ABC ชี้แจงแล้วจ๊าาา

กระทู้ข่าว
ชี้แจงข่าวหรือข้อมูล                                    


เรื่อง                                               : ชี้แจงข่าวหรือข้อมูล
วันนี้ เวลา 14:01:03  ABC ได้ชี้แจงต่อ ตลท. แล้วครับผม เชิญอ่านกันได้


รายละเอียด                                          :
ตามที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงบการเงินของบริษัทฯ ในงวดไตรมาสที่
2 ของปี 2557 นั้น บริษัทฯ ขอชี้แจงข้อมูลดังนี้

1.คำถาม สาเหตุที่บริษัทมีรายได้จากการขายในไตรมาสที่ 2 และงวด 6 เดือนปี 2557
ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนอย่างมีสาระสําคัญ
หากไม่รวมรายการกําไรจากการขายสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายจะส่งผลให้บริษัทมีผลขาดทุนสุทธิ
จํานวน 43.35 และ 10.71 ล้านบาทตามลําดับ

คำตอบ บริษัทฯ มีรายได้จากการขายในไตรมาสที่ 2 และงวด 6 เดือน ของปี 2557
ลดลงอย่างมีสาระสำคัญจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากในปี 2556 บริษัทฯ ยังคงทำธุรกิจด้านสิ่งทอ
โดยมีรายได้หลักจากการผลิตถุงเท้า ขณะที่ในปี 2557 บริษัทฯ หยุดดำเนินธุรกิจดังกล่าว
และเริ่มต้นธุรกิจใหม่ คือธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556
ดังนั้นโครงสร้างรายได้ของบริษัทฯ ในปี 2557 จึงมีการเปลี่ยนแปลง โดยบริษัทฯ
มีรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพียงแหล่งเดียว แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจ
และการเมืองที่ไม่แน่นอนจึงส่งผลให้ลูกค้าชะลอการสั่งซื้ออสังหาริมทรัพย์ ดังนั้นยอดขายของบริษัทฯ
เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนจึงลดลง

2.คำถาม อธิบายลักษณะการประกอบธุรกิจของบริษัทในปัจจุบันให้ชัดเจน
โดยกล่าวถึงลําดับเหตุการณ์ที่สําคัญที่กระทบต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทในระยะที่ผ่านมา
ลักษณะการดําเนินธุรกิจในปัจจุบันข้อมูลโครงการ มูลค่าโครงการ ความคืบหน้าในการดําเนินโครงการดังกล่าว

คำตอบ บริษัท แอสเซท ไบร์ท จำกัด (มหาชน) เดิมชื่อ บริษัท บางกอกไนล่อน จำกัด (มหาชน)
ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายถุงเท้า บริษัทฯ มีผลขาดทุนอย่างต่อเนื่อง ด้วยสาเหตุจากค่าใช้จ่ายในการผลิต
และค่าใช้จ่ายในการขนส่งที่ปรับตัวสูงขึ้น ประกอบกับการแข่งขันที่รุนแรง จึงส่งผลให้บริษัทฯ
หยุดการผลิตชั่วคราวเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 และประกาศเลิกจ้างพนักงานตั้งแต่วันที่ 31 มกราคม 2556
ต่อมานายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ได้ซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ
จากผู้ถือหุ้นเดิมผ่านกระดานซื้อขายหลักทรัพย์รายใหญ่ (Big Lot) รวมทั้งสิ้น 9,031,057 หุ้น
ในราคาหุ้นละ 19.40 บาท (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น) หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 68.57
ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ และนายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์
ได้จัดทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ส่วนที่เหลือทั้งหมดของบริษัทฯ จากผู้ถือหุ้นระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม - 5
พฤศจิกายน 2556 ในราคาหุ้นละ 19.40 บาท เป็นผลให้นายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ถือหุ้นรวมทั้งสิ้นจำนวน
11,541,640 หุ้น (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 87.64
ของจำนวนหุ้นทั้งหมดของบริษัทฯ ต่อมานายปรเมษฐ์ รังรองธานินทร์ ได้มีการจำหน่ายหุ้นผ่านตลาดหลักทรัพย์ฯ
ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน - 8 กรกฎาคม 2557 จำนวน 10,465,900 หุ้น ในราคาเฉลี่ยระหว่าง 3.84 - 18.98
บาท ต่อหุ้น (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น) ตามที่ได้แจ้งข้อมูลในแบบฟอร์ม 59-2
ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ ปัจุบันนายปรเมษฐ์
รังรองธานินทร์ได้ถือหุ้นบริษัทฯ รวมทั้งสิ้นจำนวน 104,950,500 หุ้น (มูลค่าหุ้นที่ตราไว้ 1 บาทต่อหุ้น)
คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 79.69 ของบริษัทฯ ได้เปลี่ยนแปลงการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ
จากเดิมประกอบธุรกิจสิ่งทอ มาเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
โดยได้ลงทุนซื้อห้องชุดโครงการอาคารชุดบ้านนวธารา รีเวอร์ไลฟ์ ตั้งอยู่ซอยประเสริฐมนูญกิจ 33
ถนนประเสริฐมนูญกิจ แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพฯ จำนวน 19 ยูนิต มูลค่ารวม 29.23 ล้านบาท
เพื่อทำให้บริษัทฯ มีรายได้เข้ามาในระยะสั้น และระยะกลาง ส่งผลให้บริษัทฯ
ทะยอยรับรู้รายได้เมื่อมีการขาย และโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุด (รายละเอียดโครงการบ้านนวธารา รีเวอร์ไลฟ์
ดูได้จากเอกสารแนบ)

ปัจจุบันบริษัทฯ ได้โอนห้องชุดให้กับลูกค้าแล้วทั้งหมดจำนวน 7 ยูนิต มูลค่าประมาณ 18 ล้านบาท
และที่รอโอนกรรมสิทธิให้กับผู้ซื้ออีกจำนวน 5 ยูนิต โดยคาดว่าจะทะยอยโอนกรรมสิทธิให้ลูกค้าได้ภายในปี
2557 คงเหลือที่อยู่ระหว่างการจำหน่ายจำนวน 7 ยูนิต คาดว่าจะจำหน่ายได้หมดภายในปี 2557
นอกจากนั้นบริษัทฯ ได้ลงทุนซื้อห้องชุดโครงการบ้านสาทร เจ้าพระยา ตั้งอยู่ที่ซอยเจริญนคร 15A
ถนนเจริญนคร แขวงคลองต้นไทร เขตคลองสาน กรุงเทพฯ จำนวน 9 ยูนิต เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 มูลค่าประมาณ
104.66 ล้านบาท(รายละเอียดโครงการบ้านสาทร เจ้าพระยา ดูได้จากเอกสารแนบ)

ปัจจุบันได้โอนกรรมสิทธิ์ให้กับลูกค้าแล้วจำนวน 1 ยูนิต ในราคาประมาณ 13 ล้านบาท คงเหลือ 8 ยูนิต
และคาดว่าจะจัดจำหน่ายได้หมดภายในปี 2558
นอกจากนั้นบริษัทฯ อยู่ระหว่างการวางแผนที่จะเปิดธุรกิจใหม่ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งจะเริ่มได้ในไตรมาสที่ 4 ของปี 2557 (รายละเอียดอธิบายในข้อ 4)

3.คำถาม ที่มาของรายการกําไรจากการขายสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายจํานวน 201.36 ล้านบาท
โดยกล่าวถึง ลักษณะรายการ ข้อมูลของสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขาย ชื่อผู้ซื้อ มูลค่าสินทรัพย์
เกณฑ์การกําหนดราคา เหตุผลที่ขายและวันที่ขายสินทรัพย์ดังกล่าว

คำตอบ บริษัทฯ มีกำไรจากการขายสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนที่ถือไว้เพื่อขายจำนวน 201.36 ล้านบาท
จากการที่บริษัทฯ ได้ทำการขายที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างโรงงาน ตั้งอยู่ที่เลขที่ 7 ซอยลาดปลาเค้า 71
แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 16-1-17 ไร่ มูลค่า 220 ล้านบาท ให้กับบริษัท บีเอ็นซี
เรียลเอสเตท จำกัด เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2557 โดยบริษัทฯ กำหนดราคาจากการเจรจาต่อรองกับผู้ซื้อ
ซึ่งอ้างอิงจากราคาประเมินจากผู้ประเมินราคาอิสระ 3 ราย (รายละเอียดของผู้ประเมินราคาทรัพย์สิน
ดูได้จากเอกสารแนบ)

ซึ่งสาเหตุที่บริษัทฯ ขายสินทรัพย์ดังกล่าวเนื่องจากบริษัทฯ เลิกผลิตสินค้าตั้งแต่ปี 2556
จึงไม่ได้ใช้ประโยชน์จากที่ดินและสิ่งปลูกสร้างดังกล่าว บริษัทฯ
ได้นำเงินจากการจำหน่ายทรัพย์สินไปชำระหนี้สถาบันการเงินจำนวน 30 ล้านบาท ชำระคืนเงินกู้ยืมกรรมการจำนวน
33 ล้านบาท ซึ้อห้องชุดโครงการบ้านสาทร เจ้าพระยาจำนวน 105 ล้านบาท และที่เหลือเป็นเงินทุนหมุนเวียน
โดยบริษัทฯ ได้ปฎิบัติตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551
เรื่องหลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มา หรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สิน
และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เรื่องการเปิดเผยข้อมูลและการปฎิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ.
2547 และได้รับมติอนุมัติให้ทำรายการจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 51 เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2557

4.คำถาม อธิบายความคืบหน้าในการประกอบธุรกิจด้านธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
ตามที่บริษัทเปิดเผยไว้ในงบการเงินและวันที่คาดว่าจะเริ่มธุรกิจใหม่ดังกล่าว

คำตอบ บริษัทฯ ได้มีการแถลงเกี่ยวกับธุรกิจ และแนวทางการทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทฯ
ต่อผู้ถือหุ้นในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2557 ที่โรงแรมแกรนด์
เซ็นเตอร์พอยท์ และได้มีการให้ข่าวเกี่ยวกับแนวคิดทางธุรกิจในหนังสือพิมพ์ประชาชาติธุรกิจ กรุงเทพธุรกิจ
ฐานเศรษฐกิจ ทันหุ้น และโพสต์ทูเดย์ในสัปดาห์ต่อมา โดยรูปแบบของธุรกิจจะเป็นห้างสรรพสินค้าออนไลน์
ที่สามารถโอนคะแนนสะสมจากบัตรเครดิตของสถาบันการเงินต่างๆ มารวมกันในบัตร abcpoint
ที่เดียวเพื่อใช้แลกซื้อสินค้าและบริการ เช่น บัตรชมคอนเสิร์ต ตั๋วเครื่องบิน สินค้า IT
และเครื่องใช้ไฟฟ้า เป็นต้น โดยทำรายการผ่าน www.abcpoint.com
โดยมีจุดเด่นที่สามารถเพิ่มศักยภาพให้แก่ผู้บริโภคในการรวบรวมคะแนนจากบัตรเครดิตต่างๆ
เพื่อสร้างมูลค่าได้ ทั้งนี้บริษัทฯ จะได้รับเงินสดจากสถาบันการเงินที่เข้าร่วมโครงการ
เมื่อลูกค้าได้ทำการโอนคะแนนบัตรเครดิตมาที่บริษัทฯ และบริษัทฯ
จะรับรู้รายได้ต่อเมื่อลูกค้าใช้คะแนนของบริษัทฯ แลกซื้อสินค้า และบริการต่อไป

    ในระยะ 3-4 เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ทำการพัฒนาความพร้อมของการดำเนินงานทางด้านต่างๆ ดังต่อไปนี้
-    ความพร้อมทางอิเล็กทรอนิกส์
บริษัทได้ทำการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อให้สามารถรองรับการให้บริการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้ได้อย่างเต
็มประสิทธิภาพ
-    ความพร้อมทางการรวมกลุ่มพันธมิตรบัตรเครดิต บริษัทได้ดำเนินการขอความร่วมมือจากสถาบันการเงินต่างๆ
โดยมีบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ได้ให้ความร่วมมือกับทางบริษัท ส่วนธนาคารอื่นยังอยู่ระหว่างการดำเนินการ
-    ความพร้อมทางการตลาด บริษัทฯ ได้ติดต่อกับผู้ประกอบการสินค้าและบริการต่างๆ
รวมถึงความพร้อมในการทำสัมมนากับคู่ค้าที่ต้องการฝากขายสินค้าบน www.abcpoint.com ในวันที่ 16 กันยายน
2557 ที่สยามภาวลัย สยามพารากอน
5.คำถาม อธิบายเหตุผลที่ค่าใช้จ่ายในการบริหารในงบการเงินงวด 6 เดือนปี 2557 จํานวน 15.62 ล้านบาท
ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีจํานวน 9.54 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 63.80%
ในขณะที่มีรายได้จากการขายลดลงจาก 55.63 ล้านบาทเหลือเพียง 7.05 ล้านบาทหรือลดลง 87.33%

คำตอบ บริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการบริหารสำหรับงวด 6 เดือน ของปี 2557 สูงขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน
โดยเพิ่มขึ้นร้อยละ 63.80 ในขณะที่มีรายได้จากการขายลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 87.33
ซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงธุรกิจจากสิ่งทอเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จึงทำให้มีค่าใช้จ่ายต่างๆ
เพิ่มขึ้น เนื่องจากการที่บริษัทฯ จัดโครงสร้างองค์กรและแผนการดำเนินธุรกิจใหม่
ทำให้มีค่าใช้จ่ายในการบริหารงานรวมถึงค่าใช้จ่ายที่ปรึกษาหลายด้านโดยเฉพาะที่ปรึกษาทางการเงิน เช่น
ที่ปรึกษาการเงินอิสระในการให้ความเห็นของการได้มาหรือจำหน่ายไปของสินทรัพย์ และที่ปรึกษาด้านการตลาด
เพื่อทำธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงค่าใช้จ่ายด้านสารสนเทศ
ในขณะที่รายได้จากการขายซึ่งมาจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เริ่มดำเนินการได้เมื่อปลายปี  2556  และบริษัทฯ
ได้ลงทุนอสังหาริมทรัพย์เพิ่มในเดือนพฤษภาคม 2557
ทำให้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ยังเติบโตไม่มากในงวด 6 เดือนแรก
อย่างไรก็ตามบริษัทฯ กำลังดำเนินการด้านการตลาดเพื่อเร่งยอดขายในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ต่อไป

______________________________________________________________________
สารสนเทศฉบับนี้จัดทำและเผยแพร่โดยบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลหรือเอกสารใดๆของบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์
ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยไม่มีความรับผิดชอบใดๆ
ในความถูกต้องและครบถ้วนของเนื้อหา ตัวเลข รายงานหรือข้อคิดเห็นใดๆ ที่ปรากฎในสารสนเทศฉบับนี้
และไม่มีความรับผิดในความสูญเสียหรือเสียหายใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นไม่ว่าในกรณีใด ในกรณีที่ท่านมีข้อสงสัย
หรือต้องการรายละเอียดเพิ่มเติม โปรดติดต่อบริษัทจดทะเบียนและบริษัทผู้ออกหลักทรัพย์ซึ่งได้จัดทำ
และเผยแพร่สารสนเทศฉบับนี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่