เราทำงานอยู่บริษัทเดิมมา 5 ปีแล้วค่ะ เิงินเดือนแรกๆรวมเซอชาร์ตก็ประมาณ 8000- 9500 บาท อยู่ไปอยู่มาผลงานเราเข้าตา หัวงานฝ่ายก็เลยมอบหมายหน้าที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งเราก็ยินดี แล้วก็ดีใจมากที่เขาเห็นว่าเราทำงานได้ เราก็ทำแบบเต็มที่เลย ถึงแม้ว่าการมอบหมายครั้งนี้ตำแหน่งเราก็ยังคงเดิม ด้วยความที่เราเข้ามาตอนอายุ 30 ปี บริษัทก็ดูมั่นคง เราคงจะไม่ย้ายไปทำงานที่ไหนแล้ว คงจะอยู่ที่นี่ไปเรื่อยๆ เพราะถึงแม้เข้ามาเงินเดือนจะน้อย แต่เขาก็ปรับให้ทุกปี และทำงานช่วง 2 ปีแรกรับเงินเดือน รวมเซอชาร์ตจริงๆก็เกือบ 12000-13000 ช่วงนี้เราพออยู่ได้ค่ะ เลยตัดสินใจซื้อรถมือสองมาขับไปทำงาน เพราะเราย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน เลยเอาเงินเช่าหอมาผ่อนรถจะดีกว่า และปลอดภัยกว่าการขี่มอเตอร์ไซค์ค่ะ
ช่วงหลังประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา หัวหน้างานตัดสินใจที่จะไม่ขึ้นเงินเดือนให้พนักงานในแผนกของเรา โดยให้เหตุผลว่าผลงานของแผนกไม่เข้าตา (ซึ่งตรงนี้เราก็งงนะคะว่า ไม่เข้าตายังไง เวลาประเมินผลงานแผนกเราก็ทำได้ระดับดีมากเลยค่ะ) และบริษัทยังอยู่ในระหว่างปรับเปลี่ยนรูปแบบเลยต้องชะลอไว้ก่อน เราก็ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยินดีทำงานต่อไป มาถึงจุดนี้เราก็ได้รับการมอบหมายหน้าที่เพิ่มขึ้น(อีกแล้ว) แต่ตำแหน่งงานเราก็ยังเท่าเดิม ถึงแม้ตอนนี้เงินเดือนเราจะเพิ่มขึ้นแต่กลายเป็นว่ารายได้เราลดลงค่ะ เพราะไม่มีการให้ค่าเซอชาร์ตเหมือนเมื่อก่อน รับเดือนนึงประมาณ 11000 มาปีกว่าๆแล้ว เพื่อนๆในแผนกก็ทยอยออกไปทีละคน ทีละคน และตอนนี้รายได้ของเราก็ลดลงจนถึงจุดที่ว่า เราอยู่ได้แบบเดือนชนเดือน แทบไม่มีเงินเก็บ ยิ่งเราได้อ่านกระทู้ว่า ถ้าเป็นคนโสด มีเงินเก็บ 2 ล้าน หลังเกษียณอายุงานจะพอใช้ไหม เราก็ยิ่งเครียดค่ะ
จนมีรุ่นน้องคนนึงที่ลางานออกไปเพราะได้งานที่บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างมั่นคง ติดต่อเรามาค่ะ เพราะน้องเขาบอกว่า เห็นเราทำงานที่บริษัทนี้ดีและควรจะก้าวหน้าได้แล้ว เลยอยากให้ออกมาทำงานกับเขา และแนะนำว่าให้ส่งเรซูเม่ไป เดี๋ยวน้องจะไปคุยกับหัวหน้าให้ เรายังไม่ได้ส่งเรซูเม่ไป ปรากฎว่าแค่ฟังเรื่องการทำงานจากรุ่นน้องเรา เขาก็อยากให้เรามาทำงานด้วยแล้วค่ะ อยากให้เราเข้าไปคุย และฝากน้องบอกมาว่าตำแหน่งที่เราจะเข้าไปทำนั้นเขาพร้อมที่จะให้เงินเดือนเราที่สองหมื่นบาท เกือบหนึ่งเท่าที่จะได้รับจากที่ปัจจุบัน แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องลงไปทำงานที่กรุงเทพค่ะ เราตอนนี้เราคิดไม่ตกค่ะ ปรึกษากับเพื่อนๆที่ทำงาน มีแต่คนบอกว่าไปเถอะ บริษัทนี้เข้ายาก และมีโอกาสเติบโตสูง เราก็ติดอยู่ที่ว่า ไม่อยากไกลบ้าน จนมีข่าวออกไปว่าเราจะย้ายงาน หัวหน้าแผนกก็เรียกเราไปคุยค่ะ เราเลยเล่าให้ฟัง และก็บอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจอะไร หัวหน้าก็เลยบอกว่าตอนนี้เขาห้ามเราไม่ได้ ถ้าเราอยากจะไป แต่ถ้าเรายังอยู่กับเขา เขาจะปรับเงินเดือนให้ แต่ก็คงไม่มากแบบที่อีกบริษัทให้ คงอยู่ที่ไม่เกินหมื่นสาม เพราะเขาทำได้แค่นั้นจริงๆ โดยการปรับเงินเดือนต้องรอประมาณต้นปีหน้าค่ะ
ตอนนี้เรายังคิดไม่ตกค่ะ ว่าจะเอายังไงดี ยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่เครียดที่สึดในชีวิต เครียดยิ่งกว่าจะมีผัวอีกค่ะ จะยอมใช้ชีวิตที่บ้านเกิดในตำแหน่งเดิมๆด้วยเงินเดือนไม่เกินหมื่นสาม หรือจะยอมไปเริ่มต้นใหม่ในวัย 35 ที่เมืองหลวงด้วยเงิน 20000 ถามเพื่อนที่กทม. เขาก็บอกว่า 20000 อยู่กทม.ไม่พอยาไส้หรอกแต่ถามเพื่อนที่ตจว. ก็บอกว่า เพื่ออนาคตไปเหอะ เพื่อความก้าวหน้า
เพื่อนๆพอจะช่วยแนะนำได้ไหมคะ ว่าการใช้ชีวิตที่ กทม ด้วยเงิน 20000บ/เดือน จะเหมาะสมไหม
- เรามีภาระเป็นค่ารถอยู่ที่ 4000/เดือนค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ
ตอนนี้มีคนมาเสนองานให้ ควรเปลี่ยนงานดีไหมคะ ?
ช่วงหลังประมาณ 1 ปีครึ่งที่ผ่านมา หัวหน้างานตัดสินใจที่จะไม่ขึ้นเงินเดือนให้พนักงานในแผนกของเรา โดยให้เหตุผลว่าผลงานของแผนกไม่เข้าตา (ซึ่งตรงนี้เราก็งงนะคะว่า ไม่เข้าตายังไง เวลาประเมินผลงานแผนกเราก็ทำได้ระดับดีมากเลยค่ะ) และบริษัทยังอยู่ในระหว่างปรับเปลี่ยนรูปแบบเลยต้องชะลอไว้ก่อน เราก็ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจแต่ก็ยินดีทำงานต่อไป มาถึงจุดนี้เราก็ได้รับการมอบหมายหน้าที่เพิ่มขึ้น(อีกแล้ว) แต่ตำแหน่งงานเราก็ยังเท่าเดิม ถึงแม้ตอนนี้เงินเดือนเราจะเพิ่มขึ้นแต่กลายเป็นว่ารายได้เราลดลงค่ะ เพราะไม่มีการให้ค่าเซอชาร์ตเหมือนเมื่อก่อน รับเดือนนึงประมาณ 11000 มาปีกว่าๆแล้ว เพื่อนๆในแผนกก็ทยอยออกไปทีละคน ทีละคน และตอนนี้รายได้ของเราก็ลดลงจนถึงจุดที่ว่า เราอยู่ได้แบบเดือนชนเดือน แทบไม่มีเงินเก็บ ยิ่งเราได้อ่านกระทู้ว่า ถ้าเป็นคนโสด มีเงินเก็บ 2 ล้าน หลังเกษียณอายุงานจะพอใช้ไหม เราก็ยิ่งเครียดค่ะ
จนมีรุ่นน้องคนนึงที่ลางานออกไปเพราะได้งานที่บริษัทต่างชาติแห่งหนึ่ง ซึ่งค่อนข้างมั่นคง ติดต่อเรามาค่ะ เพราะน้องเขาบอกว่า เห็นเราทำงานที่บริษัทนี้ดีและควรจะก้าวหน้าได้แล้ว เลยอยากให้ออกมาทำงานกับเขา และแนะนำว่าให้ส่งเรซูเม่ไป เดี๋ยวน้องจะไปคุยกับหัวหน้าให้ เรายังไม่ได้ส่งเรซูเม่ไป ปรากฎว่าแค่ฟังเรื่องการทำงานจากรุ่นน้องเรา เขาก็อยากให้เรามาทำงานด้วยแล้วค่ะ อยากให้เราเข้าไปคุย และฝากน้องบอกมาว่าตำแหน่งที่เราจะเข้าไปทำนั้นเขาพร้อมที่จะให้เงินเดือนเราที่สองหมื่นบาท เกือบหนึ่งเท่าที่จะได้รับจากที่ปัจจุบัน แต่มีข้อแม้ว่า เราต้องลงไปทำงานที่กรุงเทพค่ะ เราตอนนี้เราคิดไม่ตกค่ะ ปรึกษากับเพื่อนๆที่ทำงาน มีแต่คนบอกว่าไปเถอะ บริษัทนี้เข้ายาก และมีโอกาสเติบโตสูง เราก็ติดอยู่ที่ว่า ไม่อยากไกลบ้าน จนมีข่าวออกไปว่าเราจะย้ายงาน หัวหน้าแผนกก็เรียกเราไปคุยค่ะ เราเลยเล่าให้ฟัง และก็บอกว่ายังไม่ได้ตัดสินใจอะไร หัวหน้าก็เลยบอกว่าตอนนี้เขาห้ามเราไม่ได้ ถ้าเราอยากจะไป แต่ถ้าเรายังอยู่กับเขา เขาจะปรับเงินเดือนให้ แต่ก็คงไม่มากแบบที่อีกบริษัทให้ คงอยู่ที่ไม่เกินหมื่นสาม เพราะเขาทำได้แค่นั้นจริงๆ โดยการปรับเงินเดือนต้องรอประมาณต้นปีหน้าค่ะ
ตอนนี้เรายังคิดไม่ตกค่ะ ว่าจะเอายังไงดี ยอมรับว่าเป็นการตัดสินใจที่เครียดที่สึดในชีวิต เครียดยิ่งกว่าจะมีผัวอีกค่ะ จะยอมใช้ชีวิตที่บ้านเกิดในตำแหน่งเดิมๆด้วยเงินเดือนไม่เกินหมื่นสาม หรือจะยอมไปเริ่มต้นใหม่ในวัย 35 ที่เมืองหลวงด้วยเงิน 20000 ถามเพื่อนที่กทม. เขาก็บอกว่า 20000 อยู่กทม.ไม่พอยาไส้หรอกแต่ถามเพื่อนที่ตจว. ก็บอกว่า เพื่ออนาคตไปเหอะ เพื่อความก้าวหน้า
เพื่อนๆพอจะช่วยแนะนำได้ไหมคะ ว่าการใช้ชีวิตที่ กทม ด้วยเงิน 20000บ/เดือน จะเหมาะสมไหม
- เรามีภาระเป็นค่ารถอยู่ที่ 4000/เดือนค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้านะคะ