กลิ่นแก้วกลรัก ตอนที่ 2

กระทู้สนทนา
ตอนที่ 1 >>>http://ppantip.com/topic/32164131


                                                                                        ตอนที่ 2


    “วันนี้น้องสาวพี่แต่งตัวสวยเชียว” เพชรบอกแล้วเดินไปคว้ารถเข็นพามุกมาตามาหยุดอยู่ใกล้กับม้าหินอ่อนที่เขานั่งอยู่ก่อนแล้ว ชัชแอบสังเกตุว่าวันนี้มุกมาตาหน้าตาสดใสกว่าทุกวัน คงเป็นเพราะวันนี้มีพี่ชายอยู่ใกล้ ๆ เธอเลยดูมีความสุขเป็นพิเศษ

    “วันนี้มีเรียนวิชาอะไรบ้างจ๊ะ ไหนบอกพี่ซิ” เพชรถามด้วยภาษามือ ขณะที่ป้าอรกำลังจัดแจงชามข้าวต้มและนมสดให้มุกมาตา เด็กสาวส่ายหน้าตอบกลับมาด้วยภาษามือว่าเธออยากวาดรูปมากกว่า แล้วใบหน้าเรียวเล็กก็ระบายยิ้มให้พี่ชายเป็นเชิงอ้อนวอน

     เพชรยกมือขึ้นขยี้ผมน้องสาวเบา ๆ ไม่ว่าจะกี่ปีเขาก็ไม่เคยใจแข็งกับนัยน์ตาดำขลับของเจ้าหล่อนได้สักที

    “แค่วันนี้วันเดียวเท่านั้นนะ คราวหน้าถ้าดื้ออีกพี่ไม่ยอมนะคะ” เพชรทำหน้าตาจริงจังแต่น้ำเสียงกับแววตายังเจือด้วยความรักความห่วงใยเต็มเปี่ยม มุกมาตารีบพยักหน้ารับคำ ทั้งป้าอร ศรี บัว และชัช ต่างก็มองภาพตรงหน้าอย่างอิ่มเอมใจ



    ณ บริษัทชาญเมธีกุล ลลิลและพนักงานหลายคนต่างกำลังวุ่นวายกับการเตรียมงานเปิดตัวเครื่องดื่มตัวใหม่ล่าสุด ครั้งนี้ลลิลต้องทุ่มเทมากเป็นพิเศษเพราะเป็นงานชิ้นแรกที่บิดายอมให้เธอแสดงฝีมือเองเกือบทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะคิดค้นปรับปรุงสูตรเครื่องดื่มจนได้รสชาติที่ถูกใจ หรือจนกระทั่งออกแบบแพคเกจและออกแบบการโฆษณาสินค้า เธอจึงต้องคอยควบคุมการเตรียมการทุกอย่างเพื่อให้งานเปิดตัววันพรุ่งนี้ไม่ผิดพลาด หรือถ้าจะผิดพลาดไม่ตรงดั่งใจบ้างก็ขอให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด


ที่บ้านชาญเมธีกุล ลลิตกำลังนอนฟังเสียงน้ำตกกระทบโขดหินอย่างสบายใจ ใกล้กันนั้นเป็นมวลหมู่กล้วยไม้นานาพันธุ์ที่พ่อพยายามกว้านซื้อมาจากหลายที่เพื่อมารวมไว้ที่นี่ ใครจะรู้ว่าบ้านใจกลางเมืองใหญ่จะแอบมีน้ำตกเล็ก ๆ แถมด้วยป่ากล้วยไม้ให้ชื่นชมอย่างนี้เล่า หญิงสาวนอนหลับตาพริ้มอยู่บนเก้าอี้หวายอย่างสบายใจ หากไม่มีเสียงเรียกที่คุ้นหูดังอยู่ใกล้ ๆ หล่อนคงจะเผลอหลับไปแล้ว

“มีอะไรคะคุณแม่ เรียกเสียงดังขนาดนี้สงสัยบ้านข้าง ๆ คงตกใจตื่นกันหมดแล้วมั๊งคะ” ลลิตว่าพลางยันตัวลุกขึ้นนั่ง ใบหน้าแลดูงัวเงียเต็มที่

“ดังน้อยไปซี ตะวันสายโด่งขนาดนี้ยังจะนอนอะไรกันอีก รู้ไหมยัยลิลเค้าตื่นไปทำงานแต่เช้ามืดได้ใจพ่อเราไปตั้งเท่าไหร่แล้วฮึ” คุณลดาพูดเสียงจริงจัง มองหน้าลูกสาวที่ไร้ซึ่งเครื่องสำอางค์ใด ๆ ฉาบบนผิวหน้าอย่างร้อนรนใจ

“ช่างเค้าซีคะ ถึงยัยลิลอยู่เฉย ๆ เค้าก็ได้ใจอยู่แล้วล่ะค่ะ” ลลิตพูดเสียงเรียบ เตรียมตัวจะเอนหลังต่อหากแต่คุณลดาดึงมือไว้ เจ้าหล่อนจึงยอมลุกขึ้นมานั่งหลังตรงแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก

“ลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวซะ พรุ่งนี้จะมีงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของบริษัท ลูกของแม่ต้องสวยที่สุดเข้าใจไหม” คุณลดาบอก มือก็พยายามดึงร่างแบบบางให้ลุกขึ้น ลลิตลอบถอนใจ อยากถามมารดากลับไปเหลือเกินว่าบิดากับลลิลต้องการให้เธอไปร่วมงานด้วยไหม

“แล้วเราจะไปไหนกันหรือคะ” ลลิตถามอย่างขอไปที ไม่ได้สนใจกับคำตอบมากนัก ผิดกับคุณลดาที่แย้มยิ้มนัยน์ตาเป็นประกาย

ไม่นานคุณลดากับลลิตก็อยู่ในชุดสวยพร้อมออกจากบ้าน อรรณพที่วันนี้ออกไปทำงานสายหน่อยเหลือบมองภรรยากับลูกสาว ก่อนจะเอ่ยออกมาอย่างเสียไม่ได้

“จะพาลูกไปเที่ยวที่ไหนอีกล่ะคุณ เที่ยวกันทุกวันนี่ยังไม่ทั่วประเทศอีกหรือ” พูดไปแต่ตายังคงจ้องอยู่ที่หน้าหนังสือพิมพ์

“คุณก็เกินไป ลูกไปเรียนเมืองนอกเสียนานก็ต้องพาไปเปิดหูเปิดตารู้จักการเปลี่ยนแปลงของบ้านเกิดเมืองนอนบ้างซีคะ” คุณลดาว่าอย่างไม่ค่อยพอใจ ลลิตเหลือบมองหน้าพ่อ หากเขาละสายตาจากหนังสือพิมพ์บ้าบอนั่นมามองหล่อนสักนิด หล่อนอาจจะอยู่ติดบ้านสักวันก็ได้ แต่เปล่าเลย เขาก็ยังเป็นเขา คนที่ไม่เคยสนใจสิ่งใดนอกจากข่าวธุรกิจและกล้วยไม้  

“เราก็เหมือนกันนะลิต เรียนจบมาเป็นเดือนแล้วเมื่อไหร่จะเริ่มทำงานเสียที ดูอย่างลลิลซิ พ่อแทบไม่ต้องเข้าไปดูแลบริษัทยังได้เลย ลลิลเขาจัดการได้หมด” สีหน้าอรรณพบ่งบอกความภูมิใจเต็มเปี่ยม

“ลิตขอเวลาพักผ่อนอีกสักเดือนนะคะคุณพ่อ ตอนนี้ลิตยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี” ลลิตตอบ รู้สึกปวดใจลึก ๆ ที่พ่อเอาเธอไปเปรียบกับลลิล

“จะต้องทำงานอะไรกันล่ะลูก ลำพังเงินทองทรัพย์สมบัติเราก็มีตั้งมากมาย ใช้ทั้งชาติยังไม่รู้จะหมดหรือเปล่าเลย” คุณลดายิ้มลอยหน้าอย่างภูมิใจ

“คุณก็ชอบสอนลูกแบบนี้แหละ ลูกถึงไม่ยอมทำงานเป็นชิ้นเป็นอันสักที” คราวนี้อรรณพยอมละสายตาจากหน้าหนังสือพิมพ์มามองภรรยา คุณลดาเห็นอีกฝ่ายเริ่มหงุดหงิดก็คร้านจะโต้เถียงเลยรีบพาลลิตเดินออกไป คงมีแต่เพียงสายตาของชายวัยใกล้เกษียรณที่มองตามร่างบางของลูกสาวไปอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก


เสียงเพลงร่วมสมัยที่ดังประสานกับเสียงร้องคลอของคนจำนวนหนึ่ง ทำให้เรือนไม้หลังเล็กดูมีชีวิตชีวาขึ้นถนัดตา แม้เจ้าของคฤหาสน์หลังใหญ่จะจัดห้องส่วนตัวไว้สำหรับแม่นมของบ้านกับสาวใช้อย่างพอเพียงแต่ป้าอรก็พอใจที่จะอาศัยอยู่บนเรือนไม้เล็ก ๆ หลังนี้ที่นางอาศัยอยู่มาตั้งแต่สมัยสาว ๆ

ตัวบ้านเป็นเรือนไม้สักชั้นเดียวยกพื้นสูงเหนือพื้นดินราวหนึ่งเมตร ด้านในมีห้องนอนเล็ก ๆ สองห้องสำหรับป้าอรและชัชแบ่งกันคนละห้อง ส่วนบัวกับศรีนอนที่ตึกใหญ่ หน้าบ้านเป็นชานกว้างยื่นออกมาสำหรับต้อนรับแขกและนั่งพักผ่อน ที่ริมระเบียงมีไม้ดอกไม้ประดับแขวนระย้าเรียงกันเป็นแนว ฝีมือชัชหลานชายป้าอรล้วน ๆ

ที่มุมหนึ่งของชานบ้าน ทั้งป้าอร ศรี บัว และชัช กำลังช่วยกันห่อขนมต้มอันเป็นขนมพื้นเมืองทางภาคใต้ ใกล้งานบุญเดือนสิบทีไรป้าอรกับลูกทีมเป็นต้องนั่งจับเข่าชนกัน ชวนกันห่อขนมไปทำบุญที่วัด ส่วนที่เหลือก็แจกคนงานบนเกาะอิ่มบุญอิ่มใจกันถ้วนหน้า

วันนี้เพชรกับมุกมาตาอาสามาเป็นผู้ควบคุมการห่อขนม มุกมาตาดูจะชอบใจเป็นพิเศษเพราะนั่งดูผู้ใหญ่ห่อขนมไม่วางตา ส่วนเพชรนานมากแล้วที่เขาไม่ได้มานั่งพักผ่อนที่เรือนนี้เพราะมัวแต่ยุ่งกับงานในสวนมะพร้าว วันนี้ได้มีโอกาสอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาจึงรู้สึกผ่อนคลายเป็นพิเศษ

“เมื่อไหร่เอ็งจะหยุดร้องเพลงสักทีฮึเจ้าชัช ข้าล่ะรำคาญเต็มทน” ศรีบ่นพลางถลึงตาใส่คนที่กำลังฮัมเพลงตามเสียงเพลงในวิทยุเสียงดังจนกลบเสียงร้องของนักร้องตัวจริงเสียเกือบหมด ป้าอรส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่ายเนื่องจากสองคนหาเรื่องทะเลาะกันได้ไม่เว้นแต่ละวัน

“แล้วนี่คุณสิตากับคุณท่านยังไม่ตื่นรึบัว ทำไมไม่เห็นลงมากินข้าวกินปลา” ป้าอรถามลูกสาวขณะตวัดใบกะพ้อที่ใช้ห่อขนมต้มเพื่อรัดขนมให้แน่นอย่างแคล่วคล่อง

“ออกไปตั้งแต่เช้าแล้วค่ะ เห็นว่าจะรีบไปเคลียร์งานที่โรงแรมแล้วก็จะเลยไปกรุงเทพ ฯ น่ะค่ะ” บัวตอบพลางห่อขนมด้วยท่าทางทะมัดทะแมงเช่นกัน

“ไปไหนมาไหนไม่เคยจะบอกกล่าวกันเลยนะคะคุณท่านเนี่ย ดูซิขนาดนายหัวเพชรยังไม่รู้เลยว่าพ่อไปไหน” ศรีบ่นอย่างลืมตัว หากแต่ไม่ได้สังเกตุเลยว่าคนโดนเอ่ยชื่อเปลี่ยนใบหน้าจากแย้มยิ้มเป็นเคร่งขรึมเสียแล้ว

“หยุดพูดแล้วรีบทำให้มันเสร็จเลยนังศรี ปากเอ็งนี่มันน่าเอาขนมต้มยัดปากจริง ๆ” ป้าอรที่รู้ความเป็นไปของบ้านเยอะที่สุดทำเสียงเอ็ดแล้วลอบหันมองหน้าเพชร ใบหน้าเปี่ยมสุขเมื่อครู่ของเขาหายไปอย่างที่คาดไว้จริง ๆ

สิบกว่าปีก่อน ถ้าคุณผู้หญิงของบ้านไม่ด่วนจากไป ป้าอรคิดว่านางคงจะได้เห็นเด็กหนุ่มที่นิสัยร่าเริงเบิกบานคนนั้นโตมาโดยยังคงเค้านิสัยเดิมไว้ หากนั่นก็เป็นแต่เพียงความฝัน เมื่อเพชรในวันนี้เคร่งขรึม นิ่งเงียบจนน่าใจหาย ยิ่งยามที่เขาอยู่ต่อหน้าพ่อแล้ว ถ้าบ้านไม่เงียบเชียบราวต้องคำสาป ก็จะเปลี่ยนเป็นสนามคารมย่อม ๆ ที่พร้อมจะทวีความดุเดือดอยู่ตลอดเวลา

“ผมไปเดินเล่นในสวนดอกแก้วก่อนนะฮะ” เพชรบอกเสียงเรียบก่อนจะลุกออกไปโดยไม่ทันได้มองมุกตาที่มองตามหลังเขาไปอย่างกับจะขอไปด้วย ป้าอรหันมาดุศรีอีกครั้ง คนโดนดุได้แต่ก้มหน้ายอมรับผิด
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่