..ทู้นี้เป็นทู้อาหารการกิน กลุ่มพวกเรายินดีต้อนรับสมาชิกชาวราชดำเนินทุกท่านนะคะ...
ใครมีของอร่อยเชิญมานำเสนอ เล่าสู่กันฟัง เคร่งเครียดจากการเมืองก็มาอิ่มหนำได้สาระความรู้คู่ความอร่อยค่ะ
เห็นเพื่อนๆ หลายคนนำอาหารอร่อยๆ มาเสิร์ฟ แล้วมีการแบ่งปันสูตรกันหลังไมค์ ทำให้รู้สึกว่า เป็นบรรยากาศที่น่ารักมาก
วันนี้นึกตั้งนานว่าจะเป็นอาหารไหนดี จีนก็ไปเยอะแล้ว ข้าวผัดอเมริกันก็ไปแล้ว พิซซาก็ไปแล้ว งั้น สุกี้แล้วกัน
เล่ากันว่าในสมัยกลางของญี่ปุ่นมีนักรบคนหนึ่งล่าสัตว์ได้ตัวหนึ่ง ได้แวะที่บ้านของชาวบ้านแล้วขอให้ชายคนนั้นทำอาหารให้จากเนื้อนั้น
แต่ชายเจ้าของบ้านนึกได้ว่าเครื่องครัวของตนช่างซอมซ่อเหลือเกิน เกรงจะไม่สมศักดิ์ศรีของขุนศึกผู้มาแวะที่บ้าน
เขาจึงนำเอาพลั่วซึ่งภาษาญี่ปุ่นเรียก ซูกิ (เอ่อ ใช้ พลั่วเนี่ยนะ - -") มาล้างให้สะอาด แล้วใช้ต้ม (ยากิ) เนื้อนั้น
ซูกิยากิจึงแปลได้ว่า "ใช้พลั่วต้มเนื้อให้สุก" และลักษณะของพลั่วนี้ได้ถูกพัฒนาเป็นหม้อก้นตื้น
ต่อมาก็แพร่หลายไปยังชาติต่างๆ
**ห้องครัว คนรากหญ้า (กลุ่มอดีตคนเคยสวยรากหญ้าสร้างชาติรักประชาธิปไตย นอนตะแคงจนตาแข็ง)** อร่อยล้ำประจำวัน 10/9/57
ใครมีของอร่อยเชิญมานำเสนอ เล่าสู่กันฟัง เคร่งเครียดจากการเมืองก็มาอิ่มหนำได้สาระความรู้คู่ความอร่อยค่ะ
เห็นเพื่อนๆ หลายคนนำอาหารอร่อยๆ มาเสิร์ฟ แล้วมีการแบ่งปันสูตรกันหลังไมค์ ทำให้รู้สึกว่า เป็นบรรยากาศที่น่ารักมาก
วันนี้นึกตั้งนานว่าจะเป็นอาหารไหนดี จีนก็ไปเยอะแล้ว ข้าวผัดอเมริกันก็ไปแล้ว พิซซาก็ไปแล้ว งั้น สุกี้แล้วกัน
เล่ากันว่าในสมัยกลางของญี่ปุ่นมีนักรบคนหนึ่งล่าสัตว์ได้ตัวหนึ่ง ได้แวะที่บ้านของชาวบ้านแล้วขอให้ชายคนนั้นทำอาหารให้จากเนื้อนั้น
แต่ชายเจ้าของบ้านนึกได้ว่าเครื่องครัวของตนช่างซอมซ่อเหลือเกิน เกรงจะไม่สมศักดิ์ศรีของขุนศึกผู้มาแวะที่บ้าน
เขาจึงนำเอาพลั่วซึ่งภาษาญี่ปุ่นเรียก ซูกิ (เอ่อ ใช้ พลั่วเนี่ยนะ - -") มาล้างให้สะอาด แล้วใช้ต้ม (ยากิ) เนื้อนั้น
ซูกิยากิจึงแปลได้ว่า "ใช้พลั่วต้มเนื้อให้สุก" และลักษณะของพลั่วนี้ได้ถูกพัฒนาเป็นหม้อก้นตื้น
ต่อมาก็แพร่หลายไปยังชาติต่างๆ