กลิ่นแก้วกลรัก ตอนที่ 6

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1 >>>http://ppantip.com/topic/32164131
ตอนที่ 2 >>>http://ppantip.com/topic/32175186
ตอนที่ 3 >>>http://ppantip.com/topic/32226678
ตอนที่ 4 >>>http://ppantip.com/topic/32316165
ตอนที่ 4 (ต่อ) >>>http://ppantip.com/topic/32346960
ตอนที่ 5 >>>http://ppantip.com/topic/32492911



                                                                                        ตอนที่ 6

“พวกเราทำงานแบบไม่มีวันหยุดเพราะนักท่องเที่ยวมาใช้บริการทุกวัน โดยเฉพาะช่วงเทศกาลแล้วนั้นพนักงานโรงแรมต้องทำงานหนักมากกว่าเดิมถึงสองเท่า” ลลิตนึกถึงคำพูดของอินทรเมื่อเช้า เธอค่อนข้างโชคดีที่อินทรให้เธอมีวันหยุดได้ถึงสองวันต่ออาทิตย์ อาจเป็นเพราะเธอเป็นแค่พนักงานทดลองงานซึ่งยังไม่มีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบอะไรมากนัก ลลิตนึกชื่นชมอินทรอยู่ไม่น้อย ถึงแม้เขาจะเป็นคนเจ้าชู้แต่เรื่องงานดูท่าว่าเขาจะเก่งกาจไม่แพ้พ่อของเธอเลยทีเดียว

หลังเลิกงานลลิตต้องกลับบ้านมาคนเดียวเพราะอินทรมีสังสรรค์ต่อกับพวกพ้อง ที่บ้านเปรมพัฒน์เธอเห็นทุกคนยกเว้นสิตาไปรวมตัวกันอยู่ที่เรือนหลังเล็กของป้าอร ไม่เว้นแม้กระทั่งมุกมาตาซึ่งนั่งอยู่บนรถเข็นท่าทางดูมีความสุข

“สังสรรค์อะไรกันเหรอคะ ดูน่าสนุกจัง” ลลิตเดินเข้าไปทักทายโดยมีชัชเดินตามมาสมทบหลังจากนำรถที่ไปรับลลิตเข้าไปเก็บที่โรงรถเรียบร้อยแล้ว

“พรุ่งนี้เป็นวันคล้ายวันเกิดคุณหนู เอ้อ คุณเพชรน่ะค่ะ พวกเราก็เลยเตรียมทำขนมไว้ให้เธอใส่บาตรค่ะ” ป้าอรตอบในขณะที่มือกำลังปั้นขนมเม็ดขนุนท่าทางมีความสุข เหล่าลูกมือทั้งบัว ศรี และมุกมาตาก็ช่วยกันทำอย่างสนุกสนาน ไม่สิ มุกมาตาคงสนุกสนานในช่วงแรกแต่พอเธอเดินเข้ามาก็เห็นเด็กสาวทำหน้ายับย่นเสียแล้ว

“มาทำด้วยกันซีคะ สนุกแถมอร่อยด้วยค่ะ” ศรีเอ่ยชวนแย้มยิ้ม

“เอ่อ แต่ลิตทำไม่เป็นนะคะ” ลลิตยิ้มฝืด จะให้บอกได้อย่างไรว่าเธอไม่เคยทานขนมไทยพวกนี้ ตอนอยู่เมืองนอกก็กินแต่ขนมฝรั่งจนติดเป็นนิสัย อยากจะกินอะไรก็แค่ชี้นิ้วสั่งเดี๋ยวพนักงานก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ ยิ่งถ้าให้ทำเองด้วยแล้วยิ่งไปกันใหญ่

“แหม ไม่เป็นก็ต้องลองซีคะ ไม่ยากหรอกค่ะ” ศรีคะยั้นคะยอจนลลิตยอมตกลง หญิงสาวขอตัวเอาของไปเก็บ มุกมาตามองตามร่างบางระหงที่เดินหายเข้าบ้านไปแล้วสะกิดบัว เด็กสาวบอกเป็นภาษามือว่าเธอไม่ต้องการทำขนมต่ออีกแล้ว และเธอต้องการไปจากตรงนั้นโดยเร็วที่สุด

ลลิตกลับมาพร้อมชุดลำลองแบบธรรมดา เธอแอบเดาว่าหลังจากที่เธอกลับมามุกมาตาต้องไม่อยู่ตรงนั้นและเธอก็เดาถูกเสียด้วย

ความมืดเริ่มแผ่เข้ามาปกคลุม ยามเมื่อลมพัดมาครั้งหนึ่งก็จะหอบเอากลิ่นหอมอวลของดอกแก้วมาให้ชื่นใจเป็นระยะ เสียงนกกาบินกลับรังร้องแข่งกันให้ขรม ป้าอรร้องสั่งชัชให้ไปเปิดไฟทั้งในตัวบ้านและที่นอกชานที่ยังคงนั่งทำขนมกันอยู่ ลลิตเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าการทำขนมไทยพวกนี้ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด และรสชาติของมันก็อร่อยกว่าที่คิดเช่นกัน

“คุณลิตไปทานข้าวเถอะค่ะ ค่ำมืดแล้วคงจะหิวแย่” ป้าอรบอกหลังจากการทำขนมเสร็จสิ้นเหลือเพียงขั้นตอนการกวาดเก็บอุปกรณ์เท่านั้น

“ถ้าอย่างนั้นก็ขอตัวเลยแล้วกันนะคะ อ้อ พรุ่งนี้จะไปใส่บาตรกันที่ไหนเหรอคะ เกาะส่วนตัวแบบนี้คงไม่มีพระมาบิณฑบาตถึงนี่หรอกใช่ไหมคะ” ลลิตไม่ลืมที่จะถามเพราะตั้งแต่กลับมาเมืองไทยเธอก็ไม่เคยได้ใส่บาตรเลย ครั้งนี้คงเป็นโอกาสดีที่จะได้ร่วมทำบุญบ้าง

“พรุ่งนี้เจ้าชัชจะไปนิมนต์พระมาบิณฑบาตถึงที่บ้านนี่แหละค่ะ ถ้าคุณลลิตสนใจป้าจะได้เตรียมของไว้เผื่อถวายพระ” ป้าอรบอกนัยน์ตาแย้มยิ้มมีความสุข

“สนใจซีคะ วันนี้ลิตจะเข้านอนแต่วันเลย พรุ่งนี้จะได้ตื่นทัน” ลลิตบอกยิ้ม ๆ แล้วขอตัวกลับ เสียงหริ่งหรีดเรไรร้องระเบ็งเซ็งแซ่อยู่ตามพุ่มไม้ กลิ่นดอกแก้วยังคงกรุ่นทุกครั้งที่ลมพัดผ่าน ร่างบางเปลี่ยนทิศทางจากคฤหาสน์หลังใหญ่มุ่งหน้าสู่ดงดอกแก้วอันเป็นสวนสวรรค์ในความรู้สึกของหล่อน

“สวยเหลือเกิน ยิ่งดึกยิ่งสวย” ลลิตพึมพำกับตัวเองเบา ๆ แล้วหมุนตัวไปรอบ ๆ ราวกับจะชื่นชมดอกแก้วให้ครบทุกต้น ฉับพลันภาพชายหนุ่มที่เคยสั่งห้ามเธอไม่ให้เข้ามาในดงดอกแก้วแห่งนี้ก็ปรากฎอยู่ตรงหน้า หล่อนนึกว่าตัวเองฝันไปแต่พอตั้งสติได้ก็เป็นเขาจริง ๆ

“ผมจำได้ว่าเคยบอกคุณแล้วว่าอย่ามาที่นี่” เพชรจ้องหน้าหญิงสาวคนที่เพิ่งเปลี่ยนใบหน้าจากคนมีความสุขมาเป็นหญิงสาวผู้มีใบหน้าบึ้งตึงแทน

“ฉันก็ไม่ได้มาเด็ดดอกแก้วของคุณซะหน่อย แค่มาดมกลิ่น มาชื่นชม มาแค่นี้ไม่ได้หรือไงคะ” ลลิตทำหน้ายียวน มนุษย์หุ่นยนต์ไร้จิตใจอย่างเขาต้องเจอคนกวนประสาทอย่างหล่อนนี่แหละถึงจะสมน้ำสมเนื้อ ลลิตคิดในใจแล้วยิ้มที่มุมปาก ต่างคนต่างจ้องหน้ากัน ดูเหมือนมนุษย์หุ่นยนต์ก็เริ่มมีอารมณ์เข้าให้แล้ว

“คุณนี่มัน……..…แย่ที่สุด” เพชรสบถอย่างหัวเสียแล้วหันหลังกลับ ลลิตยิ้ม รู้สึกเหมือนตัวเองชนะการเล่นเกมส์ต่อสู้อะไรสักอย่างหนึ่ง แต่มันยังไม่พอแค่นี้หรอก ผู้ชายอัธยาศัยแย่อย่างเขาต้องเจออะไรที่มากกว่านี้

“ทำไมคะพ่อลูกแหง่ น้อยใจที่พ่อไม่รักเลยต้องมาระบายใส่คนอื่นอย่างนั้นสิ” เพียงแค่เธอพูดจบร่างสูงก็หยุดกึก ถ้าเพียงลลิตจะสังเกตสักนิดคงได้เห็นมือหนาที่กำเข้าหากันแน่นจนเห็นเส้นเอ็นปูดโปน เพชรหันหลังกลับ มันรวดเร็วจนลลิตเองก็ตั้งตัวไม่ทันเพราะแค่เพียงไม่กี่เสี้ยววินาทีเขาก็เข้ามากระชากร่างหล่อนเข้าไปอยู่ในวงแขนล่ำใหญ่เสียแล้ว

“โอ๊ย เจ็บนะ ปล่อยฉันนะไอ้หุ่นยนต์บ้า” ลลิตร้องเสียงหลง ใช้แขนสองข้างยันหน้าอกกำยำของเขาไว้ หล่อนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมนุษย์จิ๋วไปทันทีเมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนของบุรุษร่างสูงผู้นี้ เพชรมองคนที่กำลังดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนแล้วหัวเราะหึหึ ใบหน้าหล่อนซีดจัด เหงื่อพราวเต็มหน้า แม่คนปากดีคงจะกลัวเขาแย่แล้วล่ะสิ

“ปล่อยฉันเถอะนะ พรุ่งนี้ก็วันเกิดคุณแล้วนี่อย่าทำบาปเลย นะ นะ” นัยน์ตากลมโตกะพริบถี่ยามจ้องตาเขาเป็นเชิงอ้อนวอน เพชรเพิ่งได้สังเกตชัด ๆ ว่าแพขนตาของหล่อนช่างงอนสวย ยามเมื่อหล่อนกะพริบตาถี่ ๆ ดูราวกับตุ๊กตาบาร์บี้ แก้มเนียนใสของหล่อนที่สีซีดจัดเมื่อครู่ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงสุกปลั่ง เขาไม่รู้ตัวว่าได้คลายอ้อมแขนให้หล่อนตั้งแต่ตอนไหน รู้แต่ว่าตอนนี้เห็นเพียงแค่หลังไว ๆ ของหล่อนวิ่งหายลับไปทางประตูหลังบ้านเสียแล้ว

ชายหนุ่มเผลออมยิ้ม เสียงลมหวีดหวิวพัดต้นมะพร้าวนอกกำแพงโอนเอียงไปมา นานครั้งจะได้ยินเสียงลูกมะพร้าวหล่นตุ๊บลงกระทบพื้นสักครั้งหนึ่ง เพชรแหงนมองท้องฟ้า เขาไม่หวังว่าจะได้เห็นพระจันทร์ดวงกลมสวยเนื่องจากเป็นหน้าฝนซึ่งท้องฟ้าได้ถูกบดบังไปด้วยหมู่เมฆดำทะมึนเรียบร้อยแล้ว สมัยเด็กเขาเคยคิดอยากให้หน้าฝนทางภาคใต้มีช่วงระยะเวลาสั้นเหมือนภาคอื่น แต่มันก็เป็นความฝันลม ๆ แล้ง ๆ ของเด็กคนหนึ่ง ในเมื่อทั้งชีวิตเขาก็เห็นฝนตกสลับกับแดดออกอยู่อย่างนี้ทั้งปีและทุกปี


เช้านี้ทุกคนในบ้านเปรมพัฒน์พร้อมหน้าพร้อมตากันอยุ่ในห้องโถงซึ่งถูกจัดให้เป็นที่รับรองพระสงฆ์  ป้าอร ศรี และบัวสวมเสื้อลูกไม้กับนุ่งผ้าปาเต๊ะสีสันสดใสคอยช่วยกันจัดอาหารคาวหวานมาถวายพระโดยมีชัชคอยเป็นลูกมืออีกแรง  มุกมาตาสวมเดรสแขนตุ๊กตาสีขาว ใบหน้าเด็กหญิงยิ้มแย้ม มือสองข้างเกาะแขนพี่ชายไว้ไม่ยอมปล่อย

ลลิตลุกไปหาป้าอรเมื่อรู้สึกว่าเธอถูกทอดทิ้งให้นั่งอยู่เพียงลำพังโดยมี เขา คนที่เธอพยายามหลบตามาตั้งแต่เช้านั่งอยู่ใกล้ ๆ ส่วนอินทรกับสิตาก็นั่งอยู่ด้านหน้าสุด ดูเหมือนพระท่านกำลังสนทนากับอินทร อย่างถูกคอ เพชรเหลือบมองหญิงสาวที่อยู่ในชุดเสื้อลูกไม้สีขาวแขนยาวกับผ้าปาเต๊ะสีฟ้าสดใส คงจะเป็นป้าอรที่จัดการชุดนี้ให้กับหล่อน ดู ๆ ไปหล่อนก็สวยคมเหมือนสาวใต้อยู่เหมือนกัน

“เชิญทานอาหารกันตามสบายเลยค่ะ” ป้าอรบอกหลังจากงานเช้าผ่านพ้นไปและงานสังสรรค์เล็ก ๆ ถูกจัดขึ้นที่ชานเรือนหลังเล็กของป้าอรในช่วงเย็น ป้าอรนำอาหารหลายอย่างมาจัดวางไว้กลางชานบ้าน ทุกคนนั่งล้อมวงสรวลเสเฮฮาอยู่ในวงอาหารรวมทั้งชาญซึ่งมาร่วมสนุกกับเจ้านายด้วย

มุกมาตาถือเค้กไว้ในมือสีหน้ามีความสุข ลลิตสังเกตเห็นเด็กสาวยิ้มแย้มราวกับนี่เป็นวันเกิดของตัวเอง หล่อนคงจะรักพี่ชายคนนี้มากไม่ต่างกับที่เพชรรักหล่อนมากเช่นเดียวกัน

“แล้วคุณอา เอ่อ ลิตหมายถึงคุณอินทรน่ะค่ะ ไม่ได้มาด้วยเหรอคะ” ลลิตกระซิบถามศรีซึ่งนั่งอยู่ใกล้กัน

“แค่เมื่อเช้าที่คุณท่านตื่นมาทำบุญใส่บาตรด้วยนี่ก็ประหลาดมากแล้วค่ะ ปกติพ่อลูกคู่นี้แม้แต่มองหน้ากันยังไม่ค่อยจะทำเล้ย” ศรีกระซิบตอบ พอพูดจบก็หันไปตักอาหารเข้าปากแล้วกลับมาเล่าต่อ

“หลายปีมานี้คุณท่านกับคุณเพชรแทบจะไม่คุยกันเลยด้วยซ้ำ คุณมุกก็เป็นไปด้วยอีกคน เคยสังเกตไหมล่ะคะ”

“แปลกนะคะ คนเราจะเกลียดอะไรกับพ่อตัวเองขนาดนั้น” ลลิตออกความเห็น เนื่องจากต่างคนต่างกำลังคุยกันเสียงดังจึงไม่มีใครหันมาสนใจบทสนทนาระหว่างหล่อนกับศรี

“ว่ากันว่าคุณผู้หญิงบ้านนี้ หมายถึงแม่ของคุณเพชรน่ะค่ะ เธอเสียเพราะว่า…….…” ศรีหุบปากได้ทันควันเมื่อป้าอรทำท่าจะยัดขนมเข้าปากเหมือนทุกครั้งที่ศรีเริ่มพูดมาก ลลิตได้แต่นึกเสียดายอยู่ในใจ หล่อนกำลังจะได้รู้อยู่แล้วเชียวว่าเพราะอะไรพ่อลูกถึงได้โกรธเคืองกันถึงขนาดนี้ แต่เอาเถอะ หล่อนยังต้องอยู่ที่นี่อีกนาน มันต้องมีสักวันหนึ่งเถอะน่าที่หล่อนจะได้รู้

“นายหัวไม่เห็นจะพูดอะไรเลยล่ะครับแหม่ วันเกิดทั้งที เป่าเค้กซีครับ เป่าเค้ก” ชาญเริ่มเสียงดังเมื่อมีแอลกอฮอลส์เข้าปาก ไม่มีใครดื่มร่วมกับเขานอกจากเพชรและชัช เพชรยิ้ม รับเค้กในมือน้องสาวมาถือไว้แล้วอธิษฐาน

“ขอให้น้องสาวของพี่เป็นน้องสาวที่น่ารักตลอดไป และขอให้แม่” เขาหยุดนิดหนึ่งเมื่อพูดถึงตรงนี้

“ขอให้แม่ของพวกเราสองพี่น้องหลับสบาย” พูดจบชายหนุ่มก็เป่าเค้ก เขายกมือขึ้นลูบหัวน้องสาว ลลิตเผลอยิ้มออกมาไม่รู้ตัว ไม่บ่อยครั้งนักหรอกที่หล่อนจะได้เห็นพี่น้องรักกันแบบนี้

นึกถึงลลิล ป่านนี้หล่อนคงกำลังเคร่งเครียดกับงาน อันที่จริงตั้งแต่จำความได้เธอกับลลิลก็แทบไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน ยิ่งโตขึ้นมาก็ยิ่งห่างเหินกันไปจนแทบไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงกันด้วยซ้ำ ลลิตมองภาพตรงหน้าแล้วพาลให้นึกถึงบ้าน ป่านนี้แม่คงกำลังคิดถึงเธอเหมือนกันซีนะ แล้วพ่อล่ะ จะคิดถึงเธอบ้างไหม
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่