หวั่นกำลังซื้อ"รากหญ้า"ซึมทั่วปท. "ธุรกิจ"ทำใจประคองยอดขาย/เร่งแคมเปญแรงสู้
"ธุรกิจ" แอบหวั่นกำลังซื้อรากหญ้า-ต่างจังหวัดซึมลึกลากยาวทั่วประเทศ หลังสารพัดปัจจัยรุมกระหน่ำความเชื่อมั่น ศก. รัฐงดนโยบายอุดหนุนราคาสินค้าเกษตร เตรียมรับสภาพโตประคองตัวปรับเป้ารายได้รอบใหม่ พร้อมดิ้นส่งท้ายอัดแคมเปญกระหน่ำปลุกตลาด
แม้ดัชนีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจะยังคงพุ่งสูงต่อเนื่องจากผลสำรวจในหลาย ๆ สำนัก แต่เมื่อลงลึกถึงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและเศรษฐกิจยังคงมีกลิ่นอายของความกังวลไม่น้อย โดยเฉพาะกำลังซื้อในกลุ่มตลาดแมสและรากหญ้า จากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ น้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ยังกลับมาไม่เต็มที่
7-11 ชี้กำลังซื้อไม่เหมือนเดิม
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำลังซื้ออาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง โดยปัจจัยมาจากความไม่มั่นใจของผู้บริโภค ในเรื่องของการเมือง หนี้ครัวเรือน ขณะที่การส่งออกและราคาสินค้าการเกษตรยังไม่ดี ซึ่งภาครัฐควรจะกระตุ้นในทุก ๆ ด้าน โดยในส่วนของเซเว่นฯได้รับผลกระทบบ้าง อย่างไรก็ตามยังคงจัดโปรโมชั่นแคมเปญตามปกติ ซึ่งผลประกอบการทั้งปีนี้ยังเติบโตอยู่แต่อาจจะลดลงเล็กน้อย
"กำลังซื้อไม่ถึงขั้นไม่ดี แต่ไม่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังดี และรัฐบาลก็มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปูพื้นฐานเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ก็น่าจะขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า เพราะปีนี้มีปัจจัยเรื่องของการเมืองทำให้จีดีพีเติบโตแค่ 2% แต่ปีหน้ามีความเป็นไปได้ว่าจะขยาย 4%"
ปัจจุบันร้านเซเว่นฯมีจำนวนสาขา 7,816 สาขา สิ้นปีปิดที่ 8,100 สาขา โดยแผนปีหน้าจะเปิดอีก 600-650 สาขา พร้อมเปิดซีดีซีแห่งใหม่ ตั้งศูนย์กระจายสินค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของสินค้าอาหาร รวมถึงร้านเพื่อสุขภาพและความงามเอ็กซ์ต้าไปต่างจังหวัดมากขึ้น
กลาง-บนโตลิ่ว "จับตา" รากหญ้า
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า กำลังซื้อตลาดล่างและต่างจังหวัดยังคงต้องจับตา เนื่องจากตอนนี้ยังคงคาดการณ์ได้แน่ชัดยากว่าจะเป็นอย่างไร และคงต้องรอดูนโยบายของภาครัฐที่เร่งรัดเพื่อกระตุ้นให้สภาพคล่องทางเศรษฐกิจมีความเคลื่อนไหว
สอดคล้องกับ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจดีดตัวเพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้นนั้น จะเป็นแรงส่งหนุนปัจจัยบวกข้ามต่อไปยังปีหน้าให้เดินต่อไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นตลาดระดับกลางและบนยังคงมีตัวเลขการจับจ่ายที่ต่อเนื่องและเป็นปกติ สอดคล้องกับกลุ่มสินค้าราคาระดับกลางและบนยังคงเติบโต
แต่ที่ยังคงน่าเป็นห่วงคือการจับจ่ายและมีภาวะสะดุดของกลุ่มลูกค้าระดับแมสและรากหญ้า ซึ่งเข้าใจว่ายังคงประสบปัญหาสินค้าภาคเกษตรที่มีราคาตกต่ำ รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังกลับมาไม่หมดจากความกังวลกับประกาศกฎอัยการศึก
ซึมลึก "รัฐ" งดหนุนสินค้าเกษตร
นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีเงินลดลง ปัญหากำลังซื้อและบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยจึงน่าจะยังซึม ๆ ไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายภาครัฐที่จะไม่ใช้งบประมาณเข้าไปแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตร ทำให้ผู้คนที่เคยชินกับการมีเงินอุดหนุนจากภาครัฐก็ต้องใช้เวลาปรับตัว
"การกระตุ้นโดยการใช้จ่ายของภาครัฐก็คงพอช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่เงินก้อนนั้นก็ไม่ได้ไปทั่วถึงทุกคน และด้วยสภาพกำลังซื้อแบบนี้ทำให้การเติบโตของบริษัทชะลอตัว ซึ่งปกติสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคมีการเติบโตต่อปีไม่สูงอยู่แล้ว"
ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าอุปโภคในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยครึ่งปีแรกเติบโตต่ำกว่าที่คาด แต่ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามสัญญาณเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ปีนี้จึงจะเน้นรักษายอดขายให้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งวิธีการเพิ่มยอดขายจึงเป็นเรื่องของการนำเสนอสินค้าที่แตกต่าง และเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น
สินค้าเร่ง "แคมเปญ" ปลุกเร้า
นางอ่อนอุษา ลำเลียงพล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากมีรัฐบาลอย่างเป็นทางการส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นกลับมา แบรนด์สินค้ามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นสะท้อนจากเม็ดเงินโฆษณาที่ถูกใช้มากขึ้นผ่านสื่อต่าง ๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ นอกจากนี้ยังมีบิ๊กอีเวนต์ช่วงปลายปีคือ เอเชี่ยนเกมส์ คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจโฆษณาสิ้นปีนี้เติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นผลต่อเนื่องมาจากอดีตในช่วงที่เกิดสถานการณ์การเมือง ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้นจึงต้องให้เวลารัฐบาลทำงานระยะหนึ่ง คาดการณ์ว่าไตรมาส 1 ปีหน้า สถานการณ์ทุกอย่างน่าจะชัดเจนขึ้น
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าผู้บริโภคมีกำลังซื้อแต่ไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้แบรนด์สินค้าต้องออกแคมเปญมากระตุ้น เพื่อสร้างบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักขึ้นช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ดังนั้นปลายปีนี้บริษัทเตรียมออกแคมเปญใหญ่อีก 1 แคมเปญ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ
"เมื่อมีรัฐบาลชัดเจน ส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นคืนมา โดยเฉพาะช่วงปลายปีเป็นเทศกาลการจับจ่าย"
กำลังซื้อ "ภาคเกษตร" ยังไม่ฟื้น
นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ฉายภาพว่า ภาพรวมเศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่ขยายตัวหรือเติบโตได้รวดเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ แม้ความชัดเจนของภาครัฐจะเข้ามาบริหารประเทศและเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลับเป็นแบบ U Shape หรือชะลอตัวยาวนานก่อนจะผงกหัวขึ้น ต่างจากความคาดหวังก่อนหน้านี้ที่หลายฝ่ายประเมินว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะดีดตัวฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
"การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยคงไม่เร็วอย่างที่คิด เพราะปัญหาเศรษฐกิจอยู่ที่ฐานรากทำให้การฟื้นตัวช้า ปีนี้ยอดขายซิงเกอร์คงไม่โต เพราะการจับจ่ายใช้สอยยังคงชะลอตัว กำลังซื้อระดับล่างน่าเป็นห่วงเพราะสินค้าเกษตรหลายตัวราคาตกต่ำ"
ปล. อะไรๆก็ไม่ดี ถ้าดำลังซื้อรากหญ้าหมด รัฐไม่กระตุ้นมากๆ ก็จบกัน แล้วจะเล่นหุ้นอะไรกันดี........
หวั่นกำลังซื้อ"รากหญ้า"ซึมทั่วปท.
"ธุรกิจ" แอบหวั่นกำลังซื้อรากหญ้า-ต่างจังหวัดซึมลึกลากยาวทั่วประเทศ หลังสารพัดปัจจัยรุมกระหน่ำความเชื่อมั่น ศก. รัฐงดนโยบายอุดหนุนราคาสินค้าเกษตร เตรียมรับสภาพโตประคองตัวปรับเป้ารายได้รอบใหม่ พร้อมดิ้นส่งท้ายอัดแคมเปญกระหน่ำปลุกตลาด
แม้ดัชนีความเชื่อมั่นต่อรัฐบาลจะยังคงพุ่งสูงต่อเนื่องจากผลสำรวจในหลาย ๆ สำนัก แต่เมื่อลงลึกถึงความกังวลเกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพและเศรษฐกิจยังคงมีกลิ่นอายของความกังวลไม่น้อย โดยเฉพาะกำลังซื้อในกลุ่มตลาดแมสและรากหญ้า จากราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ น้ำท่วมในหลายพื้นที่ รวมถึงภาคการท่องเที่ยวที่ยังกลับมาไม่เต็มที่
7-11 ชี้กำลังซื้อไม่เหมือนเดิม
นายปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า กำลังซื้ออาจจะเปลี่ยนไปจากเดิมบ้าง โดยปัจจัยมาจากความไม่มั่นใจของผู้บริโภค ในเรื่องของการเมือง หนี้ครัวเรือน ขณะที่การส่งออกและราคาสินค้าการเกษตรยังไม่ดี ซึ่งภาครัฐควรจะกระตุ้นในทุก ๆ ด้าน โดยในส่วนของเซเว่นฯได้รับผลกระทบบ้าง อย่างไรก็ตามยังคงจัดโปรโมชั่นแคมเปญตามปกติ ซึ่งผลประกอบการทั้งปีนี้ยังเติบโตอยู่แต่อาจจะลดลงเล็กน้อย
"กำลังซื้อไม่ถึงขั้นไม่ดี แต่ไม่เหมือนเดิม อย่างไรก็ตามพื้นฐานทางเศรษฐกิจยังดี และรัฐบาลก็มีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปูพื้นฐานเกี่ยวกับสาธารณูปโภค ก็น่าจะขับเคลื่อนธุรกิจไปข้างหน้า เพราะปีนี้มีปัจจัยเรื่องของการเมืองทำให้จีดีพีเติบโตแค่ 2% แต่ปีหน้ามีความเป็นไปได้ว่าจะขยาย 4%"
ปัจจุบันร้านเซเว่นฯมีจำนวนสาขา 7,816 สาขา สิ้นปีปิดที่ 8,100 สาขา โดยแผนปีหน้าจะเปิดอีก 600-650 สาขา พร้อมเปิดซีดีซีแห่งใหม่ ตั้งศูนย์กระจายสินค้าในต่างจังหวัดมากขึ้น เพื่อรองรับการขยายตัวของสินค้าอาหาร รวมถึงร้านเพื่อสุขภาพและความงามเอ็กซ์ต้าไปต่างจังหวัดมากขึ้น
กลาง-บนโตลิ่ว "จับตา" รากหญ้า
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด กล่าวว่า กำลังซื้อตลาดล่างและต่างจังหวัดยังคงต้องจับตา เนื่องจากตอนนี้ยังคงคาดการณ์ได้แน่ชัดยากว่าจะเป็นอย่างไร และคงต้องรอดูนโยบายของภาครัฐที่เร่งรัดเพื่อกระตุ้นให้สภาพคล่องทางเศรษฐกิจมีความเคลื่อนไหว
สอดคล้องกับ ดร.ณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานการตลาด บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเติบโตของธุรกิจดีดตัวเพิ่มขึ้นและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่สูงขึ้นนั้น จะเป็นแรงส่งหนุนปัจจัยบวกข้ามต่อไปยังปีหน้าให้เดินต่อไปได้ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าที่เป็นตลาดระดับกลางและบนยังคงมีตัวเลขการจับจ่ายที่ต่อเนื่องและเป็นปกติ สอดคล้องกับกลุ่มสินค้าราคาระดับกลางและบนยังคงเติบโต
แต่ที่ยังคงน่าเป็นห่วงคือการจับจ่ายและมีภาวะสะดุดของกลุ่มลูกค้าระดับแมสและรากหญ้า ซึ่งเข้าใจว่ายังคงประสบปัญหาสินค้าภาคเกษตรที่มีราคาตกต่ำ รวมถึงตัวเลขนักท่องเที่ยวที่ยังกลับมาไม่หมดจากความกังวลกับประกาศกฎอัยการศึก
ซึมลึก "รัฐ" งดหนุนสินค้าเกษตร
นายสรรค์ชัย เตียวประเสริฐกุล ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่กลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคและฝ่ายธุรกิจอีคอมเมิร์ซ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคมีเงินลดลง ปัญหากำลังซื้อและบรรยากาศในการจับจ่ายใช้สอยจึงน่าจะยังซึม ๆ ไปอีกระยะหนึ่ง ส่วนหนึ่งมาจากนโยบายภาครัฐที่จะไม่ใช้งบประมาณเข้าไปแทรกแซงราคาพืชผลทางการเกษตร ทำให้ผู้คนที่เคยชินกับการมีเงินอุดหนุนจากภาครัฐก็ต้องใช้เวลาปรับตัว
"การกระตุ้นโดยการใช้จ่ายของภาครัฐก็คงพอช่วยได้ในระดับหนึ่ง แต่เงินก้อนนั้นก็ไม่ได้ไปทั่วถึงทุกคน และด้วยสภาพกำลังซื้อแบบนี้ทำให้การเติบโตของบริษัทชะลอตัว ซึ่งปกติสินค้าในกลุ่มอุปโภคบริโภคมีการเติบโตต่อปีไม่สูงอยู่แล้ว"
ทั้งนี้ ยอดขายสินค้าอุปโภคในช่วง 8 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างใกล้เคียงกับปีที่แล้ว โดยครึ่งปีแรกเติบโตต่ำกว่าที่คาด แต่ก็เริ่มปรับตัวดีขึ้นตามสัญญาณเศรษฐกิจในครึ่งปีหลัง ปีนี้จึงจะเน้นรักษายอดขายให้ไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งวิธีการเพิ่มยอดขายจึงเป็นเรื่องของการนำเสนอสินค้าที่แตกต่าง และเพิ่มช่องทางการขายให้มากขึ้น
สินค้าเร่ง "แคมเปญ" ปลุกเร้า
นางอ่อนอุษา ลำเลียงพล นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย กล่าวว่า หลังจากมีรัฐบาลอย่างเป็นทางการส่งผลให้ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นกลับมา แบรนด์สินค้ามีความมั่นใจเพิ่มขึ้นสะท้อนจากเม็ดเงินโฆษณาที่ถูกใช้มากขึ้นผ่านสื่อต่าง ๆ ในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ นอกจากนี้ยังมีบิ๊กอีเวนต์ช่วงปลายปีคือ เอเชี่ยนเกมส์ คาดว่าจะส่งผลให้ภาพรวมธุรกิจโฆษณาสิ้นปีนี้เติบโตเท่ากับปีที่ผ่านมา ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันเป็นผลต่อเนื่องมาจากอดีตในช่วงที่เกิดสถานการณ์การเมือง ส่งผลให้สภาพเศรษฐกิจชะลอตัว ดังนั้นจึงต้องให้เวลารัฐบาลทำงานระยะหนึ่ง คาดการณ์ว่าไตรมาส 1 ปีหน้า สถานการณ์ทุกอย่างน่าจะชัดเจนขึ้น
นายไพศาล อ่าวสถาพร รองกรรมการผู้จัดการ สายธุรกิจอาหาร บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า สัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกำลังซื้อเริ่มดีขึ้นตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เพียงแต่ว่าผู้บริโภคมีกำลังซื้อแต่ไม่มีอารมณ์ในการจับจ่ายใช้สอย ส่งผลให้แบรนด์สินค้าต้องออกแคมเปญมากระตุ้น เพื่อสร้างบรรยากาศการจับจ่ายให้คึกคักขึ้นช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ ดังนั้นปลายปีนี้บริษัทเตรียมออกแคมเปญใหญ่อีก 1 แคมเปญ เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อ
"เมื่อมีรัฐบาลชัดเจน ส่งผลดีต่อภาพรวมเศรษฐกิจและความเชื่อมั่นของผู้บริโภคฟื้นคืนมา โดยเฉพาะช่วงปลายปีเป็นเทศกาลการจับจ่าย"
กำลังซื้อ "ภาคเกษตร" ยังไม่ฟื้น
นายบุญยง ตันสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซิงเกอร์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ฉายภาพว่า ภาพรวมเศรษฐกิจขณะนี้ยังไม่ขยายตัวหรือเติบโตได้รวดเร็วตามที่คาดการณ์ไว้ แม้ความชัดเจนของภาครัฐจะเข้ามาบริหารประเทศและเร่งผลักดันมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจกลับเป็นแบบ U Shape หรือชะลอตัวยาวนานก่อนจะผงกหัวขึ้น ต่างจากความคาดหวังก่อนหน้านี้ที่หลายฝ่ายประเมินว่า เศรษฐกิจไทยน่าจะดีดตัวฟื้นขึ้นอย่างรวดเร็ว
"การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยคงไม่เร็วอย่างที่คิด เพราะปัญหาเศรษฐกิจอยู่ที่ฐานรากทำให้การฟื้นตัวช้า ปีนี้ยอดขายซิงเกอร์คงไม่โต เพราะการจับจ่ายใช้สอยยังคงชะลอตัว กำลังซื้อระดับล่างน่าเป็นห่วงเพราะสินค้าเกษตรหลายตัวราคาตกต่ำ"
ปล. อะไรๆก็ไม่ดี ถ้าดำลังซื้อรากหญ้าหมด รัฐไม่กระตุ้นมากๆ ก็จบกัน แล้วจะเล่นหุ้นอะไรกันดี........