ผู้ค้นพบสาร GTF ดร.วอลเตอร์ เมิร์ส
GTF ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1957 ในไตของสัตว์ โดย ดร.วอลเตอร์ เมิร์ส
-ผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารและผลิตภัณฑ์
-อดีตประธานของ USDA ,USA
-อดีตที่ปรึกษาด้านสารอาหารและผลิตภัณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO)
GTF ย่อมาจาก Glucose Tolerance Factor ที่มีอยู่ทั่วไปในเนื้อเยื่อของร่างกาย และทำหน้าที่ในการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายให้เป็นปกติ เพราะการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ในร่างกายจะต้องประสานกับอินซูลิน และตัวรับอินซูลิน เรียกว่า GTF ต้องร่วมกับอินซูลินทำปฏิกิริยากับตัวรับอินซูลิน GTF จะมีส่วนประกอบของแร่ธาตุโครเมียม วิตามิน และกรดอะมิโน
น้ำนมจากอกมารดาเต็มไปด้วย จีทีเอฟ ในระดับสูง ที่แสดงบทบาทสำคัญในระบบการเผาผลาญ และการสร้างพลังงาน
GTF ใช้ได้ผลดีในผู้ที่เป็นเบาหวาน, ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจเป็นเพราะอินซูลินทำงานได้ไม่ดี ทำให้การนำน้ำตาลไปใช้ได้น้อย เลือดมีน้ำตาลสูง จึงเกิดภาวะเลือดข้น การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้ไม่ดี
มีปัญหาดังนี้
1. มีปัญหาเวียนหัว บ้านหมุน นอนไม่หลับ หลับแล้วแต่ยังรู้สึกง่วงอยู่ตลอด อ่อนเพลียทั้งวัน
2. อาหารไม่ย่อย ทานอาหารแล้วมีอาการจุกแน่น เรอออกมาก็มีแต่กลิ่นอาหาร ท้องอืด ท้องผูก
3. สายตาพร่ามัว ปวดตา ปวดศีรษะ ไมเกรน
4. ปวดประจำเดือน
5. เป็นตะคริวบ่อยๆ
6. ไขมันในเลือดสูง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเร็วทั้งๆ ที่พยายามลดอาหารแล้ว แต่น้ำหนักก็ไม่ลง ทานยาลดน้ำหนักก็เกิดอาการวูบจะเป็นลม
7. เป็นแผลเรื้อรัง สิว หรือมีผิวหนังอักเสบ
อาการอื่นๆ อีกมากมาย ที่อาจเกิดมาจากเลือดของคุณมีน้ำตาลสูงคล้ายกับมีน้ำเชื่อมอยู่ในเลือด ทำให้การไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะทุกส่วนของร่างกายไม่ดี เกิดปัญหาทุกระบบของร่างกาย พอไปพบแพทย์ บางคนก็ตรวจไม่เจอว่ามีน้ำตาลสูง เนื่องจากก่อนไปงดอาหารไปดี ก็เลยได้เฉพาะยาที่พอประทังอาการไป ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ แต่บางคนไปตรวจเจอว่าน้ำตาลสูง ก็ได้ยาลดน้ำตาลมาทาน แต่พอทานยา น้ำตาลก็ต่ำ จนเกิดอาการอ่อนเพลีย ก็เลยต้องการใช้ของหวานๆ ช่วย ก็เลยทำให้โรคเบาหวานเป็นหนักขึ้นไปอีก
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ลองหาตัวช่วยให้น้ำตาลในเลือดคุณควบคุมได้ ไม่เกิดอาการวูบๆ วาบๆ เพราะน้ำตาลสูงๆ ต่ำๆ โดยการช่วยทำให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้นจาก GTF ซิคะ
GTF ย่อมาจาก Glucose tolerance factor มีส่วนประกอบ 3 อย่าง ได้แก่ แร่ธาตุบางชนิด,กรดอะมิโนและวิตามิน
GTF เป็นตัวที่ไปกระตุ้นเบต้าเซลให้มีการหลั่งอินซูลิน และช่วยให้อินซูลินมีการทำงานที่ไวขึ้น ถ้าขาด GTF จะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และส่งผลให้เซลต่างๆ ในร่างกายขาดพลังงาน ดังนั้น GTF จึงถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยในการป้องกัน, ควบคุมภาวะน้ำตาลในเลือด และนำพลังงานเข้าสู่เซล
เมื่อน้ำตาลในเลือดสูง จะก่อให้เกิดโรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจ, ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดกับผู้ป่วย อันได้แก่ ภาวะแทรกซ้อนทางตา, ตาบอด, ไตวาย และระบบประสาทได้
สาเหตุของการขาด GTF ได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้น, โรคอ้วน, ทำงานหนักเกินไป, ภาวะเครียด, ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดสูง, ขาดการออกกำลังกายอย่างสมำเสมอ, ภาวะตั้งครรภ์, ภาวะการผ่าตัด, การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
เมื่อเติบโตขึ้นร่างกายเกิดภาวะขาด GTF และเมื่อ GTF ไม่ สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เซลล์จะทำการต่อต้านอินซูลิน ทำให้การดูดซึมน้ำตาลกลูโคสไม่สามารถทำได้ไม่ดี ตับเองก็ต้องการใช้ GTF เช่นกัน เพื่อใช้ในการผลิตกรดไขมัน, สารเลสซิททิน (สารชนิดหนึ่ง คือ phospholipid ซึ่งประกอบขึ้นด้วย glycerophosphoric acid,esters of oleic, stearic, หรือกรดไขมันอื่นๆ รวมกัน choline ซึ่งพบในเนื้อเยื่อของสัตว์และพืช ), คอเลสเตอรอล และไลโปโปรตีน (การผสมของโปรตีน และ lipids เป็นวัตถุจำพวกไขมันไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายในโคลโดฟอร์ม และแอลกอฮอล์) เพราะฉะนั้นเมื่อร่างกายขาด GTF ทำให้ภูมิคุ้มกันโดยรวมอ่อนแอ การดูดซึมน้ำตาลกูลโคสไม่ปกติ นั่นเอง
ในปี พ.ศ.2502 ดร.เมิร์ส อดีตผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการเพื่อมนุษย์ (USDA) เป็นคนแรกที่ค้นพบ GTF ต่อมา นักวิจัยยังได้ค้นพบ ส่วนประสมของ GTF ชนิดอื่น ในตับของสัตว์ชนิดอื่นๆ,ในการหนักข้าวมอลต์, และ น้ำนมของวัวควาย แต่ GTF ที่ดีที่สุดมีอยู่ในน้ำนมของมนุษย์ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อที่เด็กทารกแรกเกิดจะได้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ โรงงานหลายแห่งได้พยายามที่จะทำการผลิต GTF แต่ส่วนมากกระบวนการผลิต GTF ไม่เป็นที่ยอมรับ จึงไม่สามารถผลิตในปริมาณมากเพื่อการค้า
อีกทั้งยังสามารถช่วยให้การทำงานของอินซูลินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะเป็นการบำรุงและสร้างเสริมสุขภาพทั้ง ยังป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและโรคอื่น ๆ ที่สามารถแทรกซ้อนได้อีกด้วย
การบริโภค GT&F เป็นประจำจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ ดังนี้
ควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้การนำน้ำตาลเข้าสู่เซลได้ดี
ลด อาการของโรคเบาหวาน
ลด ระดับไขมันโดยรวมของร่างกาย
ลด อาการจากความดันสูง ปวดกล้ามเนื้อ
เพิ่ม การไหลเวียนโลหิต
เพิ่ม ความแข็งแรงของร่างกาย ตับ ไต
เพิ่ม ภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ปรับสมดุล การทำงานของเส้นประสาท ผิวสวยเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
ประโยชน์ที่ได้รับจากนมจีทีเอฟ
- ช่วยให้เซลล์สร้างพลังงานได้ดีขึ้น ทำให้มีพละกำลังดีขึ้น สำหรับผู้ที่เหนื่อย อ่อนล้า อ่อนแรง ทนงานได้ดีขึ้น
- ช่วยทำให้การสร้างสารสำคัญของเซลล์มากขึ้น เช่น ฮอร์โมนและโปรตีน สำหรับการทำงานและซ่อมแซมเซลล์ดีขึ้น
- ช่วยให้การหลับลึกขึ้น หลับสนิท มีคุณภาพขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาการนอน
- ช่วยให้การสร้างเซลล์ผิวหนังดีขึ้น ผิวพรรณจะดี ผิวไม่แห้ง สีหน้าดีขึ้น
- ช่วยลดน้ำตาลและไขมัน เลือดข้น
- กระตุ้นการฟื้นตัวของเซลล์
- เสริมภูมิคุ้มกัน
- ช่วยทำให้การดูดซิมสารอาหารดีขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้น
สาร GTF ในนมผง GT&F ช่วยฟื้นฟูไตวายเรื้อรังได้อย่างไร
1.ช่วยควบคุมสารอาหารต่างๆ ได้แก่ น้ำตาล กรดอมิโน และกรดใขมัน ให้เข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ และทำให้การเผาผลาญสารอาหารเหล่านี้เป็นไปตามปกติ ทำให้เซลล์ต่างๆได้รับพลังงานตามปกติ ทำให้ช่วยฟื้นฟูสภาพแก่เซลล์ต่างๆได้ ทำให้เซลล์ของไตแข็งแรงขึ้น
2.การที่สารอาหาร GTF สามารถควบคุมการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ให้เป็นปกติได้ ทำให้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป ไตก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อกรองน้ำตาลกลับสู่กระแสเลือดอีกต่อไป
3.เมื่อใขมันที่อยู่ในเส้นเลือดถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ จึงทำให้ปริมาณใขมันในเลือดลดลง เลือดก็ลดความหนืดข้น หัวใจก็ทำงานน้อยลง เป็นผลให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้ไตทำงานเบาลง
4.เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ความดันเลือดลดลง ทำให้อาการแทรกซ้อนอื่นๆก็ลดลง ความจำเป็นในการใช้ยาเพื่อควบคุมอาการต่างๆก็ลดลง จึงสามารถลดปริมาณการใช้ยาลงได้ ทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนักเพื่อกรองยาที่หมดสภาพออกนอกร่างกาย ช่วยลดภาวะไตเสื่อมได้อีกทางหนึ่ง
5.จากองค์ประกอบทั้งหลายที่ส่งเสริมกันนี้ จึงทำให้ภาวะไตเสื่อมค่อยๆลดระดับลงได้
6.และหากผู้ป่วยที่ไตวายและต้องฟอกไตแล้ว การใช้สาร GTF ยัง ทำให้เลือดสะอาดขึ้น จึงช่วยให้ลดความถี่ในการฟอกไตได้ และช่วยลดอาการเหนื่อยเพลียของผู้ป่วยได้ ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีก่วาการใช้ยาและการฟอกไตเพียงอย่างเดียว
----------------------
----------------------
ไม่มีความรู้เรื่องนี้ จึงอยากถามผู้รู้ว่า มันดีอย่างที่เค้าว่าไว้จริงรึป่าวค่ะ
ขอขอบคุณล่วงหน้า สำหรับทุกคำตอบค่ะ
เป็นโรคไตทานนมผง GTF ได้ไหมค่ะ
GTF ถูกค้นพบในปี ค.ศ. 1957 ในไตของสัตว์ โดย ดร.วอลเตอร์ เมิร์ส
-ผู้เชี่ยวชาญด้านสารอาหารและผลิตภัณฑ์
-อดีตประธานของ USDA ,USA
-อดีตที่ปรึกษาด้านสารอาหารและผลิตภัณฑ์ขององค์การอนามัยโลก (WHO)
GTF ย่อมาจาก Glucose Tolerance Factor ที่มีอยู่ทั่วไปในเนื้อเยื่อของร่างกาย และทำหน้าที่ในการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกายให้เป็นปกติ เพราะการลำเลียงน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ในร่างกายจะต้องประสานกับอินซูลิน และตัวรับอินซูลิน เรียกว่า GTF ต้องร่วมกับอินซูลินทำปฏิกิริยากับตัวรับอินซูลิน GTF จะมีส่วนประกอบของแร่ธาตุโครเมียม วิตามิน และกรดอะมิโน
น้ำนมจากอกมารดาเต็มไปด้วย จีทีเอฟ ในระดับสูง ที่แสดงบทบาทสำคัญในระบบการเผาผลาญ และการสร้างพลังงาน
GTF ใช้ได้ผลดีในผู้ที่เป็นเบาหวาน, ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง หรือผู้ที่มีอาการอ่อนเพลียโดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งอาจเป็นเพราะอินซูลินทำงานได้ไม่ดี ทำให้การนำน้ำตาลไปใช้ได้น้อย เลือดมีน้ำตาลสูง จึงเกิดภาวะเลือดข้น การไหลเวียนเลือดไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ได้ไม่ดี
มีปัญหาดังนี้
1. มีปัญหาเวียนหัว บ้านหมุน นอนไม่หลับ หลับแล้วแต่ยังรู้สึกง่วงอยู่ตลอด อ่อนเพลียทั้งวัน
2. อาหารไม่ย่อย ทานอาหารแล้วมีอาการจุกแน่น เรอออกมาก็มีแต่กลิ่นอาหาร ท้องอืด ท้องผูก
3. สายตาพร่ามัว ปวดตา ปวดศีรษะ ไมเกรน
4. ปวดประจำเดือน
5. เป็นตะคริวบ่อยๆ
6. ไขมันในเลือดสูง น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นเร็วทั้งๆ ที่พยายามลดอาหารแล้ว แต่น้ำหนักก็ไม่ลง ทานยาลดน้ำหนักก็เกิดอาการวูบจะเป็นลม
7. เป็นแผลเรื้อรัง สิว หรือมีผิวหนังอักเสบ
อาการอื่นๆ อีกมากมาย ที่อาจเกิดมาจากเลือดของคุณมีน้ำตาลสูงคล้ายกับมีน้ำเชื่อมอยู่ในเลือด ทำให้การไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะทุกส่วนของร่างกายไม่ดี เกิดปัญหาทุกระบบของร่างกาย พอไปพบแพทย์ บางคนก็ตรวจไม่เจอว่ามีน้ำตาลสูง เนื่องจากก่อนไปงดอาหารไปดี ก็เลยได้เฉพาะยาที่พอประทังอาการไป ไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุ แต่บางคนไปตรวจเจอว่าน้ำตาลสูง ก็ได้ยาลดน้ำตาลมาทาน แต่พอทานยา น้ำตาลก็ต่ำ จนเกิดอาการอ่อนเพลีย ก็เลยต้องการใช้ของหวานๆ ช่วย ก็เลยทำให้โรคเบาหวานเป็นหนักขึ้นไปอีก
ถ้าเป็นอย่างนั้นแล้ว ลองหาตัวช่วยให้น้ำตาลในเลือดคุณควบคุมได้ ไม่เกิดอาการวูบๆ วาบๆ เพราะน้ำตาลสูงๆ ต่ำๆ โดยการช่วยทำให้อินซูลินทำงานได้ดีขึ้นจาก GTF ซิคะ
GTF ย่อมาจาก Glucose tolerance factor มีส่วนประกอบ 3 อย่าง ได้แก่ แร่ธาตุบางชนิด,กรดอะมิโนและวิตามิน
GTF เป็นตัวที่ไปกระตุ้นเบต้าเซลให้มีการหลั่งอินซูลิน และช่วยให้อินซูลินมีการทำงานที่ไวขึ้น ถ้าขาด GTF จะส่งผลให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น และส่งผลให้เซลต่างๆ ในร่างกายขาดพลังงาน ดังนั้น GTF จึงถือได้ว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่ช่วยในการป้องกัน, ควบคุมภาวะน้ำตาลในเลือด และนำพลังงานเข้าสู่เซล
เมื่อน้ำตาลในเลือดสูง จะก่อให้เกิดโรคเบาหวาน, โรคความดันโลหิตสูง, ไขมันในเลือดสูง, โรคหลอดเลือดสมอง, โรคหัวใจ, ภาวะแทรกซ้อนต่างๆ ที่เกิดกับผู้ป่วย อันได้แก่ ภาวะแทรกซ้อนทางตา, ตาบอด, ไตวาย และระบบประสาทได้
สาเหตุของการขาด GTF ได้แก่ อายุที่เพิ่มขึ้น, โรคอ้วน, ทำงานหนักเกินไป, ภาวะเครียด, ระดับน้ำตาลและไขมันในเลือดสูง, ขาดการออกกำลังกายอย่างสมำเสมอ, ภาวะตั้งครรภ์, ภาวะการผ่าตัด, การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก
เมื่อเติบโตขึ้นร่างกายเกิดภาวะขาด GTF และเมื่อ GTF ไม่ สามารถทำงานได้อย่างเต็มที่ เซลล์จะทำการต่อต้านอินซูลิน ทำให้การดูดซึมน้ำตาลกลูโคสไม่สามารถทำได้ไม่ดี ตับเองก็ต้องการใช้ GTF เช่นกัน เพื่อใช้ในการผลิตกรดไขมัน, สารเลสซิททิน (สารชนิดหนึ่ง คือ phospholipid ซึ่งประกอบขึ้นด้วย glycerophosphoric acid,esters of oleic, stearic, หรือกรดไขมันอื่นๆ รวมกัน choline ซึ่งพบในเนื้อเยื่อของสัตว์และพืช ), คอเลสเตอรอล และไลโปโปรตีน (การผสมของโปรตีน และ lipids เป็นวัตถุจำพวกไขมันไม่ละลายในน้ำ แต่ละลายในโคลโดฟอร์ม และแอลกอฮอล์) เพราะฉะนั้นเมื่อร่างกายขาด GTF ทำให้ภูมิคุ้มกันโดยรวมอ่อนแอ การดูดซึมน้ำตาลกูลโคสไม่ปกติ นั่นเอง
ในปี พ.ศ.2502 ดร.เมิร์ส อดีตผู้อำนวยการสถาบันโภชนาการเพื่อมนุษย์ (USDA) เป็นคนแรกที่ค้นพบ GTF ต่อมา นักวิจัยยังได้ค้นพบ ส่วนประสมของ GTF ชนิดอื่น ในตับของสัตว์ชนิดอื่นๆ,ในการหนักข้าวมอลต์, และ น้ำนมของวัวควาย แต่ GTF ที่ดีที่สุดมีอยู่ในน้ำนมของมนุษย์ซึ่งเป็นการเกิดขึ้นตามธรรมชาติ เพื่อที่เด็กทารกแรกเกิดจะได้เจริญเติบโตอย่างสมบูรณ์ โรงงานหลายแห่งได้พยายามที่จะทำการผลิต GTF แต่ส่วนมากกระบวนการผลิต GTF ไม่เป็นที่ยอมรับ จึงไม่สามารถผลิตในปริมาณมากเพื่อการค้า
อีกทั้งยังสามารถช่วยให้การทำงานของอินซูลินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเมื่อใช้ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานจะเป็นการบำรุงและสร้างเสริมสุขภาพทั้ง ยังป้องกันการเกิดโรคเบาหวานและโรคอื่น ๆ ที่สามารถแทรกซ้อนได้อีกด้วย
การบริโภค GT&F เป็นประจำจะทำให้ร่างกายได้รับประโยชน์ ดังนี้
ควบคุม ระดับน้ำตาลในเลือด ทำให้การนำน้ำตาลเข้าสู่เซลได้ดี
ลด อาการของโรคเบาหวาน
ลด ระดับไขมันโดยรวมของร่างกาย
ลด อาการจากความดันสูง ปวดกล้ามเนื้อ
เพิ่ม การไหลเวียนโลหิต
เพิ่ม ความแข็งแรงของร่างกาย ตับ ไต
เพิ่ม ภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ปรับสมดุล การทำงานของเส้นประสาท ผิวสวยเปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล
ประโยชน์ที่ได้รับจากนมจีทีเอฟ
- ช่วยให้เซลล์สร้างพลังงานได้ดีขึ้น ทำให้มีพละกำลังดีขึ้น สำหรับผู้ที่เหนื่อย อ่อนล้า อ่อนแรง ทนงานได้ดีขึ้น
- ช่วยทำให้การสร้างสารสำคัญของเซลล์มากขึ้น เช่น ฮอร์โมนและโปรตีน สำหรับการทำงานและซ่อมแซมเซลล์ดีขึ้น
- ช่วยให้การหลับลึกขึ้น หลับสนิท มีคุณภาพขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาการนอน
- ช่วยให้การสร้างเซลล์ผิวหนังดีขึ้น ผิวพรรณจะดี ผิวไม่แห้ง สีหน้าดีขึ้น
- ช่วยลดน้ำตาลและไขมัน เลือดข้น
- กระตุ้นการฟื้นตัวของเซลล์
- เสริมภูมิคุ้มกัน
- ช่วยทำให้การดูดซิมสารอาหารดีขึ้น ทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารเพิ่มขึ้น
สาร GTF ในนมผง GT&F ช่วยฟื้นฟูไตวายเรื้อรังได้อย่างไร
1.ช่วยควบคุมสารอาหารต่างๆ ได้แก่ น้ำตาล กรดอมิโน และกรดใขมัน ให้เข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ และทำให้การเผาผลาญสารอาหารเหล่านี้เป็นไปตามปกติ ทำให้เซลล์ต่างๆได้รับพลังงานตามปกติ ทำให้ช่วยฟื้นฟูสภาพแก่เซลล์ต่างๆได้ ทำให้เซลล์ของไตแข็งแรงขึ้น
2.การที่สารอาหาร GTF สามารถควบคุมการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ให้เป็นปกติได้ ทำให้ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดไม่ให้สูงเกินไป ไตก็ไม่ต้องทำงานหนักเพื่อกรองน้ำตาลกลับสู่กระแสเลือดอีกต่อไป
3.เมื่อใขมันที่อยู่ในเส้นเลือดถูกดูดซึมเข้าสู่เซลล์ได้ตามปกติ จึงทำให้ปริมาณใขมันในเลือดลดลง เลือดก็ลดความหนืดข้น หัวใจก็ทำงานน้อยลง เป็นผลให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้ไตทำงานเบาลง
4.เมื่อระดับน้ำตาลในเลือดลดลง ความดันเลือดลดลง ทำให้อาการแทรกซ้อนอื่นๆก็ลดลง ความจำเป็นในการใช้ยาเพื่อควบคุมอาการต่างๆก็ลดลง จึงสามารถลดปริมาณการใช้ยาลงได้ ทำให้ไตไม่ต้องทำงานหนักเพื่อกรองยาที่หมดสภาพออกนอกร่างกาย ช่วยลดภาวะไตเสื่อมได้อีกทางหนึ่ง
5.จากองค์ประกอบทั้งหลายที่ส่งเสริมกันนี้ จึงทำให้ภาวะไตเสื่อมค่อยๆลดระดับลงได้
6.และหากผู้ป่วยที่ไตวายและต้องฟอกไตแล้ว การใช้สาร GTF ยัง ทำให้เลือดสะอาดขึ้น จึงช่วยให้ลดความถี่ในการฟอกไตได้ และช่วยลดอาการเหนื่อยเพลียของผู้ป่วยได้ ช่วยให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีก่วาการใช้ยาและการฟอกไตเพียงอย่างเดียว
----------------------
----------------------
ไม่มีความรู้เรื่องนี้ จึงอยากถามผู้รู้ว่า มันดีอย่างที่เค้าว่าไว้จริงรึป่าวค่ะ
ขอขอบคุณล่วงหน้า สำหรับทุกคำตอบค่ะ