สวัสดีสมาชิกที่เข้ามาอ่านกระทู้ทุกท่าน🙏🙏🙏วันนี้เราจะมาแชร์ประสบการณ์โดยตรง ฟ้องเรียกค่าสินไหมทดเเทนจากกรณีคุณพ่อเราเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถยนต์ชนจักรยาน บ.ประกันโดยใช้วิธีอนุญาโตฯ ซึ่งเราได้เคยแชร์ประสบการณ์จากศาลในกระทู้ที่แล้ว หลังจากที่ศาลตัดสินให้จำเลยชดใช้ค่าเสียตามจำนวน เราจึงตัดสินใจฟ้อง บ.ประกันพรบ.ต่อ เนื่องจากมองว่าประกันนั้นไม่ควรเอาเปรียบทั้งผู้เสียหายหรือผู้ทำประกัน อย่างที่เห็นหลายๆกรณีมีเหตุที่ไหนก็จะทำให้เป็นประมาทร่วมไว้ก่อนเพื่อที่บ.ไม่ต้องจ่าย
หลังจากที่เราตัดสินใจฟ้องบ. ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการสู้คดี ซึ่งมี 2 ทางให้เลือก คือฟ้องแพ่งกับศาล หรือทำอนุญาโตกับคปภ. จึงชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดูก่อนตัดสินใจใช้วิธีอนุญาโตโดยไปปรึกษาพี่ทนายที่ทำโดยตรงเเละใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 6 เดือน วางเงินค่าทำเนียม 10,000 บาท (จะได้คืนหลังจบคดี) วิธีการพิจารณาก็คล้ายๆกับขึ้นศาล มีนัดชี้ นัดสืบพยาน ซึ่งวันนัดสืบพยาน บ.ประกันแจ้งว่าต้องหักค่ารักษาพยาบาล เรางงมากจะหักได้ไงในเมื่อเราจ่ายเองทุกบาทจึงนำหลักฐานใบเสร็จค่ารักษาออกมาให้ตรอก บ.ประกันจนหน้าหงาย และถามออกไปว่าโรงพยาบาลตั้งเบิกจริงมั้ยถ้าจริงคือโรงบาลเข้าขั้นทุจริตนะ หรือไปขอสำเนาใบเสร็จมาแล้วโรงพยาบาลให้ได้ไง มันเป็นข้อมูลผู้ป่วย ถ้าเบิกจากบ.เราจะไม่เถียงเลย บ.อ้ำอึ้งมากตอบไม่ได้ตอบไม่รู้อย่างเดียว แต่เวลาถามซักถามค้านนิปากคล่องเชียว คิดแล้วโมโหเลยบ.ประกันนี้เล่นเหลี่ยมมากล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.2568 ผู้ชี้ขาดตัดสินให้บ.ชดใช้ค่าสินไหมจำนวน 250,000 บาทถ้วน เราก็พอใจกับตัวเลขที่ได้รับ ซึ่งเราไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับหรือไม่ เพราะผู้ชี้ขาดบอกว่าเขาตัดสินจากรูปคดีและหลักฐานเป็นหลักตัดสินยังไงก็ต้องยอมรับเพราะถ้าทำอนุญาโตฯ เราจะไปฟ้องศาลอีกไม่ได้เเล้วถือว่าจบ ไม่มีอุธรณ์ ไม่มีฎีกา แต่อย่างน้อยเราก็ได้สู้ตามสิทธิที่เราควรได้รับ สู้เพื่อพ่อเรา สู้เพื่ออย่างน้อยๆเราก็จะได้มาบอกเล่าให้เพื่อนๆที่กำลังประสบปัญหาเหมือนเรา วันนี้เหมือนเราได้ปลดล็อกตัวเอง ปลดล็อกสิ่งที่คาใจมาตั้งแต่พ่อเสีย ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ
แชร์ประสบการณ์ สู้คดีประมาทร่วมมีผู้เสียชีวิต รถยนต์ชนจักรยาน!!! EP.2 (ฟ้องบ.ประกันโดยวิธีอนุญาโต)
หลังจากที่เราตัดสินใจฟ้องบ. ก็เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการสู้คดี ซึ่งมี 2 ทางให้เลือก คือฟ้องแพ่งกับศาล หรือทำอนุญาโตกับคปภ. จึงชั่งน้ำหนักข้อดีข้อเสียดูก่อนตัดสินใจใช้วิธีอนุญาโตโดยไปปรึกษาพี่ทนายที่ทำโดยตรงเเละใช้ระยะเวลาในการดำเนินการ 6 เดือน วางเงินค่าทำเนียม 10,000 บาท (จะได้คืนหลังจบคดี) วิธีการพิจารณาก็คล้ายๆกับขึ้นศาล มีนัดชี้ นัดสืบพยาน ซึ่งวันนัดสืบพยาน บ.ประกันแจ้งว่าต้องหักค่ารักษาพยาบาล เรางงมากจะหักได้ไงในเมื่อเราจ่ายเองทุกบาทจึงนำหลักฐานใบเสร็จค่ารักษาออกมาให้ตรอก บ.ประกันจนหน้าหงาย และถามออกไปว่าโรงพยาบาลตั้งเบิกจริงมั้ยถ้าจริงคือโรงบาลเข้าขั้นทุจริตนะ หรือไปขอสำเนาใบเสร็จมาแล้วโรงพยาบาลให้ได้ไง มันเป็นข้อมูลผู้ป่วย ถ้าเบิกจากบ.เราจะไม่เถียงเลย บ.อ้ำอึ้งมากตอบไม่ได้ตอบไม่รู้อย่างเดียว แต่เวลาถามซักถามค้านนิปากคล่องเชียว คิดแล้วโมโหเลยบ.ประกันนี้เล่นเหลี่ยมมากล่าสุดวันที่ 3 ม.ค.2568 ผู้ชี้ขาดตัดสินให้บ.ชดใช้ค่าสินไหมจำนวน 250,000 บาทถ้วน เราก็พอใจกับตัวเลขที่ได้รับ ซึ่งเราไม่ได้คาดหวังว่าจะได้รับหรือไม่ เพราะผู้ชี้ขาดบอกว่าเขาตัดสินจากรูปคดีและหลักฐานเป็นหลักตัดสินยังไงก็ต้องยอมรับเพราะถ้าทำอนุญาโตฯ เราจะไปฟ้องศาลอีกไม่ได้เเล้วถือว่าจบ ไม่มีอุธรณ์ ไม่มีฎีกา แต่อย่างน้อยเราก็ได้สู้ตามสิทธิที่เราควรได้รับ สู้เพื่อพ่อเรา สู้เพื่ออย่างน้อยๆเราก็จะได้มาบอกเล่าให้เพื่อนๆที่กำลังประสบปัญหาเหมือนเรา วันนี้เหมือนเราได้ปลดล็อกตัวเอง ปลดล็อกสิ่งที่คาใจมาตั้งแต่พ่อเสีย ขอบคุณสมาชิกทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ