เพื่อนตาย..
ราสส์ กิโลหก
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆ..เสียงโทรศัพท์..
“ฮัลโหล จ๊อดว่าไง ?”..ผมพูดทักเข้าไปในโทรศัพท์ เพราะหน้าจอเป็นไอ้จ๊อด
“
รู้ยัง ไอ้เสริม ตายแล้ว เมื่อคืน มีคนแจ้งในไลน์กลุ่มแล้ว มั้ง”
ผมรู้สึก ตกใจนิดหน่อย เพราะนี่ไม่ใช่เพื่อนรุ่นเดียวกัน ที่เพิ่งตาย รุ่นเรามี ร้อยกว่าคน ตายตอนเรียนก็มี ตายตอนทำงานแล้วก็มาก นี่เวลาผ่านมาแล้วถึง 50 กว่าปี นับแต่วันที่เรียนจบและแยกย้ายกันไปทำงานตามหน่วยงานต่าง ๆหรือทำธุระกิจส่วนตัว
นับดูแล้ว ตายไปเกือบครึ่ง ส่วนมากจะตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บ ตายเพราะเหตุอื่นมีไม่มากนับศพได้ คนจะตายมีเหตุสารพัด บางคนฆ่าตัวตาย บางคนรถชนตาย มีคนหนึ่งอยู่จังหวัดลพบุรี ตอนเช้าออกไปวิ่งออกกำลังกาย ตามปกติ กลับถึงบ้าน เจอหน้าลูกเมียแป๊บเดียว ล้มลงหัวฟาดพื้น สมองกระทบกระเทือน ช่วยไม่ทันตายระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ทั้งที่เขาไม่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรงแต่อย่างใด
ทำให้แลเห็นว่าความตายไม่ได้อยู่ไกลตัวนัก มันวนเวียนอยู่ไกล้ตัวเรานี่แหละ อยู่ที่ว่ามันจะมาถึงตัวเราเมื่อใด
พวกเรามีเลี้ยงรุ่นกัน จัดทำกันมาเป็นประจำทุกปี ที่น่าสะพรึง คือ แต่ละครั้งแต่ละปี หายหน้าหายตา ล้มตายกันไป ครั้งละคน สองคน ทั้งรุ่นตอนนี้เหลือประมาณ 50 กว่าคน ไม่รู้ว่าใครจะยืนเป็นแชมป์ของรุ่น คือ สามารถคงกะพันอยู่ได้เป็นคนสุดท้าย..เหลือคนเดียวคงเหงาแย่ ไม่มีงานเลี้ยงรุ่นให้สนุกอีก รุ่นเรานั้นถ้านับอายุ ตอนเรียนจบ อายุเฉลี่ยกันประมาณ 19-20-21 ไอ้แก่บางคนถึง 25 ก็มี
ปัจจุบัน ผ่านมาประมาณ 50 ปี ฉะนั้นอายุเฉลี่ยประมาณ 70 ปี ส่วนใหญ่จะรับราชการ เพื่อนๆหลายคนได้ดำรงตำแหน่งแตกต่างกันไป ทั้งที่จบเหมือนกัน เวลาเดียวกันก็ตาม ตำแหน่งสูงสุด มีระดับ 10 เพียง 1 คน ระดับ 9 มีหลายคน แฮะๆๆเกษียณที่ ระดับ 4 ก็มี แต่ส่วนมากจะเป็นระดับ 6 มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์
ปี 2566 ที่ผ่านมา ตายไป 2
ปีนี้ 2567 ยังไม่ถึงวันเลี้ยงรุ่น ไอ้ จ๊อด มาแจ้งว่า เสริม ไปแล้ว 1 คน เฮ้อ ! (ถอนใจ)
งานเลี้ยงรุ่น ครั้งที่ผ่านมา มีเดี้ยงๆอยู่หลายคน วงเหล้าเหลือคนกินไม่กี่สิบคน นอกนั้นเป็นไก่หงอย เสียงมักแหบแห้งไม่ค่อยกังวานเหมือน ปีแรกๆ ต่างสนุกสนานลืมตาย กินเหล้ากันยันหว่าง กอดคอร้องเพลงแหกปากกันจนคอแหบคอแห้ง .
มนุษย์กินสัตว์มากมากมาย แต่กรรมกงกรรมเกวียน เชื้อโรคตัวเล็กที่มองไม่เห็น ก็เกาะกินมนุษย์ จนตายไปมากมาย เช่นกัน
อนิจจา เลี้ยงรุ่นปีนี้
"จะเหลือกันอีก สักกี่ หน่อ ! "
เพื่อน ตาย !
ราสส์ กิโลหก
ตู๊ดๆๆๆๆๆๆๆ..เสียงโทรศัพท์..
“ฮัลโหล จ๊อดว่าไง ?”..ผมพูดทักเข้าไปในโทรศัพท์ เพราะหน้าจอเป็นไอ้จ๊อด
“ รู้ยัง ไอ้เสริม ตายแล้ว เมื่อคืน มีคนแจ้งในไลน์กลุ่มแล้ว มั้ง”
ผมรู้สึก ตกใจนิดหน่อย เพราะนี่ไม่ใช่เพื่อนรุ่นเดียวกัน ที่เพิ่งตาย รุ่นเรามี ร้อยกว่าคน ตายตอนเรียนก็มี ตายตอนทำงานแล้วก็มาก นี่เวลาผ่านมาแล้วถึง 50 กว่าปี นับแต่วันที่เรียนจบและแยกย้ายกันไปทำงานตามหน่วยงานต่าง ๆหรือทำธุระกิจส่วนตัว
นับดูแล้ว ตายไปเกือบครึ่ง ส่วนมากจะตายเพราะโรคภัยไข้เจ็บ ตายเพราะเหตุอื่นมีไม่มากนับศพได้ คนจะตายมีเหตุสารพัด บางคนฆ่าตัวตาย บางคนรถชนตาย มีคนหนึ่งอยู่จังหวัดลพบุรี ตอนเช้าออกไปวิ่งออกกำลังกาย ตามปกติ กลับถึงบ้าน เจอหน้าลูกเมียแป๊บเดียว ล้มลงหัวฟาดพื้น สมองกระทบกระเทือน ช่วยไม่ทันตายระหว่างนำส่งโรงพยาบาล ทั้งที่เขาไม่มีโรคประจำตัวที่ร้ายแรงแต่อย่างใด
ทำให้แลเห็นว่าความตายไม่ได้อยู่ไกลตัวนัก มันวนเวียนอยู่ไกล้ตัวเรานี่แหละ อยู่ที่ว่ามันจะมาถึงตัวเราเมื่อใด
พวกเรามีเลี้ยงรุ่นกัน จัดทำกันมาเป็นประจำทุกปี ที่น่าสะพรึง คือ แต่ละครั้งแต่ละปี หายหน้าหายตา ล้มตายกันไป ครั้งละคน สองคน ทั้งรุ่นตอนนี้เหลือประมาณ 50 กว่าคน ไม่รู้ว่าใครจะยืนเป็นแชมป์ของรุ่น คือ สามารถคงกะพันอยู่ได้เป็นคนสุดท้าย..เหลือคนเดียวคงเหงาแย่ ไม่มีงานเลี้ยงรุ่นให้สนุกอีก รุ่นเรานั้นถ้านับอายุ ตอนเรียนจบ อายุเฉลี่ยกันประมาณ 19-20-21 ไอ้แก่บางคนถึง 25 ก็มี
ปัจจุบัน ผ่านมาประมาณ 50 ปี ฉะนั้นอายุเฉลี่ยประมาณ 70 ปี ส่วนใหญ่จะรับราชการ เพื่อนๆหลายคนได้ดำรงตำแหน่งแตกต่างกันไป ทั้งที่จบเหมือนกัน เวลาเดียวกันก็ตาม ตำแหน่งสูงสุด มีระดับ 10 เพียง 1 คน ระดับ 9 มีหลายคน แฮะๆๆเกษียณที่ ระดับ 4 ก็มี แต่ส่วนมากจะเป็นระดับ 6 มากถึง 80 เปอร์เซ็นต์
ปี 2566 ที่ผ่านมา ตายไป 2
ปีนี้ 2567 ยังไม่ถึงวันเลี้ยงรุ่น ไอ้ จ๊อด มาแจ้งว่า เสริม ไปแล้ว 1 คน เฮ้อ ! (ถอนใจ)
งานเลี้ยงรุ่น ครั้งที่ผ่านมา มีเดี้ยงๆอยู่หลายคน วงเหล้าเหลือคนกินไม่กี่สิบคน นอกนั้นเป็นไก่หงอย เสียงมักแหบแห้งไม่ค่อยกังวานเหมือน ปีแรกๆ ต่างสนุกสนานลืมตาย กินเหล้ากันยันหว่าง กอดคอร้องเพลงแหกปากกันจนคอแหบคอแห้ง .
มนุษย์กินสัตว์มากมากมาย แต่กรรมกงกรรมเกวียน เชื้อโรคตัวเล็กที่มองไม่เห็น ก็เกาะกินมนุษย์ จนตายไปมากมาย เช่นกัน
อนิจจา เลี้ยงรุ่นปีนี้
"จะเหลือกันอีก สักกี่ หน่อ ! "