“กองทุน-รายย่อย” ใกล้สูญพันธุ์จากตลาดหุ้น / สุนันท์ ศรีจันทรา

เครดิตแหล่งข่าว/เจ้าของบทความโดย
https://mgronline.com/stockmarket/detail/9670000124952#google_vignette

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2535 โดยถูกวางบทบาทไว้ เพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดหุ้น ไม่ให้เกิดความผันผวนรุนแรง แต่ปัจจุบันกองทุนรวมในประเทศไม่อาจดำรงบทบาทตามเจตนารมณ์ที่ตั้งไว้ เพราะแม้แต่การรักษาฐานะตัวเอง ยังแทบเอาตัวไม่รอด

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมมีจำนวน 28 แห่ง และอยู่ในฐานะที่ลำบาก เพราะภาวะตลาดหุ้นที่ตกต่ำยาวนาน ทำให้ผลตอบแทนจากกองทุนหุ้นเป็นติดลบ กองทุนตราสารหนี้ก็มีปัญหาหุ้นกู้ที่เบี้ยวหนี้ ขณะที่กองทุนหุ้นระยะยาวหรือ LTF ซึ่งนักลงทุนลงทุนไม่ต่ำกว่า 5 ปี ต้องขาดทุนเฉลี่ยประมาณ 30%
ประชาชนหมดความนิยมลงทุนผ่านกองทุนรวม โดยเฉพาะกองทุนหุ้นที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย แต่หันไปลงทุนกองทุนหุ้นที่ลงทุนในตลาดหุ้นต่างประเทศ
 
มูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุนหุ้นลดฮวบลง ตามราคาหุ้นที่กองทุนซื้อไว้ เงินก้อนใหม่จากนักลงทุนที่ซื้อหน่วยลงทุนเพิ่มไม่มีเข้ามา เพราะนักลงทุนไม่เห็นโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีจากตลาดหุ้น    บทบาทของกองทุนรวมหุ้นจึงลดลงมาก เมื่อเทียบกับอดีต
ถ้าไม่มีกองทุนรวมวายุภักษ์ หอบเงินเข้ามา 150,000 ล้านบาท มูลค่าซื้อขายของนักลงทุนสถาบันในประเทศจะเหลือสัดส่วนที่น้อยมาก และกลายเป็นกลุ่มนักลงทุนที่ไม่มีบทบาทใดในความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้น

นักลงทุนรายย่อยซื้อหุ้นมาตลอด 6 ปีที่ผ่านมา มียอดซื้อหุ้นสะสมสุทธิไม่ต่ำกว่า 600,000 ล้านบาท และเป็นหุ้นต้นทุนสูงที่แบกผลขาดทุนไว้ โดยแรงซื้อของนักลงทุนรายย่อยอ่อนล้าเต็มที และตกอยู่ในสภาพหมดกำลังซื้อ

ถ้าตลาดยังฟุบยืดเยื้อ นักลงทุนรายย่อยจะเริ่มสูญพันธุ์ เพราะนักลงทุนหน้าใหม่ไม่เข้าตลาดหุ้น ส่วนนักลงทุนหน้าเก่าทยอยบาดเจ็บล้มตาย
กองทุนรวมหุ้นไม่ได้อยู่ในฐานะที่แตกต่างจากนักลงทุนรายย่อยเท่าใดนัก เพราะกำลังเฉาตาย ผลตอบแทนติดลบ จนประชาชนไม่สนใจลงทุนผ่านกองทุนรวมหุ้นที่ลงทุนในตลาดหุ้นไทย ทำให้มูลค่ากองทุนรวมหุ้นทั้งระบบลดฮวบลง

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวมต้องหนีตาย โดยหันไปแนะนำให้นักลงทุน ย้ายเงินไปลงทุนในหุ้นต่างประเทศ และกองทุนหุ้นต่างประเทศกำลังโตวันโตคืน แต่กองทุนรวมหุ้นไทยกลับแฟ่บลง

นักลงทุนรายย่อยและกองทุนรวมในประเทศ เคยเป็นกำลังสำคัญ ในการขับเคลื่อนตลาดหุ้น แต่นักลงทุนทั้งสองกลุ่ม กำลังอ่อนล้า หมดแรงซื้อ และกลายเป็นตัวประกอบที่ไร้บทบาทในการชี้นำตลาดหุ้น

อ่านต่อที่ลิ้งค์ข้างต้น

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่