ผลสอบกองทัพเรือ กรณีเรือล่ม ออกแล้ว มีคำถาม?

1 เหตุใดกัปตัน ไม่เทียบท่าที่ประจวบ ตอนนั้นน้ำเข้าเรือแล้ว ตอนนั้นก็ติดต่อท่าเรือที่ประจวบแล้ว ท่าเรือโอเครแล้ว  แต่ก็เปลี่ยนไปเทียบท่าสัตหีบซะอย่างงั้น ก่อนหน้านี้ มีข่าวว่า มีคำสั่งจากผู้บัญชาการบนฝั่งให้เรือต้องกลับสัตหีบ อันนี้จริงป่าว พอผลสอบออกมาตรงนี้หายไป กลายเป็นกัปตันคิดเองทั้งหมด คือถ้าขัดคำสั่งทางทหารโทษถึงประหาร เมื่อเทียบท่าประจวบ กัปตันก็ขึ้นแท่นรอประหารเลย หนึ่งชีวิตแลกลูกเรือ
         สรุปว่าไม่มีใครบนฝั่งมาสั่งการใช่มั้ย เปิดเผยบันทึกการเดินเรือได้ไหม?
2 รอยแตกที่ตัวเรือ หรือ หัวเรือ เกิดจากอะไร ผลสอบ น้ำเข้า เรือเสียการทรงตัว และ เครื่องยนต์ดับ ผลสอบโทษกัปตันเหตุ ไม่เทียบเรือที่ประจวบ นำเรือฝ่าคลื่นลมเกินระดับที่เรือจะทนไหว ประเมินความเสียหายเรือน้อยกว่าความเป็นจริง (โทษกัปตันอีกละ) เดี๋ยวนะ แล้วรอบแตกตัวเรือเกิดจากอะไร? ชนปลาฉลาม? ตรงนี้เมกาเค้าสงสัย เค้าลงไปเก็บหลักฐานแล้ว แล้วเครื่องยนต์เรือใช่ปัญหามั้ย ดับก่อนน้ำเข้าหรือเป่ลา?
          สรุปว่าเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงที่ไม่ได้มาตรฐานหรือเปล่า?
3 เมกา น่าจะเก็บหลักฐาน ออกรายงานชันสูตรสาเหตุเรือล่มแล้ว ใครมีเวอร์ชั่นของอเมริกันบ้าง เค้าเผยแพร่ยัง
4 ถ้าเรือเทียบท่าที่ประจวบ จะเป็นอย่างไร คลื่นลมบริเวณหน้าท่าเรือมีความรุนแรง ซึ่งท่าเรือไม่สามารถเทียบท่า และไม่มีเรือลากจูงสนับสนุนการเทียบท่า เป็นเช่นนี้จริงหรือเปล่า? เพราะวันเกิดเหตุ รูปจากแชตไลน์ ท่าเรือบางสะพาน จ.ประจวบ ลมน้อย มีคลื่นไม่มาก ท่าเรือก็โอเครนะ
5 รูน้ำเข้า
    5.1 แผ่นกันคลื่น หน้าป้อมปืน 76 มม. ยุบตัวเพราะเจอคลื่นแรง จนดึงแผ่นเหล็กบนดาดฟ้าเปิดทำให้เกิดเป็นช่องรูใหญ่ พื้นที่ 1 ตารางนิ้ว
    5.2 ความเสียหายของป้อมปืน 76 มม. เนื่องจากโดนวัตถุของแข็งกระแทก บอกไม่ได้ว่าคืออะไร เป็นช่องที่ทำให้น้ำเข้าเรือได้
    5.3 รูทะลุบริเวณกงที่ 35 กราบซ้าย จำนวน 2 แห่ง สูงจากน้ำ 5 ฟุต โดนวัตถุภายนอกกระแทกเข้าไป ไม่รู้ว่ากระแทกจากอะไร ทำเป็นรอยกว้าง
          ยาว 1 ฟุต  กว้าง 3-4 นิ้ว มีพื้นที่ 80 ตารางนิ้ว
          สรุปว่า คลื่นกระแทกหนึ่งที่ อีกสองที่ชนหรืออะไรมาชน บอกไม่ได้
6 เครื่องขัดข้องนั้นซึ่งกรณีที่เรือเจอคลื่นสูง เนื่องจากน้ำมันที่อยู่ในถังสกปรก ไปชำระเศษฝุ่น อุดตันหัวฉีด ส่งผลให้หัวฉีดบางส่วนใช้การไม่ได้ อันนี้ไม่เกี่ยวกับการซ่อมบำรุงใช่ไหม? แต่เดี๋ยวก่อนกู้เครื่องยนต์ขึ้นมาแล้วหรือ?
7 ชูชีพตามรายงานว่ามีครบ แต่สวมช้าไป ทำไมไม่สั่งให้สวมตั้งแต่ก่อนถึงประจวบ? กล้าขัดใจนายกันหรือ? แต่ปลดแพชูชีพไม่ทันนี่เข้าใจ แต่เรือมีปัญหา คนบนเรือก็ใส่ชูชีพกันหมดแล้วมั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรือแบบไหน อันนี้ติดใจอยู่ มีอยู่บนเรือแต่เกิดเหตุไม่สามารถเอามาใช้ได้ แบบนี้เรียกว่ามีครบได้หรือ?
            
รบกวนเพื่อนๆช่วยชี้แนะด้วยจ้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 16
ลองอ่านความเห็นจาก thaiarmedforce ดูครับ
_________________________________
ต่อไปนี้คือความเห็นของ TAF
1. จริง ๆ แม้ว่าจะกลายเป็นข่าวลือที่ออกมาก่อนหน้านี้หลายเดือนถูกต้องทั้งหมด คือผู้การเรือจะเป็นคนผิดคนเดียว แต่โดยรวมก็ถือว่ากองทัพเรือแถลงได้ดี มีการไล่เรียง Timeline การเกิดเหตการณ์ได้ค่อนข้างดี มีข้อมูลอ้างอิงทางวิทยาศาสตร์และยุทธการในด้านสาเหตุการจมของเรือที่ค่อนข้างสมเหตุสมผล ตรงส่วนนี้ถือว่าทำได้ดี
ส่วนที่ไม่ค่อยเห็นด้วยคือ บทสรุปทั้งหมดกลายเป็นผู้บังคับการเรือมีความผิดคนเดียว ซึ่งโดยรูปการณ์ ผู้บังคับการเรือตัดสินใจภายใต้ข้อมูลที่จำกัด เรามองว่าถ้าผู้บังคับการเรือจะมีความผิดก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ผู้บังคับการเรือเพียงคนเดียว
2. แม้ว่ากองทัพเรือจะย้ำว่าเรือไม่มีปัญหาการซ่อมบำรุง และปฏิบัติงานตามมาตรฐาน แต่เราคิดว่าสิ่งที่กองทัพเรือแถลงมานั้นค่อนข้างชัดเจนว่าเรือมีปัญหาด้านการซ่อมบำรุง หรืออย่างน้อยกองทัพเรือมีปัญหาด้านกระบวนการการตรวจสอบความพร้อมของเรือ
เพราะชัดเจนว่าปัญหาใหญ่สุด และเป็นห่วงโซ่ของเหตุการณ์แรกที่ทำให้หายนะครั้งนี้เกิดขึ้นก็คือการที่ประตูทางกราบซ้ายและฝา Hatch หลังป้อมปืนเปิดออกและปิดได้ไม่สนิท รวมถึงพบรอยฉีกขาดที่บริเวณโครงกันคลื่น
ซึ่งชัดเจนว่าถ้าเรือได้รับการดูแลและซ่อมทำอย่างเหมาะสม ประตูต่าง ๆ ที่ถือเป็นชิ้นส่วนวิกฤตของเรือก็น่าจะทำงานได้ดี หรืออย่างน้อยถ้าเรือมีกระบวนการตรวจสอบเรือก่อนที่จะออกเรืออย่างเหมาะสม เราก็อาจจะตรวจพบปัญหานี้ได้ตั้งแต่ต้นและแก้ไขก่อนนำเรือออก
ดังนั้นในส่วนนี้เราไม่เห็นด้วยกับกองทัพเรือ และชัดเจนว่ากองทัพเรือมีปัญหาด้านการซ่อมบำรุงหรือกระบวนการตรวจสอบเรือ ซึ่งการจะบอกว่าเรือเข้าซ่อมใหญ่มาแล้วปฏิบัติงานได้ในช่วงสองสามปีที่ผ่านมานั้นไม่ใช่เหตุผลที่จะยกมาอ้างได้ และความเก่าของเรือก็ไม่ใช่เหตุผลที่จะยกมาอ้างได้เช่นกัน เพราะถ้าเรือเก่าจนมีสภาพไม่พร้อมปฏิบัติงานแบบนี้ก็แปลว่าเรือไม่ควรออกจากท่ามา แต่จริง ๆ แล้วเรืออายุ 36 ปี แม้จะเก่า แต่เรือหลายลำของกองทัพเรือมีสภาพเก่ากว่านี้มาก ถ้าความเก่าคือสาเหตุ แปลว่าเราไม่ควรใช้เรือที่เก่ากว่านี้ทั้งหมดเลยใช่หรือไม่
------------------------
3. การที่บอกว่าเรือมีชูชีพเพียงพอ คือมีถึง 120 ตัว แต่เรือประกาศหลายครั้งให้กำลังพลที่ขึ้นเรือมารับกันหลายรอบแต่ก็มารับกันไม่ครบจนเมื่อเกิดเหตุหลายคนไม่มีชูชีพเพราะอยู่ข้างใต้เรือไปแล้ว สิ่งนี้จะบอกว่าคนไทยก็เป็นแบบนี้แบบที่ท่านผู้บัญชาการทหารเรือพูดไม่ได้เด็ดขาด กำลังพลที่ได้รับความไว้วางใจให้ถืออาวุธและใช้งานอาวุธระดับหลายพันล้านบาทจะคิดแบบนี้ไม่ได้
ข้อเท็จจริงนี้สะท้อนให้เห็นว่าแม้กองทัพเรือจะมีกระบวนการความปลอดภัยที่เหมาะสม แต่การกำกับดูแลไม่ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งไม่มีกลไกในการบังคับใช้มาตรการหรือกระบวนการที่ออกแบบมา ดังนั้นนี่คือปัญหาด้านมาตรฐานการปฏิบัติงานที่ตกต่ำและไม่เป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น
ทั้งที่ถ้ากำลังพลไม่มารับชูชีพ ประจำเรือก็ควรจะช่วยกวดขันดูแล ซึ่งกรณีนี้จะโทษแต่ผู้บังคับการเรือก็ได้เพราะเป็นความผิดของผู้การเรือแน่นอน แต่ถ้าถอยออกมาจะพบว่า โทษแต่บุคคลไปไม่เกิดประโยชน์ เพราะมันแสดงให้เห็นว่ากองทัพเรือไม่มีระบบที่ดีที่จะบังคับใช้ขั้นตอนที่ออกแบบมาต่างหาก
4. การที่ระบุว่าอากาศในตอนนั้นเป็น Sea State 7 ซึ่งถือว่ารุนแรงและสูงกว่าคุณสมบัติของเรือที่รองรับได้แค่ Sea State 5 นั้น อยากได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าที่บอกว่าเรือรองรับได้ที่ Sea State 5 นั้น จริง ๆ แล้วเป็นแค่ข้อจำกัดในการปฏิบัติการหรือไม่ นั่นคือเรืออาจจะปฏิบัติการไม่ได้ที่ Sea State ที่สูงกว่า 5 แต่ก็ไม่ควรจะหมายความว่าเรือจะจมลงที่ Sea State สูงกว่า 5 ยิ่งเมื่อพิจารณาว่าเรือลำนี้แม้จะมีขนาดเล็ก แต่ออกแบบมาให้ปฏิบัติงานในคลื่นลมของมหาสมุทรแปซิฟิก ก็ยิ่งคิดว่าจริง ๆ เรื่องนี้อาจไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด
และที่สำคัญ ถึงแม้จะเป็นเหตุผล แต่ถ้าช่วงนั้นเกิดอากาศเปลี่ยนแปลงจนเป็น Sea State 7 ก็ไม่ควรจะถือว่าเป็นแค่ความโชคร้ายและโทษลมโทษฝน แต่ควรจะต้องกลับมาดูว่า เพราะอะไรกรมอุทกศาสตร์จึงไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่าจะเกิดสภาวะอากาศเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ หรือถ้าคาดการณ์ได้ในภายหลัง ทำไมไม่มีกระบวนการแจ้งเตือนตั้งแต่เนิ่น ๆ ซึ่งอันนี้เป็นสิ่งที่ต้องมาดูว่าจะปรับปรุงกระบวนการอย่างไร แต่ไม่มีอยู่ในรายงานการสอบสวนและไม่มีการพูดถึงเลย
------------------------
5. การที่เรือออกโดยใช้กำลังพล 75 นายแทนที่จะเป็น 100 นายเนื่องจากผู้บังคับการเรือพิจารณาแล้วว่าออกเรือได้ แต่พอผลเป็นแบบนี้ก็แน่นอนว่าผู้บังคับการเรือต้องรับผิดชอบ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยสาเหตุของปัญหานี้ก็คือ การพยายามดั้นด้นไปงานเสด็จเตี่ยทั้งที่ไม่จำเป็น ซึ่งงานพิธีการแบบนี้ควรยกเลิกได้ถ้าสภาพอากาศไม่ดี (แต่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่กองทัพเรือยอมรับว่าไปงานเสด็จเตี่ยจริง)
และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทุกอย่างจะไม่เกิดการแก้ไข ถ้าการสอบสวนละเลยที่จะมองไปถึงต้นเหตุของปัญหาตือการขาดแคลนกำลังพลของกองทัพเรือที่ไม่มีการบรรจุคนลงในตำแหน่งหลักในเรือ กำลังพลต้องพบกับความกดดันในการรับมือหลายหน้าที่เพราะขาดคน แต่แม้จะทำงานหนักก็ไม่สามารถเติบโตและเลื่อนยศได้อย่างที่ควรจะเป็น ทำให้ขาดขวัญกำลังใจในการทำงาน และส่งผลต่อมาตรฐานในการปฏิบัติงานในที่สุด
ตรงนี้ก็ไม่มีการพูดถึงในรายงานการสอบสวน และไม่ได้รับการเปลี่ยวแล ซึ่งเราเห็นว่านี่เป็นหนึ่งในสาเหตุที่สำคัญสาเหตุหนึ่งของเหตุการณ์นี้
6 .จริง ๆ ยังมีอีกหลายประเด็น แต่เดี๋ยวจะยาวไป เราขอสรุปตรงนี้ว่านี่คือปัญหาด้านการกำกับดูแล ปัญหาการบริหาร ปัญหานโยบาย และปัญหามาตรฐานในการปฏิบัติงานที่เด่นชัดมาก ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่ากองทัพเรือมีปัญหาร้ายแรงและขีดความสามารถตกต่ำลงอย่างน่าใจหาย แต่เราสามารถแก้ไขได้ถ้าเรารับรู้ว่ามีปัญหาและปรับปรุงกระบวนการอย่างจริงใจ
แต่การที่สรุปว่าไม่มีใครผิดยกเว้นผู้บังคับการเรือถือเป็นการกลบปัญหาอื่นทั้งหมดไว้ใต้พรม และตัดตอนการรับผิดชอบของผู้บัญชาการหลาย ๆ คนออกไป โดยไม่มีการพูดถึงหรือแม้แต่การระบุถึงสิ่งที่ผู้บัญชาการอื่น ๆ ควรจะทำได้ดีกว่านี้
หากผู้บังคับการเรือเป็นศูนย์กลางความหายนะได้ขนาดนี้ เราสร้างคน ฝึกคน เตรียมคน รวมถึงคัดเลือกคนมาเป็นผู้การเรือชั้นหนึ่งได้อย่างไร แต่ถ้าไม่ใช่ ก็แปลว่าควรจะมีผู้รับผิดชอบมากกว่านี้หรือไม่ เพราะมันก็ดูไม่สมเหตุสมผล ที่ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นจะต้องเป็นผู้บังคับการเรือต้องรับผิดชอบคนเดียว
สิ่งนี้มันอาจสะท้อนว่า ผู้ใหญ่ในกองทัพเรือพร้อมที่จะให้รุ่นน้องรับผิดคนเดียวหรือไม่? หรือต่อไปทหารเรือออกไปปฏิบัติหน้าที่อาจจะต้องตระหนักว่า ถ้ามีปัญหาเกิดขึ้น สุดท้ายผู้ใหญ่จะโทษแต่ท่าน
แล้วต่อไปใครจะตั้งใจทำงานให้กับกองทัพเรือ?
------------------------
7. โดยรวมมีหลายอย่างที่เราชื่นชม แต่มีหลายอย่างที่เราผิดหวัง แน่นอนผู้บังคับการเรือต้องรับผิดชอบเพราะมีการตัดสินใจผิดพลาดบางประการ แต่ไม่ควรจะเป็นคนรับผิดชอบเพียงคนเดียว และการมุ่งลงโทษคนจะไม่ทำให้เกิดการพัฒนาและป้องกันเหตุในลักษณะนี้ในอนาคตได้ ถ้ายังไม่มีการแก้ปัญหามาตรฐานการปฏิบัติงาน วัฒนธรรมองค์กร การบริหาร นโยบาย รวมถึงโครงสร้างต่าง ๆ
แต่สุดท้าย ด้วยเนื้อหาของการแถลงในวันนี้ ตามมาตรฐานที่ควรจะเป็นแล้ว ควรจะถือว่าเป็นแค่รายงานการสอบสวนเบื้องต้นหรือ Preliminary Report เท่านั้นด้วยซ้ำ ไม่ควรจะถือว่าเป็นผลการสอบสวนสุดท้ายหรือ Final Report เลย เพราะมีแต่การค้นหาสาเหตุ แต่ยังไม่มีการค้นหาต้นเหตุและค้นหาวิธีการปรับปรุงและพัฒนา ซึ่งถือว่ากองทัพเรือควรปรับปรุงมาตรฐานการสอบสวนให้ดีกว่านี้
ดังนั้นเราขอสนับสนุน ถ้ากระทรวงกลาโหมหรือกรรมาธิการทหารจะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนอิสระเพิ่มเติมจากการที่กองทัพเรือสอบสวนกันภายในเองแบบนี้ โดยมีบุคคลภายนอกเข้ามาร่วมทำการสอบสวน เพื่อความโปร่งใสและเพื่อยกระดับมาตรฐานการสอบสวนให้สูงกว่านี้
อนึ่ง กองทัพเรือไม่ได้เปิดเผยรายงานผลการสอบสวนในครั้งนี้ แต่ผู้บัญชาการทหารเรือพูดในการแถลงข่าวว่าสามารถติดต่อมาขอข้อมูลและขอตัวรายงานได้ TAF จะพยายามติดต่อเพื่อนำรายงานฉบับเต็มมาให้ทุกท่านได้อ่านกันครับ

https://www.facebook.com/thaiarmedforce/posts/pfbid0LWyNUkr9oKGrmCTfYS1wNRX34JTMcArje1Zny3R21kFnofEBoRXyUnyK16Nb65d6l
ความคิดเห็นที่ 3
ควรมีคณะผู้สอบสวนภายนอกที่ไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพเรือทำคู่ขนานกันไปด้วยครับ เพื่อความโปร่งใส

ถ้าผู้สอบสวนยังเป็นของกองทัพเรือ จะมีคนไม่เชื่อแน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่