ABC ลั่นคิกออฟธุรกิจออนไลน์ ต.ค.นี้ ประเดิมเปิดเว็บขายสินค้า ดึงลูกค้านำพอยต์บัตรเครดิตมาใช้แลกซื้อ
คาดสิ้นปีนี้จับมือสถาบันการเงินร่วม 20 ราย ตั้งเป้าปั๊มฐานสมาชิก 1 ล้านรายในสิ้นปี มั่นใจปีหน้าได้เห็นรายได้-กำไรแน่
นางกันตพร ทองมั่น รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอสเซท ไบร์ท (ABC) เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค. นี้ บริษัทจะเริ่มประกอบธุรกิจใหม่คือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-business) ซึ่งเป็นการขายสินค้าบนเว็บไซต์ ที่ลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมในบัตรเครดิต (พอยต์) ของธนาคารต่าง ๆ มาแลกได้ โดยในขณะนี้
ได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีธนาคารพันธมิตรมากถึง 14 ราย และน็อนแบงก์อีก 6-7 รายเข้าร่วม
"ธุรกิจนี้จะให้ประโยชน์กับแบงก์หลายด้าน เพราะเมื่อลูกค้านำคะแนนสะสมมาใช้ ก็เท่ากับแบงก์ได้ลดยอดเจ้าหนี้ลงไป มิเช่นนั้นก็จะบันทึกมูลค่าคะแนนสะสมอยู่ในเจ้าหนี้ รวมถึงลดต้นทุนการจัดส่งแค็ตตาล็อกจึงเป็นผลดีต่อสถาบันการเงินเหล่านี้"
ทั้งนี้ ระบบการซื้อสินค้าจากบริษัทนั้น สามารถทำได้ 2 วิธี คือ การแสดงความยินยอมให้โอนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตมายังบริษัท และการซื้อคะแนนผ่านบริษัทโดยตรง โดยตั้งเป้าหมายฐานสมาชิกไว้ 1 ล้านคน ภายในปีนี้กลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนเมืองในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งใช้บัตรเครดิตเป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนผลประกอบการเรื่องรายได้และกำไรคงจะเห็นชัดเจนในปี 2558 หลังจากเริ่มทำธุรกิจนี้อย่างเต็มที่
สำหรับสินค้าที่จะนำมาขายผ่าน ระบบออนไลน์นั้น นางกันตพรกล่าวว่า จะมีทุกหมวดเหมือนหลายเว็บไซต์ แต่จะเพิ่มความโดดเด่น ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ ทั่วไป เช่น บัตรคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งล่าสุดบริษัทมีแผนจัดคอนเสิร์ตของ 28 ศิลปินเกาหลี JYPในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ และตั้งเป้าว่าจะมีอีกประมาณ 6 คอนเสิร์ตในปีหน้า โดยได้เซ็นสัญญากับ 3 ค่ายเพลงในเกาหลีไว้แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทจะปลุกกระแสสร้างความ รู้จักให้กับเว็บไซต์ด้วยการนำสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดมาเสนอขาย เช่น ไอโฟน 6 พร้อมทั้งจะตอบสนองความต้องการด้านการช่วยเหลือสังคม โดยเปิดช่องทางให้สามารถใช้คะแนนสะสมบริจาคให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ ได้ด้วย
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนซื้อห้องชุดโครงการอาคารชุดบ้านนวธารา รีเวอร์ไลฟ์ ตั้งอยู่ซอยประเสริฐมนูญกิจ 33 จำนวน 19 ยูนิต มูลค่ารวม 29.23 ล้านบาท ปัจจุบันได้โอนห้องชุดให้กับลูกค้าจำนวน 7 ยูนิต มูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์และจำหน่ายได้หมดภายในปี 2557
ส่วนห้องชุดโครงการบ้านสาทร เจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่ซอยเจริญนคร 15A ถนนเจริญนคร จำนวน 9 ยูนิต มูลค่าประมาณ 104.66 ล้านบาท ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าแล้วจำนวน 1 ยูนิต ในราคาประมาณ 13 ล้านบาท เหลือ 8 ยูนิต และคาดว่าจะจัดจำหน่ายได้หมดภายในปี 2558
ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จาก E-business ประมาณ 80% และอสังหาฯ 20% ในระยะ 3 ปีข้างหน้าจะมุ่งเน้นธุรกิจ E-business อย่างต่อเนื่อง เพราะการทำธุรกิจอสังหาฯอาจมีอุปสรรคจากปัจจัยแวดล้อม เช่น ปัญหาทางการเมือง จึงทำให้ในปีหน้าบริษัทอาจต้องย้ายไปในหมวดพาณิชย์แทน
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat
ABC ลั่นคิกออฟธุรกิจออนไลน์ ต.ค.นี้ ประเดิมเปิดเว็บขายสินค้า ดึงลูกค้านำพอยต์บัตรเครดิตมาใช้แลกซื้อ
คาดสิ้นปีนี้จับมือสถาบันการเงินร่วม 20 ราย ตั้งเป้าปั๊มฐานสมาชิก 1 ล้านรายในสิ้นปี มั่นใจปีหน้าได้เห็นรายได้-กำไรแน่
นางกันตพร ทองมั่น รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แอสเซท ไบร์ท (ABC) เปิดเผยว่า ในเดือน ต.ค. นี้ บริษัทจะเริ่มประกอบธุรกิจใหม่คือ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (E-business) ซึ่งเป็นการขายสินค้าบนเว็บไซต์ ที่ลูกค้าสามารถใช้คะแนนสะสมในบัตรเครดิต (พอยต์) ของธนาคารต่าง ๆ มาแลกได้ โดยในขณะนี้
ได้ร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ 3 แห่ง ได้แก่ บมจ.บัตรกรุงไทย (KTC) ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารกสิกรไทย และคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีธนาคารพันธมิตรมากถึง 14 ราย และน็อนแบงก์อีก 6-7 รายเข้าร่วม
"ธุรกิจนี้จะให้ประโยชน์กับแบงก์หลายด้าน เพราะเมื่อลูกค้านำคะแนนสะสมมาใช้ ก็เท่ากับแบงก์ได้ลดยอดเจ้าหนี้ลงไป มิเช่นนั้นก็จะบันทึกมูลค่าคะแนนสะสมอยู่ในเจ้าหนี้ รวมถึงลดต้นทุนการจัดส่งแค็ตตาล็อกจึงเป็นผลดีต่อสถาบันการเงินเหล่านี้"
ทั้งนี้ ระบบการซื้อสินค้าจากบริษัทนั้น สามารถทำได้ 2 วิธี คือ การแสดงความยินยอมให้โอนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตมายังบริษัท และการซื้อคะแนนผ่านบริษัทโดยตรง โดยตั้งเป้าหมายฐานสมาชิกไว้ 1 ล้านคน ภายในปีนี้กลุ่มเป้าหมายจะเป็นคนเมืองในเขตกรุงเทพฯ ซึ่งใช้บัตรเครดิตเป็นหลักอยู่แล้ว ส่วนผลประกอบการเรื่องรายได้และกำไรคงจะเห็นชัดเจนในปี 2558 หลังจากเริ่มทำธุรกิจนี้อย่างเต็มที่
สำหรับสินค้าที่จะนำมาขายผ่าน ระบบออนไลน์นั้น นางกันตพรกล่าวว่า จะมีทุกหมวดเหมือนหลายเว็บไซต์ แต่จะเพิ่มความโดดเด่น ด้านเอ็นเตอร์เทนเมนต์ที่ไม่สามารถหาซื้อได้ ทั่วไป เช่น บัตรคอนเสิร์ตที่จัดขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งล่าสุดบริษัทมีแผนจัดคอนเสิร์ตของ 28 ศิลปินเกาหลี JYPในวันที่ 13 ธ.ค. นี้ และตั้งเป้าว่าจะมีอีกประมาณ 6 คอนเสิร์ตในปีหน้า โดยได้เซ็นสัญญากับ 3 ค่ายเพลงในเกาหลีไว้แล้ว
นอกจากนี้ บริษัทจะปลุกกระแสสร้างความ รู้จักให้กับเว็บไซต์ด้วยการนำสินค้าที่เป็นที่ต้องการของตลาดมาเสนอขาย เช่น ไอโฟน 6 พร้อมทั้งจะตอบสนองความต้องการด้านการช่วยเหลือสังคม โดยเปิดช่องทางให้สามารถใช้คะแนนสะสมบริจาคให้กับองค์กรการกุศลต่างๆ ได้ด้วย
ส่วนธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ผ่านมาบริษัทได้ลงทุนซื้อห้องชุดโครงการอาคารชุดบ้านนวธารา รีเวอร์ไลฟ์ ตั้งอยู่ซอยประเสริฐมนูญกิจ 33 จำนวน 19 ยูนิต มูลค่ารวม 29.23 ล้านบาท ปัจจุบันได้โอนห้องชุดให้กับลูกค้าจำนวน 7 ยูนิต มูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท ส่วนที่เหลือคาดว่าจะทยอยโอนกรรมสิทธิ์และจำหน่ายได้หมดภายในปี 2557
ส่วนห้องชุดโครงการบ้านสาทร เจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่ซอยเจริญนคร 15A ถนนเจริญนคร จำนวน 9 ยูนิต มูลค่าประมาณ 104.66 ล้านบาท ได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าแล้วจำนวน 1 ยูนิต ในราคาประมาณ 13 ล้านบาท เหลือ 8 ยูนิต และคาดว่าจะจัดจำหน่ายได้หมดภายในปี 2558
ในปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีสัดส่วนรายได้จาก E-business ประมาณ 80% และอสังหาฯ 20% ในระยะ 3 ปีข้างหน้าจะมุ่งเน้นธุรกิจ E-business อย่างต่อเนื่อง เพราะการทำธุรกิจอสังหาฯอาจมีอุปสรรคจากปัจจัยแวดล้อม เช่น ปัญหาทางการเมือง จึงทำให้ในปีหน้าบริษัทอาจต้องย้ายไปในหมวดพาณิชย์แทน
ติดตามข่าวสาร ผ่านแฟนเพจเฟซบุ๊ค ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
www.facebook.com/PrachachatOnline
ทวิตเตอร์ @prachachat