ซิเซโร่กล่าวว่า ubi societas ibi ius "ที่ใดมีสังคม ที่นั่นมีกฎหมาย" ซึ่งคำว่า "กฎ" ก็บอกได้ส่วนหนึ่งแล้วล่ะนะว่า "ใช้บังคับเป็นการทั่วไปไม่ว่ากับใคร" แต่การใช้กฎนั้นมิใช่ว่าใช้อย่างไรก็ได้ย่อมต้องคำนึงถึงหลักเกณฑ์การบังคับใช้ซึ่งมันก็มีของมันอยู่ และ นอกจากกฎหมายหมายแล้วยังมีกฎอีกประการหนึ่งที่ใช้ควบคู่กันไป ... นั่นคือกฎแห่ง Common Sense ในสังคมของมนุษย์ ผิดควรขอโทษ ได้รับสิ่งใดมาควรขอบคุณ
HERO 2014 วันนี้กล่าวถึงหลักการเช่นว่า ผ่าน Dilemmas ที่เกิดขึ้นกับ เอนโดคุง เลขาอัยการทามุระ คืนหนึ่งหลังเลิกงานเอนโดไปงานนัดบอดตามปกติของเจ้าตัวโดยไม่ลืมส่งไลน์หาอิโดคุงเพื่อนร่วมงานเพื่อบอกกล่าวบรรยากาศที่เกิดขึ้น แต่อาการลั้ลลาอย่างสนุกกลายเป็นทุกข์ถนัด เมื่อต้องตกเป็นผู้ต้องหาพยายามฆ่าซะอย่างนั้น ในห้องน้ำที่ร้านมาฮิมาฮินั่นแหละ (ถ้าใครจำได้ร้านมาฮิมาฮินั้น เป็นร้านประจำของคู่ secret affair ใน HERO 2001 อัยการนากามุระ และ อัยการชิบายาม่า)
ทีนี้เจ้าตัวดันซวยหันไปเห็นชายใส่สูทคนหนึ่งนอนแอ้งแม้งบนพื้นห้อง มีทั้งเลือด มีทั้งมีดกองข้างตัว และ โคตรซวยหนักเข้าไปอีกที่ดันถูกคนในห้องน้ำชนล้มจนแว่นตก ควานหาแว่นกลายเป็นหยิบมืดขึ้นมา เมื่อพนักงานในร้านมาเห็นมันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ โป๊ะ .... แตก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในคืนนั้นเลขาเอนโดจึงถูกควบคุมตัวนอนซังเตไปเรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้นหน่วยคดีพิเศษก็เข้ามา take action ทันที เอ้า ก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเพราะผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดคือเลขาอัยการ และ ผู้เสียหายก็คือ ฮายาตะ มิโนรุ ซึ่งเป็นเลขาฯนักการเมือง
แต่ แต่ แต่ ยิ่งเวลาผ่านไป คนทำคดีผ่านคดีมามากอย่างมนุษย์มนาในสำนักงานอัยการยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกใจ เอ คนที่กำลังลั้ลลาสุดขีดนี่จะคิดไปแทงใครเหรอ ? มีดนี่เอามาจากไหน ? แล้วก็เป็นถึงเลขาอัยการเชียวนะ ? อะไรหลายอย่างดูคลุมเครือไปหมด แต่ทำไมไม่มีการสืบหาหลักฐานเพิ่มเติม ทำไมไม่ขยายขอบเขตการสืบสวนไปในเรื่องอื่น ผู้เสียหายเป็นเลขาฯนักการเมือง มันจะมีอะไรอย่างอื่นอีกรึเปล่า ? ทำไมหน่วยคดีพิเศษดูแปลกไป ไม่แคร์ดีเทลเล็ก ๆ น้อยเลย เหมือนรีบ ๆ จับ แล้วก็เค้นสอบอย่างเดียว ? มันเกิดอะไรขึ้น
แต่ แต่ แต่ ในความตึงเครียดของของสำนักงานอัยการสาขาโจไซ มันก็คือเรื่องตลกโผล่มาจนได้ ชอบคุณฟุคุดะ ตรงนี้ไม่เคยทิ้ง signature ของตัวเอง และ ไม่ทิ้ง gimmick ของเรื่อง ในระหว่างที่ทุกคน discuss กันอย่างเมามัน ก็มีความเห็นหลากหลาย เอนโดทำจริงหรือเปล่านะ เราไม่ได้รู้จักเอนโดในทุกด้านนี่นา เราจะช่วยเขาไหม ? เฮ้ย ๆ ใคร ๆ ก็ต้องอยู่ใต้กฎ แต่ทั้ง ๆ ที่คอมเม้นท์กันแบบนี้ ก็มีอาการประมาณเนี้ยเกิดขึ้น (ฮา)
สุดท้ายก็ไม่แคล้วไปลงเอยในห้องบุโจวล่ะนะ ฮ่า ๆ
จริง ๆ ก็ห่วงนั่นแหละ แต่ฟอร์มจัดกันทั้งสำนักงาน ไม่เว้นแม้แต่คุริวที่ออกพื้นที่พูดคุยกับพยาน(อีกแล้ว) แต่คราวนี้ทำงานกันมาได้พักนึงเริ่มรู้ไต๋ว่าอาจจะมีแอบไปหาหลักฐานเรื่องเอนโดคุงแหง ๆ (ชอบตรงนี้ตอนแรกก็ อะไรวะ ? ซักพักเริ่มรู้ธรรมชาติล่ะ) สุดท้ายไปสืบพยานที่ร้านสัตว์เลี้ยง (นี่ก็นะ ช่างหาคดีแปลก ๆ มาให้ชวนขำ) อ่านชื่อพันธุ์แล้วนึกสงสัยว่ามันตัวอะไร ผู้ต้องหาก็หน้าชื่นมาเชียว ... อ้อ ๆ ปลาทองฮะ น่ารักสุดยอด (ฮา)
แล้วก็จริงอย่างที่หัวหน้าคาวาจิริบอกนั่นแหละว่าฮีแอบไปโรงพยาบาลเพื่อคุยกับผู้ต้องหาจริง ๆ ด้วย แต่เจ้าตัวก็ปกปิดว่า "แค่อยากรู้ความจริง" แต่ก็นั่นแหละ อาซางิ เริ่มรู้ทัน คุริวก็เขินไปสิ ฝ่ายอัยการและผู้ช่วยในสาขาโจไซที่ใช้ความคิดกันมานานก็เริ่มจะหิวข้าวกันอะไรกันเลยสังพิซซ่ามากิน และ มันก็จังหวะนรกมากที่การสอบสวนในวันนั้นก็เสร็จสิ้นพอดีก็เลยเจอสภาพแบบนี้ (ฮา) กรรม !!!!
แ-ก ไม่สนใจกุเลยช่ะ !!!!!
ถึงกระนั้นทุกคนก็มุ่งมั่นจะช่วยเหลือเพื่อนต่อไป ถึงแม้เพื่อนจะเข้าใจไปทางอื่นแล้วก็ตาม (ฮา)
แต่ละนางมารวมตัวกันที่มาฮิมาฮิอย่างไม่ได้นัดหมาย แก้ตัวกันเป็นพัลวัน
แล้วก็คงจะมีแต่คุริวนี่แหละที่ effective หน่อย จุดประกายคุณตำรวจได้ว่า นี่ ... ทำไมถึงแลดูไม่แคร์ดีเทลอะไรเลย การสอบปากคำก็ดูแคบ แถมยังมีคนไปเฝ้าโรงพยาบาลเต็มไปหมด เกินวิสัยปกติ เลยได้ข้อมูลมาว่าเอนโดพูดถึงชายชุดแดง
หลังจากวิ่งสืบสวนหาพยานกันอย่างเหนื่อยหอบล่วงเวลาทั้งวันคืน จึงจำต้องสั่งแฮมเบอร์เกอร์มาเป็นข้าวเช้า และ ... เกิดจังหวะนรกอีกครั้ง (ฮา)
ต่อหน้าต่อตา
ชั้นรักอัยการบาบะในซีนนี้ .... กร๊ากกกกก
ที่เรื่องมันเกิดก็เพราะนายดันไปนัดบอดทั้ง ๆ ที่เป็นตาลุงวัยกลางคนไม่ใช่รึไงฟระ ดวกส์
(ฮาตรงมีซาวน์น้ำเดือดประกอบนี่แหละ)
แล้วจะหาต่อไหมล่ะ คุริวถาม ..... ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมว่าคำตอบจะออกมาเป็นยังไง ? แต่หลักฐานก็มาง่ายกว่าที่คิดเมื่อเจอชายชุดแดง ในมือถือของอิโดคุงนั่นแหละ
ชอบ gimmick ตรงนี้อีกล่ะ ตรงที่สั่งของมากินกันเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง ครั้งแรกนั่งคุยกันว่าจะหาหลักฐานยังไง ต่อมาคุยกันว่ามีชายชุดแดงเรื่องคืบหน้า สุดท้ายสั่งไก่มากินแล้วก็พูดลอยลมไปว่า "หาคนร้ายตัวจริงเจอล่ะ" ประชดประชดข้ามหัวไปข้ามหัวมา (ชอบคุณฟุคุดะจริงๆ)
สุดท้ายเอนโคคุงก็ถุกปล่อยตัวเป็นอิสระ และ ดูเหมือนอัยการจากหน่วยคดีพิเศษก็รู้อยู่แล้วว่าเอนโดไม่ใช่คนร้าย แล้วทำไปทำไม ? เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าสามสี่วันที่ต้องลำบากลำบนของเอนโดคือการเป็นตัวล่อ เนื่องจากคดีนี้พัวพันกับคดีทุจริตนักการเมือง ฮายาตะ เลขานักการเมืองดังยัดเงินให้แก๊งค์ยากุซ่า เกิดติดขัดปัญหาจึงโดนตามฆ่า แต่ว่าถ้าตำรวจรู้ว่าฮายาตะมีเรื่องกับใครต้องสาวถึงตัวเจ้านายแน่
เอนโดเกือบไม่รอดก็เพราะเรื่องนี้ อัยการหน่วยคดีพิเศษก็พยายามจะเค้นผู้เสียหายว่าทำไมโดนทำร้ายแต่เขาก็ไม่พูดความจริง ตัวผู้ร้ายก็ตามหาตัวไม่เจอเพราะมุ่งแต่ตรวจสอบทางผู้เสียหาย แทบไม่ค้นหารายละเอียดอย่างอื่น ทั้ง ๆ ที่ถ้าละเอียดกว่านี้ก็คงได้ตัวผู้ต้องหาที่แท้จริง แถมปิดคดีทุจริตได้อีก ดันไม่ทำ เลือกทางง่ายไม่ไปทางยาก
เหมือนที่คุริวพูด ... ใครจะแทงฮายาตะ ไม่สำคัญสำหรับหน่วยคดีพิเศษ ส่วนที่สำคัญคือจะเอาผิดนักการเมืองทุจริตนี่ล่ะ แต่ถ้ารู้อย่างนั้นทำไมไม่ปล่อยเอนโดคุงล่ะ มันคือไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ หรืออะไรกันแน่ ทุกคนที่ถูกจับย่อมควรต้องรู้เหตุผลที่ตัวเองโดนจับ ต้องมีการแจ้งข้อหาและเหตุผลเสมอนั่นแหละ กรณีนี้คือรู้ว่าไม่ใช่แล้วกักตัวทำไม เสรีภาพที่เสียไปอะไรมาแทนได้ ? อย่างนี้หรือที่เรียกว่าเคร่งครัดต่อกฎ ?
รู้อย่างนี้แล้วก็ควรจะขอโทษไม่ใช่เหรอ ?
ก็อัยการชูโต้ไม่ได้ทำอะไรผิด "กฎหมาย" นี่ ก็สอบสวนไปตามนโยบายที่ของหน่วยคดีพิเศษ พอรู้ว่าไม่ใช่ก็ปล่อยตัว แค่นั้นเอง และ นโยบายที่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่สำนักงานอัยการโตเกียวจะคอมเมนท์เพราะมันเป็นเรื่องของหน่วยคดีพิเศษ อ้าว อ้าว อ้าว ลมตีขึ้นสิคะ แบบนี้ สิ่งที่คุริวพูดไม่ใช่ในแง่กฎหมาย มันคือ คอมมมอนเซนส์ สุดท้ายแล้วคือคุณกักตัวคนบริสุทธิ์ไว้ทั้ง ๆ ที่คุณรู้ว่าเค้าไม่ได้ทำผิดใช่ไหม ?
เวลานี้ .... มันคือเรื่องง่าย ง่ายนิดเดียว "ขอโทษ"ไง สามัญสำนึก มันเพราะเหตุนี้ต่างหากที่คุณควรจะขอโทษเขา มันไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูกกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องในประมวล หรือ นโยบาย มันคือ "สามัญสำนึก" มันคือความเป็น "คน"
และ punching line สำหรับวันนี้ สองทางนะ หนึ่งคือการขอโทษซึ่งเป็นสามัญสำนึก และ ฝ่ายเอนโดเองก็ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือแค้นเคือง ... มันก็ดีนี่นะที่คนร้ายตัวจริงถูกจับได้ เอนโดเองก็เข้าใจว่าเรื่องนี้มันคือ "งาน" เรื่องนี้บางทีก็ dilemmas นะ อาจจะต้องเลือกทางที่เกิดประโยชน์ต่อองค์รวมด้วยอีกทางหนึ่ง
จากนั้นคุริวก็ ... ขอบคุณ
นั่นแหละนะ ... สองทางเหมือนกัน ผิดแล้วควรขอโทษ ที่ตั้งใจทำงานจับผู้ร้ายได้ก็ควรขอบคุณ ในสังคมนี้ควบคุมด้วยกฎหมายแต่อีกทางหนึ่งกฎแห่งสามัญสำนึกก็มีความสำคัญ สองคำง่าย ๆ เรื่องจบลงสบาย ๆ ต่างคนต่างอยากให้งานลุล่วงสำเร็จลงไป อาจจะมีขัดคอ งัดข้อ ผิดพลาด ข้อเท็จจริงยุติแล้วจบลงด้วยข้อกฎหมาย แต่ความรู้สึกอาจบานปลายหรืออาจจบก็ได้ เพียงแต่นึกถึงใจเขา และ ใจเรา ขอโทษ และ ขอบคุณ
(ซีรีย์ญี่ปุ่น) HERO 2014 (กึ่งรีวิว) ตอนที่ 6 : ขอโทษและขอบคุณ (Spoiled)
HERO 2014 วันนี้กล่าวถึงหลักการเช่นว่า ผ่าน Dilemmas ที่เกิดขึ้นกับ เอนโดคุง เลขาอัยการทามุระ คืนหนึ่งหลังเลิกงานเอนโดไปงานนัดบอดตามปกติของเจ้าตัวโดยไม่ลืมส่งไลน์หาอิโดคุงเพื่อนร่วมงานเพื่อบอกกล่าวบรรยากาศที่เกิดขึ้น แต่อาการลั้ลลาอย่างสนุกกลายเป็นทุกข์ถนัด เมื่อต้องตกเป็นผู้ต้องหาพยายามฆ่าซะอย่างนั้น ในห้องน้ำที่ร้านมาฮิมาฮินั่นแหละ (ถ้าใครจำได้ร้านมาฮิมาฮินั้น เป็นร้านประจำของคู่ secret affair ใน HERO 2001 อัยการนากามุระ และ อัยการชิบายาม่า)
ทีนี้เจ้าตัวดันซวยหันไปเห็นชายใส่สูทคนหนึ่งนอนแอ้งแม้งบนพื้นห้อง มีทั้งเลือด มีทั้งมีดกองข้างตัว และ โคตรซวยหนักเข้าไปอีกที่ดันถูกคนในห้องน้ำชนล้มจนแว่นตก ควานหาแว่นกลายเป็นหยิบมืดขึ้นมา เมื่อพนักงานในร้านมาเห็นมันจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ โป๊ะ .... แตก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ในคืนนั้นเลขาเอนโดจึงถูกควบคุมตัวนอนซังเตไปเรียบร้อย ยิ่งไปกว่านั้นหน่วยคดีพิเศษก็เข้ามา take action ทันที เอ้า ก็ไม่ค่อยน่าแปลกใจเพราะผู้ต้องสงสัยว่ากระทำความผิดคือเลขาอัยการ และ ผู้เสียหายก็คือ ฮายาตะ มิโนรุ ซึ่งเป็นเลขาฯนักการเมือง
แต่ แต่ แต่ ยิ่งเวลาผ่านไป คนทำคดีผ่านคดีมามากอย่างมนุษย์มนาในสำนักงานอัยการยิ่งคิดก็ยิ่งแปลกใจ เอ คนที่กำลังลั้ลลาสุดขีดนี่จะคิดไปแทงใครเหรอ ? มีดนี่เอามาจากไหน ? แล้วก็เป็นถึงเลขาอัยการเชียวนะ ? อะไรหลายอย่างดูคลุมเครือไปหมด แต่ทำไมไม่มีการสืบหาหลักฐานเพิ่มเติม ทำไมไม่ขยายขอบเขตการสืบสวนไปในเรื่องอื่น ผู้เสียหายเป็นเลขาฯนักการเมือง มันจะมีอะไรอย่างอื่นอีกรึเปล่า ? ทำไมหน่วยคดีพิเศษดูแปลกไป ไม่แคร์ดีเทลเล็ก ๆ น้อยเลย เหมือนรีบ ๆ จับ แล้วก็เค้นสอบอย่างเดียว ? มันเกิดอะไรขึ้น
แต่ แต่ แต่ ในความตึงเครียดของของสำนักงานอัยการสาขาโจไซ มันก็คือเรื่องตลกโผล่มาจนได้ ชอบคุณฟุคุดะ ตรงนี้ไม่เคยทิ้ง signature ของตัวเอง และ ไม่ทิ้ง gimmick ของเรื่อง ในระหว่างที่ทุกคน discuss กันอย่างเมามัน ก็มีความเห็นหลากหลาย เอนโดทำจริงหรือเปล่านะ เราไม่ได้รู้จักเอนโดในทุกด้านนี่นา เราจะช่วยเขาไหม ? เฮ้ย ๆ ใคร ๆ ก็ต้องอยู่ใต้กฎ แต่ทั้ง ๆ ที่คอมเม้นท์กันแบบนี้ ก็มีอาการประมาณเนี้ยเกิดขึ้น (ฮา)
จริง ๆ ก็ห่วงนั่นแหละ แต่ฟอร์มจัดกันทั้งสำนักงาน ไม่เว้นแม้แต่คุริวที่ออกพื้นที่พูดคุยกับพยาน(อีกแล้ว) แต่คราวนี้ทำงานกันมาได้พักนึงเริ่มรู้ไต๋ว่าอาจจะมีแอบไปหาหลักฐานเรื่องเอนโดคุงแหง ๆ (ชอบตรงนี้ตอนแรกก็ อะไรวะ ? ซักพักเริ่มรู้ธรรมชาติล่ะ) สุดท้ายไปสืบพยานที่ร้านสัตว์เลี้ยง (นี่ก็นะ ช่างหาคดีแปลก ๆ มาให้ชวนขำ) อ่านชื่อพันธุ์แล้วนึกสงสัยว่ามันตัวอะไร ผู้ต้องหาก็หน้าชื่นมาเชียว ... อ้อ ๆ ปลาทองฮะ น่ารักสุดยอด (ฮา)
แล้วก็จริงอย่างที่หัวหน้าคาวาจิริบอกนั่นแหละว่าฮีแอบไปโรงพยาบาลเพื่อคุยกับผู้ต้องหาจริง ๆ ด้วย แต่เจ้าตัวก็ปกปิดว่า "แค่อยากรู้ความจริง" แต่ก็นั่นแหละ อาซางิ เริ่มรู้ทัน คุริวก็เขินไปสิ ฝ่ายอัยการและผู้ช่วยในสาขาโจไซที่ใช้ความคิดกันมานานก็เริ่มจะหิวข้าวกันอะไรกันเลยสังพิซซ่ามากิน และ มันก็จังหวะนรกมากที่การสอบสวนในวันนั้นก็เสร็จสิ้นพอดีก็เลยเจอสภาพแบบนี้ (ฮา) กรรม !!!!
แล้วก็คงจะมีแต่คุริวนี่แหละที่ effective หน่อย จุดประกายคุณตำรวจได้ว่า นี่ ... ทำไมถึงแลดูไม่แคร์ดีเทลอะไรเลย การสอบปากคำก็ดูแคบ แถมยังมีคนไปเฝ้าโรงพยาบาลเต็มไปหมด เกินวิสัยปกติ เลยได้ข้อมูลมาว่าเอนโดพูดถึงชายชุดแดง
หลังจากวิ่งสืบสวนหาพยานกันอย่างเหนื่อยหอบล่วงเวลาทั้งวันคืน จึงจำต้องสั่งแฮมเบอร์เกอร์มาเป็นข้าวเช้า และ ... เกิดจังหวะนรกอีกครั้ง (ฮา)
(ฮาตรงมีซาวน์น้ำเดือดประกอบนี่แหละ)
แล้วจะหาต่อไหมล่ะ คุริวถาม ..... ไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมว่าคำตอบจะออกมาเป็นยังไง ? แต่หลักฐานก็มาง่ายกว่าที่คิดเมื่อเจอชายชุดแดง ในมือถือของอิโดคุงนั่นแหละ
ชอบ gimmick ตรงนี้อีกล่ะ ตรงที่สั่งของมากินกันเป็นจุดเปลี่ยนของเรื่อง ครั้งแรกนั่งคุยกันว่าจะหาหลักฐานยังไง ต่อมาคุยกันว่ามีชายชุดแดงเรื่องคืบหน้า สุดท้ายสั่งไก่มากินแล้วก็พูดลอยลมไปว่า "หาคนร้ายตัวจริงเจอล่ะ" ประชดประชดข้ามหัวไปข้ามหัวมา (ชอบคุณฟุคุดะจริงๆ)
สุดท้ายเอนโคคุงก็ถุกปล่อยตัวเป็นอิสระ และ ดูเหมือนอัยการจากหน่วยคดีพิเศษก็รู้อยู่แล้วว่าเอนโดไม่ใช่คนร้าย แล้วทำไปทำไม ? เรื่องของเรื่องมีอยู่ว่าสามสี่วันที่ต้องลำบากลำบนของเอนโดคือการเป็นตัวล่อ เนื่องจากคดีนี้พัวพันกับคดีทุจริตนักการเมือง ฮายาตะ เลขานักการเมืองดังยัดเงินให้แก๊งค์ยากุซ่า เกิดติดขัดปัญหาจึงโดนตามฆ่า แต่ว่าถ้าตำรวจรู้ว่าฮายาตะมีเรื่องกับใครต้องสาวถึงตัวเจ้านายแน่
เอนโดเกือบไม่รอดก็เพราะเรื่องนี้ อัยการหน่วยคดีพิเศษก็พยายามจะเค้นผู้เสียหายว่าทำไมโดนทำร้ายแต่เขาก็ไม่พูดความจริง ตัวผู้ร้ายก็ตามหาตัวไม่เจอเพราะมุ่งแต่ตรวจสอบทางผู้เสียหาย แทบไม่ค้นหารายละเอียดอย่างอื่น ทั้ง ๆ ที่ถ้าละเอียดกว่านี้ก็คงได้ตัวผู้ต้องหาที่แท้จริง แถมปิดคดีทุจริตได้อีก ดันไม่ทำ เลือกทางง่ายไม่ไปทางยาก
เหมือนที่คุริวพูด ... ใครจะแทงฮายาตะ ไม่สำคัญสำหรับหน่วยคดีพิเศษ ส่วนที่สำคัญคือจะเอาผิดนักการเมืองทุจริตนี่ล่ะ แต่ถ้ารู้อย่างนั้นทำไมไม่ปล่อยเอนโดคุงล่ะ มันคือไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ หรืออะไรกันแน่ ทุกคนที่ถูกจับย่อมควรต้องรู้เหตุผลที่ตัวเองโดนจับ ต้องมีการแจ้งข้อหาและเหตุผลเสมอนั่นแหละ กรณีนี้คือรู้ว่าไม่ใช่แล้วกักตัวทำไม เสรีภาพที่เสียไปอะไรมาแทนได้ ? อย่างนี้หรือที่เรียกว่าเคร่งครัดต่อกฎ ?
ก็อัยการชูโต้ไม่ได้ทำอะไรผิด "กฎหมาย" นี่ ก็สอบสวนไปตามนโยบายที่ของหน่วยคดีพิเศษ พอรู้ว่าไม่ใช่ก็ปล่อยตัว แค่นั้นเอง และ นโยบายที่ว่าก็ไม่ใช่เรื่องอะไรที่สำนักงานอัยการโตเกียวจะคอมเมนท์เพราะมันเป็นเรื่องของหน่วยคดีพิเศษ อ้าว อ้าว อ้าว ลมตีขึ้นสิคะ แบบนี้ สิ่งที่คุริวพูดไม่ใช่ในแง่กฎหมาย มันคือ คอมมมอนเซนส์ สุดท้ายแล้วคือคุณกักตัวคนบริสุทธิ์ไว้ทั้ง ๆ ที่คุณรู้ว่าเค้าไม่ได้ทำผิดใช่ไหม ?
เวลานี้ .... มันคือเรื่องง่าย ง่ายนิดเดียว "ขอโทษ"ไง สามัญสำนึก มันเพราะเหตุนี้ต่างหากที่คุณควรจะขอโทษเขา มันไม่ใช่เรื่องผิดหรือถูกกฎหมาย ไม่ใช่เรื่องในประมวล หรือ นโยบาย มันคือ "สามัญสำนึก" มันคือความเป็น "คน"
และ punching line สำหรับวันนี้ สองทางนะ หนึ่งคือการขอโทษซึ่งเป็นสามัญสำนึก และ ฝ่ายเอนโดเองก็ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรือแค้นเคือง ... มันก็ดีนี่นะที่คนร้ายตัวจริงถูกจับได้ เอนโดเองก็เข้าใจว่าเรื่องนี้มันคือ "งาน" เรื่องนี้บางทีก็ dilemmas นะ อาจจะต้องเลือกทางที่เกิดประโยชน์ต่อองค์รวมด้วยอีกทางหนึ่ง
นั่นแหละนะ ... สองทางเหมือนกัน ผิดแล้วควรขอโทษ ที่ตั้งใจทำงานจับผู้ร้ายได้ก็ควรขอบคุณ ในสังคมนี้ควบคุมด้วยกฎหมายแต่อีกทางหนึ่งกฎแห่งสามัญสำนึกก็มีความสำคัญ สองคำง่าย ๆ เรื่องจบลงสบาย ๆ ต่างคนต่างอยากให้งานลุล่วงสำเร็จลงไป อาจจะมีขัดคอ งัดข้อ ผิดพลาด ข้อเท็จจริงยุติแล้วจบลงด้วยข้อกฎหมาย แต่ความรู้สึกอาจบานปลายหรืออาจจบก็ได้ เพียงแต่นึกถึงใจเขา และ ใจเรา ขอโทษ และ ขอบคุณ