ลิงค์สำหรับตอนแรกอยู่นี่นะครับ
http://ppantip.com/topic/32581120
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงได้ออกมาฝึกคนเดียวแต่เช้าแบบนี้ล่ะ ?”
โทโมโกะถามอย่างสงสัย เพราะปกติ คนอย่างบิวร์ลิ่ง อย่าว่าแต่มุฝึกคนเดียวเลย ขนาดตอนซ้อมในหมู่รบเธอยังมีท่าทาง เบื่อหน่าย เหมือนทำพอให้จบๆไป แต่ถึงอย่างนั้นในสนามรบจริง บิวร์ลิ่งเป็นหนึ่งในวิชไม่กี่คนในโลกที่โทโมโกะ กล้าฝากชีวิตเอาไว้ด้วยได้
“ก็นะ...” เจ้าของผมเงินงามตอบเว้นจังหวะเพื่อคีบบุหรี่ออกจากปาก “ขนาดพวกนิวรอยยังพยายามวิวัตน์ตัวเองเลยนี่นา...”
บิวร์ลิ่งหมายถึงนิวรอยรูปร่างคนที่ปะทะกับพวกเธอเมื่อคราวการรบก่อน และการพยายามขโมยข้อมูลของฝ่ายวิช โดยการควบคุมร่างกายของ พันจ่าอากาศเอกพิเศษ เซนจูพิน่า เพื่อสืบข้อมูล คิดไปแล้วก็เป็นเรื่องน่าอายที่พวกเธอรบกับนิวรอยมายาวนาน แต่จริงๆแล้วก็ยังไม่เข้าในว่าพวกมันคืออะไรกันแน่
แต่ที่น่าอายไปยิ่งกว่านั้น คือระหว่างที่ ขนาดคนอย่างบิวร์ลิ่งกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องสงคราม และภารกิจ แต่เธอกับคิดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่างความสัมพันธ์ หญิง-หญิง หรือพวกเรื่องรักๆใคร่ๆ
ตุ้บ !
สันมือนุ่มเย็นหนึ่งสับลงกลางหน้าผากของโทโมโกะ เรียกสติสับสนกลับมา ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาเจอบิวร์ลิ่ง คนเดียวในกองบินที่เธอสามารถพูดคุยทุกเรื่องด้วยได้...
“คือ...” โทโมโกะ พยายามกลั่นคำพูดที่อัดอั้นไว้นานออกมา
“หือ?” บิวร์ลิ่งเอียงคือเล็กน้อย
“เธอคิดว่าฉันเป็นพวกชอบผู้หญิงด้วยกันรึเปล่า ?”
สิ้นเสียงคำถาม อันน่าตกตะลึง เกินความเงียบขึ้นระหว่างทั้งคู่ไปชั่วขณะ ใบหน้าโทโมโกะ เปลี่ยนเป็นสีจัด แม้แต่บิวร์ลิ่ง ก็ยังนิ่งค้างไปจนปล่อยให้เถ้าบุหรี่ตกจากมวนทั้งที่ยังคาบไว้ในปาก
“ก็นะ...”
ในที่สุดสาวผมเงินก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบชวนอึดอัด
“แล้วเธอเคยคิดชอบ ฮารุกะ กับเซนจูพินาบ้างรึเปล่า ?”
“เปล่านะ... ฉันไม่ได้... ชอบ...”
โทโมโกะอยากจะปฏิเสธ แต่การกระทำที่ผ่านมาของเธอทำให้ไม่สามารถพูดออกไปได้เต็มปาก ไม่ว่าจะครั้งไหนที่ ฮารุกะ กับ เซนจูพิน่า เข้ามารุกเร้าเธอ แม้จะพยายามขัดขืนแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย
“โทโมโกะ...”
“หือ...?”
“ฟังแล้วเธอ อาจจะโกรธนะ แต่เธออาจจะแค่ใจง่ายเฉยๆก็ได้...”
“หา !?” เริ่มมีเสียงดังขึ้นจากฝั่งที่ถูกว่า จากอารมณ์ซึ่งเริ่มจะฉุนโกรธขึ้นมาจริงๆ “ฉันไม่ได้ใจง่ายซักหน่อยนะ !”
“จริงเหรอ...”
เรืออากาศตรีบิวร์ลิ่งถามกลับเสียงเรียบก่อนจะทิ้งบุหรี่ที่สูบเกือบหมดลงบนพื้นหิมะ แล้วใช้มือข้างเดียวกันนั้นมาจับคางของโทโมโกะให้เชิดขึ้นเล็กน้อยรับกับความสูงของเธอ
“แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ...”
สิ้นเสียงกล่าว เจ้าของเรือนผมเงินงามก็ค่อยขยับหน้าเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ ทิวทัศน์เบื้องหน้าโทโมโกะหดเล็กลง จนเหลือเพียงแค่นัยน์ตาสีฟ้างดงามราวกับอัญมณีตรงหน้า
“ดะ... เดี๋ยวก่อน ฉะ... ฉัน”
ใบหน้าของบิวร์ลิ่งขยับเข้าใกล้จนโทโมโกะได้กลิ่นลมหายใจ หญิงสาวจึงทำได้แค่หลับตาลงเพื่อเตรียมใจรับสิ่งที่จะตามมา
“...”
ทุกสิ่งเงียบไป สิ่งที่จ้าวเวหาแห่งจักรวรรดิ์ฟุโซเตรียมใจรับ ดูเหมือนจะมาถึงช้ากว่าที่คิด ก่อนที่จะมีสัมผัสเบาหนึ่งเกิดขึ้นกลางหน้าผากเหนือหว่างคิ้ว
“...”
และเมื่อลืมตาขึ้น ก็ได้พบกับบิวร์ลิ่งใช้สันมือ สับลงกลางหน้าผากของเธออีกครั้งพร้อมกับเปรยยิ้มบางๆ
“ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว ไปกันเถอะ”
พูดจบวิชสาวจากบริทาเนียก็เดินจากกลับเข้าไปในค่ายพัก ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าบนพื้นหิมะ และหญิงสาวจากฟุโซ ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำจากหลายความรู้สึกถาโถมเข้ามาจนตั้งตัวไม่ติด
“ยัยบ้า...”
โทโมโกะพึมพำเบาๆหลังจากที่บิวร์ลิ่งเดินจากไปไกลแล้ว
STRIKE WITCHES กองบินส่วนเกินแห่งซุโอมุส [ความกลุ้มใจของโทโมโกะ] [ครึ่งหลัง]
“เกิดอะไรขึ้น ทำไมเธอถึงได้ออกมาฝึกคนเดียวแต่เช้าแบบนี้ล่ะ ?”
โทโมโกะถามอย่างสงสัย เพราะปกติ คนอย่างบิวร์ลิ่ง อย่าว่าแต่มุฝึกคนเดียวเลย ขนาดตอนซ้อมในหมู่รบเธอยังมีท่าทาง เบื่อหน่าย เหมือนทำพอให้จบๆไป แต่ถึงอย่างนั้นในสนามรบจริง บิวร์ลิ่งเป็นหนึ่งในวิชไม่กี่คนในโลกที่โทโมโกะ กล้าฝากชีวิตเอาไว้ด้วยได้
“ก็นะ...” เจ้าของผมเงินงามตอบเว้นจังหวะเพื่อคีบบุหรี่ออกจากปาก “ขนาดพวกนิวรอยยังพยายามวิวัตน์ตัวเองเลยนี่นา...”
บิวร์ลิ่งหมายถึงนิวรอยรูปร่างคนที่ปะทะกับพวกเธอเมื่อคราวการรบก่อน และการพยายามขโมยข้อมูลของฝ่ายวิช โดยการควบคุมร่างกายของ พันจ่าอากาศเอกพิเศษ เซนจูพิน่า เพื่อสืบข้อมูล คิดไปแล้วก็เป็นเรื่องน่าอายที่พวกเธอรบกับนิวรอยมายาวนาน แต่จริงๆแล้วก็ยังไม่เข้าในว่าพวกมันคืออะไรกันแน่
แต่ที่น่าอายไปยิ่งกว่านั้น คือระหว่างที่ ขนาดคนอย่างบิวร์ลิ่งกำลังครุ่นคิดถึงเรื่องสงคราม และภารกิจ แต่เธอกับคิดถึงเรื่องไม่เป็นเรื่อง อย่างความสัมพันธ์ หญิง-หญิง หรือพวกเรื่องรักๆใคร่ๆ
ตุ้บ !
สันมือนุ่มเย็นหนึ่งสับลงกลางหน้าผากของโทโมโกะ เรียกสติสับสนกลับมา ก่อนที่เธอจะเงยหน้าขึ้นมาเจอบิวร์ลิ่ง คนเดียวในกองบินที่เธอสามารถพูดคุยทุกเรื่องด้วยได้...
“คือ...” โทโมโกะ พยายามกลั่นคำพูดที่อัดอั้นไว้นานออกมา
“หือ?” บิวร์ลิ่งเอียงคือเล็กน้อย
“เธอคิดว่าฉันเป็นพวกชอบผู้หญิงด้วยกันรึเปล่า ?”
สิ้นเสียงคำถาม อันน่าตกตะลึง เกินความเงียบขึ้นระหว่างทั้งคู่ไปชั่วขณะ ใบหน้าโทโมโกะ เปลี่ยนเป็นสีจัด แม้แต่บิวร์ลิ่ง ก็ยังนิ่งค้างไปจนปล่อยให้เถ้าบุหรี่ตกจากมวนทั้งที่ยังคาบไว้ในปาก
“ก็นะ...”
ในที่สุดสาวผมเงินก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบชวนอึดอัด
“แล้วเธอเคยคิดชอบ ฮารุกะ กับเซนจูพินาบ้างรึเปล่า ?”
“เปล่านะ... ฉันไม่ได้... ชอบ...”
โทโมโกะอยากจะปฏิเสธ แต่การกระทำที่ผ่านมาของเธอทำให้ไม่สามารถพูดออกไปได้เต็มปาก ไม่ว่าจะครั้งไหนที่ ฮารุกะ กับ เซนจูพิน่า เข้ามารุกเร้าเธอ แม้จะพยายามขัดขืนแค่ไหนแต่ก็ไม่สามารถทำได้เลย
“โทโมโกะ...”
“หือ...?”
“ฟังแล้วเธอ อาจจะโกรธนะ แต่เธออาจจะแค่ใจง่ายเฉยๆก็ได้...”
“หา !?” เริ่มมีเสียงดังขึ้นจากฝั่งที่ถูกว่า จากอารมณ์ซึ่งเริ่มจะฉุนโกรธขึ้นมาจริงๆ “ฉันไม่ได้ใจง่ายซักหน่อยนะ !”
“จริงเหรอ...”
เรืออากาศตรีบิวร์ลิ่งถามกลับเสียงเรียบก่อนจะทิ้งบุหรี่ที่สูบเกือบหมดลงบนพื้นหิมะ แล้วใช้มือข้างเดียวกันนั้นมาจับคางของโทโมโกะให้เชิดขึ้นเล็กน้อยรับกับความสูงของเธอ
“แล้วถ้าแบบนี้ล่ะ...”
สิ้นเสียงกล่าว เจ้าของเรือนผมเงินงามก็ค่อยขยับหน้าเข้ามาใกล้อย่างช้าๆ ทิวทัศน์เบื้องหน้าโทโมโกะหดเล็กลง จนเหลือเพียงแค่นัยน์ตาสีฟ้างดงามราวกับอัญมณีตรงหน้า
“ดะ... เดี๋ยวก่อน ฉะ... ฉัน”
ใบหน้าของบิวร์ลิ่งขยับเข้าใกล้จนโทโมโกะได้กลิ่นลมหายใจ หญิงสาวจึงทำได้แค่หลับตาลงเพื่อเตรียมใจรับสิ่งที่จะตามมา
“...”
ทุกสิ่งเงียบไป สิ่งที่จ้าวเวหาแห่งจักรวรรดิ์ฟุโซเตรียมใจรับ ดูเหมือนจะมาถึงช้ากว่าที่คิด ก่อนที่จะมีสัมผัสเบาหนึ่งเกิดขึ้นกลางหน้าผากเหนือหว่างคิ้ว
“...”
และเมื่อลืมตาขึ้น ก็ได้พบกับบิวร์ลิ่งใช้สันมือ สับลงกลางหน้าผากของเธออีกครั้งพร้อมกับเปรยยิ้มบางๆ
“ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว ไปกันเถอะ”
พูดจบวิชสาวจากบริทาเนียก็เดินจากกลับเข้าไปในค่ายพัก ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าบนพื้นหิมะ และหญิงสาวจากฟุโซ ที่ใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำจากหลายความรู้สึกถาโถมเข้ามาจนตั้งตัวไม่ติด
“ยัยบ้า...”
โทโมโกะพึมพำเบาๆหลังจากที่บิวร์ลิ่งเดินจากไปไกลแล้ว