ได้เปลี่ยนไตแล้วนะ (เรื่องเล่าการรอไตที่ยาวนาน 7 ปี )

ไม่ได้เล่ามานานพอสมควร กลับมาเล่าให้ฟังกันอีก

เส้นทางโรคไต 10 ปีที่ผ่านมา

การล้างไตทางช่องท้อง (ทางเลือกสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจ) ปล.เรื่องเล่ายาวมาก
http://ppantip.com/topic/30258072

อาหารการกิน กินยังอะไร สำหรับคนเป็นโรคไต จากประสบการณ์การกินของเรา
http://ppantip.com/topic/30258072/comment61

และก็กระทู้คุยกันมันๆ ฉันมีรายได้เสริม จากการเป็นโรคไต
http://ppantip.com/topic/30146102

เมื่อฉันติดเชื้อจากการล้างไตทางช่องท้อง 2 ครั้ง 2 ครา (คราวนี้เล่ายาวสำหรับอ่านเพลินๆ)
http://ppantip.com/topic/31565636

ติดเชื้อจากการล้างไตทางช่องท้อง 5 ครั้ง ยังไม่ตาย (เรื่องเล่ายาวอีกแล้ว)
https://ppantip.com/topic/34511162

ติดเชื้อจากการล้างไตทางช่องท้อง เพราะน้ำแข็งนอกบ้านสกปรกมาก วอนร้านค้าช่วยดูแล (ครั้งที่6)
https://ppantip.com/topic/37867409

NEW!! อัพเดท  เปลี่ยนไต ครบ 1 ปี แฮปปี้มากๆเลย (เรื่องเล่ายาวทั้งปี)
https://ppantip.com/topic/39860172

สอบถามพูดคุยปรึกษากันได้ในกลุ่ม อุ้ย...ไตวาย ว๊ายกรี๊ด
https://www.facebook.com/groups/1681219468779675/

มาจนถึงวันที่ 2 พค 62 (ได้เปลี่ยนไต)

จุดเริ่มต้นของโรคไต ย่อๆคือ 
ตรวจพบโรคไตในปี 2552 มาเจอก็ระยะ 4 กันเลยทีเดียว
ล้างไตทางช่องท้อง 2555
เริ่มสมัครเข้ารับการปลูกถ่ายไตจากสภากาชาดไทย ที่รพ.ศิริราช
(คนไทยทุกคนต้องเข้าสมัครรับอวัยวะจากสภากาชาดเท่านั้น ไม่มีหนทางอื่น
ตามคิวและรอ อย่าลงเชื่อคนขายไต คนบริจาคไตต่างๆ ถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายการซื้อขายอวัยวะ)

เดือนแรกที่เริ่มทำการล้างไตทางช่องท้อง ก็เริ่มสมัครเข้าโครงการเปลี่ยนไตทันที
โดยไปเอาเอกสารการสมัครที่ ตึก 84 ปี ชั้น 2 รพ.ศิริราช
(พอดีรักษาที่นี่ ก้เข้าไปคุยได้เลย แต่ถ้าคนนอกต้องไปที่ตึกผู้ป่วยนอกก่อนแล้วทำตามขั้นตอน)
เอาเอกสารการสมัครไปให้หมอเซ็นต์ ยื่นใบสมัคร ซักประวัติ สัมภาษณ์เล็กน้อย แล้วก็เริ่มส่งเลือด
ส่งเลือดไปกาชาดทุกเดือน เดือนละ 1 หลอด ค่าใช้จ่ายเดือนละ 80 บาท ทุก 3 เดือนจ่ายอีก 1500 (ตอนหลังทุก6เดือน 2300)
ส่งแล้วรอเรียก เปิดมือถือตลอดเวลา 7 ปีไม่เคยปิด ไม่เคยเปลี่ยนเบอร์
เดินทางมาส่งเลือดที่ศิริราชทุกเดือนมิได้ขาด
จะมีก็แต่ช่วงที่ติดเชื้อต้องงดส่งเลือดเป็นเวลา 3 เดือน
มีช่วงที่ค่าฟอสฟอรัสสูง ค่าพาราไทยรอยด์สูง ก็งดส่งเลือดไปกาชาดจนกว่าจะลง 
เคยถูกงดส่งถึง 6 เดือนก็มี เพราะค่าพาราไทยรอยด์ไม่ลง บางทีก็ซีด เลือดเหลือ 19% ก็งดส่ง
รวมๆแล้วหยุดส่งไปปีละ 3เดือน ซึ่งน่าเสียอายโอกาส
จากการติดเชื้อครั้งสุดท้ายก็งดส่งเลือดไปอีก 3 เดือน จึงคิดว่า ไม่เอาละ ต้องแข็งแรงผลเลือดสวย พร้อมไปไว้ก่อน
จึงมากินอาหารอย่างดี ออกกำลังกายอย่างหนัก แข็งแรงพร้อมฟิตปั๋งจนถึงวันที่ถูกเรียก
ตลอดเวลา 7 ปี ถูกเรียกมา4 ครั้ง ล้วนแต่เป็นอันดับ 3 แต่ก็ตื่นเต้นทุกครั้ง
มีครั้งสุดท้ายได้ไตมา 2 ข้าง ก็ได้อันดับ 3 แต่เบอร์ 1กับ 2 ผ่านหมดอดไป

แล้ววันนึง 2 พค 62 เวลา 7.00 น.
มีโทรศัพท์เบอร์แปลกโทรเข้ามา งัวเงียรับสาย ยังไม่ตื่น พอบอกจากงานเปลี่ยนไตศิริราช ใจเต้นแรงมาก ตาตื่นทันที
นั่งตัวตรงตั้งใจฟัง ถามชื่อ นามสกุล เรียบร้อย
ตอนนี้มีไตบริจาคนะคะ เป็นหวัดมั้ยคะ มีไอจามอะไรมั้ยคะ มีแผลมีหนองอะไรมั้ยคะ มีฟันผุมั้ยคะ เหนื่อยหอบไม่มีแรงมั้ยคะ
เราก็ตอบ ไม่มี ไม่มี ไม่มี รัวๆๆๆ แข็งแรงดี ฟิตมาก ปั่นจักรยานวันละ 10 กิโล กินอิ่ม นอนหลับ
ทางศิริราชก็บอก งั้นก็รีบมาด่วน เท่าที่จะไวได้  งดอาหารหลัง 8.00 น.
ขอโทษนะคะ อันดับที่เท่าไรคะ?
อันดับ 1
กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด 

กระเด้งออกจากเตียง อาบน้ำอาบท่ากินข้าวเสร็จ 8.00 น. ออกเดินทางไปศิริราช
เราอยู่สุพรรณบุรีไง อาบน้ำกินข้าว 1 ชม. เก็บกระเป๋า เอาอุปกรณ์ เอายาที่กิน ชุดเปลี่ยนกลับ เตรียมไปเหมือนที่เคยๆ
แต่เราพาแม่มาด้วย เดินไม่ไหว แต่ก็พามา ไม่มีแม่มันตื่นเต้นเนอะ เอาแม่มากอดไว้ก่อน
เดินทางอีก 2 ชม ปรากฎว่ารถติดมาก
ระหว่างทาง คุณหมอโทรเข้ามา บอกว่าไตสภาพดีมาก เป็นไตหนุ่มสาว แต่เจ้าของไต มีแผลมีหนอง อาจมีเชื้อหนอง รับความเสี่ยงได้ไหม
เอาแล้วไงกู ก็ถามหมอไปว่า แล้วมันจะมีปัญหาอะไรมั้ย
หมอบอกว่า ให้ยาฆ่าเชื้อได้ แต่ต้องแจ้งให้คนไข้รับความเสี่ยงก่อน
รับค่ะ รับ ไตดี แต่มีเชื้อหนอง ซึ่งหมอบอกใช้ยาได้เอาอยู่  ก็โอเค รับค่ะ

ปรากฎว่าไปถึงเกือบใกล้เที่ยงเลย
คนขับส่งลงที่หน้าตึก ให้แม่นั่งรถเข็น คนเข็นถามคนไหนป่วย เลยชี้ไปที่แม่ 555
ให้แม่นั่งรถ ส่วนเราเดินตาม เข็นไปถึงห้องเปลี่ยนไต งงเลย ใครจะเปลี่ยน
คนป่วยเดินตามรถเข็นเฉยเลย
ทางเจ้าหน้าที่เตรียมใบเจาะเลือด เอ็กซเรย์ และตรวจคลื่นหัวใจไว้รอแล้ว
ก็รีบไปเจาะเลือด เอ็กซเรย์ วัดคลื่นหัวใจ เรียบร้อย
รอผล 17.00 น.

ระหว่างนั้น ปัญหาเกิด
หมออ่านประวัติพบว่า เพิ่งมาติดเครื่องวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ 24 ชม. แต่ผลยังไม่ออก
เรียนเชิญหมอหัวใจมาทันที พบภาวะหัวใจเต้นช้า เมื่อเดือนที่แล้ว 
หมอจึงให้ฝ่ายแปลผลรีบแปลผลทันที ฝ่ายแปลผลคงแปลผลหูตาเหลือก รีบมาก เสร็จตอน เกือบๆ 18.00 น. แล้วหมอก็กลับไป
โดยไม่บอกว่า หัวใจเป็นยังไง อยู่กับเนื้อกับตัวรึเปล่า
แต่หมองานเปลี่ยนไตบอก ผลตรวจเลือดผ่านแล้ว เตรียมเข้าห้องผ่าตัด 19.00 น.
โอยตื่นเต้นๆ กอดแม่ กอดแม่ กอดแม่

เค้าให้ไปอาบน้ำใหม่ สระผม เป่าผมให้แห้ง สวนอี ฉี่ให้เรีบร้อย โดนโกนขนด้วยอ่า
ใส่ชุดเข้าห้องผ่าตัด เปิดเส้น ใส่สายรอที่แขน ฉีดยาอะไรไม่รู้อีก 2 - 3 เข็ม แล้ว เข็นไปห้องผ่าตัด
ระหว่างนี้ รีบบอกให้สามีพาแม่กลับบ้านเลย ไปให้ไม่เห็นก่อน ทิ้งไว้คนเดียวก่อน ไม่งั้นน้ำตาแตก
พอทุกคนไปหมดก็โอเค พร้อม รถเข็นเปลมารับ นอนมองเพดานไปจนถึงห้องผ่าตัด
ยกมือไหว้พระก่อนเข้า คุณพระคุ้มครอง สวดมนต์สั้นๆ

ห้องผ่าตัดอันหนาวยะเยือก ขึ้นเตียงนอนกางแขน ล๊อคแขน ครอบปาก สูดหายใจลึกๆ คร่อก zzzZZZZ

ตัดภาพมาตอนตื่น
พยาบาลเรียกชื่อคุณ.... รู้ตัวยังๆ พยักหน้าหงึกๆๆๆ
คุณ.... พยักหน้าหงึกๆๆ ได้สติแระนะ พยักหน้า ถามอะไรพยักหน้าได้ แต่ตาลืมไม่ขึ้น
โดนเข็นกลับห้องปลอดเชื้อ นอนไป 1 คืน 1 วัน พยาบาลทำอะไรมั่งไม่รู้ พยักหน้าอย่างเดียว
ใส่สายฉี่ สายเดรนเลือดไว้ ทั้งซ้ายทั้งขวา
พยาบาลบอกว่า ฉี่ออกทันทีเลยที่ใส่ไตใหม่เข้าไป โชคดีมาก ไตดีมาก ค่าไตลดทันที
จาก Cr.14 ลงเหลือ 7 6 5 4 และ 3 วันที่เขียนนี่คือ หลังจากเปลี่ยนไตได้ 13 วัน
ที่ค่าลงช้าเพราะว่าล้างช่องท้อง จะไม่ได้มีโอกาสฟอกเลือกครั้งสุดท้ายเหมือนพวกฟอกเครื่อง
ของเสียสะสมจึงยังคงอยู่ค่อยๆฉี่ คงจะลงมาอีกเรื่อยๆ คนแก่ก็ลงช้าหน่อย ไม่เหมือนหนุ่มสาว
(ปัจจุบัน Cr. 0.8 มกราปี63)

วันที่สองก็ให้ลุกนั่ง ให้ยืนข้างเตียง โอยเจ็บมาก วัดความดันทุกชม หลับๆตื่นๆทั้งวันทั้งคืน และยังคงติดเครื่องติดตามคลื่นหัวใจไว้ต่อเนื่อง 3 วัน
วันที่ 3 ก็ลุกนั่ง ยืนข้างเตียง เดินมานั่งที่เก้าอี้ข้างเตียง วัดความดันทุกชม หลับๆตื่นๆตลอดวัน
วันที่ 4 (ได้มือถือแล้วไม่เหงาแล้ว) แต่โดนให้ออกจากห้องปลอดเชื้อไปอยู่ห้องรวม อ้าว ไงงั้นล่ะ โดนออกคนแรก เพราะเตียงเต็ม มีคนผ่าไตมาเพิ่มอีกคน เราดูดีสุดเลยออกก่อน(มั้ง)
วันที่ 5 ลุกไปห้องน้ำเอง ล้างหน้าแปรงฟันได้ อาบน้ำช่วงล่างได้
วันที่ 6 ก็กินนั่งนอน เล่นมือถือ นอนไม่หลับ เพราะแสงไฟส่อง เสียงดัง คนเยอะ พยาบาลเดิน แปลกที่ ต้องขอยานอนหลับ ยาแก้ปวด
วันที่ 7 ก็นอนๆเล่นๆไป ค่าไตก็ลดลงมาเรื่อยๆ แต่ถ่ายบ่อยจนงง น่าจะยาเซลเซฟทำให้ถ่ายบ่อย เลยเดินสนุกเลยได้ออกกำลังกาย 555
วันที่ 8 หมอบอก ให้กลับบ้านดีกว่า อยู่นานไม่ดี ห้องรวมคนมาเยี่ยมญาติเยอะ กลับไปพักที่บ้านดีกว่า ค่อยมาตรวจเลือดใหม่
วันที่ 9 (11พค62) ออกจากโรงพยาบาล กลับบ้านเรียบร้อย (ระหว่างทางฉี่มากมายจนล้นแพมเพิร์ส เปียกเบาะหมดเลย ไม่อยากอั้น)
วันที่ 10 อยู่บ้าน ฮือ แม่ไม่อยู่หมอนัดไปผ่าเข่า ไปเฝ้าแม่ก็ไม่ได้ จ้างคนไปเฝ้า แถมต้องลุกทำกับข้าวกินเองอีก เด็ดจริงๆ ผ่า 10 วันลุกทำกับข้าวจ้า
และวันที่ 13 (14พค62) กลับรพ.ไปเจาะเลือดตรวจ ค่าไตลงมาเหลือ 3.04 ค่อยๆลงมาเรื่อยๆ เดี๋ยวอาทิตย์หน้าเจาะใหม่
ที่ค่อยๆลงอย่างช้าๆ เพราะว่าล้างไตทางช่องท้องจะลงช้ากว่าฟอกเลือดเนื่องจากไม่ได้ฟอกรอบสุดท้ายก่อนผ่า
ทำให้ของเสียยังเยอะอยู่ค่าไตจึงลงช้า ไม่เหมือนฟอกเลือดได้ฟอกครั้งสุดท้าย และอาจมีฟอกหลังผ่าได้อีก ค่าไตจึงลงเร็วกว่า
ประกอบกับอายุที่มากก็ช้าหน่อย ถามหมอก็บอกเกี่ยวกับไตใหม่ อายุ และปัจจัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน ลงช้าลงเร็ว

การปฏิบัติตัวหลังผ่าเปลี่ยนไตก็ไม่มีอะไรมาก
การเปลี่ยนไตคือหายจากโรคไตแล้ว มีไตใหม่แล้ว
แต่เราต้องกินยากดภูมิไว้ เพื่อไม่ให้ร่างกายปฏิเสธไตใหม่ จึงเป็นปัญหาสำหรับผู้ป่วยไตที่จะรับเชื้อโรคได้ง่ายหน่อย
จึงต้องเป็นมนุษย์แมส ใส่หน้ากากตลอดเวลา ยกเว้นในห้อง ในบ้าน ไม่ไปในที่ชุมชนที่เสี่ยงต่อเชื้อโรค
อาหารการกินก็ปกติ คืออยู่บ้านนอกทำกับข้าวบ้านๆกินเป็นปกติอยู่แล้ว กินไม่เค็มอยู่แล้ว ก็ทำไปตามเดิม
ปกติล้างไตทางช่องท้องก็ระวังมากพอสมควร สะอาดมากกว่าด้วย เพราะกลัวติดเชื้อ
มาเปลี่ยนไต ก็แค่กินผักสุก ทุกอย่างสุกร้อน ผลไม้กินได้เฉพาะพวกปอกเปลือก ห้ามส้มโอ ทับทิม เกรปฟรุต (มีฤทธิ์ต้านยากดภูมิ)
ตอนนี้อยู่ระยะระวังตัว 3 เดือน ที่ต้องเฝ้าระวัง ไม่ทำอะไรสะเทือนๆ ไม่ยกของ ไม่ขึ้นลงบันใด งดออกกำลังกายไปก่อน เดินเบาๆได้ ห้ามขับรถ
คอยสังเกตอาการ มีไข้มั้ย หนาวสั่นมั้ย ท้องเสียมั้ย อะไรแปลกๆมั้ย ตอนนี้ก็ยังนะ
แต่ 13 วันแผลไม่เจ็บแล้ว ทำอะไรได้หมดแต่ช้าๆ ทำกับข้าวกับปลากินเองได้
ช่วงนี้ก็ใช้เวลา นอนอ่านหนังสือไปก่อน หยุดกิจกรรมขายของออนไลน์ เพราะต้องแบกของไปส่งหนักมาก ให้เพื่อนขายแทนไปก่อน
มีเวลาทบทวนชีวิตในอนาคต ว่าจะไปต่ออย่างไร
พอไม่ได้ล้างไตก็เหงาๆหน่อย  แต่เดี๋ยวพอค่าไตลงมาปกติ คงที่ ก็ต้องเจ็บตัวอีกรอบนึง
คือการผ่าเอาสายล้างไตออก ทีนี้ก็จะเป็นอิสระแล้ว ไม่มีอะไรคาอยู่ที่หน้าท้อง
คิดถึงสายที่คาอยู่หน้าท้องมา 7 ปี เดี๋ยวจะขอหมอเก็บไว้เป็นที่ระลึกหน่อย ใส่กรอบไว้เตือนใจตน

ช่วงเวลาที่ผิดพลาดในชีวิต หวังว่าคงจะสิ้นสุดเสียที
ต่อไปนี้จะถนอมไตใหม่เป็นอย่างดี ให้ชื่อเค้าว่า "บุญโชค" คือทั้งแต้มบุญ ทั้งมีโชค ถึงได้เค้ามา
จะรักและถนอมไว้ให้นานจนกว่าจะลาโลกไป
ใครที่กำลังกินดื่ม กินเค็ม กินของทำลายไตอยู่ ลดๆลงบ้างก็ดีนะ
ตอนนี้ส้มตำยำแซ่บๆ ใส่ปลาร้า น้ำปลา ชูรสเพียบๆ ลืมมันไปได้เลย 
ของหมักของดองของแสลง ลืมมันไปได้เลย
แต่ถ้าเป็นไตจากเบาหวาน ความดัน sle ไตอักเสบ ถุงน้ำในไต หรืออื่นๆ ก็ระวังทำตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด

สรุปค่าใช้จ่ายที่ผ่านมา
=> ค่าส่งเลือด
เดือนละ 80 บาท ตลอด7ปี (12*80*7ปี =6720 )
ทุก 6 เดือน 30 บาท/ปกส จ่าย 1500 -1800 , ส่วนเบิกตรงจ่ายสด 2300

=> วันผ่าตัด
ค่าน้ำยาดองรักษาไตจากกาชาด 8500 เบิกคืนได้ (30บาท ปกส.ไม่เสีย)
ค่าห้องพิเศษ 3 วันพร้อมอุปกรณ์ 4500 (30บาทไม่เสีย)
ห้องธรรมดา 6วัน เสีย 1900 (30บาทไม่เสีย)
รวมวันออก 14900 (เบิกคืนได้ 8500)
จ่ายจริงๆ 6400 บาท
(ส่วน30 บาทแทบไม่เสียเงิน)

ขอบคุณที่อ่านมาถึงตรงนี้ ใครอยากถามอะไร ทิ้งคำถามไว้ได้นะคะ
เรื่องขั้นตอนการยื่นขอเปลี่ยนไต เรื่องสิทธิ์การรักษาอะไรถามได้นะคะ ค่าใช้จ่ายต่างๆถามได้
คือไม่รู้จะเล่าอย่างไรหมด รายละเอียดมันเยอะ

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะขอบคุณคือ เจ้าของไต ที่ได้สละอวัยยวะให้แก่เรา
เราจะระลึกนึกถึงคุณงามความดีที่ได้มอบไว้ให้แก่เรา
และเราจะรักษามันไว้อย่างดีตลอดจนลมหายใจสุดท้าย
และความตั้งใจของเราเมื่อหายดีแล้ว จะจัดทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ท่านได้เกิดในภพภูมิที่ดี
และในวันที่ 2 พค ของทุกปี จะเป็นการทำบุญวันเกิดใหม่ของเรา และอุทิศบุญให้ในทุกๆปี
ขอบคุณจากใจ 

สนใจเข้ากลุ่มไตวายได้นะคะ
https://www.facebook.com/groups/1681219468779675/
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่