถียรทรัพย์ ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า เท่าที่พิจารณาการลงทุนในลักษณะที่เรียกว่า ODFX ถือเป็นการลงทุนที่ผิดกฎหมาย และเข้าข่ายลักษณะแชร์ลูกโซ่ ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ร้องเรียนประเด็นดังกล่าวเข้ามาแล้ว ก.ล.ต.จึงส่งเรื่องไปยังศูนย์รับแจ้งการเงินนอกระบบ สำนักนโยบายพัฒนาระบบการเงินภาคประชาชน ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) ที่มีอำนาจในการพิจารณา

"ถ้าดูจากรูปแบบธุรกิจของบริษัทที่อ้างตัวนี้ ก็สามารถบอกได้ว่ามีลักษณะเป็นแชร์ลูกโซ่ เพราะมีลักษณะที่ให้ผลประโยชน์กับลูกค้ารายเดิมเมื่อเชิญชวนลูกค้ารายใหม่ให้มาลงทุนเป็นทอดๆ และแม้จะบอกว่ามีหุ้นบุริมสิทธิ์แลกเปลี่ยนกับเงินลงทุน แต่นั่นก็เป็นเพียงแผ่นกระดาษแผ่นหนึ่งเท่านั้น เนื่องจากหุ้นบุริมสิทธิ์ที่ว่าไม่ได้รับการอนุมัติจาก ก.ล.ต.ให้เสนอขาย ซึ่งถือว่าไม่ถูกต้อง"

ทั้งนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากการถูกหลอกลวง ควรตั้งข้อสังเกตไว้ดังนี้ คือ 1.การลงทุนให้ผลตอบแทนสูงผิดปกติหรือไม่ โดยเฉพาะหากมากกว่าผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของตลาดก็ต้องตั้งข้อสงสัยถึงที่มาของวิธีดำเนินการ 2.มีวิธีการเชิญชวนให้ลูกค้าที่สมัครแล้วไปหาลูกค้าใหม่ ด้วยการให้ผลตอบแทนพิเศษเพิ่ม แต่ไม่มีสินค้าให้ซื้อขายแลกเปลี่ยน 3.ออกตราสารทางการเงินภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. แต่ไม่ได้ขออนุญาต เป็นต้น

"นักลงทุนควรตั้งข้อสงสัยได้ทันที หากบริษัทที่เข้ามาระดมทุนมีลักษณะตามที่ระบุไว้ และแม้บริษัทจะกล่าวอ้างว่าได้จดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์แล้ว แต่ก็อย่าวางใจ เพราะประเด็นนี้ไม่ได้เป็นสิ่งที่ยืนยันได้ทั้งหมด" นางดวงมนกล่าว


เตือนชวนคนอื่นลงทุนต่อถือว่าผิด

นางดวงมน กล่าวอีกว่า ในกรณีที่ผู้เข้าไปลงทุนแล้วชักชวนให้คนอื่นๆ มาลงทุนในแชร์ลูกโซ่ด้วย ก็จะถือว่ามีความผิดตามกฎหมายเช่นกัน แต่ทั้งนี้จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการคลังเข้ามาดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย

ด้านแหล่งข่าวจากสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.)กล่าวว่า เบื้องต้นทาง สศค.อยู่ระหว่างติดตามเรื่องดังกล่าว หากพบว่าผิดกฎหมายตามพระราชกำหนดการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ที่มีลักษณะเชิญชวน ไม่ว่าจะเป็นวิธีรับฝากเงิน การกู้ยืม หรือเชิญชวนให้ร่วมลงทุน การเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ฯลฯ โดยระบุผลตอบแทนที่จะได้รับชัดเจน ถือว่าผิดกฎหมายการเงิน ซึ่งกรณีนี้ สศค.ต้องติดตามข้อมูลให้รอบด้านก่อนสรุปอีกครั้ง

"เรื่องนี้หากเป็นธุรกรรมในประเทศไทยถือว่าผิดแน่นอนเพราะเป็นการเอาเงินของคนไทยกันเองไปลงทุนหาผลตอบแทนผ่านการโฆษณาชวนเชื่อต่างๆแต่จะเอาผิดได้ก็ต่อเมื่อมีการฟ้องร้อง และเกิดความเสียหายกับคนในประเทศ แต่หากเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นในไทย จากเงินคนไทย แต่เอาเงินไปลงทุนต่างประเทศ อันนี้กฎหมายฉบับนี้อาจไม่ครอบคลุม ซึ่งต้องประสานงานไปถึงหน่วยงานต่างๆ ให้ติดตามพฤติกรรมเหล่านี้ด้วย" แหล่งข่าวกล่าว


ลิ้งที่มา  http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1411710447
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 20
ผู้เสียหายจะเกิดได้ ก็ต่อเมือเกิดความเสียหายแล้ว.เนื่องจาก ระบบราชการไทย เน้นวัวหายล้อมครอก.
เรื่องนี้ ใครๆก็รู้กัน ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาเอง สังเกตุเอง.
อะไรที่ผลตอบแทนดีจริงๆ เช่น ปันผลราว (6%ต่อเดือน) 72% ต่อปี, ไม่ร่วมถึง"ค่าคอม" (แนะนำลูกค้าได้อีก 10% จาก ยอด และ ค่าคอมเทรดจากลูกๆสมาชิกอีกหลายๆชั้น) และ คำมั่นสัญญา กำไรจาก IPO  ในอีกหลายๆปีข้างหน้า ว่า "มันดีเกินไป หรือ ไม่"?

ทำไมต้องมีเงื่อนไขสมาชิก 100,000 คน ถึงจะทำ IPO ได้? ทั้งๆที่แค่หลัก ร้อย ก็สามารถเข้าองค์ประกอบได้แล้ว?

ทำไมเจ้าของถึงนึกใจดีเป็นพ่อพระ? มาแจกกำไร ให้รายย่อยที่เป็นเบี้ยหัวแตก ข้างๆทาง (หรือเพราะโน้มน้าวได้ง่าย กว่ารายใหญ่)?.

ทำไมเจ้าของถึงไม่กู้จากธนาคารที่ดอก7-8% มาลงทุนทำธุรกิจแบบนี้ ทั้งๆที่กำไรเห็นๆ (72% - 8% = กำไรเน้นๆ 64%) หรือ ไปหา Angle Fund มาร่วมธุรกิจ เป็นก้อนๆ จะไม่ต้องมาเสีย ค่าใช้จ่ายกับ พวกรายย่อย เบี้ยหัวแตก รายทาง ริมน้ำ แบบนี้.

ปกติของดีๆไม่ค่อยแบ่งกันเพราะ มันผิดวิสัยธรรมชาติของมนุษย์ ที่มักจะเก็บไว้กับตัวเสมอ.  
ยกเว้น ของนั้นๆจะผิดปกติ สอดไส้อะไรไว้อยู่ เลยเอามาแจกให้ชิมโดยทั่วกัน.
หยั่งว่าของพวกนี้อยู่ที่ความเชื่อล้วนๆ คิดไม่ต้องเยอะ ชิวๆ เที่ยวๆ กินๆ นอนๆ
ก็หวังกับ อิสระภาพทางการเงิน เสมือนบางที่เอาบุญมาล่อ แต่ต้องแลกด้วยเงิน เพื่อ อิสระภาพทางจิตใจ ยังไงยังงั้นเลยทีเดียว.
ความคิดเห็นที่ 7
เศร้าจริงๆ ทุกวันนี้ FOREX ก็คนมองไม่ดีจะตายแล้ว เจอแต่พวกมิจฉาชีพเอาชื่อไปแอบอ้างจนแปดเปื้อน รัฐบาลไม่ให้ความสนใจ เศร้า

วันที่ FOREX จะถูกกฏหมายไทยคงอีกนานแสนนาน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่