คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
ขอไม่พิมพ์ใหม่นะครับ.....แบบ ขี้เกียจอะ ^^"
-----------------------------------------------------------
http://ppantip.com/topic/32581308/comment6
1. สารให้ความหวานเทียม / น้ำตาลเทียม ครับ
(ขอเรียกว่าน้ำตาลเทียมละกัน เพราะพิมพ์สั้นกว่า)
2. น้ำตาลเทียม ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
แต่....มันก็ให้พลังงานเช่นกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พลังงาน !!!!
โดยปกติเป็นพวกโปรตีน ฉะนั้นก็ให้พลังงานราวๆ 4 kcal/g ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตทั่วๆไปครับ
3. น้ำตาลเทียม ให้ความหวานมากกว่า น้ำตาลธรรมดา (table sugar) มากมายหลายสิบจนถึงหลายร้อยเท่า
ฉะนั้นเมื่อนำมาให้ความหวานแทนน้ำตาลธรรมดา จึงใช้ปริมาณต่ำกว่ามากๆ
อาหารหรือเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลธรรมดา จึงให้พลังงาน !! ไม่ใช่ว่าไม่ให้หรือไม่มีพลังงาน
แต่...พลังงานมันต่ำมาก เพราะใช้ปริมาณน้อยมากๆ
4. ในการจัดทำฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือโฆษณา มีการอนุญาตให้บอกว่ามีพลังงานเป็น 0 kcal ได้ หากมีพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดไว้ระดับหนึ่ง
5. น้ำตาลเทียม (รวมถึงอาหารทั้งหลายบนสากลโลกนี้) ไม่ได้มีฤทธิ์ลดน้ำหนัก
การที่กินแล้วน้ำหนักจะเพิ่มหรือลด ขึ้นกับอุปนิสัยของคนๆนั้นในการกินโดยรวม และกิจกรรมที่เขาทำโดยรวม (ไม่นับพวกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่เป็นปัจจัยต่างหาก)
6. น้ำตาลเทียมมีหลายชนิด ไม่ได้มีเฉพาะ Aspartame หรือ Saccharin (ขัณฑสกร)
น้ำตาลเทียมทุกชนิด ไม่มีชนิดไหนเลยที่มีรสหวานเหมือน น้ำตาลธรรมดา ที่เรากินกันทั่วไป
น้ำตาลเทียมชนิดต่างๆล้วนมีรสหรือกลิ่นแฝงแปร่งๆด้วยกันทั้งนั้น เวลานำมาใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ จึงมักนิยมใช้หลายตัวผสมกัน รวมถึงปรับแต่งรสและกลิ่นต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงน้ำตาลแท้ และลบข้อด้อยในเรื่องรสกลิ่นแฝงที่คนกินอาจไม่ชอบหรือรับไม่ได้
7. อันตรายจากน้ำตาลเทียมชนิดต่างๆ....มีการพูดกันเยอะมาก มานานมาก
แต่จนถึงปัจจุบัน บางชนิดก็ได้รับการยืนยันทางการแพทย์/วิทยาศาสตร์ว่า อันตราย ก็ห้ามใช้กันไป
แต่หลายชนิดก็ยังไม่เคยมีข้อยืนยันชัดเจนใดๆทั้งสิ้นว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ จึงยังมีการอนุญาตให้ใช้ได้อยู่ทั่วโลกหรือเกือบทั่วโลก
ไอ้ที่พูดๆกันว่า ไอ้โน้นก่อมะเร็ง ไอ้นี่ก่อมะเร็ง...
ก็คงต้องรบกวนคนพูดว่า....ขออนุญาตแสดงแหล่งอ้างอิงที่เป็น research ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลง journal หรือได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการยอมรับกันในวงการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ระดับโลกหน่อยครับ !!!
ปัจจุบันไม่ว่าจะ US FDA / WHO / EFSA ก็ต่างอนุญาตให้ใช้ น้ำตาลเทียม หลายชนิดได้ในอาหาร
หมายเหตุ...
ผมไม่ได้บอกหรือสนับสนุนให้กินหรือใช้น้ำตาลเทียมนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่มีเหตุผลให้ผมใช้ ทำกับข้าวเองผมก็ยังคงใช้น้ำตาลปกติ
(เพียงแต่ผมใช้น้ำตาลค่อนข้างน้อยมากๆมาหลายปีหละ)
พวกเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม ผมก็ไม่ได้กินเป็นประจำ เพราะไม่ใช่คนดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ถ้าเมื่อไหรต้องดื่ม ก็ดื่มได้ ไม่ได้รังเกียจหรืออะไร
-----------------------------------------------------------
http://ppantip.com/topic/32581308/comment6
1. สารให้ความหวานเทียม / น้ำตาลเทียม ครับ
(ขอเรียกว่าน้ำตาลเทียมละกัน เพราะพิมพ์สั้นกว่า)
2. น้ำตาลเทียม ไม่ใช่คาร์โบไฮเดรต
แต่....มันก็ให้พลังงานเช่นกันนะครับ ไม่ใช่ว่าไม่ให้พลังงาน !!!!
โดยปกติเป็นพวกโปรตีน ฉะนั้นก็ให้พลังงานราวๆ 4 kcal/g ไม่ได้แตกต่างไปจากน้ำตาลหรือคาร์โบไฮเดรตทั่วๆไปครับ
3. น้ำตาลเทียม ให้ความหวานมากกว่า น้ำตาลธรรมดา (table sugar) มากมายหลายสิบจนถึงหลายร้อยเท่า
ฉะนั้นเมื่อนำมาให้ความหวานแทนน้ำตาลธรรมดา จึงใช้ปริมาณต่ำกว่ามากๆ
อาหารหรือเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมแทนน้ำตาลธรรมดา จึงให้พลังงาน !! ไม่ใช่ว่าไม่ให้หรือไม่มีพลังงาน
แต่...พลังงานมันต่ำมาก เพราะใช้ปริมาณน้อยมากๆ
4. ในการจัดทำฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือโฆษณา มีการอนุญาตให้บอกว่ามีพลังงานเป็น 0 kcal ได้ หากมีพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดไว้ระดับหนึ่ง
5. น้ำตาลเทียม (รวมถึงอาหารทั้งหลายบนสากลโลกนี้) ไม่ได้มีฤทธิ์ลดน้ำหนัก
การที่กินแล้วน้ำหนักจะเพิ่มหรือลด ขึ้นกับอุปนิสัยของคนๆนั้นในการกินโดยรวม และกิจกรรมที่เขาทำโดยรวม (ไม่นับพวกโรคภัยไข้เจ็บต่างๆที่เป็นปัจจัยต่างหาก)
6. น้ำตาลเทียมมีหลายชนิด ไม่ได้มีเฉพาะ Aspartame หรือ Saccharin (ขัณฑสกร)
น้ำตาลเทียมทุกชนิด ไม่มีชนิดไหนเลยที่มีรสหวานเหมือน น้ำตาลธรรมดา ที่เรากินกันทั่วไป
น้ำตาลเทียมชนิดต่างๆล้วนมีรสหรือกลิ่นแฝงแปร่งๆด้วยกันทั้งนั้น เวลานำมาใช้ทำเครื่องดื่มต่างๆ จึงมักนิยมใช้หลายตัวผสมกัน รวมถึงปรับแต่งรสและกลิ่นต่างๆ เพื่อให้ใกล้เคียงน้ำตาลแท้ และลบข้อด้อยในเรื่องรสกลิ่นแฝงที่คนกินอาจไม่ชอบหรือรับไม่ได้
7. อันตรายจากน้ำตาลเทียมชนิดต่างๆ....มีการพูดกันเยอะมาก มานานมาก
แต่จนถึงปัจจุบัน บางชนิดก็ได้รับการยืนยันทางการแพทย์/วิทยาศาสตร์ว่า อันตราย ก็ห้ามใช้กันไป
แต่หลายชนิดก็ยังไม่เคยมีข้อยืนยันชัดเจนใดๆทั้งสิ้นว่าทำให้เกิดมะเร็งได้ จึงยังมีการอนุญาตให้ใช้ได้อยู่ทั่วโลกหรือเกือบทั่วโลก
ไอ้ที่พูดๆกันว่า ไอ้โน้นก่อมะเร็ง ไอ้นี่ก่อมะเร็ง...
ก็คงต้องรบกวนคนพูดว่า....ขออนุญาตแสดงแหล่งอ้างอิงที่เป็น research ซึ่งได้รับการตีพิมพ์ลง journal หรือได้รับการยอมรับจากองค์กรทางการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ ที่ได้รับการยอมรับกันในวงการแพทย์หรือวิทยาศาสตร์ระดับโลกหน่อยครับ !!!
ปัจจุบันไม่ว่าจะ US FDA / WHO / EFSA ก็ต่างอนุญาตให้ใช้ น้ำตาลเทียม หลายชนิดได้ในอาหาร
หมายเหตุ...
ผมไม่ได้บอกหรือสนับสนุนให้กินหรือใช้น้ำตาลเทียมนะครับ
ส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ใช้ เพราะไม่มีเหตุผลให้ผมใช้ ทำกับข้าวเองผมก็ยังคงใช้น้ำตาลปกติ
(เพียงแต่ผมใช้น้ำตาลค่อนข้างน้อยมากๆมาหลายปีหละ)
พวกเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม ผมก็ไม่ได้กินเป็นประจำ เพราะไม่ใช่คนดื่มน้ำอัดลมเป็นประจำอยู่แล้ว
แต่ถ้าเมื่อไหรต้องดื่ม ก็ดื่มได้ ไม่ได้รังเกียจหรืออะไร
แสดงความคิดเห็น
น้ำอัดลม แคลลอรี่ 0 %
คือมันไม่มีจริงๆ หรือว่า เขียนเพื่อเป็นการตลาดของแต่ละบริษัท ? หรือว่า มันก็มี แต่เหมือนพวกดอกเบี้ย 0 % ที่มักจะเป็น 0.99% อะไรพวกนี้หรือป่าว