คำว่าฝนยอดไม้ พวกเราชอบนำมาเรียกเปรียบเทียบกับภาวะที่เจอกันอยู่ทุกวันนี้ คืออยู่ดี ๆ ฝนอยากจะตกก็ตกขึ้นมางั้นแหละ
เหมือนกับว่าอยู่แค่ปลายไม้ ยอดไม้ การที่ฝนตกแบบนี้ทำให้การไปโน่นมานี่ ไม่ค่อยสะดวกใจมันพาลไม่อยากไปไหนสะงั้น
อย่างเมื่อวานเย็น เริ่มประมาณสี่โมงกว่าเล่นซะอย่างยาวแถมหนักอีกต่างหาก ยังดีที่ในตู้เย็นมีแหนมซึ่งน้องสาวฝากมาให้จาก
เชียงใหม่
มีแหนม มีไข่ ก็เลยรอดตายไป 1 มื้อ
ตกค่ำมาเกิดความคิดว่าน่าจะมีการกักตุนอาหารแห้งไว้บ้าง เผื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก รีบโทรไปสั่งเนื้อระบุไปเลย เนื้อน่องอย่างเดียว
2 ก.ก. ราคาเนื้อเดี๋ยวนี้ไม่เบาทีเดียว
เช้ามาใช้เด็กไปเอา ได้เนื้อมาอย่างสวยเลย จัดการใช้เหล็กจิ้มหนังหมูกรอบทิ่มให้เป็นรูพรุนให้มากที่สุด
หมักอย่างง่าย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย เทเหล้าก้นขวดใส่ดับกลิ่นนิดหน่อย ทิ้งไว้เลยครึ่งวัน
ตกบ่ายเริ่มนึ่ง จัดการเอาเนื้อที่หมักมารวนแบบว่าเสียดายความหวานถ้าจะเอาไปนึ่งเลย น้ำหวานคงลงไปอยู่
ใต้ก้นหม้อนึ่งหมด
รวนให้น้ำเนื้อออก แล้วแห้งหดกลับเข้าไปในเนื้อ (ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าน่าจะเก็บความหวานไว้ได้)
เตรียมลังซึ้ง ปูก้นซึ้งด้วยใบตะไคร้ เอาเนื้อที่หดตัวแล้วใส่ลงไป เด็ดใบมะกรูดโรยลงไป 4-5 ใบ
เกือบ 4 ชั่วโมงด้วยไฟรุม ๆ มีเติมถ่านเพิ่ม 1 ครั้ง
จิ๊นนึ่ง เหนียวเกินไปเคี้ยวลำบาก แต่ถ้าเปื่อยมาก ๆ เหมือนเนื้อตุ๋น เวลากินไม่ได้อรรถรส ต้องกะพอดี ๆ
ของถูกคู่ที่สุดสำหรับจิ๊นวัวนึ่งของคนเหนือ คือน้ำพริกข่า สล่าปู่ใช้เวลาที่รอเนื้อได้ที่จัดการตำน้ำพริกข่า
อย่างง่าย ๆ ในที่สุดก็มาทันเวลากันพอดี
น่าจะมีเสบียงตุนไว้รับมือกับฝนยอดไม้ อย่างน้อยก็ 3 วัน ถ้าหยิบมากินทีละเล็กละน้อย
กลัวอย่างเดียว เคี้ยวเพลินวันเดียวหมดเท่านั้นเอง 555
น้ำที่ค้างก้นหม้อลังซึ้ง เอามาชิมดูหวานมากจนไม่อยากทิ้งเลยครับ จัดการแปลงร่างจิ๊นนึ่ง
ให้เป็นต้มขม โดยเอาเนื้อมาหั่นใช้น้ำดีวัว พริกป่น ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ผักชี มาปรุงรวมกัน
แค่นี้ก็ซดกันแบบลืมตักข้าวเลยละครับ
ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาอย่างยาวนาน สวัสดีครับ
"จิ๊นวัวนึ่ง" เสบียงไว้รับมือกับฝนยอดไม้
เหมือนกับว่าอยู่แค่ปลายไม้ ยอดไม้ การที่ฝนตกแบบนี้ทำให้การไปโน่นมานี่ ไม่ค่อยสะดวกใจมันพาลไม่อยากไปไหนสะงั้น
อย่างเมื่อวานเย็น เริ่มประมาณสี่โมงกว่าเล่นซะอย่างยาวแถมหนักอีกต่างหาก ยังดีที่ในตู้เย็นมีแหนมซึ่งน้องสาวฝากมาให้จาก
เชียงใหม่
มีแหนม มีไข่ ก็เลยรอดตายไป 1 มื้อ
ตกค่ำมาเกิดความคิดว่าน่าจะมีการกักตุนอาหารแห้งไว้บ้าง เผื่อเจอเหตุการณ์แบบนี้อีก รีบโทรไปสั่งเนื้อระบุไปเลย เนื้อน่องอย่างเดียว
2 ก.ก. ราคาเนื้อเดี๋ยวนี้ไม่เบาทีเดียว
เช้ามาใช้เด็กไปเอา ได้เนื้อมาอย่างสวยเลย จัดการใช้เหล็กจิ้มหนังหมูกรอบทิ่มให้เป็นรูพรุนให้มากที่สุด
หมักอย่างง่าย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย เทเหล้าก้นขวดใส่ดับกลิ่นนิดหน่อย ทิ้งไว้เลยครึ่งวัน
ตกบ่ายเริ่มนึ่ง จัดการเอาเนื้อที่หมักมารวนแบบว่าเสียดายความหวานถ้าจะเอาไปนึ่งเลย น้ำหวานคงลงไปอยู่
ใต้ก้นหม้อนึ่งหมด
รวนให้น้ำเนื้อออก แล้วแห้งหดกลับเข้าไปในเนื้อ (ความคิดเห็นส่วนตัวคิดว่าน่าจะเก็บความหวานไว้ได้)
เตรียมลังซึ้ง ปูก้นซึ้งด้วยใบตะไคร้ เอาเนื้อที่หดตัวแล้วใส่ลงไป เด็ดใบมะกรูดโรยลงไป 4-5 ใบ
เกือบ 4 ชั่วโมงด้วยไฟรุม ๆ มีเติมถ่านเพิ่ม 1 ครั้ง
จิ๊นนึ่ง เหนียวเกินไปเคี้ยวลำบาก แต่ถ้าเปื่อยมาก ๆ เหมือนเนื้อตุ๋น เวลากินไม่ได้อรรถรส ต้องกะพอดี ๆ
ของถูกคู่ที่สุดสำหรับจิ๊นวัวนึ่งของคนเหนือ คือน้ำพริกข่า สล่าปู่ใช้เวลาที่รอเนื้อได้ที่จัดการตำน้ำพริกข่า
อย่างง่าย ๆ ในที่สุดก็มาทันเวลากันพอดี
น่าจะมีเสบียงตุนไว้รับมือกับฝนยอดไม้ อย่างน้อยก็ 3 วัน ถ้าหยิบมากินทีละเล็กละน้อย
กลัวอย่างเดียว เคี้ยวเพลินวันเดียวหมดเท่านั้นเอง 555
น้ำที่ค้างก้นหม้อลังซึ้ง เอามาชิมดูหวานมากจนไม่อยากทิ้งเลยครับ จัดการแปลงร่างจิ๊นนึ่ง
ให้เป็นต้มขม โดยเอาเนื้อมาหั่นใช้น้ำดีวัว พริกป่น ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ผักชี มาปรุงรวมกัน
แค่นี้ก็ซดกันแบบลืมตักข้าวเลยละครับ
ขอบคุณที่ติดตามรับชมมาอย่างยาวนาน สวัสดีครับ