อุทาหรณ์ย้อนอดีตเรือเฟอร์รี่ล่มกลางทะเลในไทยเมื่อไม่นานนี้

เมื่อราวๆ 6 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งนับว่าไม่นานเลยสำหรับกรณีข่าวเรือนำเที่ยวล่มกลางทะเลในไทย ซึ่งหลายคนอาจจะลืมเลือนข่าวนี้ไปแล้ว  จขกท.จึงขออนุญาตชาวไทยร่วมกันรำลึกถึงเหตุการณ์อันน่าเศร้าสลดดังกล่าวเพื่อเป็นอุทาหรณ์และกระตุ้นเตือนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งหามาตรการป้องกันล่วงหน้าเพื่อไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำอีก ดังเช่นที่เกิดขึ้นกับเรือ Sewol ของเกาหลีใต้


ย้อนกลับไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ในวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556 เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยทางทะเลเมืองพัทยา จ.ชลบุรี ได้รับแจ้งเหตุเรือนำเที่ยวเกาะล้านทราเวล1 รับนักท่องเที่ยวจากเกาะล้านมุ่งหน้าเข้าท่าเทียบเรือแหลมบาลีฮาย  เกิดอับปางในทะเลห่างชายฝั่งราว 2 กม. ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติลอยคออยู่ในทะเลทั้งหมด

เจ้าหน้าที่จึงนำเรือกู้ภัย 5 ลำ พร้อมประสานเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างบริบูรณ์เมืองพัทยา พร้อมเรือนำเที่ยวเอกชนรวมทั้งหมด 15 ลำ ออกไปให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุพบนักท่องเที่ยวลอยคออยู่กลางทะเล  ส่วนใหญ่สวมเสื้อชูชีพ บางส่วนไม่ได้สวมเสื้อชูชีพ แต่พยายามว่ายน้ำประคองตัวเองอย่างสุดชีวิต และมีนักท่องเที่ยวหมดแรงจมน้ำหายไปต่อหน้าเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัยกว่า 20 คน  

เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องรีบกระโดดลงไปช่วยขึ้นมาไว้บนเรืออย่างทุลักทุเลเนื่องจากจมน้ำจนหมดสติไปแล้ว ต้องเร่งปั๊มหัวใจผายปอดยื้อชีวิตรีบนำขึ้นฝั่งส่งขึ้นรถพยาบาลแยกส่ง รพ.พัทยาเมโมเรียล และ รพ.กรุงเทพ-พัทยา โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง สามารถนำนักท่องเที่ยวเคราะห์ร้ายกลับขึ้นฝั่งได้ 209 คน


สำนักข่าวเอพี เอเอฟพีและบีบีซีรายงานกรณีเกิดเหตุเรือที่บรรทุกนักท่องเที่ยวเกินกำหนดล่มใกล้เกาะล้าน นอกชายฝั่งเมืองพัทยา จ.ชลบุรี มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 6 ศพ รวมทั้งชาวรัสเซีย 2 คน และชาวจีน 1 คน อีก 3 คน เป็นชาวไทย  ซึ่งต่อมามีการค้นหาและพบจมอยู่กับเรืออีก 4ศพ รวมผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 10 ศพ ส่วนนายอังเดร  ดวอร์นีคอฟ กงสุลรัสเซียที่อยู่ในกรุงเทพฯ  เผยด้วยว่าในจำนวนผู้โดยสารบนเรือลำเกิดเหตุเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียอย่างน้อยครึ่งหนึ่ง

นายตำรวจในท้องที่คนหนึ่งให้สัมภาษณ์สำนักข่าวเอพีว่า เรือที่เกิดเหตุเป็นเรือแบบ 2 ชั้น บรรทุกนักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ หลังแล่นออกจากเกาะล้านไม่นาน  เครื่องยนต์เกิดขัดข้อง ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ชั้นแรกแตกตื่นวิ่งกรูขึ้นไปที่ชั้นสองจนตัวเรือพลิกข้างและจมลงในที่สุด พยานในที่เกิดเหตุระบุด้วยว่า บนเรือไม่มีอุปกรณ์ชูชีพเพียงพอ บางคนว่ายน้ำไม่เป็น ได้แต่เกาะถังน้ำแข็งรอหน่วยกู้ภัยมาช่วย


นายวีรวุฒิ พันธ์พยัคฆ์ อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 658 หมู่ 14 ต.ประหลาน อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ. มหาสารคาม หนึ่งในนักท่องเที่ยว กล่าวว่า ตนกับญาติและเพื่อนๆไปเที่ยวเกาะล้านเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา กระทั่งก่อนเกิดเหตุโดยสารเรือดังกล่าวซึ่งเป็นเรือนำเที่ยวขนาดใหญ่แบบสองชั้น กลับขึ้นฝั่งพัทยาเพื่อเดินทางกลับบ้าน มีนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติแย่งกันขึ้นเรือจนต้องยืนเบียดกัน โดยก่อนเรือออกผู้โดยสารได้สวมเสื้อชูชีพตามคำแนะนำของคนขับเรือ แต่เสื้อชูชีพมีไม่เพียงพอกับผู้โดยสาร

พยานคนเดิมกล่าวต่อว่าหลังจากเรือออกจากเกาะล้านได้ 20 นาที ถูกคลื่นลูกใหญ่ 2-3 ลูก โถมซัดเข้าด้านซ้ายของลำเรือทำให้เรือโยกไปมาหลายครั้งก่อนที่ท้ายเรือจะจมน้ำและค่อยๆจมลงเรื่อยๆ ผู้โดยสารบนเรือหวีดร้องลั่นด้วยความกลัวเบียดเสียดขึ้นไปอยู่บนหัวเรือ ช่วงนี้ตนได้โทรศัพท์บอกน้องสาวที่รอขึ้นเรือที่เกาะล้านแจ้งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อออกมาช่วยเหลือ แต่เวลาผ่านไปไม่ถึง 5 นาที เรือก็จมหายไปในทะเลทั้งลำ ทำให้ผู้โดยสารบนเรือต้องลอยคออยู่กลางทะเล กระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาช่วยเหลือ

พล.ต.ต.คัชชา ธาตุศาสตร์ ผบก.ภ.จ.ชลบุรีเปิดเผยว่า เรือลำที่ประสบเหตุ บรรทุกผู้โดยสารได้ 150 คน แต่ช่วงเกิดเหตุบรรทุกผู้โดยสารรวมทั้งสิ้นกว่า 230 คน


อ้างอิง

http://www.thairath.co.th/content/380452

http://news.mthai.com/general-news/281953.html

อ่านกระทู้คล้ายกันนี้ย้อนหลังนี้ได้ที่ http://ppantip.com/topic/31194139
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่