หนังเรื่องนี้เป็นผลงานกำกับชิ้นแรกของ Hossein Amini (คนเขียนบทเรื่อง Drive, Snow White and the Huntsman) ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของ Patricia Highsmith (ผู้เขียน The Talented Mr. Ripley)

ในเรื่อง Oscar Isaac รับบทเป็นไกด์พาเที่ยว/นักต้มตุ๋นหนุ่มที่จับพลัดจับพลูไปข้องเกี่ยวกับคู่สามีภรรยาชาวอเมริกันคู่หนึ่ง (Viggo Mortesen และ Kirsten Dunst) ในกรีก ซึ่งก็เผอิญเหลือเกินที่ไอ้ตัวผัวที่รับบทโดย Mortensen นั้นดันเป็นนักต้มตุ๋นรุ่นเก๋าที่พาเมียมาเที่ยวกรีกเพื่อหลบหนีการตามล่าจากทางการ พล็อตของหนังเรื่องนี้จึงสรุปง่ายๆได้ว่าเป็นการเล่นสงครามจิตวิทยาระหว่าง Oscar Isaac กับ Viggo Mortensen โดยมี Kirsten Dunst เป็นคนโดนลูกหลง(โถ...)

บรรยากาศโดยรวมของหนัง old school มาก เดินเรื่องช้าๆ ถ่ายโลเคชั่นสวยๆ คือถ้าหนังถูกสร้างเมื่อสักประมาณยุค ‘50s หนังก็คงได้ผู้กำกับอย่าง Hitchcock ไม่ก็ Billy Wilder มาเป็นคนกุมบังเหียน ใครที่ชอบหนังธริลเลอร์คลาสสิกๆก็คงจะถูกปากถูกใจรสชาติของหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก แต่ถึงกระนั้นไฮไลท์ที่แท้จริงของหนังก็คงหนีไม่พ้น conflict ระหว่างตัวละครของ Isaac กับ Mortensen ที่หนังเอามาเล่นได้น่าสนใจมากๆ เพราะตัวละครนักต้มตุ๋นหนุ่มของ Isaac จะมองตัวละครของ Mortensen ว่าเป็นทั้งศัตรูคู่ปรับและภาพแทนของพ่อ (father figure) ที่เขาไม่เคยมี ในขณะที่ตัวละครนักต้มตุ๋นรุ่นเก๋าของ Mortensen เองก็มองตัวละครของ Isaac ด้วยสายตาชิงชัง/นับถือคล้ายๆกัน ซึ่งแน่นอนว่าไอ้ทั้งหมดที่เพิ่งว่าไปนี่เป็นอะไรที่โคตรโฮโมอีโรติกเลย ไม่น่าแปลกใจจริงๆที่หนังดัดแปลงมาจากนิยายของคนเขียน The Talented Mr. Ripley

ฉากไล่ล่าตอนท้ายเรื่องเหมือนได้แรงบันดาลใจมาจากฉากที่ Orson Welles วิ่งหนีตำรวจไปทั่วเวียนนาในหนังฟิล์มนัวร์คลาสสิกของผกก. Carol Reed อย่าง The Third Man และส่วนตัวชอบตอนจบของหนังมากๆ หนังมันจบได้ซึ้งแบบแปลกๆและโฮโมอีโรติกแบบมีคลาสดี

8.0/10




ตัวอย่างหนัง


ป.ล. ฝากเพจคุยเรื่องหนัง,เพลง,เกม,การ์ตูนแบบจิปาถะแบบตามใจตัวเองของผมด้วยนะครับ >>> https://www.facebook.com/appleoneoone