บอกก่อนว่าเราเป็นคนว่ายน้ำไม่เป็น เวลาขึ้นเรือที่ไหน ไม่ว่าจะล่องแม่น้ำ หรือข้ามทะเล จะต้องหยิบเสื้อชูชีพมาใส่เสมอ ไม่แคร์สายตาใคร แม้จะรู้สึกว่าเวลาที่หยิบเสื้อขึ้นมาใส่นั้น ทุกสายตาจะจับจ้องมองมาที่เราคนเดียว
แต่อยากจะขอเตือนทุกคนไว้เลยนะคะ ว่าแม้คนที่ว่ายน้ำเป็น ว่ายแข็งแค่ไหน ถ้าเรือจมกลางทะเล พยุงตัวเองไม่ไหวก็เห็นเสียชีวิตมาแล้วหลายคนค่ะ ยกตัวอย่างเช่นเรือล่มที่เกาะล้าน พัทยา บนเรือเสื้อชูชีพไม่พอ และรับผู้โดยสารเกินกำหนด หรือเรือล่มที่เกาะเชจู ในประเทศเกาหลีใต้ ผู้เสียชีวิตบางส่วนที่คิดว่าว่ายน้ำได้สละเสื้อชูชีพของตนเองให้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น เนื่องจากเสื้อชูชีพในเรือไม่พอ
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสใช้บริการนั่งเรือจากบ้านเพไปเกาะเสม็ด ขาไปไม่ค่อยมีคนเท่าไรค่ะ พอขึ้นเรือเราก็หยิบเสื้อมาใส่เรียบร้อย พอเรือออกจากฝั่ง ลมแรงมากทำให้เรือโคลงเคลง น่ากลัวจนผู้โดยสารประมาณ 2-3 คน เริ่มหยิบเสื้อชูชีพมาใส่ เท่าที่สังเกตเสื้อชูชีพมีน้อยมากค่ะ น้อยกว่าจำนวนผู้โดยสาร เหมือนมีไว้ตกแต่งให้เห็นว่ามี
ตอนขากลับเป็นวันอาทิตย์ คนเยอะมาก ที่นั่งบนเรือไม่พอ ผู้โดยสารต้องนั่งที่พื้นกันหลายคนทั้งชั้น 1และ ชั้น 2 ซึ่งบนเรือเขียนว่า รับผู้โดยสารได้ 80 คน เราดูยังไงยังไงก็เกินแน่นอน และ บนเรือไม่มีเสื้อชูชีพแม้แต่ตัวเดียว เรากังวลและกลัวมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่นั่งเรือแล้วไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ ช่วงแรกที่เรือเริ่มออกจากฝั่ง ลมและคลื่นยังไม่แรง เรือยังแล่นนิ่งๆเป็นปกติ พอกลางทางลมและคลื่นมาแรงมาก จนเรือโคลงเคลง เอียงไปเอียงมา จนกัปตันต้องดับเครื่องยนต์เพื่อหยุดเรือไว้ก่อน ผู้โดยสารเริ่มตื่นตระหนก มีร้องออกมาบ้าง คุยกันจอแจ ผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นที่นั่งตรงข้าม พิมพ์ใน dictionary แล้วยื่นให้ผู้หญิงไทยฟัง ได้ยินชัดเลยว่า Naa-Glua (น่ากลัว) ทุกคนจับเสากันแน่นเริ่มนั่งไม่ติด แต่ที่ทุกคนกำลังมองหาคือ เสื้อชูชีพ!!!ซึ่งไม่มีเลยซักตัวเดียว กัปตันเริ่มแล่นเรืออีกครั้งอย่างช้าๆ เหมือนพยายามพยุงเรือที่หนักอึ้งอันนี้ให้ผ่านไปถึงฝั่ง พอคลื่นใหญ่มากระทบก้อต้องหยุดเรือ แล้วไปต่อ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงฝั่ง ถ้าเรือล่มเราคิดอย่างเดียวเลยว่า ไม่รอดแน่นอน ห่วงยางหรืออะไรให้ยึดเกาะไม่มีเลย มองไปทางไหนมีแต่น้ำทะเล ถือว่าวันนี้โชคดีอย่างมาก รอดมาตั้งกระทู้ ระบายความรู้สึกนี้ได้
เรื่องเสื้อชูชีพนี้ เราคิดว่ามันจำเป็นสำหรับผู้โดยสารมากนะ จริงๆควรให้ 1 ตัวต่อ ตั๋ว1ใบด้วยซ้ำ หลังจากข่าวเรือล่มออกมา ก็รณรงค์กันใหญ่ให้มีเสื้อชูชีพบนเรือ ให้ผู้โดยสารใส่เสื้อชูชีพ แต่ผ่านไปข่าวเริ่มซา ก็เริ่มละเลย ทั้งผู้ประกอบการและผู้โดยสาร เหมือนแฟชั่นที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป
มาตรการป้องกันต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น จะต้องมีขึ้นหลังจากที่มีคนเสียชีวิตแล้วเท่านั้นหรือ
**แก้ไข : จขกท เข้าใจผิดไม่ใช่ดับเครื่อง แต่เบาเครื่องลงค่ะ
นั่งเรือข้ามทะเล...บนเรือไม่มีเสื้อชูชีพ @กระทู้รอดตาย@
แต่อยากจะขอเตือนทุกคนไว้เลยนะคะ ว่าแม้คนที่ว่ายน้ำเป็น ว่ายแข็งแค่ไหน ถ้าเรือจมกลางทะเล พยุงตัวเองไม่ไหวก็เห็นเสียชีวิตมาแล้วหลายคนค่ะ ยกตัวอย่างเช่นเรือล่มที่เกาะล้าน พัทยา บนเรือเสื้อชูชีพไม่พอ และรับผู้โดยสารเกินกำหนด หรือเรือล่มที่เกาะเชจู ในประเทศเกาหลีใต้ ผู้เสียชีวิตบางส่วนที่คิดว่าว่ายน้ำได้สละเสื้อชูชีพของตนเองให้คนที่ว่ายน้ำไม่เป็น เนื่องจากเสื้อชูชีพในเรือไม่พอ
เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา เราได้มีโอกาสใช้บริการนั่งเรือจากบ้านเพไปเกาะเสม็ด ขาไปไม่ค่อยมีคนเท่าไรค่ะ พอขึ้นเรือเราก็หยิบเสื้อมาใส่เรียบร้อย พอเรือออกจากฝั่ง ลมแรงมากทำให้เรือโคลงเคลง น่ากลัวจนผู้โดยสารประมาณ 2-3 คน เริ่มหยิบเสื้อชูชีพมาใส่ เท่าที่สังเกตเสื้อชูชีพมีน้อยมากค่ะ น้อยกว่าจำนวนผู้โดยสาร เหมือนมีไว้ตกแต่งให้เห็นว่ามี
ตอนขากลับเป็นวันอาทิตย์ คนเยอะมาก ที่นั่งบนเรือไม่พอ ผู้โดยสารต้องนั่งที่พื้นกันหลายคนทั้งชั้น 1และ ชั้น 2 ซึ่งบนเรือเขียนว่า รับผู้โดยสารได้ 80 คน เราดูยังไงยังไงก็เกินแน่นอน และ บนเรือไม่มีเสื้อชูชีพแม้แต่ตัวเดียว เรากังวลและกลัวมาก เพราะเป็นครั้งแรกที่นั่งเรือแล้วไม่ได้ใส่เสื้อชูชีพ ช่วงแรกที่เรือเริ่มออกจากฝั่ง ลมและคลื่นยังไม่แรง เรือยังแล่นนิ่งๆเป็นปกติ พอกลางทางลมและคลื่นมาแรงมาก จนเรือโคลงเคลง เอียงไปเอียงมา จนกัปตันต้องดับเครื่องยนต์เพื่อหยุดเรือไว้ก่อน ผู้โดยสารเริ่มตื่นตระหนก มีร้องออกมาบ้าง คุยกันจอแจ ผู้โดยสารชาวญี่ปุ่นที่นั่งตรงข้าม พิมพ์ใน dictionary แล้วยื่นให้ผู้หญิงไทยฟัง ได้ยินชัดเลยว่า Naa-Glua (น่ากลัว) ทุกคนจับเสากันแน่นเริ่มนั่งไม่ติด แต่ที่ทุกคนกำลังมองหาคือ เสื้อชูชีพ!!!ซึ่งไม่มีเลยซักตัวเดียว กัปตันเริ่มแล่นเรืออีกครั้งอย่างช้าๆ เหมือนพยายามพยุงเรือที่หนักอึ้งอันนี้ให้ผ่านไปถึงฝั่ง พอคลื่นใหญ่มากระทบก้อต้องหยุดเรือ แล้วไปต่อ ทำอย่างนี้ไปเรื่อยๆ จนถึงฝั่ง ถ้าเรือล่มเราคิดอย่างเดียวเลยว่า ไม่รอดแน่นอน ห่วงยางหรืออะไรให้ยึดเกาะไม่มีเลย มองไปทางไหนมีแต่น้ำทะเล ถือว่าวันนี้โชคดีอย่างมาก รอดมาตั้งกระทู้ ระบายความรู้สึกนี้ได้
เรื่องเสื้อชูชีพนี้ เราคิดว่ามันจำเป็นสำหรับผู้โดยสารมากนะ จริงๆควรให้ 1 ตัวต่อ ตั๋ว1ใบด้วยซ้ำ หลังจากข่าวเรือล่มออกมา ก็รณรงค์กันใหญ่ให้มีเสื้อชูชีพบนเรือ ให้ผู้โดยสารใส่เสื้อชูชีพ แต่ผ่านไปข่าวเริ่มซา ก็เริ่มละเลย ทั้งผู้ประกอบการและผู้โดยสาร เหมือนแฟชั่นที่ผ่านเข้ามาแล้วก็ผ่านไป
มาตรการป้องกันต่างๆที่เกิดขึ้นในประเทศไทยนั้น จะต้องมีขึ้นหลังจากที่มีคนเสียชีวิตแล้วเท่านั้นหรือ
**แก้ไข : จขกท เข้าใจผิดไม่ใช่ดับเครื่อง แต่เบาเครื่องลงค่ะ