สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
คุณแฟนอย่ากังวัลนะครับ มีทางออก รุ่นพี่มาช่วยแล้ว ไม่ต้องกลัว
บอกจากประสบการณ์ตรงนะครับ
(ทั้งหมดเป้นประสบการณ์กับโรงพยาบาลศูนย์ของรัฐบาล สิทธิ 30 บาท นะครับ)
ช่วงนี้ คุณหมอคงรักษาแบบชะลอไตเสื่อม
คงแนะนำการดูแลอาหารการกิน สารอาหาร ปริมาณน้ำ ให้ไตเสื่อมช้าที่สุด
อย่าคิดหายาบำรุงไตนอกคำสั่งหมอนะครับ เห็ดหลินจื่อหลินแจ่ ยาเม็ดยาหม้อ ยาขวดละ 8 พัน อะไรต่อมิอะไร หยุดหลอกตัวเองนะครับ หลักการคือใช้ไตให้น้อยที่สุด ถนอมที่สุด จะได้ใช้ไตนานขึ้น ยิ่งไปหายาบ้าๆบอๆมาต้มมากินยิ่งเสื่อมเร็ว
เพียงแค่กินอาหารและน้ำให้ปริมาณที่เหมาะสมพอดี ไม่มากเเกินไป ครบถ้วนก็พอ
แต่ทำยากนะครับ คนเราติดรสชาดอาหาร
บอกเลยว่า รักษามาทั้งหมดไม่มีอะไรยากเท่า ผู้ป่วยกับอาหาร
เดี๋ยวจะเข้าใจเองครับ
หมอคงนัดเจาะเลือดเป็นระยะอยู่แล้ว คงมียามาให้กิน ต้องกินตามนั้น
ญาติต้องไปหาหมอกับแม่ด้วยนะครับ ไปฟังหมอพูดกับหูนะ
ส่วนใหญ่คนแก่อายุขนาดนี้จะมีวิจารณญานไม่ปกติ
อาจจะปกปิด บิดเบือน ความจริงต่างๆ ทำให้เราตัดสินใจพลาด
เสียโอกาส เสียเวลา เสียเงินทองมากมายเพราะตัดสินใจผิด
ผมเจอมาแล้ว ไม่อยากให้คุณเจออีก
เมื่อไตเสื่อมมากแล้ว (จำไม่ได้ว่ากี่ %)
หมอจะให้เราเลือกนะครับ ว่าจะรักษาแบบไหน
เรื่องปลูกถ่ายไต ลืมไปได้เลยนะครับ อายุเกิน 60 แล้ว
ได้ไม่คุ้มเสีย ตามที่ คคห.2 บอกตอนต้น
ก็เหลือแต่ฟอกไต
หมอจะให้เลือก ว่าจะฟอกแบบไหน
1. ฟอกกับเครื่อง
2. ฟอกเองที่บ้าน
1. ฟอกกับเครื่อง
คือการที่เราพาแม่ไปนอนอยู่กับเครื่องฟอกไต 2 ครั้งต่อสัปดาห์
นอนครั้งละ 4 ชั่วโมง เช่น ครั้งแรกวันจันทร์ ต่อไปพฤหัส แล้วก็จันทร์
ราคาฟอกของเอกชนครั้งละ 1800 บาท / รัฐบาล ครั้งละ 2500
โดยก่อนหน้าที่จะไปฟอกกับเครื่องได้
จะต้องมีท่อเชื่อมเส้นเลือดกับเครื่องก่อน
หมอจะนัดเจาะคอหอยเพื่อวางท่อ (ก๊อกเลือดดำ เลือดแดง เอาไว้ต่อกับเครื่องฟอก)
ท่อนี้ต่อตรงมาจากเส้นเลือดใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการวางท่อ เตรียมไว้ 5000
ส่วนใหญ่ถนนเส้นละแวกโรงพยาบาลจะมีคลินิกฟอกไต ถามหมอเจ้าของไข้หรือพยาบาลได้
ของผม ได้คลินิกหมอเจ้าของไข้พอดี เวลาประสานงานประวัติจะสะดวก
ถาม สปสช. เขาจะบอกว่าฟอกฟรี แต่ความจริงไม่ฟรีนะครับ
เพราะเงื่อนไขต่างกัน
การฟอกฟรี ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของโรงพยาบาล(กองทุนโรคไตประจำโรงพยาบาล) เป็นผู้อนุมัติ
เท่าที่ผมเข้าใจคือต้องกรณีจำเป็นเร่งด่วนหรือถ้าไม่ฟอกให้แล้วผู้ป่วยตายแน่ เช่นไม่มีเงินเลย ไม่มีญาติเลย
หรือฟอกแบบฟอกที่บ้านไม่ได้ หรือไม่สามารถฟอกด้วยเครื่องได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ อะไรทำนองนี้
อย่างนี้กองทุนจะให้ฟอกฟรี ไปฟอกที่โรงพยาบาลตามกำหนดได้เลย ไม่มีค่าใชจ่ายนอกจากค่าเดินทาง
ฟอกแบบนี้ก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีปัญหากับท่อที่คอ
หรือมีปัญหากับร่างกาย หมอก็จะบอกคุณเองว่าต้องทำยังไง
เช่นถ้าท่อตรงคอมันไม่ไหวแล้ว หมอก็จะมาเจาะที่ขาอ่อนแทน
วางก๊อกใหม่ปิดก๊อกเก่า ก็ฟอกเครื่องต่อไปเรื่อยๆ (วางท่อใหม่ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 5000)
คุณภาพชีวิตผู้ป่วยกับการฟอกเครื่องนี้
การใช้ชีวิตของแม่ก็ปกติมาก ผู้ป่วยมีความสุขดี
ไปไหนมาไหนได้เหมือนคนปกติทุกอย่าง อาละวาดได้ขึงขังห้าวหาญดี
ส่วนเรื่องการกิน เนื่องจากผู้ป่วยของผมห้าว ใครไปยุ่งกับแกไม่ได้ จึงกินตามใจปาก (แต่กินได้น้อย ไม่กี่คำ ก็เลยปล่อยแกกินไปเถอะ ถ้าห้ามแล้วบ้านแตก) ใช้ชีวิตปกติมาก
ปล. แม่ผมมีความดัน หัวใจโต ไม่มีเบาหวาน
คุณต้องมีค่าใช้จ่ายค่าฟอกครั้งละ 1800 ไปเรื่อยๆ
บางครั้งหมอจะสั่งฉีดฮอร์โมนกระตุ้นเม็ดเลือดบ้าง เข็มละ 500
เพราะเสียเม็ดเลือดไปกับเครื่องฟอกไต
นานๆฉีดที แต่ถ้าฉีดก็ฉีดทุกอาทิตย์ไปจนกว่าผลเลือดจะขึ้นว่าดี ตรงนี้หมอจะบอกเองครับ
(นอกเรื่อง - เห็นคนต่างจังหวัด ไกลปืนเที่ยง ต้องเหมารถข้ามจังหวัดเพื่อมาฟอกไต
ค่ารถก็อาทิตย์ละหลายพัน ฟอกอีก 1800 ต่อครั้ง
พวกที่มาอบรม หลายคนก็ไม่รู้จะทำยังไง โรงพยาบาลฟอกให้ฟรีได้
ก็ไม่มีปัญญาจะเสียค่าเหมารถและทนนั่งรถมาอยู่ดีน่ะครับ ใครไม่มีเงินก็รอวันตายจริงๆ น่าสงสารมาก)
ข้อดีของวิธีนี้
ผู้ป่วยดูแลตัวเองได้ดี กินไรก็ได้ ไม่อึดอัด ยกเว้นตอนไปฟอก (หลังฟอกใหม่ๆจะมึนๆ ต้องประคอง ดูแลดีๆ อย่าให้หกล้ม เพราะถ้าท่อที่คอหลุด จะเรื่องใหญ่ อาจะเสียชีวิตในเวลารวดเร็ว)
นอกนั้นไปเองได้หมด ทำเองได้หมด อาบน้ำเอง ทำกับข้างวเอง จ่ายตลาดเอง เหมือนคนปกติ
ข้อเสีย - ค่าใช้จ่ายสูง และในที่สุดอาจต้องไปฟอกแบบข้อ 2.
2. วิธีฟอกที่บ้าน หรือเรียกตามเทคนิค เรียกว่า "ฟอกไตแบบเปิดหน้าท้อง"
หมอจะผ่าหน้าท้อง แผลไม่ใหญ่มาก ใช้แค่ยาชา
เพื่อติดตั้งชุดสายยาง (ก๊อกอีกแล้ว) ไปฝั่งไว้ที่ในท้อง มีก๊อกออกช่วงสะดือ
แล้วหมอจะให้น้ำยาเหมือนขวดน้ำเกลือ ให้มาฟอกที่บ้าน
ก็ห้อยไว้เหมือนน้ำเกลือแล้วต่อก๊อกที่ท้อง นอนให้น้ำยาเข้าไปหมดแล้วปิดก๊อก
ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง แล้วช่วงนี้ผู้ป่วยจะทำอะไรก็ทำได้ตามสมควร
เมื่อครบเวลาก็มาต่อก๊อกถ่ายน้ำยาออกทิ้ง
น้ำยาตัวนี้ จะไปดูดเกลือแร่ ของเสีย น้ำ ออกมาพร้อมกับมัน
พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก
แต่ก่อนที่หมอจะนัดวางท่อ
คุณมีงานต้องทำหลายอย่าง และต้องตั้งใจฟังให้ดี รักษาเวลาให้ดี
ถ้าชักช้าโลเล นอกจากจะเสียโอกาส เสียเงินมาก อาจจะนำไปสู่พี่น้องแตกกันได้
ผู้ป่วยจะเจ็บตัวฟรีๆ ซึ่งกำลังจะอธิบายให้ฟังครับ
หมอต้องให้คุณไปเตรียมบ้านให้คนป่วย
เนื่องจากการฟอกแบบนี้ต้องมีความสะอาดสูง เพราะถ้าติดเชื้อ อักเสบ
จะทำให้เกิดผังผืดในท้อง ถ้ามากเข้าจะฟอกแบบนี้ต่อไปไม่ได้
อาจมีภาวะแทรกซ้อนอันตรายได้ ต้องใส่ใจความสะอาดมากๆ
ทั้งสัดส่วนบ้าน บริเวณบ้าน บริเวณรอบบ้าน ความสะอาดของน้ำ
กอนจะให้ไปปรับปรุงบ้าน
หมอจะส่งคุณไปปรับการปรึกษาที่แผนกไต
คล้ายๆอบรมน้อยๆ จะมีผู้ป่วยไตมาฟังพร้อมกับคุณเพียบเลย
พยาบาลจะแนะนำแนวทางการรักษา และการเตรียมบ้าน
จะพาดูว่าควรทำบ้านแบบไหน เขาจะให้คำปรึกษาทุกอย่าง
แล้วตอนสิ้นสุดการอบรม เขาจะให้คุณเลือกรักษา ว่าจะเอาแบบไหน
ถ้าตัดสินใจจะฟอกแบบที่บ้าน ก็จะให้คุณกรอกฟอร์ม
ยื่นเรื่องให้พยาบาลไปตรวจบ้าน ปกติเขาจะให้เวลาคุณ 15 วันไปแก้ไขบ้าน
แล้วกลับมาแจ้งว่าพร้อมให้ตรวจแล้ว แล้วพยาบาลจะนัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจบ้านคุณ
เงื่อนไขเวลา สำคัญมาก
เขาจะดูเจตนาของญาติ ว่าญาติพร้อมไหม
ถ้าญาติไม่กระตือรือล้น เขาจะไม่ทำให้ เพราะถ้าทำแล้วมันต้องทำจริงๆจังๆ
มันอันตราย ถ้าญาติไม่พร้อมก็ไปไล่เราฟอกเครื่องเอง
ผมถึงบอกว่ารักษาเวลาให้ดี
เรื่องทำบ้าน ผมจะให้เบอร์หลังไมค์ คุณปรึกษาผมได้
ผมสะดวกดูไลน์หรือ facetime ให้ผมดูได้ ผมทำผ่านฉลุยมา 2 หลังแล้วครับ
ไม่มีแก้อะไรเลย ถ้าเข้าใจหลักความสะอาด มันง่ายจะตายไปครับ
เดี่ยวคุณส่งเบอร์มาให้ผมที่หลังไมค์
เพราะผมไม่แน่ใจว่าส่งให้หลังไมคืจะได้รับหรือเปล่า เคยส่งออกไม่ได้
ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบพันทิพย์เท่าไหร่
หลังจากตรวจบ้านผ่าน คุณต้องรอคิววันผ่าท้อง
ของผมร่วมๆ 3-4 เดือนกว่า ลงชื่อ กพ ได้ผ่า พค.
ระหว่างนั้นคือต้องฟอกเครื่อง ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายฟอกเครื่องตรงนี้ไว้ด้วย ก็เกือบแสนนะ
ข้อดี - ค่าใช้จ่ายส่วนโรงพยาบาลก็ฟรีแทบทุกอย่าง
ส่วนค่าทำบ้าน แล้วแต่แก้มากน้อย
ข้อกำจัด -
- ต้องสะอาด ถ้าไม่สะอาด จะเกิดการอักเสบติดเชื้อในช่องท้อง เกิดผังผืด จนการฟอกไม่ได้ผลดี ต้องล้มเลิกวิธีนี้ กลับไปใช้เครื่อง ถ้าฟอกแบบนี้แล้วล้มเหลว แล้วโรงพยาบาลรับไว้ฟอกเครื่อง ก้จะฟรีครับ คล้ายๆว่าเราได้พยามฟอกเองแล้ว แต่ไม่สำเร็จ โรงพยาบาลก็จะพิจารณาให้ฟอกเครื่องฟรี
- ต้องมีผู้ดูแล อุทิศตน 1 คน ที่จะไปอบรมกับโรงพยาบาล ในเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาและดูแลความสะอาด ถ้าหาคนดุแลไม่ได้ ก็ไม่สามารถฟอกแบบนี้ได้ คนดูแลคนนี้ ไม่ต้องอยู่กับแก 24 ชม ก็ได้ แต่ต้องมีเวลาดูแลความสะอาด มีเวลามาทำขั้นตอนใส่น้ำยา / ถอดน้ำยา
- ต้องฟอกทุกวัน ไปไหนมาไหนไกลไม่ได้แล้ว
ถ้าไม่รักษาอะไร ปล่อยไปเรื่อยๆ จะเป็นอย่างไร
ฮื่ม ... ข้อนี้ ประสบการณ์ตรงครับ
ถ้าผู้ป่วย ยอมฟอกหน้าท้องแต่เนิ่นๆตามที่หมอบอก ฟอกตั้งแต่ยังแข็งแรง
ก้จะสามารถข้ามขึ้นตอนเครื่องฟอกไปได้เลย ไม่เจ็บตัวเจาะคอ ประหยัดเงินค่าฟอกไปมากมาย
เพราะไตแม่คุณยังทำงานได้อยู่ในช่วงระยะเวลาดำเนินการ 3-4 เดือนที่เราใช้ในการแก้ไขบ้าน
และยื่นเรื่องไปจนถึงวันผ่าท้อง ซึ่งถ้าไตยังดีอยู่ก็ไม่ต้องฟอกเครื่อง
แม่ผมไม่เป็นแบบนั้นสิครับ แกหัวดื้อมาก ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ชั้นยอมตาย บลาๆ
ผลคือจะเริ่มตัวบวมน้ำ กดๆผิวลงไปนี่เป็นบุ๋มเลย
จะหายใจลำบาก สำลักบ่อย นี่คือสัญญานใกล้โคม่าแล้วนะครับ
วันที่แกโคม่าคือ พูดง่ายๆ เหมือนกำลังจมน้ำตาย เพราะน้ำท่วมปอด พูดก็แทบจะไม่ได้เลยครับ ถ้าไม่มีคนอยู่ตอนนั้นคือตายแน่ๆ
ส่งโรงพยาบาล เข้าไอซียู หมอให้ญาติเซนต์ใบอะไรๆรอไว้แล้ว
ลูกเต้าก็พากันทำใจละ คนไกลก็มาพร้อมละ
หมอต้องฟอกไตด่วน ก็แบบเปิดหน้าท้องนั่นแหละครับ แบบที่จะต้องทำที่บ้านนั่นแหละ
หมอบอกถ้าการฟอกได้ผล ก็รอด ถ้าการฟอกไม่ได้ผล ญาติต้องทำใจนะ
รอดูตอนเช้า ก็ปรากฏว่า ฟอกได้ผล ต้องนอนฟอกแบบนี้อยู่หลายวัน
ใช้เครื่องช่วยหายใจ หลายวันต่อมาก็ฟื้น ในที่สุดก็ออกโรงพยาบาลไปฟอกเครื่อง ตอนนี้ก็ฟอกที่บ้านแล้ว
ไปๆมาๆ ได้ฟอกครบทุกแบบ / ฟอกหน้าท้อง 2 ครั้ง
อย่ากังวลนะครับ เรื่องที่หมอ เรื่องรักษา ไม่มีอะไรน่าห่วงเลย
ห่วงเรื่องจิตใจของคนป่วย กับค่าใช้จ่ายต้องเตรียมไว้
ถ้าทำตามผมบอกจะประหยัดไปได้มากครับ เจ็บตัวน้อยมาก
ยินดีช่วยเหลือข้อมูลทางโทรศัพท์ครับ
บอกจากประสบการณ์ตรงนะครับ
(ทั้งหมดเป้นประสบการณ์กับโรงพยาบาลศูนย์ของรัฐบาล สิทธิ 30 บาท นะครับ)
ช่วงนี้ คุณหมอคงรักษาแบบชะลอไตเสื่อม
คงแนะนำการดูแลอาหารการกิน สารอาหาร ปริมาณน้ำ ให้ไตเสื่อมช้าที่สุด
อย่าคิดหายาบำรุงไตนอกคำสั่งหมอนะครับ เห็ดหลินจื่อหลินแจ่ ยาเม็ดยาหม้อ ยาขวดละ 8 พัน อะไรต่อมิอะไร หยุดหลอกตัวเองนะครับ หลักการคือใช้ไตให้น้อยที่สุด ถนอมที่สุด จะได้ใช้ไตนานขึ้น ยิ่งไปหายาบ้าๆบอๆมาต้มมากินยิ่งเสื่อมเร็ว
เพียงแค่กินอาหารและน้ำให้ปริมาณที่เหมาะสมพอดี ไม่มากเเกินไป ครบถ้วนก็พอ
แต่ทำยากนะครับ คนเราติดรสชาดอาหาร
บอกเลยว่า รักษามาทั้งหมดไม่มีอะไรยากเท่า ผู้ป่วยกับอาหาร
เดี๋ยวจะเข้าใจเองครับ
หมอคงนัดเจาะเลือดเป็นระยะอยู่แล้ว คงมียามาให้กิน ต้องกินตามนั้น
ญาติต้องไปหาหมอกับแม่ด้วยนะครับ ไปฟังหมอพูดกับหูนะ
ส่วนใหญ่คนแก่อายุขนาดนี้จะมีวิจารณญานไม่ปกติ
อาจจะปกปิด บิดเบือน ความจริงต่างๆ ทำให้เราตัดสินใจพลาด
เสียโอกาส เสียเวลา เสียเงินทองมากมายเพราะตัดสินใจผิด
ผมเจอมาแล้ว ไม่อยากให้คุณเจออีก
เมื่อไตเสื่อมมากแล้ว (จำไม่ได้ว่ากี่ %)
หมอจะให้เราเลือกนะครับ ว่าจะรักษาแบบไหน
เรื่องปลูกถ่ายไต ลืมไปได้เลยนะครับ อายุเกิน 60 แล้ว
ได้ไม่คุ้มเสีย ตามที่ คคห.2 บอกตอนต้น
ก็เหลือแต่ฟอกไต
หมอจะให้เลือก ว่าจะฟอกแบบไหน
1. ฟอกกับเครื่อง
2. ฟอกเองที่บ้าน
1. ฟอกกับเครื่อง
คือการที่เราพาแม่ไปนอนอยู่กับเครื่องฟอกไต 2 ครั้งต่อสัปดาห์
นอนครั้งละ 4 ชั่วโมง เช่น ครั้งแรกวันจันทร์ ต่อไปพฤหัส แล้วก็จันทร์
ราคาฟอกของเอกชนครั้งละ 1800 บาท / รัฐบาล ครั้งละ 2500
โดยก่อนหน้าที่จะไปฟอกกับเครื่องได้
จะต้องมีท่อเชื่อมเส้นเลือดกับเครื่องก่อน
หมอจะนัดเจาะคอหอยเพื่อวางท่อ (ก๊อกเลือดดำ เลือดแดง เอาไว้ต่อกับเครื่องฟอก)
ท่อนี้ต่อตรงมาจากเส้นเลือดใหญ่ ค่าใช้จ่ายในการวางท่อ เตรียมไว้ 5000
ส่วนใหญ่ถนนเส้นละแวกโรงพยาบาลจะมีคลินิกฟอกไต ถามหมอเจ้าของไข้หรือพยาบาลได้
ของผม ได้คลินิกหมอเจ้าของไข้พอดี เวลาประสานงานประวัติจะสะดวก
ถาม สปสช. เขาจะบอกว่าฟอกฟรี แต่ความจริงไม่ฟรีนะครับ
เพราะเงื่อนไขต่างกัน
การฟอกฟรี ต้องขึ้นอยู่กับความเห็นของโรงพยาบาล(กองทุนโรคไตประจำโรงพยาบาล) เป็นผู้อนุมัติ
เท่าที่ผมเข้าใจคือต้องกรณีจำเป็นเร่งด่วนหรือถ้าไม่ฟอกให้แล้วผู้ป่วยตายแน่ เช่นไม่มีเงินเลย ไม่มีญาติเลย
หรือฟอกแบบฟอกที่บ้านไม่ได้ หรือไม่สามารถฟอกด้วยเครื่องได้ด้วยเหตุผลทางการแพทย์ อะไรทำนองนี้
อย่างนี้กองทุนจะให้ฟอกฟรี ไปฟอกที่โรงพยาบาลตามกำหนดได้เลย ไม่มีค่าใชจ่ายนอกจากค่าเดินทาง
ฟอกแบบนี้ก็ทำไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีปัญหากับท่อที่คอ
หรือมีปัญหากับร่างกาย หมอก็จะบอกคุณเองว่าต้องทำยังไง
เช่นถ้าท่อตรงคอมันไม่ไหวแล้ว หมอก็จะมาเจาะที่ขาอ่อนแทน
วางก๊อกใหม่ปิดก๊อกเก่า ก็ฟอกเครื่องต่อไปเรื่อยๆ (วางท่อใหม่ มีค่าใช้จ่ายประมาณ 5000)
คุณภาพชีวิตผู้ป่วยกับการฟอกเครื่องนี้
การใช้ชีวิตของแม่ก็ปกติมาก ผู้ป่วยมีความสุขดี
ไปไหนมาไหนได้เหมือนคนปกติทุกอย่าง อาละวาดได้ขึงขังห้าวหาญดี
ส่วนเรื่องการกิน เนื่องจากผู้ป่วยของผมห้าว ใครไปยุ่งกับแกไม่ได้ จึงกินตามใจปาก (แต่กินได้น้อย ไม่กี่คำ ก็เลยปล่อยแกกินไปเถอะ ถ้าห้ามแล้วบ้านแตก) ใช้ชีวิตปกติมาก
ปล. แม่ผมมีความดัน หัวใจโต ไม่มีเบาหวาน
คุณต้องมีค่าใช้จ่ายค่าฟอกครั้งละ 1800 ไปเรื่อยๆ
บางครั้งหมอจะสั่งฉีดฮอร์โมนกระตุ้นเม็ดเลือดบ้าง เข็มละ 500
เพราะเสียเม็ดเลือดไปกับเครื่องฟอกไต
นานๆฉีดที แต่ถ้าฉีดก็ฉีดทุกอาทิตย์ไปจนกว่าผลเลือดจะขึ้นว่าดี ตรงนี้หมอจะบอกเองครับ
(นอกเรื่อง - เห็นคนต่างจังหวัด ไกลปืนเที่ยง ต้องเหมารถข้ามจังหวัดเพื่อมาฟอกไต
ค่ารถก็อาทิตย์ละหลายพัน ฟอกอีก 1800 ต่อครั้ง
พวกที่มาอบรม หลายคนก็ไม่รู้จะทำยังไง โรงพยาบาลฟอกให้ฟรีได้
ก็ไม่มีปัญญาจะเสียค่าเหมารถและทนนั่งรถมาอยู่ดีน่ะครับ ใครไม่มีเงินก็รอวันตายจริงๆ น่าสงสารมาก)
ข้อดีของวิธีนี้
ผู้ป่วยดูแลตัวเองได้ดี กินไรก็ได้ ไม่อึดอัด ยกเว้นตอนไปฟอก (หลังฟอกใหม่ๆจะมึนๆ ต้องประคอง ดูแลดีๆ อย่าให้หกล้ม เพราะถ้าท่อที่คอหลุด จะเรื่องใหญ่ อาจะเสียชีวิตในเวลารวดเร็ว)
นอกนั้นไปเองได้หมด ทำเองได้หมด อาบน้ำเอง ทำกับข้างวเอง จ่ายตลาดเอง เหมือนคนปกติ
ข้อเสีย - ค่าใช้จ่ายสูง และในที่สุดอาจต้องไปฟอกแบบข้อ 2.
2. วิธีฟอกที่บ้าน หรือเรียกตามเทคนิค เรียกว่า "ฟอกไตแบบเปิดหน้าท้อง"
หมอจะผ่าหน้าท้อง แผลไม่ใหญ่มาก ใช้แค่ยาชา
เพื่อติดตั้งชุดสายยาง (ก๊อกอีกแล้ว) ไปฝั่งไว้ที่ในท้อง มีก๊อกออกช่วงสะดือ
แล้วหมอจะให้น้ำยาเหมือนขวดน้ำเกลือ ให้มาฟอกที่บ้าน
ก็ห้อยไว้เหมือนน้ำเกลือแล้วต่อก๊อกที่ท้อง นอนให้น้ำยาเข้าไปหมดแล้วปิดก๊อก
ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง แล้วช่วงนี้ผู้ป่วยจะทำอะไรก็ทำได้ตามสมควร
เมื่อครบเวลาก็มาต่อก๊อกถ่ายน้ำยาออกทิ้ง
น้ำยาตัวนี้ จะไปดูดเกลือแร่ ของเสีย น้ำ ออกมาพร้อมกับมัน
พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก
แต่ก่อนที่หมอจะนัดวางท่อ
คุณมีงานต้องทำหลายอย่าง และต้องตั้งใจฟังให้ดี รักษาเวลาให้ดี
ถ้าชักช้าโลเล นอกจากจะเสียโอกาส เสียเงินมาก อาจจะนำไปสู่พี่น้องแตกกันได้
ผู้ป่วยจะเจ็บตัวฟรีๆ ซึ่งกำลังจะอธิบายให้ฟังครับ
หมอต้องให้คุณไปเตรียมบ้านให้คนป่วย
เนื่องจากการฟอกแบบนี้ต้องมีความสะอาดสูง เพราะถ้าติดเชื้อ อักเสบ
จะทำให้เกิดผังผืดในท้อง ถ้ามากเข้าจะฟอกแบบนี้ต่อไปไม่ได้
อาจมีภาวะแทรกซ้อนอันตรายได้ ต้องใส่ใจความสะอาดมากๆ
ทั้งสัดส่วนบ้าน บริเวณบ้าน บริเวณรอบบ้าน ความสะอาดของน้ำ
กอนจะให้ไปปรับปรุงบ้าน
หมอจะส่งคุณไปปรับการปรึกษาที่แผนกไต
คล้ายๆอบรมน้อยๆ จะมีผู้ป่วยไตมาฟังพร้อมกับคุณเพียบเลย
พยาบาลจะแนะนำแนวทางการรักษา และการเตรียมบ้าน
จะพาดูว่าควรทำบ้านแบบไหน เขาจะให้คำปรึกษาทุกอย่าง
แล้วตอนสิ้นสุดการอบรม เขาจะให้คุณเลือกรักษา ว่าจะเอาแบบไหน
ถ้าตัดสินใจจะฟอกแบบที่บ้าน ก็จะให้คุณกรอกฟอร์ม
ยื่นเรื่องให้พยาบาลไปตรวจบ้าน ปกติเขาจะให้เวลาคุณ 15 วันไปแก้ไขบ้าน
แล้วกลับมาแจ้งว่าพร้อมให้ตรวจแล้ว แล้วพยาบาลจะนัดเจ้าหน้าที่ไปตรวจบ้านคุณ
เงื่อนไขเวลา สำคัญมาก
เขาจะดูเจตนาของญาติ ว่าญาติพร้อมไหม
ถ้าญาติไม่กระตือรือล้น เขาจะไม่ทำให้ เพราะถ้าทำแล้วมันต้องทำจริงๆจังๆ
มันอันตราย ถ้าญาติไม่พร้อมก็ไปไล่เราฟอกเครื่องเอง
ผมถึงบอกว่ารักษาเวลาให้ดี
เรื่องทำบ้าน ผมจะให้เบอร์หลังไมค์ คุณปรึกษาผมได้
ผมสะดวกดูไลน์หรือ facetime ให้ผมดูได้ ผมทำผ่านฉลุยมา 2 หลังแล้วครับ
ไม่มีแก้อะไรเลย ถ้าเข้าใจหลักความสะอาด มันง่ายจะตายไปครับ
เดี่ยวคุณส่งเบอร์มาให้ผมที่หลังไมค์
เพราะผมไม่แน่ใจว่าส่งให้หลังไมคืจะได้รับหรือเปล่า เคยส่งออกไม่ได้
ยังไม่ค่อยเข้าใจระบบพันทิพย์เท่าไหร่
หลังจากตรวจบ้านผ่าน คุณต้องรอคิววันผ่าท้อง
ของผมร่วมๆ 3-4 เดือนกว่า ลงชื่อ กพ ได้ผ่า พค.
ระหว่างนั้นคือต้องฟอกเครื่อง ต้องเตรียมค่าใช้จ่ายฟอกเครื่องตรงนี้ไว้ด้วย ก็เกือบแสนนะ
ข้อดี - ค่าใช้จ่ายส่วนโรงพยาบาลก็ฟรีแทบทุกอย่าง
ส่วนค่าทำบ้าน แล้วแต่แก้มากน้อย
ข้อกำจัด -
- ต้องสะอาด ถ้าไม่สะอาด จะเกิดการอักเสบติดเชื้อในช่องท้อง เกิดผังผืด จนการฟอกไม่ได้ผลดี ต้องล้มเลิกวิธีนี้ กลับไปใช้เครื่อง ถ้าฟอกแบบนี้แล้วล้มเหลว แล้วโรงพยาบาลรับไว้ฟอกเครื่อง ก้จะฟรีครับ คล้ายๆว่าเราได้พยามฟอกเองแล้ว แต่ไม่สำเร็จ โรงพยาบาลก็จะพิจารณาให้ฟอกเครื่องฟรี
- ต้องมีผู้ดูแล อุทิศตน 1 คน ที่จะไปอบรมกับโรงพยาบาล ในเรื่องการเปลี่ยนถ่ายน้ำยาและดูแลความสะอาด ถ้าหาคนดุแลไม่ได้ ก็ไม่สามารถฟอกแบบนี้ได้ คนดูแลคนนี้ ไม่ต้องอยู่กับแก 24 ชม ก็ได้ แต่ต้องมีเวลาดูแลความสะอาด มีเวลามาทำขั้นตอนใส่น้ำยา / ถอดน้ำยา
- ต้องฟอกทุกวัน ไปไหนมาไหนไกลไม่ได้แล้ว
ถ้าไม่รักษาอะไร ปล่อยไปเรื่อยๆ จะเป็นอย่างไร
ฮื่ม ... ข้อนี้ ประสบการณ์ตรงครับ
ถ้าผู้ป่วย ยอมฟอกหน้าท้องแต่เนิ่นๆตามที่หมอบอก ฟอกตั้งแต่ยังแข็งแรง
ก้จะสามารถข้ามขึ้นตอนเครื่องฟอกไปได้เลย ไม่เจ็บตัวเจาะคอ ประหยัดเงินค่าฟอกไปมากมาย
เพราะไตแม่คุณยังทำงานได้อยู่ในช่วงระยะเวลาดำเนินการ 3-4 เดือนที่เราใช้ในการแก้ไขบ้าน
และยื่นเรื่องไปจนถึงวันผ่าท้อง ซึ่งถ้าไตยังดีอยู่ก็ไม่ต้องฟอกเครื่อง
แม่ผมไม่เป็นแบบนั้นสิครับ แกหัวดื้อมาก ไม่เอาอะไรทั้งนั้น ชั้นยอมตาย บลาๆ
ผลคือจะเริ่มตัวบวมน้ำ กดๆผิวลงไปนี่เป็นบุ๋มเลย
จะหายใจลำบาก สำลักบ่อย นี่คือสัญญานใกล้โคม่าแล้วนะครับ
วันที่แกโคม่าคือ พูดง่ายๆ เหมือนกำลังจมน้ำตาย เพราะน้ำท่วมปอด พูดก็แทบจะไม่ได้เลยครับ ถ้าไม่มีคนอยู่ตอนนั้นคือตายแน่ๆ
ส่งโรงพยาบาล เข้าไอซียู หมอให้ญาติเซนต์ใบอะไรๆรอไว้แล้ว
ลูกเต้าก็พากันทำใจละ คนไกลก็มาพร้อมละ
หมอต้องฟอกไตด่วน ก็แบบเปิดหน้าท้องนั่นแหละครับ แบบที่จะต้องทำที่บ้านนั่นแหละ
หมอบอกถ้าการฟอกได้ผล ก็รอด ถ้าการฟอกไม่ได้ผล ญาติต้องทำใจนะ
รอดูตอนเช้า ก็ปรากฏว่า ฟอกได้ผล ต้องนอนฟอกแบบนี้อยู่หลายวัน
ใช้เครื่องช่วยหายใจ หลายวันต่อมาก็ฟื้น ในที่สุดก็ออกโรงพยาบาลไปฟอกเครื่อง ตอนนี้ก็ฟอกที่บ้านแล้ว
ไปๆมาๆ ได้ฟอกครบทุกแบบ / ฟอกหน้าท้อง 2 ครั้ง
อย่ากังวลนะครับ เรื่องที่หมอ เรื่องรักษา ไม่มีอะไรน่าห่วงเลย
ห่วงเรื่องจิตใจของคนป่วย กับค่าใช้จ่ายต้องเตรียมไว้
ถ้าทำตามผมบอกจะประหยัดไปได้มากครับ เจ็บตัวน้อยมาก
ยินดีช่วยเหลือข้อมูลทางโทรศัพท์ครับ
แสดงความคิดเห็น
ผ่าตัดเปลี่ยนไต
ถ้าหากผิดพลาดตรงไหนก็ขออภัยในการใช้คำด้วยค่ะ
คือคุณแม่ของแฟนเรา ไม่สบาย ท่านมีโรคประจำตัวคือ เบาหวานค่ะ
แต่ตอนนี้เป็นโรคไตเพิ่มขึ้นมาอีก ผลพวงมาจากเบาหวานค่ะ
..ซึ่งแฟนก็ค่อนข้างที่จะเครียดพอสมควร เราก็ได้แต่เป็นกำลังใจ
แฟนไม่ได้อยู่กับคุณแม่ของเขาค่ะ ทำงานตจว แต่ก็ไม่ไกลกันมาก
แฟนบอกว่าคุณแม่ไปหาหมอ หมอบอกว่า ตอนนี้ไตของแม่ทำงานได้แค่30%
แต่หมอก็ไม่ได้ให้ยาอะไรมาทาน บอกแค่ว่าให้กลับไปต้มผักที่เป็นมีเมือกๆทานบำรุงไตค่ะ
เราก็งงเหมือนกัน นี่ใช้ได้แค่30% รักษาแค่นี้หรอ ไม่มีทางที่ดีกว่านี้หรอ
แฟนเราก็งานยุ่งมากๆๆๆๆ ไม่มีเวลาเลยเพราะต้องทำงานทำโอทุกวันเพื่อความอยู่รอด
แฟนเราก็เลยให้เราช่วยหาข้อมูลว่า ถ้าเขาต้องการผ่าตัดเอาไตของตัวเองไปให้คุณแม่
จะได้ไหมคะ แล้วเขาและคุณแม่จะยังสามารถดำรงชีวิตตามปกติ หรือดีกว่าเดิมได้ไหมคะ
แล้วค่ารักษาประมาณเท่าไหร่คะ
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ เครียดจริงๆTT