ลมหายใจ!! ประโยชน์จะมากมายอะไรปานนั้น
เราหายใจเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ในทางวิทยาศาสตร์ ก็เพื่อต้องการให้ก๊าซออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย แต่ในทางธรรม เราได้ประโยชน์หลากหลายจากการหายใจหากเราหายใจในแบบที่เรียกว่า อานาปนสติ
นั่นคือการที่เราหายใจยาว ช้า ละเอียด ( ไม่ใช่ฟืดฟาดๆนะคะ ) ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านกายภาพ และด้านจิตใจอย่างที่คาดไม่ถึง
มาไล่เรียงประโยชน์ของการหายใจแบบนี้กันนะคะ
๑. ทำให้เลือดออกน้อยลงเมื่อเกิดบาดแผล เพราะลมหายใจที่สงบระงับ คือยาว ช้า ละเอียด ทำให้จิตใจผ่อนคลาย ร่างกายก็พลอยสงบระงับตามไปด้วย จึงช่วยลดความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้กำลังได้รับบาดแผล
๒. ผ่อนคลายความร้อนของอากาศโดยรอบ ช่วงที่อากาศร้อน ถ้าทำอานาปนสติสำเร็จ จะช่วยคลายความร้อนลงได้(ข้อนี้น่าจะช่วยลดภาวะโลกร้อนนะคะ )
๓. ทำให้เหนื่อยน้อยลง หากในขณะทำงาน หายใจแบบอานาปนสติไปด้วย ทำงานไปด้วย เหมาะสำหรับผู้ใช้แรงงานทั่วไป
๔ ทำให้งานประณีต ข้อนี้เหมาะสำหรับศิลปินค่ะ เพราะช่วยให้ใจเย็น มีสมาธิดี ทำงานได้ดีขึ้น
๕. คุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ การหายใจแบบอานาปนสติจะช่วยให้ลูกมีสุขภาพดี จิตใจดี เยือกเย็น เหตุเพราะเมื่อคุณแม่กาย ใจ สงบระงับ ก็ย่อมส่งผลถึงลูกไปด้วย
๖. เป็นการพักผ่อน หรือหย่อนใจอย่างแท้จริง เวลาที่ว่าง หากได้นั่งหรือนอนเล่นริมหน้าต่าง หายใจยาว ช้า ละเอียด สักครึ่งชั่วโมง ร่างกายจะได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งจะให้ผลดีกว่าการนอนหลับสักสามหรือสี่ชั่วโมงอีกค่ะ
ถ้าคุณทำอานาปนสติจนหลับไปเลย ก็ช่วยให้หลับสนิท ไม่ฝันร้าย แต่ถ้าคุณมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาที่หายใจ คุณก็ได้พักผ่อนด้วยการทำสมาธิ จะเป็นสุข และใสปิ๊ง ยิ่งกว่านอนหลับ
๗. ช่วยลดความประหม่า หากต้องแสดงออกต่อหน้าคนหมู่มาก เหมาะสำหรับนักพูด( ข้อนี้เรามักใช้ผิด เพราะได้ยินมาว่าเวลาเขิน ให้หายใจยาวๆ แต่เรามักหายใจยาวแบบฟืดฟาด ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ )
๘. ลดความรุนแรงของอารมณ์ต่างๆที่มากระทบ เช่นเมื่อได้รับข่าวร้าย การหายใจยาว ช้า ละเอียด จะช่วยคลายความกังวล จิตใจอยู่กับเนื้อตัว พอที่จะตัดสินปัญหาต่อไปได้
๙. ช่วยให้ความจำดีขึ้น หากนึกอะไรไม่ออก ลองหยุด แล้วหายใจแบบอานาปนสติ จะค่อยๆนึกได้
๑๐. ลดปัญหาที่อาจมาจากกิเลส เพราะการหายใจทำให้จิตใจสงบระงับ จึงทันได้ยั้งคิดก่อนที่จะกระทำอะไรลงไปเพราะการที่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว
๑๑. ช่วยให้เกิดจินตนาการได้ดี หรือเรียบเรียงความคิดได้ดี ข้อนี้เป็นประโยชน์สำหรับนักเขียนค่ะ ก่อนลงมือเขียน ทำอานาปนสติสักพัก จะสงบ เขียนเรื่องได้ดีขึ้น
๑๒. สำหรับผู้สูงอายุ ช่วยให้รู้เวลาจะละสังขาร “ จะตายด้วยการหายใจครั้งไหน มันมีทางที่จะรู้ เพราะมันฉลาดในการสังเกตลมหายใจเรื่อยๆ ๆ เปลี่ยนแปลงมาอย่างไร เปลี่ยนแปลงมาอย่างไร ศึกษาลมหายใจนั่นแหละ จะได้รู้ว่ามันใกล้จะตายหรือยัง มันใกล้จะตายหรือยัง อาจจะกำหนดได้ว่า จะตายในการหายใจครั้งไหนก็ได้เหมือนกัน มันจะได้ตายดีที่สุด หัวเราะเยาะความตาย คนแก่ชราตาย ก็จบกัน ” ( หน้า ๕๒ )
เหล่านี้คือประโยชน์ของการหายใจ แม้คุณอาจพอใจที่ลมหายใจช่วยคุณได้ในด้านทางร่างกาย แต่เมื่อคุณฝึกไปเรื่อยๆ จะพบว่าลมหายใจโน้มน้าวคุณเข้าหาธรรมชาติ เข้าหาความจริง แล้วคุณอาจอยากค้นหาความจริงเหล่านั้นเพื่อความสงบที่ยิ่งขึ้นไปก็ได้
เครดิตบทความ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://board.palungjit.org/f9/%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%82%E0%B8%A2%E0%B8%8A%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%88%E0%B8%B0%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%9B%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99-189160.html
----------------------------------------------------
----------------------------------------------------
จขกท. ขอน้อมใจ แชร์เป็นธรรมทาน
หญ้าปากคอก........ลมหายใจที่ปลายจมูก
เราหายใจเข้าออกอยู่ตลอดเวลา ในทางวิทยาศาสตร์ ก็เพื่อต้องการให้ก๊าซออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย แต่ในทางธรรม เราได้ประโยชน์หลากหลายจากการหายใจหากเราหายใจในแบบที่เรียกว่า อานาปนสติ
นั่นคือการที่เราหายใจยาว ช้า ละเอียด ( ไม่ใช่ฟืดฟาดๆนะคะ ) ก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งในด้านกายภาพ และด้านจิตใจอย่างที่คาดไม่ถึง
มาไล่เรียงประโยชน์ของการหายใจแบบนี้กันนะคะ
๑. ทำให้เลือดออกน้อยลงเมื่อเกิดบาดแผล เพราะลมหายใจที่สงบระงับ คือยาว ช้า ละเอียด ทำให้จิตใจผ่อนคลาย ร่างกายก็พลอยสงบระงับตามไปด้วย จึงช่วยลดความดันโลหิต เหมาะสำหรับผู้กำลังได้รับบาดแผล
๒. ผ่อนคลายความร้อนของอากาศโดยรอบ ช่วงที่อากาศร้อน ถ้าทำอานาปนสติสำเร็จ จะช่วยคลายความร้อนลงได้(ข้อนี้น่าจะช่วยลดภาวะโลกร้อนนะคะ )
๓. ทำให้เหนื่อยน้อยลง หากในขณะทำงาน หายใจแบบอานาปนสติไปด้วย ทำงานไปด้วย เหมาะสำหรับผู้ใช้แรงงานทั่วไป
๔ ทำให้งานประณีต ข้อนี้เหมาะสำหรับศิลปินค่ะ เพราะช่วยให้ใจเย็น มีสมาธิดี ทำงานได้ดีขึ้น
๕. คุณแม่ที่ตั้งครรภ์อยู่ การหายใจแบบอานาปนสติจะช่วยให้ลูกมีสุขภาพดี จิตใจดี เยือกเย็น เหตุเพราะเมื่อคุณแม่กาย ใจ สงบระงับ ก็ย่อมส่งผลถึงลูกไปด้วย
๖. เป็นการพักผ่อน หรือหย่อนใจอย่างแท้จริง เวลาที่ว่าง หากได้นั่งหรือนอนเล่นริมหน้าต่าง หายใจยาว ช้า ละเอียด สักครึ่งชั่วโมง ร่างกายจะได้รับการพักผ่อนอย่างแท้จริง ซึ่งจะให้ผลดีกว่าการนอนหลับสักสามหรือสี่ชั่วโมงอีกค่ะ
ถ้าคุณทำอานาปนสติจนหลับไปเลย ก็ช่วยให้หลับสนิท ไม่ฝันร้าย แต่ถ้าคุณมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลาที่หายใจ คุณก็ได้พักผ่อนด้วยการทำสมาธิ จะเป็นสุข และใสปิ๊ง ยิ่งกว่านอนหลับ
๗. ช่วยลดความประหม่า หากต้องแสดงออกต่อหน้าคนหมู่มาก เหมาะสำหรับนักพูด( ข้อนี้เรามักใช้ผิด เพราะได้ยินมาว่าเวลาเขิน ให้หายใจยาวๆ แต่เรามักหายใจยาวแบบฟืดฟาด ซึ่งก็ไม่ได้ช่วยอะไรเลยค่ะ )
๘. ลดความรุนแรงของอารมณ์ต่างๆที่มากระทบ เช่นเมื่อได้รับข่าวร้าย การหายใจยาว ช้า ละเอียด จะช่วยคลายความกังวล จิตใจอยู่กับเนื้อตัว พอที่จะตัดสินปัญหาต่อไปได้
๙. ช่วยให้ความจำดีขึ้น หากนึกอะไรไม่ออก ลองหยุด แล้วหายใจแบบอานาปนสติ จะค่อยๆนึกได้
๑๐. ลดปัญหาที่อาจมาจากกิเลส เพราะการหายใจทำให้จิตใจสงบระงับ จึงทันได้ยั้งคิดก่อนที่จะกระทำอะไรลงไปเพราะการที่มีสติอยู่กับเนื้อกับตัว
๑๑. ช่วยให้เกิดจินตนาการได้ดี หรือเรียบเรียงความคิดได้ดี ข้อนี้เป็นประโยชน์สำหรับนักเขียนค่ะ ก่อนลงมือเขียน ทำอานาปนสติสักพัก จะสงบ เขียนเรื่องได้ดีขึ้น
๑๒. สำหรับผู้สูงอายุ ช่วยให้รู้เวลาจะละสังขาร “ จะตายด้วยการหายใจครั้งไหน มันมีทางที่จะรู้ เพราะมันฉลาดในการสังเกตลมหายใจเรื่อยๆ ๆ เปลี่ยนแปลงมาอย่างไร เปลี่ยนแปลงมาอย่างไร ศึกษาลมหายใจนั่นแหละ จะได้รู้ว่ามันใกล้จะตายหรือยัง มันใกล้จะตายหรือยัง อาจจะกำหนดได้ว่า จะตายในการหายใจครั้งไหนก็ได้เหมือนกัน มันจะได้ตายดีที่สุด หัวเราะเยาะความตาย คนแก่ชราตาย ก็จบกัน ” ( หน้า ๕๒ )
เหล่านี้คือประโยชน์ของการหายใจ แม้คุณอาจพอใจที่ลมหายใจช่วยคุณได้ในด้านทางร่างกาย แต่เมื่อคุณฝึกไปเรื่อยๆ จะพบว่าลมหายใจโน้มน้าวคุณเข้าหาธรรมชาติ เข้าหาความจริง แล้วคุณอาจอยากค้นหาความจริงเหล่านั้นเพื่อความสงบที่ยิ่งขึ้นไปก็ได้
เครดิตบทความ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
----------------------------------------------------
http://ppantip.com/topic/32596108
----------------------------------------------------
จขกท. ขอน้อมใจ แชร์เป็นธรรมทาน