ทำไมทำประกันภัยรถ ชั้น 1 2 3 แล้ว ยังต้องซื้อ พรบ.รถ อีก ทำไมซ้ำซ้อนเช่นนี้

ที่ถูกคือ ประกันภัยรถ ชั้น 1 2 3 ต้องรวม พรบ.รถ (build-in) อยู่ในตัวถึงจะถูก ไม่ต้องซื้อ พรบ.อีก
       ยกตัวอย่าง ประกันรถชั้น 3 บริษัท A รถกระบะ
ความรับผิดต่อชีวิต/ร่างกายของบุคคลภายนอก 500,000  ต่อคน
ความรับผิดต่อชีวิต/ร่างกายของบุคคลภายนอก  10,000,000 ต่อครั้ง
ความรับผิดต่อทรัพย์สินของบุคคลภายนอก  800,000 ต่อครั้ง
อุบัติเหตุส่วนบุคคล (ร.ย.01) (บาท ต่อคน) 50,000
ค่ารักษาพยาบาล (ร.ย.02) (บาท ต่อคน) 50,000
หลักทรัพย์ประกันตัวผู้ขับขี่ (ร.ย.03) (บาท ต่อครั้ง) 100,000
เบี้ยประกันรถชั้น 3              2,700 บาท
เบี้ยประกันรถชั้น 3+ พรบ.    3,668 บาท หรือ 2700 + 968
                          ส่วนของพรบ.รถ กระบะ
ความรับผิดชอบต่อบุคคลภายนอก 80,000 บาท/คน
ค่าสินไหมกรณีเสียชีวิตทุพพลภาพถาวร 500,000 บาท/คน ส่วน ค่าสินไหมกรณีสูญเสียอวัยวะ 200000-300000 บาท/คน แล้วแต่มากน้อย
ค่าชดเชยรายวัน วันละ 200 บาท/ ไม่เกิน 20 วัน หริอ สูงสุด 4000 บาท
ค่า พรบ. รถกระบะ                967.28 บาท
             เหมือนจ่ายซ้ำซ้อนไหม? ทีนี้เวลาเกิดอุบัติเหตุมีคนเจ็บ
1 มีทั้งประกัน+พรบ ....ฝั่งพรบ.จ่ายก่อน พรบ.จ่ายเต็มวงเงิน ก็ไปใช้สิทธิ 30 บาทต่อ แล้วประกันภาคสมัครใจ จะไปจ่ายค่ารักษาตอนไหน???
2 มีประกัน+แต่พรบ.หมด ...ฝั่งประกันภาคสมัครใจ เป็นคนจ่ายตั้งแต่แรก คงโวยวายน่าดู แต่ดูแล้ว ก็ไม่เห็นว่า คู่กรณี กับ คนเดินเท้า จะได้เงินน้อยกว่าตรงไหน ก็ได้เท่ากัน เท่าเดิม หรือ ต่างกันแค่ค่าชดเชยรายวัน 4000 แค่เนี้ยหรอ???

           น่าจะเป็น
1 ค่า พรบ. รถกระบะ              967.28 บาท  ซ่อมคนเท่านั้น
2 เบี้ยประกันรถ                    1733      บาท ซ่อมรถซ่อมทรัพย์สินของคู่กรณีเท่านั้น หรือ คล้ายชั้น3เดิม
           นี่สิถึงจะถูกต้อง ไม่ซ้ำซ้อน เป็นธรรมกับทุกฝ่าย ใช่หรือไม่
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่