มานั่งคำนวณกันเล่นๆ


  "เมื่อมีโครงการรับจำนำข้าว หากราคาขายข้าวต่อตันเมื่อเข้าร่วมโครงการรับจำนำข้าวอยู่ที่ 15,000 บาท ซึ่งในความเป็นจริงชาวนาจะได้ไม่เต็มจำนวน เพราะถูกหักค่าความชื้นและความไม่ได้มาตรฐานต่างๆ ออก เหลือเพียงตันละประมาณ 11,000-13,000 บาทแล้วแต่กรณีไป

ในการคิดกำไร นำราคาขายข้าวต่อตัน 13,000 บาทมาหาราคาค่าข้าวต่อไร่ วิธีคิดคือสมมติให้ 1 ไร่มีผลผลิต 80 ถัง ซึ่งเป็นผลผลิตเฉลี่ย (ค่อนข้างสูง) โดยปกติอยู่แล้วของชาวนาในแถบจังหวัดพิจิตรและนครสวรรค์ จะได้ 13,000 x 0.8 = 10,400 บาทต่อไร่ นำมาหักต้นทุนที่ 4,500 บาทต่อไร่ (กรณีไม่เช่าที่ทำนา) ได้เป็นกำไรต่อไร่ 5,900 บาท"







ที่มาตัวอยาง http://thaipublica.org/2014/02/cost-of-famer/

   ชาวนาที่จดทะเบียนไว้กับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเปิดบัญชีไว้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งมีที่ดินทำกินไม่เกิน 15 ไร่ (จำนวน 1.8 ล้านครอบครัว) และให้แก่ชาวนาที่มีที่ดินมากกว่า 15 ไร่ (จำนวน 1.6 ล้านครอบครัว)

    ดังนั้นเกษตรกร ที่ยากจนจริงๆ มี 1.8 ล้านครอบครัว ที่มีที่ดินไม่ถึง 15 ไร่   ตีถัวเฉลี่ยะ ทุกคนมีที่ 15 ไร่หมด

  เอากำไรต่อไร่ มาแจกฟรีๆ  15 * 6000 (เอาตัวเลขกลมๆ อันนี้คือไม่เช่าที่นาด้วย ใจดีด้วยผมไม่เอาส่วนต่างจำนำกับไม่มีจำนำ) = 90000

     เอากำไรต่อครอบครัวต่อนา 15 ไร่ ไปคูน จำนวนครัวเรือน   1.8 * 90000  = 162,000 ล้านบาท
     หรือ ถ้าเอาชาวนาทั้งหมด 3.4 ล้านครัวเรือน ได้กำไรเท่ากันหมด 3.4 * 90000 = 324,000 ล้านบท

ใช้เงินยังไม่เท่าที่ขาดทุน

     แล้วในความจริง เฉลียชาวนาที่มีที่ น้อยกว่า 15 ไร่ไม่ได้มี 15 ไร่ทุกคน เงินก็ใช้น้อยกว่า 162000 ล้านบาท ในการช่วยชาวนาจริงๆ

   5.1 -1.6 = 3.5  แสนล้านบาท มานั่งแบกหนี้ความบริหารห่วยแตก หายไปกับการคอรัปชั่น หากช่วยชาวนา(ยากจน)ตรงๆ ยังใช้เงินแค่ 1.6 แสนล้าน

  ชาวนาที่ควรช่วยคือชาวนาที่ยากจน มีที่ดินน้อย ไม่ใช่นายทุน  
  ถ้าแจกเงินให้คนละ 90000  ต่อปี คิดเป็นจ่ายเงินเดือนให้ ได้ตั้ง 7500 บาทต่อเดือน ต่อครอบครัว 1.8 ล้านครัวเรือน

   ยังใช้เงินแค่ 1.6 แสนล้านบาท

  แต่ความบริหารห่วยแตก ทำให้ขาดทุนไป 5.1 แสนล้าน  และมีพวกสาวก ออกมาปกป้องเอาชาวนาเป็นตัวประกัน พยาธิตัวตืด + ขี้กลาก ชัดๆ หลบหลังชาวนา ปกป้องพวกที่ไปอุ้มหมีบริหารยังงี้นั่งอุ้มหมีอย่างเดียวมีประโยชน์กว่า หุหุ