มักจะได้ยินเสมอๆเรื่องที่ รฟท ขาดทุนต่อเนื่องมายาวนาน
ว่า เพราะเก็บค่าโดยสารถูกจึงเป็นเหตุทำให้ รฟท ขาดทุน
... มันจริงไหม ??
.
เจาะขุมทรัพย์"รฟท." - "แลนด์ลอร์ด"ตัวจริง กับแผนปฏิรูป-ล้างหนี้ ...... ข่าวสดออนไลน์
"สร้อยทิพย์ ไตรสุทธิ์"..... ปลัดกระทรวงคมนาคม ระบุว่าจริงๆ แล้วการรถไฟฯ มีทรัพย์สินมากถึง 2 แสนล้าน
ขณะที่มีหนี้สิน 1 แสนล้าน ถือว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สินถึง 1 เท่าตัว
สำหรับรฟท.นั้น ถือว่าเป็นรัฐวิสาหกิจที่โชคดีเพราะมีที่ดินในมือจำนวนมหาศาล จาก
การพระราชทานของล้นเกล้าฯรัชกาลที่ 5 ซึ่งทรงก่อตั้งการรถไฟเพื่อบริการคนยากคนจน

พระองค์จึงพระราชทานที่ดินให้เป็นสมบัติของรฟท. เพื่อไว้ใช้หาประโยชน์มาชดเชยกับ
ค่าตั๋วที่ตั้งไว้ต่ำกว่าความเป็นจริง

น่าตระหนกว่ารฟท.ทำสัญญาเช่ามากกว่า 10,000 สัญญา
แต่รายได้ที่ได้รับกลับมานั้นน้อยมากเพียงปีละ 1,600 ล้านบาทเท่านั้น
"รถไฟต้องกลับไปทบทวนสัญญาเช่าที่ดินทั้งหมด แปลงไหนไม่เคยปรับขึ้นค่าเช่าเลยก็ต้องปรับ
แปลงไหนไม่ได้เก็บ ค่าเช่าก็ต้องเก็บ เชื่อว่าหากเอาจริงเอาจังในเรื่องนี้ รถไฟจะมีรายได้กลับมา
จำนวนมหาศาล ช่วยลดภาระขาดทุนได้อย่างแน่นอน"

ข้อมูล จาก : http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRRd05qUXdNalk1Tnc9PQ==&sectionid=

.....       .....

นั่นหมายถึงว่า รฟท ไม่จำเป็นต้องเก็บค่าโดยสารราคาสูงเพื่อให้ได้กำไร
แต่เก็บแค่เท่าที่ประชาชนทุกชนชั้น สามารถจ่ายเพื่อใช้บริการ รฟท ได้
และ รายได้ที่จะมาชดเชยจากการเก็บค่าโดยสารที่ต่ำเกินจริง ก็มาจาก
" ที่ดิน " ต่างหาก หาใช่ค่าโดยสารไม่ !!
ฉะนั้น ที่ดินย่อมหมายถึง " ทรัพย์สินมูลค่ามหาศาล " ที่ย่อมจะทำรายได้ให้ รฟท อย่างมหาศาลได้เช่นกัน
เพียงแค่ ถ้ามี " หัวคิด "
เช่นกัน การที่จะมีการนำ "ที่ดิน" ของประเทศไปแลกกับ "รถไฟและระบบ" นั้นควรจะพิจารณาให้รอบคอบ
ไม่ควรใช้อคติ หรือ การที่จะเอาแพ้เอาชนะคะคานกัน มาตัดสินใจ แต่ควรจะเป็นผลปะโยชน์ของชาติต่างหาก
ที่จะเป็นหลักสำคัญใการพิจารณาตัดสินใจ สั้นๆก็คือ ถ้าประเทศเราได้เปรียบ"เอา ถ้าเสียเปรียบ"อย่าเอา" .

.....       .....