การรถไฟแห่งประเทศไทยมีที่ดินทั้งสิ้น 233,860 ไร่ เป็นที่ดินในการใช้การเดินรถ จำนวน 198,674 ไร่ และเป็นที่ดินเพื่อหาประโยชน์เชิงพาณิชย์จำนวน 36,302 ไร่
ในจำนวนที่ดินเพื่อการหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ จำนวน 36,302 ไร่ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2,826 ไร่, เป็นสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 4,306 ไร่, สายตะวันออก จำนวน 4,952 ไร่, สายใต้ จำนวน 15,186 ไร่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดินในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีจำนวน 2,826 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธิน 47 ไร่ ย่านมักกะสัน 517 ไร่ บริเวณถนนรัชดาภิเษก บริเวณจตุจักร ซึ่งประกอบไปด้วยเจเจมอลล์และตลาดซันเดย์ ย่านแม่น้ำ (ท่าเรือ) บางซ่อน ย่านถนนรามคำแหง (คลองตัน-หัวหมาก)
การรถไฟแห่งประเทศไทยมีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่ดินเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 36,302 ไร่ มีรายได้เฉลี่ยเพียงแค่ปีละ 1,116 ล้านบาท
เฉลี่ยการรถไฟแห่งประเทศไทยมีรายได้จากค่าเช่าที่ดินเฉลี่ยไร่ละ 30,742 บาทต่อปี หรือไร่ละ 2,562 บาทต่อเดือน
คิดเป็นค่าเช่าแสนจะอัปลักษณ์เฉลี่ยตารางวาละ 6.40 บาทต่อเดือน!!!!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมถามว่า แล้วทำไม รฟท. ถึงไม่มีการปรับค่าเช่าที่ดินตรงนี้ให้เหมาะสมกับยุคนี้ ?
เซ็นทรัลลาดพร้าว เช่าที่ ปีละ 3 ล้านบาท กับเนื้อที่ 47 ไร่(75,200 ตร.ม.)
หารแล้ว เท่ากับ ตร.ม.ละ 40 บาท/ปี
หรือ เดือนละ 3.30 บาท/ตร.ม./เดือน (วินมอไซหน้าหมู่บ้านผมยังเช่าที่ 10 ตร.ม. เดือนละหมื่นบาทสร้างกระต๊อบวินเลยครับ)
นี่ยังไม่รวมการก่อสร้างอาคารที่มีหลายชั้น + ชั้นใต้ดินอีก (พลาซ่า 5 ชั้น , ดีพาร์ทเมนท์ 7 ชั้น)
จากข้อมูลในวิกิ บอกว่า มีพื้นที่ ประมาณ 180,000 ตร.ม.
ทางห้างได้ นำไปให้เช่าช่วงกับผู้ค้าในห้าง ในอัตรา ตร.ม.ละ 1500บาท ขึ้นไป / เดือน
คิดแค่ค่าเช่าอย่างเดียว เซ็นทรัลลาดพร้าว ได้กำไรจากการเช่าที่ 270 ล้านบาท/เดือน หรือ 3,240 ล้านบาท/ปี
แต่กลับจ่ายค่าเช่าให้ รฟท.ปีละ 3 ล้านบาทเท่านั้น (นี่ยังไม่รวมกำไรในด้านอื่นๆอีกคิดเฉพาะค่าเช่าอย่างเดียว)
ถามว่า ทำไม รฟท.ที่มีหนี้สินมหาศาล อ้างว่าไม่มีเงินปรับปรุงองค์การ ไม่มีเงินจ้างพนักงาน ขาดทุนเพราะ รถไฟฟรี ขาดทุนเพราะรถไฟชั้นสามมาตลอดร้อยปี ฯลฯ
เซ็นทรัล เช่าที่จากการรถไฟไทย เมื่อปี 2521 มีอายุสัญญาเช่า 30 ปี เท่ากับจะหมดอายุสัญญาแรกในปี 2551 ที่ผ่านมา
ทางบอร์ด รฟท.ไม่ขอต่อสัญญาไปอีก เพราะต้องการค่าตอบแทนที่สูงกว่าในสอดคล้องกับค่าครองชีพ
ทางเซ็นทรัล ก็ไม่ย่อท้อ รอจนกระทั่ง บอร์ดหมดอายุวาระ และมีบอร์ดชุดใหม่เข้ามาในปี 2552-2553
และได้ทำการต่อสัญญาเรียบร้อยไปอีก 20 ปี จะหมดสัญญาในปี 2571
ถามว่า ทำไม รัฐบาลในชุดปี 2552 ที่เข้ามาบริหาร ถึงได้ปล่อยให้ต่อสัญญาขาดทุนแบบนี้ได้อีก 20 ปี ?
ถ้ามีการปรับค่าสัญญาให้เหมาะสม จะเหมือนกับ มาบุญครอง ที่จ่ายค่าต่อสัญญากับทางจุฬากว่า 2 หมื่นล้านบาท
แต่ทางเซ็นทรัล กลับกินนิ่มๆ เงียบๆ ไปอีก 20 ปีสบายๆ
นั่นหมายถึง รฟท. จะเสียรายรับที่ควรจะได้ไปอย่างน้อยๆ ปีละ 2 - 3 พันล้านบาทไปทันที 20 ปี
เรื่องนี้ ทางรัฐบาลจะจัดการยังไง ? มีการทุจริตในการต่อสัญญา 20 ปีหรือไม่ ?
บอร์ด รฟท.ยุคนั้น มีหลักการยังไง ถึงได้ต่อสัญญาที่อัปยศแบบนี้ได้ ?
นี่ยังไม่รวมถึง ทีดินจตุจักรที่อื้อฉาวอีก ว่า รฟท.ให้เช่าขายของ ล๊อคละ 1 พันบาท/เดือน (4 ตร.ม.)
แต่มาปล่อยเช่าช่วง ล๊อคละ 15000 + หรือ หลายหมื่นบาท
ใครเป็นคนดูแล ? ใครกินส่วนต่าง ?
มันไม่แปลก ที่ รฟท. จะขาดทุน และไม่พัฒนาเลยตลอด 100 ปี
เพราะมีคนทุจริต กินเงินใต้โต๊ะจำนวนมหาศาลมานาน เลยไม่ยอมให้แปรรูปเป็นเอกชนเหมือน ปตท.
ถ้าคนทำงาน รฟท. สุจริต ตรงไปตรงมาตลอด
เราคงได้ใช้ รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ กันตั้งแต่ 20 ปีก่อนแล้วครับ
เห็นแล้วเสียใจ ทำไม คนทำงานให้ประเทศ ถึงต้องโกงกินกันขนาดนี้ด้วย ?
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.banawit.com/index.php?option=com_content&view=article&id=263:-14000-200000-&catid=49:routefight-cat2&Itemid=2
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000072102
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000131930
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1406212569
ทำไมการรถไฟ ถึงไม่คิดค่าเช่าที่ให้เหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ ณ.ตอนนี้ค่าเช่าเฉลี่ย ตร.ว.ละ 6.4 บาทเท่านั้น....
ในจำนวนที่ดินเพื่อการหาประโยชน์เชิงพาณิชย์ จำนวน 36,302 ไร่ แบ่งเป็นกรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวน 2,826 ไร่, เป็นสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือจำนวน 4,306 ไร่, สายตะวันออก จำนวน 4,952 ไร่, สายใต้ จำนวน 15,186 ไร่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ดินในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่มีจำนวน 2,826 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่บริเวณสามเหลี่ยมพหลโยธิน 47 ไร่ ย่านมักกะสัน 517 ไร่ บริเวณถนนรัชดาภิเษก บริเวณจตุจักร ซึ่งประกอบไปด้วยเจเจมอลล์และตลาดซันเดย์ ย่านแม่น้ำ (ท่าเรือ) บางซ่อน ย่านถนนรามคำแหง (คลองตัน-หัวหมาก)
การรถไฟแห่งประเทศไทยมีรายได้จากการบริหารทรัพย์สินที่ดินเชิงพาณิชย์ทั้งหมด 36,302 ไร่ มีรายได้เฉลี่ยเพียงแค่ปีละ 1,116 ล้านบาท
เฉลี่ยการรถไฟแห่งประเทศไทยมีรายได้จากค่าเช่าที่ดินเฉลี่ยไร่ละ 30,742 บาทต่อปี หรือไร่ละ 2,562 บาทต่อเดือน
คิดเป็นค่าเช่าแสนจะอัปลักษณ์เฉลี่ยตารางวาละ 6.40 บาทต่อเดือน!!!!
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ผมถามว่า แล้วทำไม รฟท. ถึงไม่มีการปรับค่าเช่าที่ดินตรงนี้ให้เหมาะสมกับยุคนี้ ?
เซ็นทรัลลาดพร้าว เช่าที่ ปีละ 3 ล้านบาท กับเนื้อที่ 47 ไร่(75,200 ตร.ม.)
หารแล้ว เท่ากับ ตร.ม.ละ 40 บาท/ปี
หรือ เดือนละ 3.30 บาท/ตร.ม./เดือน (วินมอไซหน้าหมู่บ้านผมยังเช่าที่ 10 ตร.ม. เดือนละหมื่นบาทสร้างกระต๊อบวินเลยครับ)
นี่ยังไม่รวมการก่อสร้างอาคารที่มีหลายชั้น + ชั้นใต้ดินอีก (พลาซ่า 5 ชั้น , ดีพาร์ทเมนท์ 7 ชั้น)
จากข้อมูลในวิกิ บอกว่า มีพื้นที่ ประมาณ 180,000 ตร.ม.
ทางห้างได้ นำไปให้เช่าช่วงกับผู้ค้าในห้าง ในอัตรา ตร.ม.ละ 1500บาท ขึ้นไป / เดือน
คิดแค่ค่าเช่าอย่างเดียว เซ็นทรัลลาดพร้าว ได้กำไรจากการเช่าที่ 270 ล้านบาท/เดือน หรือ 3,240 ล้านบาท/ปี
แต่กลับจ่ายค่าเช่าให้ รฟท.ปีละ 3 ล้านบาทเท่านั้น (นี่ยังไม่รวมกำไรในด้านอื่นๆอีกคิดเฉพาะค่าเช่าอย่างเดียว)
ถามว่า ทำไม รฟท.ที่มีหนี้สินมหาศาล อ้างว่าไม่มีเงินปรับปรุงองค์การ ไม่มีเงินจ้างพนักงาน ขาดทุนเพราะ รถไฟฟรี ขาดทุนเพราะรถไฟชั้นสามมาตลอดร้อยปี ฯลฯ
เซ็นทรัล เช่าที่จากการรถไฟไทย เมื่อปี 2521 มีอายุสัญญาเช่า 30 ปี เท่ากับจะหมดอายุสัญญาแรกในปี 2551 ที่ผ่านมา
ทางบอร์ด รฟท.ไม่ขอต่อสัญญาไปอีก เพราะต้องการค่าตอบแทนที่สูงกว่าในสอดคล้องกับค่าครองชีพ
ทางเซ็นทรัล ก็ไม่ย่อท้อ รอจนกระทั่ง บอร์ดหมดอายุวาระ และมีบอร์ดชุดใหม่เข้ามาในปี 2552-2553
และได้ทำการต่อสัญญาเรียบร้อยไปอีก 20 ปี จะหมดสัญญาในปี 2571
ถามว่า ทำไม รัฐบาลในชุดปี 2552 ที่เข้ามาบริหาร ถึงได้ปล่อยให้ต่อสัญญาขาดทุนแบบนี้ได้อีก 20 ปี ?
ถ้ามีการปรับค่าสัญญาให้เหมาะสม จะเหมือนกับ มาบุญครอง ที่จ่ายค่าต่อสัญญากับทางจุฬากว่า 2 หมื่นล้านบาท
แต่ทางเซ็นทรัล กลับกินนิ่มๆ เงียบๆ ไปอีก 20 ปีสบายๆ
นั่นหมายถึง รฟท. จะเสียรายรับที่ควรจะได้ไปอย่างน้อยๆ ปีละ 2 - 3 พันล้านบาทไปทันที 20 ปี
เรื่องนี้ ทางรัฐบาลจะจัดการยังไง ? มีการทุจริตในการต่อสัญญา 20 ปีหรือไม่ ?
บอร์ด รฟท.ยุคนั้น มีหลักการยังไง ถึงได้ต่อสัญญาที่อัปยศแบบนี้ได้ ?
นี่ยังไม่รวมถึง ทีดินจตุจักรที่อื้อฉาวอีก ว่า รฟท.ให้เช่าขายของ ล๊อคละ 1 พันบาท/เดือน (4 ตร.ม.)
แต่มาปล่อยเช่าช่วง ล๊อคละ 15000 + หรือ หลายหมื่นบาท
ใครเป็นคนดูแล ? ใครกินส่วนต่าง ?
มันไม่แปลก ที่ รฟท. จะขาดทุน และไม่พัฒนาเลยตลอด 100 ปี
เพราะมีคนทุจริต กินเงินใต้โต๊ะจำนวนมหาศาลมานาน เลยไม่ยอมให้แปรรูปเป็นเอกชนเหมือน ปตท.
ถ้าคนทำงาน รฟท. สุจริต ตรงไปตรงมาตลอด
เราคงได้ใช้ รถไฟความเร็วสูง รถไฟรางคู่ กันตั้งแต่ 20 ปีก่อนแล้วครับ
เห็นแล้วเสียใจ ทำไม คนทำงานให้ประเทศ ถึงต้องโกงกินกันขนาดนี้ด้วย ?
ข้อมูลอ้างอิง
http://www.banawit.com/index.php?option=com_content&view=article&id=263:-14000-200000-&catid=49:routefight-cat2&Itemid=2
http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9530000072102
http://www.manager.co.th/Daily/ViewNews.aspx?NewsID=9520000131930
http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1406212569