@@@ เล่าประสบการณ์ เป็น Barista ในประเทศออสเตรเลีย ระหว่างปี 2003 - 2009 @@@ ( ภาค 6 )

เล่าประสบการณ์ เป็น Barista ในประเทศออสเตรเลีย ระหว่างปี 2003 - 2009
http://ppantip.com/topic/32468932/comment9

@@@ เล่าประสบการณ์ เป็น Barista ในประเทศออสเตรเลีย ระหว่างปี 2003 - 2009 @@@ ( ภาค 2 )
http://ppantip.com/topic/32477323/comment53

@@@ เล่าประสบการณ์ เป็น Barista ในประเทศออสเตรเลีย ระหว่างปี 2003 - 2009 @@@ ( ภาค 3 )
http://ppantip.com/topic/32496374/comment60

@@@ เล่าประสบการณ์ เป็น Barista ในประเทศออสเตรเลีย ระหว่างปี 2003 - 2009 @@@ ( ภาค 4 )
http://ppantip.com/topic/32524971/comment33-1

@@@ เล่าประสบการณ์ เป็น Barista ในประเทศออสเตรเลีย ระหว่างปี 2003 - 2009 @@@ ( ภาค 5 )
http://ppantip.com/topic/32536997/comment37-1
--------------------------------------------------

ใครยังไม่เคยอ่านอย่าเพิ่งอ่านตอนนี้เลย..... กลับไปอ่านตั้งแต่ตอนแรกเถิด... เลาจะลอ เพี้ยนรอที่ท่าน้ำ


ตอนที่ลุงภาระตะซื้อร้านสตีฟใหม่ๆ แกส่งป้ามาฝึก 4 สัปดาห์ก่อนจะซื้อร้าน  แต่ฝึกจริงๆนี่น่าจะสักสองอาทิตย์  ที่เหลือแกจะมานั่งกินขนมที่ร้าน  กับพาลูกสาวคนเล็กมาด้วย
ส่ายส่าหรี วิ่งไปวิ่งมาตามโต๊ะ  สตีฟเห็นแล้วส่ายหัว  พูดย้ำนักย้ำหนา  ช้อยกลับมาจากฮอลิเดย์หางานใหม่นะ  ช้อยอยู่ช้อยประสาทกินแน่
อืม..... คิดเอาไว้ว่าใช่  ต้องใช่แน่ๆ .....ประสาทแDรกแน่ๆเลยช้อยเอ้ย!!!!!

เวลาทำงานกับสีฟ  จขกท. นี่แทบจะไม่ได้คุยกันเลยนะ คือมุมใครมุมมัน....เหมือนคนไม่ถูกกัน สตีฟก็ทำงานสตีฟไป ถ้าลูกค้าไม่มีก็หานู่นนี่ทำ  เราก็ทำความสะอาดเครื่องไปเช็คทุกอย่างให้พร้อม
อุปกรณ์ทุกอย่างครบ  พร้อมรบทุกเมื่อ  มาทำงานคือทำกาแฟจริงๆ กับเช็คสต๊อคในส่วนของตัวเองบ่ายสามว่าต้องสั่งอะไรบ้าง เขียนส่งให้สตีฟไป
พอเวลายุ่งเราทำงานกันได้เป็นทีมปึ๊กมากๆ  หัวเราะสนุกสนานอย่างไม่น่าเชื่อ  เหมือนพี่น้องคลานตามกันออกมารู้ทางรู้ใจว่างั้นเถอะ  เรากำลังทำกาแฟนี้อยู่ สตีฟเห็นออร์เดอร์เยอะเค้ามาช่วยทำช๊อต ปล่อยให้น้องสาวตัวเองรับออร์เดอร์แป๊บนึง ทำงานเป็นทีมเข้าขากันดีมากๆ


แต่ทำงานกับลุงเหมือนตัวเองพกกลองสะบัดชัยเหน็บหลังอยู่ตลอด  อิช้อยพร้อมจะออกรบกับลุงภาระตะทุกเมื่อ  วันนี้ลุงจะทำอะไรให้ตรูปวดหัวอีกนี่  
สามีไปส่งทำงานทุกเช้า  พอรถเริ่มข้ามสู่สะพานHARBOUR BRIDE เท่านั้นหล่ะ ช้อยจากหัวเราะรึขำอะไร จะเริ่มเงียบเข้าโหมดเตรียมรับมือกับอิลุง
สามีเคยบอกว่า  ช้อยๆไม่สนใจทำอย่างอื่นบ้างเหรอ  หน้าเครียดทุกวันเลยตั้งแต่ร้านลุงเข้ามา  
เวลาช้อยโทรมาหาที่ทำงาน สามีใจไม่ค่อยดีวันนี้ช้อยไปไฝว้กับใครอีก  หืม........

ไม่ใช่ว่าไม่เคยได้งานอย่างอื่นนะ  เคยไปสมัครงานที่ตึก QVB ร้านเสื้อผ้า  
จขกท. ชอบแฟชั่น แต่ร้านที่ไปสมัครไม่ใช่แบรนด์ที่ช้อยชอบ555 ได้แล้วไปทำสองวันไม่ชอบขี้เกียจยิ้ม  พอได้งานที่ไม่ชอบก็ไม่อยากทำ
ถามว่าชอบกาแฟมั้ยก็ไม่ได้ชอบแต่แรกแต่คิดว่ามันน่าสนใจ  ทำไมเด็กนักเรียนไทยมีข้อจำกัดจัง  ต้องทำแต่ร้านไทยเท่านั้นอยากทำไม่ใช่ร้านไทยดูบ้าง


ตอนที่ลุงซื้อร้านต่อจากสตีฟใหม่ สองเดือนแรกก็ยังไม่เปลี่ยนอะไรมาก แต่พอเข้าเดือนที่สาม   หลังจากที่มาบอกให้จขกท.สอนคนนู้นคนนี้ทำกาแฟ
เราขี้เกียจสอนแค่วันๆก็ยุ่งจะตายอยู่แล้ว  และของแบบนี้มันสอนอย่างเดียวไม่ได้ มันต้องสนใจและบวกความใส่ใจของคนที่ทำกาแฟด้วย  ไม่ใช่เอาด้วยๆๆอยากทำๆๆแต่ไม่เรียนรู้ที่มาที่ไป แค่ตีนมเป็นก็ถือว่าทำกาแฟได้  มันไม่ช่าย!!!!! มันไม่คือสำหรับช้อย  อยากรู้แล้วต้องรู้ให้สุดๆ จะได้พูดได้ว่าเราทำอะไรมาก่อน คนไหนมีแวว จขกท.ก็สอนให้นะ  
อย่างพอลลี่สอนให้หมดใจ  เหลือเอาไว้นิดหน่อยเรื่องเทคนิค และสิ่งที่คนทำกาแฟมองข้าม
คนมาทำงานก็อยากได้ค่าตอบแทนที่ดี  แต่ถ้าทำแล้วอย่าลืมใส่ใจ อย่าลืมสังเกตุ อย่าคิดว่าเราเก่งเราเจ๋งอย่างเดียว ไปดูร้านอื่นๆบ้าง แต่ไม่ใช่ลอกเค้ามาทั้งดุ้น  หาความเป็นตัวเองไม่เจอ ทำงานได้รับคำชมจากลูกค้ามีความสุขจะตายไป


พอลลี่คงมีคำถามในใจมานานตั้งแต่ทำงานมา  ทำไม่ลูกพี่ไม่เสียบตัวเทอร์โมมิเตอร์เวลาเทนม  มาเเรกๆพอลลี่ไม่ค่อยกล้าคุยกับเราเท่าไร  กลัวโดนตะปปหัว
แม่เสือสาวตัวเล็กที่พร้อมจะตะปปอิลุงที่มาทำให้ปรี๊ด  แน่นอน....และแล้ววันนั้นก็มาถีง.....

หลังจากซื้อร้านมาได้สองเดือนลุงบอกให้เราสอนเด็กๆในร้านทุกคนควรจะทำกาแฟเป็น  เราบอกส่งไปเรียนดีกว่านะเราไม่มีเวลาสอนให้หรอก ขี้กียจจะบอกว่าลูกค้าประจำเค้าไม่ชอบหรอกนะให้คนนู้นคนนี้เปลี่ยนหน้ามาทำกาแฟให้
ลุงส่งไปทั้งหมดหกคน รวมลูกแกด้วยกลับมาลูกลุงอายุ 16 เอาเลย " พ่อครับเด็กนารกเห็นนะครับ ว่าอิช้อยมันไม่ใช่เทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิเวลาตีนม
เอาละซิ นังช้อยแย่แล้ว!!!!!

--------------

เด็กๆรอบบ่ายที่ลุงส่งไปอบรมก็เริ่มแทรกตัวเข้ามาพยายามจะทำกาแฟบ้าง  จขกท.จะทำหน้านิ่งๆพูดเสียงเรียบๆว่า " ชั้นจะทำงาน ใครใคร่ฝึกฝึกโลดหลังจากชั้นทำงานเสร็จ แต่ถ้าชั้นอยู่หน้าเครื่องอย่าบังอาจ!!!! เดี๋ยวแฟนคลับกาแฟอันเหนียวแน่นของอิช้อยจะหาย  หลบไป!!!!!
( ปรอทความหงุดหงิดริ่มปรี๊ดมาอยู่ในระดับกลาง )  

วันหนึ่งลุงภาระตะเดือนเข้ามาในร้าน มีเด็กนารกลูกของลุงซอยเท้าติดๆตรูดมาด้วย ( วันนี้สงสัยได้เกิดการประลองกันอีกเป็นแน่แท้ )
ลูกลุงซุบๆซิบ เอาเลยพ่อจัดการนังช้อยเลยพ่อ อิช้อยเสร็จแน่!!!!!!!!

ลุงเดินมาที่จขกท.ปุ๊บประกาศกร้าว!!!!ช้อยต่อไปนี้เธอต้องใช้เทอร์โมมิเตอร์วัดความร้อนของนมนะ และต่อไปนี้ห้ามทำลวดลายต่างๆ เพราะคนอื่นทำไม่ได้ กาแฟร้านเดียวกันมันต้องเหมือนๆกัน
( มีลูกลุงส่ายหัวไปมาอยู่ข้างๆแก ช่ายๆๆพ่อช่ายพ่อพูดถูก )

จขกท.ทำกาแฟเสร็จหนึ่งแก้วส่งให้ลูกอิลุง  ไอ้เด็กน้อยหอยแม่น!!!  เอากาแฟไปส่งให้ลูกค้าโต๊ะหน้าร้านด่วน!!!!
หันมาทำความสะอาดหน้าเครื่องบิดปุ่มเปิดปิด เปิดปิดหัวฉีดตีนมเช๊คควันมันเล่นๆ ไป3-4  รอบ กวนประสาทลุงเล่น
แต่ในใจนี่ ......
" เสียงกลองสะบัดชัยร้องระรัว... ถึงคราวออกรบอีกแล้วอิช้อยเอ๋ย!!!!
จะช้าอยู่ใย จงออกไปสู้กับอิลุงภาระตะให้จงแล้วรอด...อย่าได้เหนียมอาย  เสียศักดิ์ศรีของช้อยต่อไปเลย........"

ช่วงอิลุงรอคำตอบว่า เเยสค่ะบอส!!
จขกท. หันมาช้าๆเผชิญหน้ากับลุงช้าๆ วางเหยือกนมเบาๆ สายตาแข็งกร้าว  ไม่มีรอยยิ้มทักทายให้อิลุง
ฟังนะลุง... ชั้นจะเล่าอะไรให้นายฟัง....

พูดพร้อมหยิบแก้วใสๆที่สำหรับใช้ใส่กาแฟ latte แล้วชี้ให้แกดู  
แก้วใสมีสองใบชั้นจะทำlatteหนึ่งแก้วและ Flatwhite 1 แก้ว ให้ลุงดู
ลุงดูความหนาของโฟมนมนะ กาแฟ Latte โฟมนมมันจะมีความหนาไม่เกินหนึ่งเซนต์ติเมตร ตามที่ลูกลุงได้ไปร่ำเรียนมาใช่มั้ย  
( หันไปถามเด็กนารก ลูกน้อยหอยเม่นของแก ขี้ฟ้องนักนะเมิงเดี๋ยวสวย )
ทำ Flatwhite หนึ่งแก้วโดยไม่ใช้ช้อนกั้นนมและสามารถเทนมแบบ pour free ให้ดู( ลวดลายที่ทำโดยไม่ใช้อุปกรณ์ตกแต่ง )
( ถ้าทำโดยใช้แก้วทึบแซรามิคจะมองไม่เห็นภาพตัดด้านข้างว่าความหนาของโฟมนมว่าต่างกันอย่างไร)

บอกลุงเสียงเรียบเฉย แต่ในใจอยากขาคู่ทั้งพ่อและลูกมาก
" อุณหภมิที่ร้านใช้กันคือ 68 ดีกรีแต่ชั้นจะตีนมโดยไม่ใช้เทอร์โมมิเตอร์วัด " ( regular temperature at the shop )



ตีนมเสร็จลุงถือเทอร์โมมิเตอร์รอไว้นะ จับไว้ให้มั่น ชั้นตีนมเสร็จลุงมาจุ่มดูว่า 68 degree เป๊ะรึเปล่า?
ถ้าทุกอย่างเป๊ะ!!! ต่อไปนี้อย่ามาบังคับให้ชั้นใช้เทอร์โมมิเตอร์กับใช้ช้อนคอยกั้นนมเวลาเท.......


จขกท.ตีนมเสร็จส่งให้อิลุง ส่งเทอร์โมมิเตอร์ให้อ่านหลังจากตีนมเรียบร้อย ลุงดูซิ เท่าไร?
( มีมิทซี่ แมซ และป้ามิวๆมาเมียงมอง ว่าสงครามกาแฟได้เริ่มขึ้นแล้ว ณ บัดนาว!!!)
แหม่!!!!! 68 Degree เป๊ะเลยเน๊อะลุงเน๊อะ!!!!


รู้สึกดีๆที่มิทซี่ ผจก. ร้านของลุงยอมรับในตัวช้อยในวันนั้น ไม่เอานิสัยฝรั่งบ้าอำนาจมาใช้กับช้อย
เริ่มรู้จักตัวตนช้อยดีขึ้นแล้วซินะ มิทซี่
ภาษาไทยที่บ้านเมืองเราเค้าเรียกว่า เชือดแขกให้ลูกน้องดูน่ะ ที่บ้านตัวเองมีป่ะ????

จริงๆใครทำไม่ได้ก็ไปฝึกฝนอาเองซิ  มาบอกอิช้อยให้ทำกาแฟแย่ลงเพื่ออะไร  เพื่อจะเท่าเทียมกับลูกลุงรึ?
อย่างที่เคยเล่า ลูกค้าประจำเค้ามากินบ่อยๆ เปลี่ยนหน้าคนทำหลังเครื่องกาแฟ ลูกค้าเค้าขาดความมั่นใจนะเออ ........คิดซิคะลุง คิด
อย่าให้ช้อยไปเทียบกับฝีมือลูกลุง ช้อยรับไม่ด้าย!!!!!!!!!


หลังจากวันนั้น  ใครใคร่ใช้เทอร์โมมิเตอร์ใช้ไป แต่อย่ามาบังคับอิช้อย  ไม่งั้นมันจะไฝว้ให้อิลุงได้เสียหน้าต่อหมู่มวลพนง.
วัดกันเลยนะลุงนะ  จะอยู่หรือจะไป.....
ลุงรู้มั้ย ชั้นลูกใคร??


***** ฝากเพลงให้คนอ่านร้องตาม.... ผู้ชนะสิบทิศ.....******
พร้อมยังคะ ถ้าพร้อมเริ่มด้ายย!!!!!!


......เจ็บใจนักอิช้อยโดนรังแก.......ข้าจะเม้าท์ลุงภาระตะแก........
................ให้มันวอดวาย.......................เพี้ยนไฟลุก




ชอบใจประสบการณ์ที่เล่า อย่าลืมกดโหวตให้เค้านะยูว์......เพี้ยนปูเสื่อรอ
ถอนสายบัวหนึ่งครั้ง.... พาพันขอบคุณ




แถมภาพประกอบช้อยในอดีต

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่