ไอ้เจ้าโฆษณาที่เริ่มต้นด้วย มีเด็กน้อยน่ารักๆ
แหกปากร้องเสียงดังในเปล (เอาซะตรูสะดุ้ง)
แล้วก็มีไอ้พ่อหน้าตาโง่ๆคนหนึ่ง เห็นลูกร้อง
ตกใจ (ประหนึ่งชีวิตนี้ลูกไม่เคยร้องมาก่อน)
รีบหยิบโทรศัพท์ โทรหาแม่เด็ก................
นี่ถ้าตรูเป็นแม่เด็กคงด่าว่าไอ้ฟายยยยยยย
ตรูจะไว้ใจให้เลี้ยงลูกได้ไหมเนี่ย แค่ลูกร้อง
ยังไม่มีปัญญาดูแล แล้วพ่อหน้าโง่ก็ทั้งเปิด
การ์ตูน ทั้งให้คุยกับแม่ สุดท้ายลูกไม่หยุดร้อง
เกือบ 2 นาที กว่ามันจะคิดได้ว่าต้องอุ้มลูก
จริงๆ มันกลัวที่จะอุ้มลูกขนาดนั้นเลยหรอ
ต้อนก้มลงไปนี่ทำท่ากล้าๆกลัวๆเหลือเกิน
เพราะ...
"เทคโนโลยี ไม่อาจแทนที่ความรัก"
...
เห็นแล้วรำคาญมากโฆษณานี้ไม่ได้ซึ้งเลย
รำคาญไอ้พ่อหน้าโง่ คนคิดโฆษณาต้องเป็น
พวกไก่อ่อน เอาออกจากโรงหนังเหอะ
ปล.โฆษณา อีกอันที่ว่า "ปิดมือถือเถอะครับ
ปิดแล้วมันดีกับฉัน แล้วมันก็ดีกับเธอ"
ถึงจะมีมุขแป๊กๆเยอะ แต่ตลกดี แล้วก็
นางเอกยิ้มน่ารักมาก ดีกว่าไอ้พ่อหน้าโง่ครับ
เอาโฆษณานี้ออกจากโรงหนังได้ไหม
แหกปากร้องเสียงดังในเปล (เอาซะตรูสะดุ้ง)
แล้วก็มีไอ้พ่อหน้าตาโง่ๆคนหนึ่ง เห็นลูกร้อง
ตกใจ (ประหนึ่งชีวิตนี้ลูกไม่เคยร้องมาก่อน)
รีบหยิบโทรศัพท์ โทรหาแม่เด็ก................
นี่ถ้าตรูเป็นแม่เด็กคงด่าว่าไอ้ฟายยยยยยย
ตรูจะไว้ใจให้เลี้ยงลูกได้ไหมเนี่ย แค่ลูกร้อง
ยังไม่มีปัญญาดูแล แล้วพ่อหน้าโง่ก็ทั้งเปิด
การ์ตูน ทั้งให้คุยกับแม่ สุดท้ายลูกไม่หยุดร้อง
เกือบ 2 นาที กว่ามันจะคิดได้ว่าต้องอุ้มลูก
จริงๆ มันกลัวที่จะอุ้มลูกขนาดนั้นเลยหรอ
ต้อนก้มลงไปนี่ทำท่ากล้าๆกลัวๆเหลือเกิน
เพราะ...
"เทคโนโลยี ไม่อาจแทนที่ความรัก"
...
เห็นแล้วรำคาญมากโฆษณานี้ไม่ได้ซึ้งเลย
รำคาญไอ้พ่อหน้าโง่ คนคิดโฆษณาต้องเป็น
พวกไก่อ่อน เอาออกจากโรงหนังเหอะ
ปล.โฆษณา อีกอันที่ว่า "ปิดมือถือเถอะครับ
ปิดแล้วมันดีกับฉัน แล้วมันก็ดีกับเธอ"
ถึงจะมีมุขแป๊กๆเยอะ แต่ตลกดี แล้วก็
นางเอกยิ้มน่ารักมาก ดีกว่าไอ้พ่อหน้าโง่ครับ