เมื่อวันที่ 17 กันยายน เวลา 17.00 น. นพ.วิจารณ์ พานิช นายกสภามม. กล่าวภายหลังประชุม
สภามม. ว่า ที่ประชุมใช้เวลาหารือเพื่อพิจารณากรณีนพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ไปดำรงตำแหน่ง
รัฐมนตรีว่าการสธ.โดยที่ยังเป็นอธิการบดีมม.อยู่นานถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งการที่อธิการบดีมม.ได้รับ
แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการสธ. ถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งของมหาวิทยาลัยนอกจากนั้นกรรมการ
สภามม. สองท่านคือนายยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ ก็ไปเป็นรองนายยกรัฐมนตรี และนายกฤษณพงศ์ กีรติกร
ก็ไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) แต่ทั้งสองคนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ
สภามหาลัยแล้ว
"กรณีของอธิการบดีเป็นที่สนใจของสังคมและประชาคมมม. อย่างมาก ที่ประชุมจึงได้หารือโดยยึด
ประโยชน์ของบ้านเมืองและการทำงานของมหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ สุดท้ายจึงมีมติให้อธิการบดีใช้
ดุลยพินิจด้วยตนเองว่าจะเลือกดำรงตำแหน่งใด เพียงตำแหน่งเดียวโดยให้เวลา 3 สัปดาห์ตามที่ขอไว้
เท่ากับว่าในในวันที่ 8 ตุลาคม นพ.รัชตะต้องตัดสินใจเลือก จากนั้นในการประชุมสภามม.วันที่15 ตุลาคม
จะมีการนำผลการตัดสินใจของนพ.รัชตะเข้าสู่การหารือในที่ประชุมอีกครั้ง"นพ.วิจารณ์กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410949069
ด่วน! สภาฯมหิดล มีมติให้"รัชตะ"เลือกนั่งตำแหน่งเดียว ขีดเส้นภายใน8ตุลานี..... ข่าวมติชนออนไลน์
สภามม. ว่า ที่ประชุมใช้เวลาหารือเพื่อพิจารณากรณีนพ.รัชตะ รัชตะนาวิน ไปดำรงตำแหน่ง
รัฐมนตรีว่าการสธ.โดยที่ยังเป็นอธิการบดีมม.อยู่นานถึง 2 ชั่วโมง ซึ่งการที่อธิการบดีมม.ได้รับ
แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการสธ. ถือว่าเป็นเกียรติยศอย่างยิ่งของมหาวิทยาลัยนอกจากนั้นกรรมการ
สภามม. สองท่านคือนายยงยุทธ์ ยุทธวงศ์ ก็ไปเป็นรองนายยกรัฐมนตรี และนายกฤษณพงศ์ กีรติกร
ก็ไปเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) แต่ทั้งสองคนได้ลาออกจากการเป็นกรรมการ
สภามหาลัยแล้ว
"กรณีของอธิการบดีเป็นที่สนใจของสังคมและประชาคมมม. อย่างมาก ที่ประชุมจึงได้หารือโดยยึด
ประโยชน์ของบ้านเมืองและการทำงานของมหาวิทยาลัยเป็นสำคัญ สุดท้ายจึงมีมติให้อธิการบดีใช้
ดุลยพินิจด้วยตนเองว่าจะเลือกดำรงตำแหน่งใด เพียงตำแหน่งเดียวโดยให้เวลา 3 สัปดาห์ตามที่ขอไว้
เท่ากับว่าในในวันที่ 8 ตุลาคม นพ.รัชตะต้องตัดสินใจเลือก จากนั้นในการประชุมสภามม.วันที่15 ตุลาคม
จะมีการนำผลการตัดสินใจของนพ.รัชตะเข้าสู่การหารือในที่ประชุมอีกครั้ง"นพ.วิจารณ์กล่าว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410949069