ย้อนอ่านบทก่อนหน้า
บทที่ 11
คนที่ไม่ต้องการ
( Don't Want )
ข่าวการสัมภาษณ์ของสาริสาถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ ช่องทาง ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือแม้แต่ในเว็บไซต์ แน่นอนว่าบนโลกที่การติดต่อสื่อสารรวดเร็วและฉับไวอย่างสมัยนี้ วิธีการรับรู้ข้อมูลก็จะต้องมีความหลากหลายไม่แพ้กัน
คลิปข่าวการสัมภาษณ์ของนักร้องสาวปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือรุ่นดังที่ถูกหุ้มด้วยกรอบกันกระแทกสีแดงสดใส ประดับประดาด้วยเพชรคริสตัลแวววาว ซึ่งเจ้าของมือถือผู้ที่กำลังเสพสื่ออยู่นั้น ได้แสดงอาการพึงพอใจกับข่าวที่ถูกนำเสนออยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก
“ สมน้ำหน้า...อีแก่ ” พยาบาลสาวสุดเปรี้ยวอย่างทิพย์อำพันเอ่ยคำพูดที่เย้ยหยันออกมาเบาๆ พอเป็นพิธี
หญิงสาวใช้เวลาว่างในช่วงบ่ายออกมาดื่มกาแฟอยู่นอกชานร้านเบเกอรี่ที่ขึ้นชื่อ ซึ่งตั้งอยู่ในอเวนิวแห่งใหม่ใจกลางกรุง แสงแดดอุ่นๆ หลังฝนหยุดตกเป็นสิ่งที่เธอโปรดปรานเป็นอย่างมาก เจ้าหล่อนจิบกาแฟไปพลางและดูคลิปนั้นไปพลาง ราวกับว่าเธออยากซึมซับความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักเอาไว้
และเมื่อเธอรู้สึกอิ่มเอนจนพอใจ เจ้าหล่อนก็ละสายตาจากจอโทรศัพท์เพื่อมองดูผู้คนที่เดินคลาคล่ำไปมาอยู่บริเวณนั้น บ้างก็มาเที่ยว มาจับจ่ายสินค้า บ้างก็มาพักผ่อนเช่นเดียวกับเธอ และดูเหมือนว่าสายตาที่ซุกซนของหญิงสาวกลับสะดุดเข้ากับชายหนุ่มที่ดูคุ้นตา เขาใส่แจ็กเก็ตสีเทาตัวหนา และกำลังเดินตรงมายังร้านเบเกอรี่ร้านเดียวกับเธอ
พยาบาลสาวรีบหยิบแว่นกันแดดสีดำขึ้นมาจากกระเป๋าพลางสวมมัน โดยที่ไม่ลืมหยิบนิตยสารที่วางอยู่แถวนั้น กางออกมาเพื่อทำทีเป็นว่าเธอกำลังนั่งอ่าน เพราะต้องการที่จะไม่ให้ชายผู้นั้นผิดสังเกต
ชายหนุ่มเดินมาถึงร้านเบเกอรี่พลางชำเลืองมองดูเธอเล็กน้อยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปยังด้านในเพื่อสั่งเครื่องดื่ม จากนั้นจึงยืนคอยสินค้าอยู่บริเวณนั้น
ทิพย์อำพันเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหยิบกระเป๋าและเดินออกไปจากร้าน แต่กลับนึกขึ้นได้ว่าตนเองลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่โต๊ะ จึงรีบเดินกลับไปยังร้านอีกครั้ง ทว่าหนนี้ชายหนุ่มกลับผลักประตูออกมาพอดี ทำให้ใบหน้าของเธอและเขาเกือบจะชนกัน
“ ว้ายยยยย ” หญิงสาวร้องลั่นอย่างตกใจ
“ ขอโทษครับๆ ” ชายหนุ่มรีบกล่าวขออภัย แต่ทันทีที่เขาได้เห็นเธอ กลับต้องรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
“ นี่คุณ!! ” คณิตร้องขึ้น
ทิพย์อำพันตกใจทำอะไรไม่ถูก
“ คุณอีกแล้วเหรอ ? ” เขาถามซ้ำ
หล่อนไม่ตอบอะไร แต่รีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เพราะไม่อยากจะมาต่อล้อต่อเถียงด้วย
คณิตมองดูเธอพลางส่ายหน้าไปมา ชายหนุ่มไม่คิดว่าโลกใบนี้จะกลมจนทำให้เขากับเธอมาเจอกันอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ถึงอย่างไรหนุ่มน้อยกลับคาดหวังไว้ลึกๆ ว่า ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอและเขาจะได้พบกัน
+++++++++++++++++++++++++++++
หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก ทิพย์อำพันก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งในร้านหนังสือ เธอเลือกมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่เพื่อรอเวลาที่คิดว่าชายหนุ่มจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว หญิงสาวชะโงกหน้าออกมานอกร้านสอง-สามครั้งเพื่อสังเกตการณ์ ก่อนที่จะแน่ใจแล้วว่าไม่มีเขาอยู่ตรงนั้นจริงๆ
พยาบาลสาวทำท่าว่าจะเดินออกไปจากร้าน แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นปกหนังสือสีแดงจัดจ้านอยู่ที่ชั้น ซึ่งด้านหน้ามีตัวอักษรสีน้ำเงินเข้มเขียนประกอบเอาไว้
“ กลเม็ดเด็ดพรายมัดใจชาย-หญิง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ คัน ในระยะแรกเริ่ม ” เธอมองดูหนังสือเล่มนั้นพลางรู้สึกขบขันกับชื่อเรื่อง จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิบจากบนชั้น เพื่อที่จะเปิดอ่านข้างใน แต่ทว่า ทฤษฎีแรงดึงดูด ของเซอร์ ไอแซค นิวตัน คงจะเป็นชื่อหนังสือที่เหมาะกับเธอมากกว่าในระยะนี้ เพราะทันทีที่หญิงสาวคว้าเจ้าหนังสือปกแดงที่มีชื่อเรื่องชวนหัว มือของหนุ่มน้อยที่หล่อนกำลังเล่นซ่อนหาอยู่กับเขา กลับเอื้อมมาจับหนังสือเล่มเดียวกันกับเธอ
ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างมองหน้ากันอย่างตกใจ และต่างคนก็ปล่อยหนังสือเล่มนั้นลงทันทีที่รู้สึกตัว ทิพย์อำพันตกใจกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า คณิตเองก็เช่นกัน เขาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นหญิงสาวเจ้ามารยาคนนี้
“ คุณจะอ่านเล่มนี้เหรอ ??...เอาสิ หยิบเลย!! ” เขาเปิดทางให้
หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วเหลือบมองลงมาที่หนังสือซึ่งคว่ำหน้าอยู่กับพื้น...ให้ตายเถอะ!! ทำไมต้องเป็นเล่มนี้ด้วย ?!!...เธอบ่นอุบอยู่ในใจ ก่อนที่จะหันหลังกลับไป เพื่อเดินออกจากตรงนั้น
“ แหม...ชื่อเรื่องก็ดูท่าจะเหมาะดีนะ คันระยะแรกเริ่ม!! ” คณิตกล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดีขณะที่หยิบหนังสือขึ้นมาจากพื้น
เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวถึงกับหันหลังกลับมา เพราะรู้สึกว่ามันเป็นคำพูดที่ทำให้ระคายหู
“ นี่นายว่าฉันเหรอ ?!! ” เธอถาม
“ เปล่า!! ผมไม่ได้ว่าคุณเสียหน่อย ผมแค่อ่านชื่อเรื่อง!! ” เขาพูดจายียวน
“ นายอย่ามาทำเป็นเฉไฉเลย ดูก็รู้...นายกำลังว่าฉัน!! ” หล่อนโมโห
“ ผมเปล่า!! ” หนุ่มน้อยยังคงกวนอารมณ์ จนทิพย์อำพันเหลืออด
“ ถ้านายหาว่าฉันคัน นายเองก็คันเหมือนกันนั่นแหละ...เพราะนายเองก็หยิบหนังสือเล่มนี้เหมือนฉัน!! ” ทิพย์อำพันพูดพลางกอดอกราวกับว่าเหตุผลของตนเหนือกว่า
คณิตหน้าถอดสี สายตาเขาดูล่อกแล่ก ไม่นึกว่าจะโดนเธอย้อนเอาได้
“ ฮึ!! ไม่ปากเก่งเหมือนเมื่อกี้แล้วเหรอไง ?? สงสัยนายคงจะเป็นไก่อ่อนริจะจีบหญิง แล้วไม่มีปัญญา เอ๊ะ!! หรือว่าจีบผู้ชายกันแน่ ?!! ” พยาบาลสาวตอกกลับ พลางหยิบหนังสืออีกเล่มหนึ่งซึ่งมีชื่อเรื่องเดียวกันออกมาจากชั้น แล้วพลิกหน้าไปมาราวกับจะเยาะเย้ย
“ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย!! ” ชายหนุ่มเถียง เพราะไม่ชอบให้ใครมาจี้จุดกล่าวหาว่าเขาเป็นเกย์
“ นั่นไง!! นายยอมรับออกมาแล้ว แสดงว่านายคงจะจีบหญิงจริงๆ ล่ะสิ!! ถึงหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ” คราวนี้ทิพย์อำพันเป็นฝ่ายยียวนบ้าง
“ เปล่า!! ผมก็แค่...ชอบชื่อหนังสือมันเฉยๆ ” เขาร้อนรน พลางพูดกลบเกลื่อน
“ เอ๊...!! ใครกันนะ ผู้หญิงที่นายอยากจะจีบ ใช่ยายวาด น้องสาวยายพิมพ์หรือเปล่า ? ” หญิงสาวไม่หลงกล เธอพูดเดาสุ่มไปเรื่อย แต่ก็เผลอทายถูกเสียอย่างนั้น
“ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร...ผมไปดีกว่า...เสียเวลา!! ” คณิตว่า พลางหันหลังกลับ
“ นั่นไงล่ะ!! ฉันทายถูกจริงๆ ด้วย ผู้หญิงไม่รู้จักโต แถมโลกสวยอย่างยายวาด คบเพื่อนผู้ชายเป็นเสียที่ไหน ถ้าไม่ใช่ตุ๊ดแต๋ว...นี่ถ้านายไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่ฉันว่า ก็คงจะต้องชอบยายวาดแน่ๆ มีอย่างที่ไหน...ยอมเดินตามกันต้อยๆ อย่างนั้น!! ” ทิพย์อำพันอ่านไต๋ของหนุ่มน้อยคนนี้ออก โดยอาศัยจากประสบการณ์เรื่องผู้ชายที่เคยผ่านมา
“ นี่คุณ!! พูดจาเลอะเทอะใหญ่แล้ว ” คณิตตัดบท
“ นี่เธอจะเถียงฉันเหรอพ่อหนุ่มน้อย...ฉันดูผู้ชายออกน่า ไก่อ่อนอย่างเธอริอยากเที่ยวกลางคืนทำเท่ห์ จริงๆ ก็แค่ออกมาปลดปล่อยอารมณ์ ฉันเห็นมานักต่อนักแล้วกับผู้ชายวัยว้าวุ่นอย่างเธอเนี่ย!! ” พยาบาลสาวพูดด้วยท่าทีที่มั่นใจ
คณิตรู้สึกอึดอัดที่ทิพย์อำพันอ่านความรู้สึกของเขาได้ ชายหนุ่มไม่เคยเสียหน้าให้ใครอย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยรู้จักอย่างเธอ ดูท่าทางเจ้าหล่อนจะเจนโลกทางเรื่องผู้ชายจริงๆ
“ ดูทำหน้าเข้าสิ... ” ทิพย์อำพันแค่นหัวเราะออกมา เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเป็นไก่ต้มของเขา
“ เอาเถอะ!! ฉันไม่ถือสาหรอก บางที...ฉันอาจจะช่วยเธอได้ ” เธอเปลี่ยนเรื่อง เมื่อคิดแผนการบางอย่างออกเดี๋ยวนั้น
แม้ว่าคณิตจะเป็นลูกศิษย์ของพิมพ์ประภัสร์ แต่ถ้าเจ้าหล่อนสามารถซื้อใจหนุ่มน้อยคนนี้ บางทีเขาอาจจะเผลอหลุดอะไรดีๆ ออกมาในเรื่องของอาจารย์สาวที่เธอยังไม่เคยรู้ เผื่อเรื่องดีๆ ที่ว่านี้ อาจจะได้นำไปปรับใช้กับ แผนพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การเป็นศรีภรรยาของศัลยแพทย์หนุ่มในอนาคต ได้อีก
“ คุณอย่ามาเสียเวลาเลย วาดลัดดา...เขามีแฟนแล้ว ” หนุ่มน้อยปฏิเสธ
“ โธ่!! น่าเสียดายจัง...แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผู้หญิงมีคนเดียวในโลกเสียเมื่อไร ฉันเองก็พอจะรู้ว่าผู้หญิงชอบผู้ชายแบบไหน เธอเองก็ไม่ด้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ปรับบุคลิกภาพอีกนิดหน่อย...ก็โอเค!! ” หญิงสาวโน้มน้าว แต่ชายหนุ่มกลับไม่ค่อยมั่นใจในตัวเธอนัก
“ เถอะน่า!! ไปทานมื้อเย็นกับฉันสักมื้อสิ คงไม่เสียเวลาเธอนักหรอกใช่ไหมจ๊ะ ?? ” ทิพย์อำพันฉีกยิ้มให้อย่างไมตรี
คณิตลังเลเล็กน้อยพลางนึกถึงวาดลัดดา แต่อยู่ๆ ก็มีภาพของโชติวุฒิเพิ่มเข้ามาอยู่ในหัว ทำให้เขาเริ่มจะตระหนักรู้ว่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างนี้ วาดลัดดากำลังทำอะไร
หนุ่มน้อยเกิดอาการหวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด อาการมันเหมือนกับทุกคืนที่รู้ว่า เขาไม่สามารถหักห้ามจิตใจไม่ให้คิดเรื่องแบบนี้ได้ ชายหนุ่มถึงต้องออกไประบายอารมณ์โดยการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ที่ผับอย่างเช่นทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาเองก็อยากที่จะยับยั้งความคิดแบบนี้เสียที
คณิตตัดสินใจไปทานมื้อเย็นกับทิพย์อำพันหลังจากการพบกันโดยบังเอิญอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ต่างฝ่ายต่างเชื่อเหมือนกันว่า จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่จะได้พบเจอกันโดยบังเอิญ แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันนั้นก็คือ คณิตไม่ได้ต้องการที่อยากจะพบกับหล่อนอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะเขาเองตั้งใจว่ามันจะเป็นแค่ครั้งเดียว และครั้งสุดท้ายที่เขาจะยอมมาเที่ยวกับเธอเพื่อหยุดยั้งความคิดไม่ให้ฟุ้งซ่าน แต่สำหรับทิพย์อำพันกลับไม่คิดอย่างนั้น หญิงสาวยังคงต้องการที่จะสานสัมพันธ์กับหนุ่มน้อยคนนี้ต่อไปเพื่อที่จะได้ข้อมูลอะไรดีๆ กลับมา
เมื่ออาทิตย์สิ้นแสงในช่วงเวลาพลบค่ำ การรับประทานอาหารมื้อเย็นของคนทั้งคู่ก็สิ้นสุดลง พยาบาลสาวไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลยจากที่เคยรู้มาก่อน แต่เธอก็เข้าใจดีว่า การที่จะกระเทาะเปลือกคนปากแข็งอย่างคณิตให้ปริปากพูดออกมาได้นั้นต้องใช้เวลา ซึ่งเธอค่อยหาจังหวะ และโอกาสที่จะพบเจอกับเขาอีกทีได้ในภายหลัง แต่สำหรับหนุ่มน้อยคณิตกลับได้รับบางสิ่งบางอย่างจากหญิงสาวเพิ่มเข้ามา นั่นคือ มิตรภาพ และ ความเป็นกันเอง ที่หญิงสาวสุดเปรี้ยวคนนี้ได้มอบให้
เขารู้สึกได้ว่า จริงๆ แล้วเจ้าหล่อนเองก็ไม่ใช่คนเลว หรือร้ายกาจอย่างที่ใครๆ เข้าใจ แต่แค่เป็นคนตรงไปตรงมา และมีเล่ห์เหลี่ยมบ้างในบางที ซึ่งคณิตเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะดูใครไม่ออก เพียงแต่ว่าต้องศึกษานิสัยใจคอกันไปนานๆ ก็เท่านั้น และด้วยความที่ทิพย์อำพันเหมือนผลทับทิมที่มีรสชาติแตกต่างไปจากผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่เขาเคยลิ้มลอง จะมีรสชาติที่เปรี้ยวจี๊ด หรือหวานจ๋อยไปเลยก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะในความเปรี้ยวและความหวานนั้น กลับมีรสฝาดนิดๆ ผสมอยู่ด้านใน เหมือนให้ความรู้สึกถึงรสชาติที่แปลกใหม่ซึ่งเขาไม่เคยได้รับประทาน ซึ่งนั่นได้ทำให้ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกติดใจในตัวตนบางอย่างของเธอ และมันก็ทำให้เขาเกิดอาการโหยหารสชาติที่ว่านั่นอีกครั้ง...
+++++++++++++++++++++++++++++
แม้ว่าการตอบรับไปทานข้าวกับทิพย์อำพันในครั้งนี้ คณิตจะทำไปเพราะต้องการหยุดความคิดฟุ้งซ่านภายในจิตใจ ซึ่งมุ่งแต่จะให้เขานึกถึงอยู่กับวาดลัดดา ว่าบัดนี้เธอกำลังระเริงรักอยู่กับแฟนหนุ่มอยู่ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ความคิด...ก็คือความคิด เพราะขณะที่คณิตกำลังร่วมรับประทานอาหารอยู่กับทางออกของเขานั้น วาดลัดดากลับนอนแก่วอยู่ในหอพักเพียงลำพัง เพราะชายผู้เป็นที่รักไม่ได้มาหาเธอสอง-สามวันแล้ว นั่นเป็นเพราะหนุ่มนักธุรกิจเริ่มที่จะเบื่อหมากฝรั่งชิ้นนี้ลงทุกวัน เพราะเมื่อเขายิ่งเคี้ยว มันก็ยิ่งเริ่มหมดความหวาน เคี้ยวมากก็เมื่อยกราม เพราะมันเริ่มเหนียวและหนืดขึ้น ดังนั้นชายหนุ่มจึงเริ่มตระหนักได้ว่า เขาควรที่จะตัดสินใจรีบคายมันทิ้งเสีย ก่อนที่จะเผลอกลืนมันลงคอ
โชติวุฒินั่งเล่นอยู่กับลูกน้อยที่บ้าน เป็นเวลาสามวันแล้วที่เขาไม่ได้ไปหาวาดลัดดาที่หอพัก เหตุเพราะสาวน้อยเริ่มที่จะผูกมัดเขาไว้มากขึ้น ชายหนุ่มจึงต้องรีบถอนตัวออกมาก่อนที่มันจะวุ่นวาย
[นิยาย] ในดวงมาน...♡ #บทที่ 11
คนที่ไม่ต้องการ
( Don't Want )
ข่าวการสัมภาษณ์ของสาริสาถูกเผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็วในทุกๆ ช่องทาง ทั้งทางโทรทัศน์ วิทยุ สื่อสิ่งพิมพ์ หรือแม้แต่ในเว็บไซต์ แน่นอนว่าบนโลกที่การติดต่อสื่อสารรวดเร็วและฉับไวอย่างสมัยนี้ วิธีการรับรู้ข้อมูลก็จะต้องมีความหลากหลายไม่แพ้กัน
คลิปข่าวการสัมภาษณ์ของนักร้องสาวปรากฏอยู่บนหน้าจอโทรศัพท์มือถือรุ่นดังที่ถูกหุ้มด้วยกรอบกันกระแทกสีแดงสดใส ประดับประดาด้วยเพชรคริสตัลแวววาว ซึ่งเจ้าของมือถือผู้ที่กำลังเสพสื่ออยู่นั้น ได้แสดงอาการพึงพอใจกับข่าวที่ถูกนำเสนออยู่ตรงหน้าเป็นอย่างมาก
“ สมน้ำหน้า...อีแก่ ” พยาบาลสาวสุดเปรี้ยวอย่างทิพย์อำพันเอ่ยคำพูดที่เย้ยหยันออกมาเบาๆ พอเป็นพิธี
หญิงสาวใช้เวลาว่างในช่วงบ่ายออกมาดื่มกาแฟอยู่นอกชานร้านเบเกอรี่ที่ขึ้นชื่อ ซึ่งตั้งอยู่ในอเวนิวแห่งใหม่ใจกลางกรุง แสงแดดอุ่นๆ หลังฝนหยุดตกเป็นสิ่งที่เธอโปรดปรานเป็นอย่างมาก เจ้าหล่อนจิบกาแฟไปพลางและดูคลิปนั้นไปพลาง ราวกับว่าเธออยากซึมซับความสุขเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ ที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักเอาไว้
และเมื่อเธอรู้สึกอิ่มเอนจนพอใจ เจ้าหล่อนก็ละสายตาจากจอโทรศัพท์เพื่อมองดูผู้คนที่เดินคลาคล่ำไปมาอยู่บริเวณนั้น บ้างก็มาเที่ยว มาจับจ่ายสินค้า บ้างก็มาพักผ่อนเช่นเดียวกับเธอ และดูเหมือนว่าสายตาที่ซุกซนของหญิงสาวกลับสะดุดเข้ากับชายหนุ่มที่ดูคุ้นตา เขาใส่แจ็กเก็ตสีเทาตัวหนา และกำลังเดินตรงมายังร้านเบเกอรี่ร้านเดียวกับเธอ
พยาบาลสาวรีบหยิบแว่นกันแดดสีดำขึ้นมาจากกระเป๋าพลางสวมมัน โดยที่ไม่ลืมหยิบนิตยสารที่วางอยู่แถวนั้น กางออกมาเพื่อทำทีเป็นว่าเธอกำลังนั่งอ่าน เพราะต้องการที่จะไม่ให้ชายผู้นั้นผิดสังเกต
ชายหนุ่มเดินมาถึงร้านเบเกอรี่พลางชำเลืองมองดูเธอเล็กน้อยโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ก่อนที่จะผลักประตูเข้าไปยังด้านในเพื่อสั่งเครื่องดื่ม จากนั้นจึงยืนคอยสินค้าอยู่บริเวณนั้น
ทิพย์อำพันเห็นท่าไม่ดีจึงรีบหยิบกระเป๋าและเดินออกไปจากร้าน แต่กลับนึกขึ้นได้ว่าตนเองลืมโทรศัพท์มือถือไว้ที่โต๊ะ จึงรีบเดินกลับไปยังร้านอีกครั้ง ทว่าหนนี้ชายหนุ่มกลับผลักประตูออกมาพอดี ทำให้ใบหน้าของเธอและเขาเกือบจะชนกัน
“ ว้ายยยยย ” หญิงสาวร้องลั่นอย่างตกใจ
“ ขอโทษครับๆ ” ชายหนุ่มรีบกล่าวขออภัย แต่ทันทีที่เขาได้เห็นเธอ กลับต้องรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างยิ่ง
“ นี่คุณ!! ” คณิตร้องขึ้น
ทิพย์อำพันตกใจทำอะไรไม่ถูก
“ คุณอีกแล้วเหรอ ? ” เขาถามซ้ำ
หล่อนไม่ตอบอะไร แต่รีบเดินออกไปจากตรงนั้นทันที เพราะไม่อยากจะมาต่อล้อต่อเถียงด้วย
คณิตมองดูเธอพลางส่ายหน้าไปมา ชายหนุ่มไม่คิดว่าโลกใบนี้จะกลมจนทำให้เขากับเธอมาเจอกันอีกครั้งโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่ถึงอย่างไรหนุ่มน้อยกลับคาดหวังไว้ลึกๆ ว่า ครั้งนี้อาจเป็นครั้งสุดท้ายที่เธอและเขาจะได้พบกัน
หลังจากที่เวลาผ่านไปสักพัก ทิพย์อำพันก็ปรากฏกายขึ้นอีกครั้งในร้านหนังสือ เธอเลือกมาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่เพื่อรอเวลาที่คิดว่าชายหนุ่มจะเดินออกไปจากบริเวณนั้นแล้ว หญิงสาวชะโงกหน้าออกมานอกร้านสอง-สามครั้งเพื่อสังเกตการณ์ ก่อนที่จะแน่ใจแล้วว่าไม่มีเขาอยู่ตรงนั้นจริงๆ
พยาบาลสาวทำท่าว่าจะเดินออกไปจากร้าน แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นปกหนังสือสีแดงจัดจ้านอยู่ที่ชั้น ซึ่งด้านหน้ามีตัวอักษรสีน้ำเงินเข้มเขียนประกอบเอาไว้
“ กลเม็ดเด็ดพรายมัดใจชาย-หญิง เหมาะสำหรับผู้ที่มีอาการ คัน ในระยะแรกเริ่ม ” เธอมองดูหนังสือเล่มนั้นพลางรู้สึกขบขันกับชื่อเรื่อง จากนั้นจึงเอื้อมมือไปหยิบจากบนชั้น เพื่อที่จะเปิดอ่านข้างใน แต่ทว่า ทฤษฎีแรงดึงดูด ของเซอร์ ไอแซค นิวตัน คงจะเป็นชื่อหนังสือที่เหมาะกับเธอมากกว่าในระยะนี้ เพราะทันทีที่หญิงสาวคว้าเจ้าหนังสือปกแดงที่มีชื่อเรื่องชวนหัว มือของหนุ่มน้อยที่หล่อนกำลังเล่นซ่อนหาอยู่กับเขา กลับเอื้อมมาจับหนังสือเล่มเดียวกันกับเธอ
ชายหนุ่มและหญิงสาวต่างมองหน้ากันอย่างตกใจ และต่างคนก็ปล่อยหนังสือเล่มนั้นลงทันทีที่รู้สึกตัว ทิพย์อำพันตกใจกับชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้า คณิตเองก็เช่นกัน เขาทำอะไรไม่ถูกเมื่อเห็นหญิงสาวเจ้ามารยาคนนี้
“ คุณจะอ่านเล่มนี้เหรอ ??...เอาสิ หยิบเลย!! ” เขาเปิดทางให้
หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วเหลือบมองลงมาที่หนังสือซึ่งคว่ำหน้าอยู่กับพื้น...ให้ตายเถอะ!! ทำไมต้องเป็นเล่มนี้ด้วย ?!!...เธอบ่นอุบอยู่ในใจ ก่อนที่จะหันหลังกลับไป เพื่อเดินออกจากตรงนั้น
“ แหม...ชื่อเรื่องก็ดูท่าจะเหมาะดีนะ คันระยะแรกเริ่ม!! ” คณิตกล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดีขณะที่หยิบหนังสือขึ้นมาจากพื้น
เมื่อได้ยินดังนั้นหญิงสาวถึงกับหันหลังกลับมา เพราะรู้สึกว่ามันเป็นคำพูดที่ทำให้ระคายหู
“ นี่นายว่าฉันเหรอ ?!! ” เธอถาม
“ เปล่า!! ผมไม่ได้ว่าคุณเสียหน่อย ผมแค่อ่านชื่อเรื่อง!! ” เขาพูดจายียวน
“ นายอย่ามาทำเป็นเฉไฉเลย ดูก็รู้...นายกำลังว่าฉัน!! ” หล่อนโมโห
“ ผมเปล่า!! ” หนุ่มน้อยยังคงกวนอารมณ์ จนทิพย์อำพันเหลืออด
“ ถ้านายหาว่าฉันคัน นายเองก็คันเหมือนกันนั่นแหละ...เพราะนายเองก็หยิบหนังสือเล่มนี้เหมือนฉัน!! ” ทิพย์อำพันพูดพลางกอดอกราวกับว่าเหตุผลของตนเหนือกว่า
คณิตหน้าถอดสี สายตาเขาดูล่อกแล่ก ไม่นึกว่าจะโดนเธอย้อนเอาได้
“ ฮึ!! ไม่ปากเก่งเหมือนเมื่อกี้แล้วเหรอไง ?? สงสัยนายคงจะเป็นไก่อ่อนริจะจีบหญิง แล้วไม่มีปัญญา เอ๊ะ!! หรือว่าจีบผู้ชายกันแน่ ?!! ” พยาบาลสาวตอกกลับ พลางหยิบหนังสืออีกเล่มหนึ่งซึ่งมีชื่อเรื่องเดียวกันออกมาจากชั้น แล้วพลิกหน้าไปมาราวกับจะเยาะเย้ย
“ ผมไม่ได้ชอบผู้ชาย!! ” ชายหนุ่มเถียง เพราะไม่ชอบให้ใครมาจี้จุดกล่าวหาว่าเขาเป็นเกย์
“ นั่นไง!! นายยอมรับออกมาแล้ว แสดงว่านายคงจะจีบหญิงจริงๆ ล่ะสิ!! ถึงหยิบหนังสือเล่มนี้มาอ่าน ” คราวนี้ทิพย์อำพันเป็นฝ่ายยียวนบ้าง
“ เปล่า!! ผมก็แค่...ชอบชื่อหนังสือมันเฉยๆ ” เขาร้อนรน พลางพูดกลบเกลื่อน
“ เอ๊...!! ใครกันนะ ผู้หญิงที่นายอยากจะจีบ ใช่ยายวาด น้องสาวยายพิมพ์หรือเปล่า ? ” หญิงสาวไม่หลงกล เธอพูดเดาสุ่มไปเรื่อย แต่ก็เผลอทายถูกเสียอย่างนั้น
“ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร...ผมไปดีกว่า...เสียเวลา!! ” คณิตว่า พลางหันหลังกลับ
“ นั่นไงล่ะ!! ฉันทายถูกจริงๆ ด้วย ผู้หญิงไม่รู้จักโต แถมโลกสวยอย่างยายวาด คบเพื่อนผู้ชายเป็นเสียที่ไหน ถ้าไม่ใช่ตุ๊ดแต๋ว...นี่ถ้านายไม่ได้เป็นเกย์อย่างที่ฉันว่า ก็คงจะต้องชอบยายวาดแน่ๆ มีอย่างที่ไหน...ยอมเดินตามกันต้อยๆ อย่างนั้น!! ” ทิพย์อำพันอ่านไต๋ของหนุ่มน้อยคนนี้ออก โดยอาศัยจากประสบการณ์เรื่องผู้ชายที่เคยผ่านมา
“ นี่คุณ!! พูดจาเลอะเทอะใหญ่แล้ว ” คณิตตัดบท
“ นี่เธอจะเถียงฉันเหรอพ่อหนุ่มน้อย...ฉันดูผู้ชายออกน่า ไก่อ่อนอย่างเธอริอยากเที่ยวกลางคืนทำเท่ห์ จริงๆ ก็แค่ออกมาปลดปล่อยอารมณ์ ฉันเห็นมานักต่อนักแล้วกับผู้ชายวัยว้าวุ่นอย่างเธอเนี่ย!! ” พยาบาลสาวพูดด้วยท่าทีที่มั่นใจ
คณิตรู้สึกอึดอัดที่ทิพย์อำพันอ่านความรู้สึกของเขาได้ ชายหนุ่มไม่เคยเสียหน้าให้ใครอย่างนี้มาก่อน โดยเฉพาะกับคนที่ไม่เคยรู้จักอย่างเธอ ดูท่าทางเจ้าหล่อนจะเจนโลกทางเรื่องผู้ชายจริงๆ
“ ดูทำหน้าเข้าสิ... ” ทิพย์อำพันแค่นหัวเราะออกมา เมื่อเห็นใบหน้าที่ซีดเป็นไก่ต้มของเขา
“ เอาเถอะ!! ฉันไม่ถือสาหรอก บางที...ฉันอาจจะช่วยเธอได้ ” เธอเปลี่ยนเรื่อง เมื่อคิดแผนการบางอย่างออกเดี๋ยวนั้น
แม้ว่าคณิตจะเป็นลูกศิษย์ของพิมพ์ประภัสร์ แต่ถ้าเจ้าหล่อนสามารถซื้อใจหนุ่มน้อยคนนี้ บางทีเขาอาจจะเผลอหลุดอะไรดีๆ ออกมาในเรื่องของอาจารย์สาวที่เธอยังไม่เคยรู้ เผื่อเรื่องดีๆ ที่ว่านี้ อาจจะได้นำไปปรับใช้กับ แผนพัฒนาความสัมพันธ์ไปสู่การเป็นศรีภรรยาของศัลยแพทย์หนุ่มในอนาคต ได้อีก
“ คุณอย่ามาเสียเวลาเลย วาดลัดดา...เขามีแฟนแล้ว ” หนุ่มน้อยปฏิเสธ
“ โธ่!! น่าเสียดายจัง...แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ผู้หญิงมีคนเดียวในโลกเสียเมื่อไร ฉันเองก็พอจะรู้ว่าผู้หญิงชอบผู้ชายแบบไหน เธอเองก็ไม่ด้ขี้ริ้วขี้เหร่อะไร ปรับบุคลิกภาพอีกนิดหน่อย...ก็โอเค!! ” หญิงสาวโน้มน้าว แต่ชายหนุ่มกลับไม่ค่อยมั่นใจในตัวเธอนัก
“ เถอะน่า!! ไปทานมื้อเย็นกับฉันสักมื้อสิ คงไม่เสียเวลาเธอนักหรอกใช่ไหมจ๊ะ ?? ” ทิพย์อำพันฉีกยิ้มให้อย่างไมตรี
คณิตลังเลเล็กน้อยพลางนึกถึงวาดลัดดา แต่อยู่ๆ ก็มีภาพของโชติวุฒิเพิ่มเข้ามาอยู่ในหัว ทำให้เขาเริ่มจะตระหนักรู้ว่าช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์อย่างนี้ วาดลัดดากำลังทำอะไร
หนุ่มน้อยเกิดอาการหวั่นไหวอย่างเห็นได้ชัด อาการมันเหมือนกับทุกคืนที่รู้ว่า เขาไม่สามารถหักห้ามจิตใจไม่ให้คิดเรื่องแบบนี้ได้ ชายหนุ่มถึงต้องออกไประบายอารมณ์โดยการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ ที่ผับอย่างเช่นทุกครั้ง และครั้งนี้ก็เช่นกัน เขาเองก็อยากที่จะยับยั้งความคิดแบบนี้เสียที
คณิตตัดสินใจไปทานมื้อเย็นกับทิพย์อำพันหลังจากการพบกันโดยบังเอิญอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ต่างฝ่ายต่างเชื่อเหมือนกันว่า จะเป็นครั้งสุดท้ายที่ทั้งคู่จะได้พบเจอกันโดยบังเอิญ แต่สิ่งหนึ่งที่แตกต่างกันนั้นก็คือ คณิตไม่ได้ต้องการที่อยากจะพบกับหล่อนอีก ไม่ว่ากรณีใดๆ เพราะเขาเองตั้งใจว่ามันจะเป็นแค่ครั้งเดียว และครั้งสุดท้ายที่เขาจะยอมมาเที่ยวกับเธอเพื่อหยุดยั้งความคิดไม่ให้ฟุ้งซ่าน แต่สำหรับทิพย์อำพันกลับไม่คิดอย่างนั้น หญิงสาวยังคงต้องการที่จะสานสัมพันธ์กับหนุ่มน้อยคนนี้ต่อไปเพื่อที่จะได้ข้อมูลอะไรดีๆ กลับมา
เมื่ออาทิตย์สิ้นแสงในช่วงเวลาพลบค่ำ การรับประทานอาหารมื้อเย็นของคนทั้งคู่ก็สิ้นสุดลง พยาบาลสาวไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมเลยจากที่เคยรู้มาก่อน แต่เธอก็เข้าใจดีว่า การที่จะกระเทาะเปลือกคนปากแข็งอย่างคณิตให้ปริปากพูดออกมาได้นั้นต้องใช้เวลา ซึ่งเธอค่อยหาจังหวะ และโอกาสที่จะพบเจอกับเขาอีกทีได้ในภายหลัง แต่สำหรับหนุ่มน้อยคณิตกลับได้รับบางสิ่งบางอย่างจากหญิงสาวเพิ่มเข้ามา นั่นคือ มิตรภาพ และ ความเป็นกันเอง ที่หญิงสาวสุดเปรี้ยวคนนี้ได้มอบให้
เขารู้สึกได้ว่า จริงๆ แล้วเจ้าหล่อนเองก็ไม่ใช่คนเลว หรือร้ายกาจอย่างที่ใครๆ เข้าใจ แต่แค่เป็นคนตรงไปตรงมา และมีเล่ห์เหลี่ยมบ้างในบางที ซึ่งคณิตเองก็ไม่ใช่คนโง่ที่จะดูใครไม่ออก เพียงแต่ว่าต้องศึกษานิสัยใจคอกันไปนานๆ ก็เท่านั้น และด้วยความที่ทิพย์อำพันเหมือนผลทับทิมที่มีรสชาติแตกต่างไปจากผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่เขาเคยลิ้มลอง จะมีรสชาติที่เปรี้ยวจี๊ด หรือหวานจ๋อยไปเลยก็ไม่ใช่เสียทีเดียว เพราะในความเปรี้ยวและความหวานนั้น กลับมีรสฝาดนิดๆ ผสมอยู่ด้านใน เหมือนให้ความรู้สึกถึงรสชาติที่แปลกใหม่ซึ่งเขาไม่เคยได้รับประทาน ซึ่งนั่นได้ทำให้ชายหนุ่มเกิดความรู้สึกติดใจในตัวตนบางอย่างของเธอ และมันก็ทำให้เขาเกิดอาการโหยหารสชาติที่ว่านั่นอีกครั้ง...
แม้ว่าการตอบรับไปทานข้าวกับทิพย์อำพันในครั้งนี้ คณิตจะทำไปเพราะต้องการหยุดความคิดฟุ้งซ่านภายในจิตใจ ซึ่งมุ่งแต่จะให้เขานึกถึงอยู่กับวาดลัดดา ว่าบัดนี้เธอกำลังระเริงรักอยู่กับแฟนหนุ่มอยู่ แต่ทว่าในความเป็นจริงแล้ว ความคิด...ก็คือความคิด เพราะขณะที่คณิตกำลังร่วมรับประทานอาหารอยู่กับทางออกของเขานั้น วาดลัดดากลับนอนแก่วอยู่ในหอพักเพียงลำพัง เพราะชายผู้เป็นที่รักไม่ได้มาหาเธอสอง-สามวันแล้ว นั่นเป็นเพราะหนุ่มนักธุรกิจเริ่มที่จะเบื่อหมากฝรั่งชิ้นนี้ลงทุกวัน เพราะเมื่อเขายิ่งเคี้ยว มันก็ยิ่งเริ่มหมดความหวาน เคี้ยวมากก็เมื่อยกราม เพราะมันเริ่มเหนียวและหนืดขึ้น ดังนั้นชายหนุ่มจึงเริ่มตระหนักได้ว่า เขาควรที่จะตัดสินใจรีบคายมันทิ้งเสีย ก่อนที่จะเผลอกลืนมันลงคอ
โชติวุฒินั่งเล่นอยู่กับลูกน้อยที่บ้าน เป็นเวลาสามวันแล้วที่เขาไม่ได้ไปหาวาดลัดดาที่หอพัก เหตุเพราะสาวน้อยเริ่มที่จะผูกมัดเขาไว้มากขึ้น ชายหนุ่มจึงต้องรีบถอนตัวออกมาก่อนที่มันจะวุ่นวาย