เรื่องนี้ผมถือว่าเป็นเรื่องทีอันตรายมาก ผมจำเป็นมากๆที่ต้องมาเตือนภัยทุกท่านให้ระมัดระวัง เนื่องจากหลังเกิดเหตุการณ์ผมได้ขอความร่วมมือจาก aana resort แล้ว แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง
ผมขอให้ปรับปรุงความปลอดภัยของการให้บริการเรือชมหิ่งห้อย แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการปรับปรุงใดๆ ผมเตือนทางรีสอร์ทแล้วว่า ถ้าคุณไม่แก้ไข ไม่ตักเตือนนักท่องเที่ยวให้ทราบถึงอันตราย ผมจะมาเตือนเอง
ผ่านมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงและรายงานความคืบหน้าใดๆ ผมจึงต้องมาตั้งกระทู้นี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านครับ
เริ่มต้นจากวีดีโอก่อนนะครับ ความยาวนาทีเศษๆ ภาพดูไม่รู้เรื่องนะครับ เนื่องจากมืดมากและส่วนใหญ่จมอยู่ในน้ำครับ
นี่คือวีดีโอเหตุการณ์เรือล่มที่ผมบันทึกเอาไว้ได้(โดยบังเอิญ) ขณะที่เรือกำลังจม วันที่ 10 สิงหาคม 2557 เวลา 20.00 น (โดยประมาณ) มีผู้โดยสารบนเรือ 12 คน
กลับมาเปิดดูอีกทีก็ยังรู้สึกสะพรึงไม่หาย เพราะมันอยู่กับความเป็นความตายจริงๆ
คุณลองดูแล้วจะเห็นว่าเรือจมเร็วมาก มีเวลาให้คิด ตัดสินใจไม่ถึง 5 วินาที น้ำในคลองก็ลึกมิดหัว ท้องฟ้าก็มืดสนิท มองแทบไม่เห็นอะไร ไม่มีใครมาช่วย ไม่มีใครเห็นพวกเรา เรือก็ล่มอยู่ในบริเวณที่รกร้าง ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
รอดกลับมาได้ครบทุกคนนี้ปาฏิหาริย์มากๆ ถ้าปัจจัยในเหตุการณ์เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว ตอนจบอาจกลายเป็นอีกแบบไปเลย
#######################################################
ส่วนอันนี้เป็นเนื้อหาที่ผมบรรยายเหตุการณ์โดยละเอียดเอาไว้ในเฟสบุ้คตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ เป็นการบรรยายแบบละเอียด ขอก๊อปมาแปะเลยนะครับ
ก่อนอื่นอธิบายก่อนเลย ผมกำลังล่องเรือไปดูหิ่งห้อย ภาพนี้คือภาพที่ผมถ่ายเอาไว้เป็นภาพสุดท้าย ก่อนที่เรือจะจม (จริงๆขณะที่เรือจม ผมกำลังถ่ายวีดีโออยู่ กล้องผมกันน้ำ ดำน้ำได้ แต่เน็ตที่นี่ช้า(เกาะช้าง) เดี๋ยวกลับ กทม แล้วจะอัพย้อนหลัง)
คือเรือจมครับ...และมันมืดมากครับ มองไม่เห็นอะไรเลย จมเวลาราวๆเกือบสองทุ่ม กลางคลองพร้าว คลองที่น้ำลึกมิดหัว. ผมจะเล่าเหตุการณ์เป็นข้อๆนะ
1. ทุกคนลงเรือ ลักษณะเรือคือเป็นเรือชาวบ้าน
2. คนขับเรือให้ผู้โดยสารนั่งแถวละ 4 คน รวมทั้งเรือที่บรรทุกคือ 12 คน
ซึ่งมาทราบทีหลังว่าเรือนี้อนุญาตให้โดยสารได้ไม่เกินลำละ 8 คน
3. ไม่ได้มีการนำเสื้อชูชีพมาให้ผู้โดยสารใส่
4. เรือแล่นออกไปได้ซัก 2 นาที แล่นเข้าไปในป่าลึกและมืดมาก ดูได้จากภาพด้านบน
5. น้ำเข้ามาในเรือ ผมสัมผัสได้คนแรก ผมตะโกนบอกทุกคนว่าน้ำเข้าเรือ
6. ระดับน้ำเข้ามาในเรืออย่างรวดเร็วภายในสามวินาที น้ำถึงเข้าเรือกว่า 80%
7. ผมบอกแม่ที่นั่งข้างๆว่าให้ใจเย็นๆนะ พวกเราว่ายน้ำเป็น ไม่ต้องกลัว เดี่ยวพอเรือจมทั้งลำแล้วให้ว่ายออกมาให้ห่างจากเรือแล้วจากคนอื่น คือผมกลัวว่าคนอื่นจะดึงแม่จมน้ำลงไปด้วย
8. พอเรือจม ผมว่ายออกมาให้ไกลจากเรือ เพื่อจะได้เห็นทุกคน ปรากฏแม่ผมไม่ยอมว่ายออกมาจากฝูงคน แต่ดันพยายามว่ายไปช่วยคนอื่น
9. ผมตะโกนถามทุกคน ใครว่ายน้ำไม่เป็นบ้าง ปรากฏไม่มีใครตอบ และไม่มีใครร้องขอความช่วยเหลือ
10. ผมว่ายกลับเข้าไปหาแม่ เพื่อจะลากแม่เข้าฝั่ง แม่ดันบอกว่าให้ไปช่วยคนอื่น เค้าว่ายน้ำเป็น ไปช่วยคนอื่นก่อน
11. ผมมองไปที่ฝั่งเห็นคนขับเรือโกยขึ้นบกไปแล้วขณะที่ผู้โดยสารทั้งหมดอยู่กลางคลอง
12. ผมไปลากคนเข้าฝั่งทีละคน คือบางคนพอลอยตัวได้ แต่ว่ายไม่เป็น และกำลังจะหมดแรง
13. ระหว่างที่ลากคนอื่น ผมก็ระแวง เพราะแม่ยังว่ายไม่ขึ้นฝั่งซะที ผมลากคนอื่นไปหันไปดูแม่ไป จนได้ยินเสียงแม่ตะโกนว่า "หมดแรง"
14. ผมทิ้งคนที่ลากอยู่จวนจะถึงฝั่งแล้วว่ายออกไปกลางคลองไปลากแม่ออกมา
15. แม่เริ่มช่วยตัวเองได้ เลยไล่ให้ผมไปช่วยผู้หญิงอีกคนที่บอกว่าว่ายน้ำไม่เป็น
16. ตอนผมเห็นผู้หญิงคนนั้นคือหัวจมลงไปในน้ำแล้ว ผมรีบว่ายเข้าไปคว้า พอคว้าได้ปุ๊ป เธอกระโดดล็อคคอผม และผมก็ทรุดลงทันที (อัพเดท ผู้หญิงในข้อนี้มาตอบแล้วที่ คห 83-3 นะครับ)
17. ผมพยายามดุให้ผู้หญิงคนนั้นได้สติว่าอย่าล็อคคอผม ผมหายใจไม่ออก แต่ไม่ได้ผล ผมจมลงไปและสำลัก กลืนน้ำคลองเข้าไปปริมาณมากพอสมควร
18. ผมตะโกนบอกแม่ว่าผมหมดแรงแล้ว เพราะมันจุกน้ำคลองจริงๆ
19. ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายดันตัวเองออกมาจากผู้หญิงคนนั้น แล้วค่อยใช้แขนจูงเข้าฝั่งแทน โชคดีที่น้ำตรงนั้นใกล้ฝั่งแล้ว ลากต่อไปอีก 5-10 เมตรผมก็ยืนถึง
20. พอขึ้นบกมาได้ครบทุกคน ผมให้ทุกคนดูว่าเพื่อนตัวเองมีใครหายไปรึเปล่า ปรากฏว่าอยู่ครบหมด ทุกคนหมดแรงกันจริงๆ ผมเลยให้รออยู่ตรงนี้ก่อน
21. ผมวิ่งจากจุดที่เรือจมห่างจากรีสอร์ทประมาณ 500 เมตรไปที่แผนกต้อนรับลูกค้า แจ้งเหตุฉุกเฉิน และขอให้เอารถไปรับผู้ประสบเหตุ
22. ไม่มีใครเห็นคนขับเรืออีกเลยตั้งแต่เรือจม คือเขาหายไปไวมาก ขึ้นบกไปคนแรกนึกว่าจะไปตามคนมาข่วย ปล่าวเลย หายไปไหนก็ไม่รู้มัน
23. ทรัพย์สินที่นักท่องเที่ยวพกไปก็เสียหายไปตามระเบียบ
เช้าวันต่อมา ผมกลับไปที่จุดเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อดำลงไปถ่ายรูปภาพเรือก่อนที่ทางรีสอร์ทจะมากู้ซากขึ้นไปตอนสายๆ
อันนี้คือจบในส่วนของเหตุการณ์เรือจมแล้วนะครับ
เหตุการณ์หลังจากนั้นคือ วันต่อมา ผมสอบถามพนักงานว่าวันนี้มีชมหิ่งห้อยไหม พนักงานบอกว่ามี ผมจึงไปดูที่เรือตอนขากลับจากชมหิ่งห้อยประมาณสองทุ่มกว่าๆ ปรากฏว่าล่องเรือชมหิ่งห้อยยังคงเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวดังเดิมตามปรกติจริงๆ ใช้เรือแบบเดิม บรรจุผู้โดยสารเกินจำนวนเหมือนเดิม
ผมเรียกผู้จัดการในส่วนที่ดูแลมาสอบถามว่าทำไมยังจัดเรือชมหิ่งห้อยอีก ผู้จัดการแจ้งว่า เราได้เปลี่ยนเรือใหม่แล้ว (คือเปลี่ยนเป็นเรืออีกลำ ที่เป็นแบบเดียวกัน) ผู้จัดการบอกว่ารับประกันได้ คำถามคือ อะไรคือการรับประกัน ในเมื่อไม่มีการปรับปรุงความปลอดภัยใดๆเลย ผมบอกผู้จัดการไปแล้วว่า เหตุการณ์วันที่เรือจม ผมไม่โทษคุณนะ เพราะคุณไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ในวันต่อมาหลังจากเกิดเรื่อง ทำไมคุณยังจัดให้มีล่องเรือชมหิ่งห้อยเหมือนเดิมอีกโดยไม่แก้ไขอะไรเลย ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมควรโทษคุณดีรึเปล่าถ้ามักง่ายแบบนี้
คือผมเตือนหลายอย่าง แล้วผมก็บอกด้วยว่าผมมีวีดีโอ มีรูปภาพ มีหลักฐานขณะเกิดเหตุการณ์ ผมต้องการแค่ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ให้จัดการแก้ไขซะ ถ้าผมเห็นว่าดีแล้ว ผมก็จะไม่ต้องลงมือทำอะไรเอง
เนื้อหาทั้งหมด ผมถ่ายทอดเฉพาะที่มีปัญหาเท่านั้นนะครับ คือการบริการล่องเรือชมหิ่งห้อย ส่วนบริการด้านอื่นของรีสอร์ทเป็นไปตามมาตรฐานปรกติครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
อัพเดทครั้งที่ 1.
- ความเห็นที่ 83 ได้รับการติดต่อจากทางรีสอร์ทเป็นครั้งแรกตั้งแต่เหตุการณ์เรือจม
- ความเห็นที่ 83-3 มีผู้ร่วมในเหตุการณ์เรือจมเข้ามาแสดงตัว 1 ท่าน
อัพเดทครั้งที่ 2.
- ความเห็นที่ 136 ทางรีสอร์ทได้เข้ามาแสดงตัว
แชร์ประสบการณ์เสี่ยงตาย+เตือนอันตรายจากการล่องเรือชมหิ่งห้อยที่เกาะช้าง ของ aana resort (มีวีดีโอบันทึกเหตุการณ์)
ผมขอให้ปรับปรุงความปลอดภัยของการให้บริการเรือชมหิ่งห้อย แต่ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม ไม่มีการปรับปรุงใดๆ ผมเตือนทางรีสอร์ทแล้วว่า ถ้าคุณไม่แก้ไข ไม่ตักเตือนนักท่องเที่ยวให้ทราบถึงอันตราย ผมจะมาเตือนเอง
ผ่านมาแล้วกว่า 1 สัปดาห์ ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงและรายงานความคืบหน้าใดๆ ผมจึงต้องมาตั้งกระทู้นี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่านทุกท่านครับ
เริ่มต้นจากวีดีโอก่อนนะครับ ความยาวนาทีเศษๆ ภาพดูไม่รู้เรื่องนะครับ เนื่องจากมืดมากและส่วนใหญ่จมอยู่ในน้ำครับ
นี่คือวีดีโอเหตุการณ์เรือล่มที่ผมบันทึกเอาไว้ได้(โดยบังเอิญ) ขณะที่เรือกำลังจม วันที่ 10 สิงหาคม 2557 เวลา 20.00 น (โดยประมาณ) มีผู้โดยสารบนเรือ 12 คน
กลับมาเปิดดูอีกทีก็ยังรู้สึกสะพรึงไม่หาย เพราะมันอยู่กับความเป็นความตายจริงๆ
คุณลองดูแล้วจะเห็นว่าเรือจมเร็วมาก มีเวลาให้คิด ตัดสินใจไม่ถึง 5 วินาที น้ำในคลองก็ลึกมิดหัว ท้องฟ้าก็มืดสนิท มองแทบไม่เห็นอะไร ไม่มีใครมาช่วย ไม่มีใครเห็นพวกเรา เรือก็ล่มอยู่ในบริเวณที่รกร้าง ไม่มีผู้คนอาศัยอยู่
รอดกลับมาได้ครบทุกคนนี้ปาฏิหาริย์มากๆ ถ้าปัจจัยในเหตุการณ์เปลี่ยนไปแม้แต่นิดเดียว ตอนจบอาจกลายเป็นอีกแบบไปเลย
#######################################################
ส่วนอันนี้เป็นเนื้อหาที่ผมบรรยายเหตุการณ์โดยละเอียดเอาไว้ในเฟสบุ้คตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุ เป็นการบรรยายแบบละเอียด ขอก๊อปมาแปะเลยนะครับ
ก่อนอื่นอธิบายก่อนเลย ผมกำลังล่องเรือไปดูหิ่งห้อย ภาพนี้คือภาพที่ผมถ่ายเอาไว้เป็นภาพสุดท้าย ก่อนที่เรือจะจม (จริงๆขณะที่เรือจม ผมกำลังถ่ายวีดีโออยู่ กล้องผมกันน้ำ ดำน้ำได้ แต่เน็ตที่นี่ช้า(เกาะช้าง) เดี๋ยวกลับ กทม แล้วจะอัพย้อนหลัง)
คือเรือจมครับ...และมันมืดมากครับ มองไม่เห็นอะไรเลย จมเวลาราวๆเกือบสองทุ่ม กลางคลองพร้าว คลองที่น้ำลึกมิดหัว. ผมจะเล่าเหตุการณ์เป็นข้อๆนะ
1. ทุกคนลงเรือ ลักษณะเรือคือเป็นเรือชาวบ้าน
2. คนขับเรือให้ผู้โดยสารนั่งแถวละ 4 คน รวมทั้งเรือที่บรรทุกคือ 12 คน
ซึ่งมาทราบทีหลังว่าเรือนี้อนุญาตให้โดยสารได้ไม่เกินลำละ 8 คน
3. ไม่ได้มีการนำเสื้อชูชีพมาให้ผู้โดยสารใส่
4. เรือแล่นออกไปได้ซัก 2 นาที แล่นเข้าไปในป่าลึกและมืดมาก ดูได้จากภาพด้านบน
5. น้ำเข้ามาในเรือ ผมสัมผัสได้คนแรก ผมตะโกนบอกทุกคนว่าน้ำเข้าเรือ
6. ระดับน้ำเข้ามาในเรืออย่างรวดเร็วภายในสามวินาที น้ำถึงเข้าเรือกว่า 80%
7. ผมบอกแม่ที่นั่งข้างๆว่าให้ใจเย็นๆนะ พวกเราว่ายน้ำเป็น ไม่ต้องกลัว เดี่ยวพอเรือจมทั้งลำแล้วให้ว่ายออกมาให้ห่างจากเรือแล้วจากคนอื่น คือผมกลัวว่าคนอื่นจะดึงแม่จมน้ำลงไปด้วย
8. พอเรือจม ผมว่ายออกมาให้ไกลจากเรือ เพื่อจะได้เห็นทุกคน ปรากฏแม่ผมไม่ยอมว่ายออกมาจากฝูงคน แต่ดันพยายามว่ายไปช่วยคนอื่น
9. ผมตะโกนถามทุกคน ใครว่ายน้ำไม่เป็นบ้าง ปรากฏไม่มีใครตอบ และไม่มีใครร้องขอความช่วยเหลือ
10. ผมว่ายกลับเข้าไปหาแม่ เพื่อจะลากแม่เข้าฝั่ง แม่ดันบอกว่าให้ไปช่วยคนอื่น เค้าว่ายน้ำเป็น ไปช่วยคนอื่นก่อน
11. ผมมองไปที่ฝั่งเห็นคนขับเรือโกยขึ้นบกไปแล้วขณะที่ผู้โดยสารทั้งหมดอยู่กลางคลอง
12. ผมไปลากคนเข้าฝั่งทีละคน คือบางคนพอลอยตัวได้ แต่ว่ายไม่เป็น และกำลังจะหมดแรง
13. ระหว่างที่ลากคนอื่น ผมก็ระแวง เพราะแม่ยังว่ายไม่ขึ้นฝั่งซะที ผมลากคนอื่นไปหันไปดูแม่ไป จนได้ยินเสียงแม่ตะโกนว่า "หมดแรง"
14. ผมทิ้งคนที่ลากอยู่จวนจะถึงฝั่งแล้วว่ายออกไปกลางคลองไปลากแม่ออกมา
15. แม่เริ่มช่วยตัวเองได้ เลยไล่ให้ผมไปช่วยผู้หญิงอีกคนที่บอกว่าว่ายน้ำไม่เป็น
16. ตอนผมเห็นผู้หญิงคนนั้นคือหัวจมลงไปในน้ำแล้ว ผมรีบว่ายเข้าไปคว้า พอคว้าได้ปุ๊ป เธอกระโดดล็อคคอผม และผมก็ทรุดลงทันที (อัพเดท ผู้หญิงในข้อนี้มาตอบแล้วที่ คห 83-3 นะครับ)
17. ผมพยายามดุให้ผู้หญิงคนนั้นได้สติว่าอย่าล็อคคอผม ผมหายใจไม่ออก แต่ไม่ได้ผล ผมจมลงไปและสำลัก กลืนน้ำคลองเข้าไปปริมาณมากพอสมควร
18. ผมตะโกนบอกแม่ว่าผมหมดแรงแล้ว เพราะมันจุกน้ำคลองจริงๆ
19. ผมใช้แรงเฮือกสุดท้ายดันตัวเองออกมาจากผู้หญิงคนนั้น แล้วค่อยใช้แขนจูงเข้าฝั่งแทน โชคดีที่น้ำตรงนั้นใกล้ฝั่งแล้ว ลากต่อไปอีก 5-10 เมตรผมก็ยืนถึง
20. พอขึ้นบกมาได้ครบทุกคน ผมให้ทุกคนดูว่าเพื่อนตัวเองมีใครหายไปรึเปล่า ปรากฏว่าอยู่ครบหมด ทุกคนหมดแรงกันจริงๆ ผมเลยให้รออยู่ตรงนี้ก่อน
21. ผมวิ่งจากจุดที่เรือจมห่างจากรีสอร์ทประมาณ 500 เมตรไปที่แผนกต้อนรับลูกค้า แจ้งเหตุฉุกเฉิน และขอให้เอารถไปรับผู้ประสบเหตุ
22. ไม่มีใครเห็นคนขับเรืออีกเลยตั้งแต่เรือจม คือเขาหายไปไวมาก ขึ้นบกไปคนแรกนึกว่าจะไปตามคนมาข่วย ปล่าวเลย หายไปไหนก็ไม่รู้มัน
23. ทรัพย์สินที่นักท่องเที่ยวพกไปก็เสียหายไปตามระเบียบ
เช้าวันต่อมา ผมกลับไปที่จุดเกิดเหตุอีกครั้งเพื่อดำลงไปถ่ายรูปภาพเรือก่อนที่ทางรีสอร์ทจะมากู้ซากขึ้นไปตอนสายๆ
อันนี้คือจบในส่วนของเหตุการณ์เรือจมแล้วนะครับ
เหตุการณ์หลังจากนั้นคือ วันต่อมา ผมสอบถามพนักงานว่าวันนี้มีชมหิ่งห้อยไหม พนักงานบอกว่ามี ผมจึงไปดูที่เรือตอนขากลับจากชมหิ่งห้อยประมาณสองทุ่มกว่าๆ ปรากฏว่าล่องเรือชมหิ่งห้อยยังคงเปิดให้บริการนักท่องเที่ยวดังเดิมตามปรกติจริงๆ ใช้เรือแบบเดิม บรรจุผู้โดยสารเกินจำนวนเหมือนเดิม
ผมเรียกผู้จัดการในส่วนที่ดูแลมาสอบถามว่าทำไมยังจัดเรือชมหิ่งห้อยอีก ผู้จัดการแจ้งว่า เราได้เปลี่ยนเรือใหม่แล้ว (คือเปลี่ยนเป็นเรืออีกลำ ที่เป็นแบบเดียวกัน) ผู้จัดการบอกว่ารับประกันได้ คำถามคือ อะไรคือการรับประกัน ในเมื่อไม่มีการปรับปรุงความปลอดภัยใดๆเลย ผมบอกผู้จัดการไปแล้วว่า เหตุการณ์วันที่เรือจม ผมไม่โทษคุณนะ เพราะคุณไม่ได้อยู่ตรงนั้น แต่ในวันต่อมาหลังจากเกิดเรื่อง ทำไมคุณยังจัดให้มีล่องเรือชมหิ่งห้อยเหมือนเดิมอีกโดยไม่แก้ไขอะไรเลย ตอนนี้ผมเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าผมควรโทษคุณดีรึเปล่าถ้ามักง่ายแบบนี้
คือผมเตือนหลายอย่าง แล้วผมก็บอกด้วยว่าผมมีวีดีโอ มีรูปภาพ มีหลักฐานขณะเกิดเหตุการณ์ ผมต้องการแค่ให้คำนึงถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ให้จัดการแก้ไขซะ ถ้าผมเห็นว่าดีแล้ว ผมก็จะไม่ต้องลงมือทำอะไรเอง
เนื้อหาทั้งหมด ผมถ่ายทอดเฉพาะที่มีปัญหาเท่านั้นนะครับ คือการบริการล่องเรือชมหิ่งห้อย ส่วนบริการด้านอื่นของรีสอร์ทเป็นไปตามมาตรฐานปรกติครับ ไม่ได้มีปัญหาอะไร ขอจบการรายงานเพียงเท่านี้ สวัสดีครับ
อัพเดทครั้งที่ 1.
- ความเห็นที่ 83 ได้รับการติดต่อจากทางรีสอร์ทเป็นครั้งแรกตั้งแต่เหตุการณ์เรือจม
- ความเห็นที่ 83-3 มีผู้ร่วมในเหตุการณ์เรือจมเข้ามาแสดงตัว 1 ท่าน
อัพเดทครั้งที่ 2.
- ความเห็นที่ 136 ทางรีสอร์ทได้เข้ามาแสดงตัว