เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เขาถามเรื่องไมค์ราคา1.45แสนบาท .. มา16 ข้อ ใครก็ได้ช่วยมาตอบที ....

  ยิ้ม  ......
เมื่อวันที่ 7 กันยายน นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า ตนได้ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. เรื่อง ขอให้ตรวจสอบไมโครโฟนที่จะใช้ในการประชุมครม.ว่ามีการทุจริตประพฤติมิชอบในทำเนียบรัฐบาล หรือไม่
เนื่องจากได้ตรวจพบข้อมูลข่าวสารที่อาจเข้าข่ายการทุจริตประพฤติมิชอบในทำเนียบรัฐบาล กรณีการสั่งซื้อจ้างไมโครโฟนที่จะใช้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 กันยายน นี้ ซึ่งเป็นการประชุมครม.นัดแรก ซึ่งกรณีดังกล่าว
มีการชี้แจงจากอธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองไมโครโฟนว่า กรมโยธาฯ  ยังไม่ได้สรุปการจัดซื้อไมโครโฟนในห้องประชุม ครม. ตัวละ 1.4 แสนบาท โดยระบุว่า ทางบริษัทเสนอราคามาเท่านั้น ต้องมาต่อรองราคากันต่อ ซึ่งจากกรณีที่มีการระบุว่า ราคาไมโครโฟนภายในห้องประชุมคณะรัฐมนตรี มีราคาตัวละ 1.45 แสนบาท ภายหลังชาวสังคมออนไลน์ได้ตรวจสอบพบว่า ไมโครโฟนซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับที่ใช้ติดตั้งภายในห้องประชุม ครม. นั้น คือยี่ห้อ Bosch รุ่นDCN multimedia CN เสนอราคาปกติที่ 99,000 บาท สามารถลดราคาได้ 15-20% แบบยังไม่รวมค่าติดตั้ง จึงทำให้เกิดความสงสัยว่า ราคาที่แท้จริงของไมโครโฟนดังกล่าวคือเท่าใดกันแน่นั้นนายเรืองไกร กล่าวว่า จากข่าว สรุปได้ว่า
ไมโครโฟนที่ปรากฏทั้งภาพนิ่งและภาพในคลิปข่าวต่อหน้าสื่อมวลชน  ซึ่งติดตั้งในห้องประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และพร้อมจะนำมาใช้ในการประชุมคณะรัฐมนตรีวันที่ 9 กันยายนนั้น ยังเป็นของเอกชนที่ ยังไม่มีการสั่งซื้อแต่อย่างใด ย่อมแปลว่า ยังไม่มีการตรวจรับ ยังไม่มีการจ่ายเงิน ยังไม่มีการขึ้นทะเบียนพัสดุครุภัณฑ์  แต่ทำไมเอกชนจึงกล้าสั่งซื้อไมโครโฟนมาจากต่างประเทศก่อนที่จะมีการลงนามในสัญญา ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสงสัยเป็นอย่างยิ่งว่า กรณีนี้ต้องมีเงื่อนงำอย่างแน่นอน
จึงขอให้ตรวจสอบไมโครโฟนที่จะใช้ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า
1.ทำไมราคาไมโครโฟนที่รัฐมนตรีบางคนได้เปิดเผยออกมาจึงเป็นราคาที่แพงกว่าราคาขายปลีกในท้องตลาดทั้งที่มีการสั่งซื้อจำนวนที่มากกว่า
2.ผลต่างของราคาที่รัฐต้องจ่ายสูงกว่าความเป็นจริงจะไปเข้ากระเป๋าใคร
3. ทำไมจึงมีการส่งของและติดตั้งได้ก่อนที่จะมีการทำสัญญา
4.ครม.จะกล้าใช้ของที่ยังไม่ขึ้นทะเบียนพัสดุครุภัณฑ์หรือยังไม่เป็นกรรมสิทธิ์ของราชการได้อย่างไร
5.ทำไมจึงยอมให้เข้ามาติดตั้ง ก่อนจะมีการลงนามในสัญญา
6.ทำไมเอกชนกล้าสั่งของมาจากต่างประเทศก่อนโดยยังไม่ได้สัญญาจากรัฐ
7.ทำไมจึงเกิดเรื่องไม่โปร่งใสขึ้นกับทรัพย์สินที่จะนำมาใช้ในห้องประชุมคณะรัฐมนตรี
8.ถ้ายังไม่สั่งซื้อก็เท่ากับยังไม่มีการส่งมอบ ทรัพย์ยังเป็นของเอกชนจะเอามาเป็นอุปกรณ์ในการประชุมคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นความลับจะแน่ใจได้อย่างไรว่าข้อมูลไม่รั่วไหล
9.ทำไมไม่ให้รัฐมนตรีที่รับผิดชอบออกจากตำแหน่งไว้ก่อน จนกว่าผลการตรวจสอบจะปรากฏความจริงออกมา
10.ทำไมต้องให้อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองออกมารับหน้า รัฐมนตรีที่รับผิดชอบมีหรือไม่ ทำไม่ไม่ออกมาชี้แจงเอง
11.สิ่งที่อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมืองพูดออกมาเท่ากับยอมรับแล้วว่า การจัดซื้อโดยวิธีพิเศษไม่โปร่งใสมีเงื่อนงำ ใช่หรือไม่
12.ทำไมไม่นำใบขนสินค้าขาเข้าสำหรับไมโครโฟน Bosch รุ่น DCN multimedia CN จากกรมศุลการกรมาแสดงให้เห็นราคา CIF ต่อหน้าสื่อมวลชน
13.ควรมีการเปรียบเทียบรายละเอียดของสินค้าที่ติดตั้งไว้แล้วในห้องประชุมครม.ว่ามีอุปกรณ์และระบบครบตามที่ปรากฏในใบเสนอราคาหรือไม่ และเป็นไปตามความต้องการของทางราชการหรือไม่
14.ควรเปรียบเทียบรายละเอียดของสินค้าว่า ต้องมีรายการครบถ้วนหรือมากกว่าตามที่แบบในต่างประเทศได้โฆษณาไว้ด้วย เพราะถ้าหากมีการลดราคาอาจมีการลดอุปกรณ์หรือระบบที่รองรับในเครื่องออกไปด้วย ทั้งนี้ เนื่องจากสินค้าดังกล่าว ควรมีโปรแกรมการเชื่อมต่อกับระบบคอมพิเตอร์รวมอยู่ด้วย
15.ในเมื่อไมโครโฟนของจริงนั้นตั้งอยู่ในห้องประชุมครม.เรียบร้อยแล้ว ก็แสดงว่ามีการตรวจรับงานติดตั้งและทดสอบระบบก่อนที่จะทำสัญญา จึงควรตรวจสอบต่อไปว่า ใครเป็นผู้ลงนามรับของจากเอกชน ลงนามในใบส่งของชั่วคราวใช่หรือไม่ และใครเป็นกรรมการในเรื่องนี้บ้าง และ
16.ควรเรียกให้เอกชนส่งมอบเอกสารใบสั่งซื้อ ใบเสนอราคา หรือหลักฐานต่างๆ ที่ติดต่อกับเจ้าของสินค้าในต่างประเทศมาตรวจสอบอีกทางหนึ่งเพื่อจะได้รู้ช่วงเวลาว่า เหตุการณ์ต่างๆ เกี่ยวกับกรณีไมโครโฟนนั้น มีลำดับช่วงเวลากันอย่างไร ถ้าปรากฏว่า มีการสั่งของจากต่างประเทศก่อนที่ทางราชการจะมีสัญญาหรือออกเอกสารใดๆ ให้เป็นคำยืนยันว่าเอกชนรายนี้ได้งานแน่ๆ  อาจมีคำถามต่อไปว่า ทำไมจึงมีเรื่องความไม่สุจริตและโปร่งใสเกิดขึ้นในทำเนียบรัฐบาลได้
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1410077586
ปอลิง....   มันจบแล้วครับนาย  ..  วลีอมตะนิรันดร์กาล
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่