ได้ดู HERO 2014 ตอนแรก..ซึ้งคำพูดของอัยการมาก ฝันลมๆแล้งอยากเห็นละครไทยใช้ละครสร้างอุดมการณ์แบบนี้บ้าง

มันมาฉายทุกวันอาทิตย์ 3 ทุ่มช่องเอเชียน HD 233 ครับ ต่อจาก First Class
..เมื่อวานฉายตอนแรกครับ



วันแรกฉาย เป็นการเปิดตัว "คุริว" พระเอกอัยการสุดอินดี้ แต่มีความมุ่งมั่นในการขุดคุ้ยคดีให้ถึงก้นบึ้งก่อนจะส่งฟ้องศาล
แม้คดีเล็กน้อยสุดๆแบบมโนสาเร่สุดๆ พระเอกเราก็ไม่เคยละเลย ไม่เคยแบ่งแยกว่าเป็นคดีไก่กาผมไม่ทำ ต้องเป็นคดีใหญ่ๆเท่านั้นผมถึงจะทำ

ในปี 2014 นี้ คุริวพ่อเทพบุตรสุดอินดี้ของเรา กลับมาเป็นอัยการที่เขตเดิม พร้อมกับนิสัยเดิมๆที่ไม่เคยเปลี่ยน
คือละเอียดกับการทำคดีจนไม่ยอมส่งฟ้องผู้ต้องสงสัยในคดีปล้นสร้อยคอเพชรราคา 500 ล้านเยนเมื่อ 15 ปีก่อน
ทั้งๆที่อีก 3 วันคดีก็จะหมดอายุความ 15 ปีแล้ว
สื่อมวลชนก็ตามจี้คดียังกับอีแร้ง ฝ่ายอัยการสูงสุดก็เหงื่อแตกไม่รู้จะตอบนักข่าวและสังคมอย่างไรว่าทำไมไม่รีบส่งฟ้องฟระ
เดี๋ยวผู้ต้องสงสัยก็หลุดหรอก  มันอุตส่าห์กบดานอยู่ตั้ง 15 ปี เชียวนะเฟ้ย!

นางเอกคนใหม่ในเรื่อง เป็นเลขาสวยแต่ดุที่อัยการหน่วยทุกคนต่างก็อยากได้มาเป็นเลขา แต่เธอโดนโยนมาให้ช่วยคุริว
เธอไม่เข้าใจอัยการอินดี้คนนี้มากๆที่ทำไมถึงโยกโย้ไม่ยอมส่งฟ้อง  ทั้งที่หลักฐานรอยนิ้วมือบนฆ้อนที่ใช้ทุบกระจกร้านเมื่อ 15 ปีก่อน ก็มัดตัวผู้ต้องสงสัยได้แล้ว

จนบ่ายวันหนึ่ง เธอไปตามหาเจ้านายใหม่ในร้านเหล้าที่คุริวเป็นคนพบผู้ต้องสงสัยโดยบังเอิญตั้งแต่ต้น จนก่อให้เกิดการจับกุมตัวขึ้นมา (ด้วยคดีอื่นที่ไม่ใช่คดีเพชร)
เธอต่อว่าเขาเล็กๆ ที่ ทำไมไม่ส่งฟ้องศาลไปก่อน แล้วถ้าไม่ใช่คนร้ายจริง อัยการก็ค่อยขอโทษเขาทีหลังก็ได้ ดีกว่าปล่อยให้หลุดนะ  ..........หรือว่าอัยการไม่อยากเสียหน้าที่ต้องขอโทษ???

....คุริวอธิบายกับเลขาของเขาว่า
"ไม่ใช่เรื่องขอโทษหรอกนะ  ผมไม่อยากให้เค้า(ผู้ต้องสงสัย)ต้องไปขึ้นศาลน่ะ..
เพราะเขาต้องเสียเวลาที่จะใช้ชีวิตอย่างปกติสุขอยู่ที่บ้าน ต้องขาดงาน ไม่ได้ดูแลพ่อแม่หรือครอบครัวระหว่างที่เขาต้องเทียวไปเทียวมาที่ศาล
และการถูกฝากขัง 21 วันน่ะ มันไม่ใช่เรื่องสบายเลยนะ...

คุณรู้ไหมว่ามีคดีกี่คดีที่ผู้ต้องสงสัยหลุดจากข้อกล่าวหาก็จริง แต่เขาก็ถูกสังคมมองไม่ดีไปแล้ว
เขาต้องเสียเพื่อน เสียงาน เพียงเพราะเขาต้องขึ้นศาลในคดีที่เขาไม่ได้ผิด..
สำหรับผมแล้ว.. การปล่อยคนผิดให้ลอยนวลไปหลายคน ยังดีกว่าทำให้คนบริสุทธิ์ต้องรับผิดที่ตัวเองไม่ได้ก่อ แม้แค่คนเดียว"


ทำให้ผมนึกถึงได้ถึงหลักของขงจื๊อ ที่ตรงข้ามกับหลักลัทธิหรู่ หรือนิติธรรมครับ
ขงจื๊อเชื่อว่า คนทุกคนเกิดมาเป็นคนดี แต่สถานการณ์ทำให้เขาเปลี่ยนเป็นคนเลว
และการปล่อยคนผิดไป 10 คน ยังดีกว่าทำให้คนบริสุทธิ์ 1 คนต้องรับโทษ

ตรงข้ามกับลัทธิหรู่  หรู่เชื่อว่า คนเราทุกคนเลวมาแต่กำเนิด มีแต่ต้องใช้กฎหมายควบคุมและลงโทษอย่างเข้มข้นเท่านั้น
และการยอมให้คนบริสุทธิ์ติดคุก 10 คน ยังดีกว่าปล่อยคนผิดหลุดรอดไปได้แม้แต่เพียงคนเดียว

คุริวคือคนที่มีอุดมการณ์แบบขงจื๊อ
และเจตนารมณ์ของกฎหมายยุคปัจจุบัน ก็ยึดแนวแบบขงจื๊อ


ความเชื่อแบบละครไทย มักอ้างว่า ใช้ละครสะท้อนสังคม คือสิ่งเลวสิ่งผิด กิเลสตัณหาราคะโทสะในตัวคน ต้องสะท้อนออกมาหมด
โดยละเลยการสร้างสรรค์จรรโลงใจผู้คน ด้วยอำนาจของสื่อที่มีอยู่ในมือ
คิดแค่ว่า..ต้องการสะท้อนสังคมจริงที่.. นางอิจฉาแย่งผู้ชายกับนางเอก แม่พระเอกแย่งมรดกจากย่า
พระเอกรวยแต่ทำอะไรไม่เป็น วันๆเดินไปเดินมา เรียกว่ารวยแต่ไร้สมอง  
ทำเป็นอย่างเดียวคือข่มขืนนางเอก แล้วนางเอกก็ยอมเพราะพระเอกมันหล่อและรวย


แต่ HERO คือหนึ่งในตัวอย่างละครที่ ใช้ละครนำสังคม เราต้องการเห็นสังคมแบบไหน ละครสามารถช่วยสร้างมันได้
โดยผ่านตัวละครที่เต็มไปด้วยความฝัน ความมุ่งมั่น และอุดมการณ์ จนไม่ยอมพ่ายแพ้ต่อแรงกดดัน หรืออุปสรรคปิดกั้นใดๆ
คุริวไม่เคยพยายามยัดเยียดความเชื่อของตนเองให้เลขา เขาเพียงแค่ทำตามสิ่งที่ถูกต้องอย่างมั่นคงและไม่หวั่นไหวเท่านั้น
เลขาที่ภายหลังเชื่อเขามากขึ้นทีละขั้นๆ ก็เพราะเห็นผลลัพธ์ของการกระทำที่มุ่งมั่นไม่หวั่นไหวโอนเอนของคุริวนั่นเอง


เสียงขอร้องของคนไทยแค่หยิบมือคงเปลี่ยนละครไทยไม่ได้  เพราะคนดูละครไทยจำนวนมากก็ไม่อยากเปลี่ยนแปลงเช่นกัน
ผมจึงได้แต่มาบอกเล่าซีรีส์ดีๆ ที่เชื่อว่าละครนำสังคมได้ มาให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ จะได้ช่วยๆกันตามดู


หากเราสนับสนุนสิ่งดีๆกันมากๆ  พลังของ "critical mass-พลังของจำนวนๆหนึ่ง" ก็จะทำให้ขั้วของไม้กระดานเอียงได้ในที่สุด

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่