เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พระพรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการ มส.กล่าวว่า จากกรณีในการประชุมมหาเถรสมาคม (มส.) วันที่ 20 สิงหาคมนี้ จะเสนอเรื่องการร้องเรียนเกี่ยวกับพระอธิการคึกฤทธิ์ โสตฺถิผโล หรือพระอาจารย์คึกฤทธิ์ เจ้าอาวาสวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานีให้ที่ประชุม มส. พิจารณา เนื่องจากมีพุทธศาสนิกชนร้องเรียนเกี่ยวกับวัดนาป่าพงเข้ามายังศูนย์ฮอตไลน์ พศ. และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่าพระอธิการคึกฤทธิ์ตัดศีลปาฏิโมกข์ของพระสงฆ์เหลือเพียง 150 ข้อ จากเดิมตามพระธรรมวินัยกำหนดไว้ 227 ข้อนั้น
ทราบว่า พศ.จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมมส.พิจารณาเรื่องนี้วันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งต้องรอให้ที่ประชุมดำเนินการสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วพิจารณาตามความเหมาะสม ในส่วนตัวแล้วอยากให้ความรู้พุทธศาสนิกชนเกี่ยวกับศีลปาฏิโมกข์ของพระสงฆ์ว่าโดยศีลที่สวดปาฏิโมกข์มีด้วยกันอยู่ 2 อย่าง คือสิขาบทที่เป็นพุทธบัญญัติ และอภิสมาจารบัญญัติ หรือความประพฤติของภิกษุสงฆ์ ซึ่งพระมหาเถระที่เป็นพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลกว่า 500 รูป อาทิ พระมหากัสสปะ พระอานนท์ พระอุบาลี ได้สังคายนาแล้ว โดยพระสงฆ์ต้องปฏิบัติตามพุทธบัญญัติอย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่ง คือ อภิสมาจาริกบัญญัติ หรืออภิสมาจาร รวมเป็นพระธรรมวินัย 227 ข้อ
“ส่วนการที่มีการตัดศีลปาฏิโมกข์เหลือเพียง 150 ข้อ ขัดต่อหลักปฏิบัติที่พระอรหันต์ได้สังคายนาถือสืบต่อกันมาตั้งแต่ก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพานหรือหลังปรินิพพาน ศีลปาฏิโมกข์เหล่านี้ก็ยังมีอยู่ พระสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์ที่มีความรู้ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา พอมาถึงพระสงฆ์รุ่นปัจจุบันก็ควรยึดหลักปฏิบัติที่ทำสืบต่อกันมา หากจะไปตัดออกหรือละทิ้งอภิสมาจารให้เหลือ 150 ข้อนั้น เป็นไปไม่ได้ต้องปฏิบัติควบคู่กันไปถึงจะเหมาะสม” กรรมการ มส. กล่าว
มติชน
มส.ชี้พระคึกฤทธิ์ ยุบศีลเหลือ150ข้อ จาก 227 ข้อ ขัดต่อหลักปฏิบัต
ทราบว่า พศ.จะนำเรื่องดังกล่าวเสนอต่อที่ประชุมมส.พิจารณาเรื่องนี้วันที่ 20 สิงหาคม ซึ่งต้องรอให้ที่ประชุมดำเนินการสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วพิจารณาตามความเหมาะสม ในส่วนตัวแล้วอยากให้ความรู้พุทธศาสนิกชนเกี่ยวกับศีลปาฏิโมกข์ของพระสงฆ์ว่าโดยศีลที่สวดปาฏิโมกข์มีด้วยกันอยู่ 2 อย่าง คือสิขาบทที่เป็นพุทธบัญญัติ และอภิสมาจารบัญญัติ หรือความประพฤติของภิกษุสงฆ์ ซึ่งพระมหาเถระที่เป็นพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาลกว่า 500 รูป อาทิ พระมหากัสสปะ พระอานนท์ พระอุบาลี ได้สังคายนาแล้ว โดยพระสงฆ์ต้องปฏิบัติตามพุทธบัญญัติอย่างหนึ่ง และอีกอย่างหนึ่ง คือ อภิสมาจาริกบัญญัติ หรืออภิสมาจาร รวมเป็นพระธรรมวินัย 227 ข้อ
“ส่วนการที่มีการตัดศีลปาฏิโมกข์เหลือเพียง 150 ข้อ ขัดต่อหลักปฏิบัติที่พระอรหันต์ได้สังคายนาถือสืบต่อกันมาตั้งแต่ก่อนพระพุทธเจ้าปรินิพพานหรือหลังปรินิพพาน ศีลปาฏิโมกข์เหล่านี้ก็ยังมีอยู่ พระสงฆ์ที่เป็นพระอรหันต์ที่มีความรู้ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมา พอมาถึงพระสงฆ์รุ่นปัจจุบันก็ควรยึดหลักปฏิบัติที่ทำสืบต่อกันมา หากจะไปตัดออกหรือละทิ้งอภิสมาจารให้เหลือ 150 ข้อนั้น เป็นไปไม่ได้ต้องปฏิบัติควบคู่กันไปถึงจะเหมาะสม” กรรมการ มส. กล่าว
มติชน