ว่ากันว่า ความสุขของคนเรานั้น หาใช่เงินหรือทรัพย์สินเงินทองไม่
แต่คือการที่เรานั้น ได้รับการยอมรับจากสังคม สังคมมีปฏิกิริยาต่อ
ตัวเราในทางบวก ??
หรือเมื่อคุณมีทรัพย์สินเงินทอง ตามที่คุณปรารถนาสมใจแล้ว
ความสุขของการได้ครอบครองทรัพย์สินเงินทองนั้น จะอยู่กับคุณ
ไปได้ไม่นาน จะเป็นความรู้สึกปลื้มปิติแบบพีคขึ้นไปยอดสูงสุด
แล้วจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ จากนี้ไป ค่อยๆลดลง จนไปถึง
จุดต่ำสุด ซึ่งเป็นจุดที่มันเพิ่งขึ้นมาก่อนหน้านั้น โดยคุณเองก็อาจ
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าความสุขเหล่านั้น ได้เลือนหายไปหมดแล้ว
โกเบ ชายหนุ่มวัย 32 ที่ร่ำรวยมาจากการทำธุรกิจผิดกฏหมาย เป็น
ธุรกิจสีเทา ธุรกิจที่สังคมไม่ยอมรับ โกเบใช้ชีวิตค่อนข้างสันโดด
กับลูกน้องคนสนิทหลายคนของเขา กับสังคมสีเทาในกลุ่มเล็กๆ
ของเค้า โกเบมีญาติพี่น้องหลายคน แต่ตัวของโกเบเอง ไม่เคยได้
ติดต่อหรือไปมาหาสู่กับเหล่าญาติๆเลย เพราะเมื่อญาติๆ ได้รู้ว่า
โกเบทำธุรกิจผิดกฏหมาย ก็ไม่มีญาติคนไหน ที่อยากเกี่ยวข้องด้วย
หรือไม่มีใครยอมรับนั่นเอง
ซึ่งตัวโกเบเอง แท้ๆจริงแล้ว เค้าเป็นคนที่อ่อนโยนมากๆ หากคนที่
ได้รู้จักตัวตนเค้าจริงๆ โกเบเป็นคนรักพวกพ้อง ใจกว้าง เป็นที่รักของ
ลูกน้อง มิตรสหาย ในสังคมสีเทาสังคมเล็กๆ ของเค้าแค่นั้น ซึ่งผิด
กับญาติๆ ที่มีต่อตัวโกเบ
ความรู้สึกที่ไม่ดีนี่เอง ที่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้โกเบ ไม่ได้ติดต่อ
ักับทางญาติของเค้า ทั้งๆที่ตัวเค้าเอง อยากจะไปหา ไปเยี่ยมเยียน
ลึกๆโกเบเอง ก็ยังห่วงญาติๆของเค้า ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่
ไม่อาจแสดงออกอย่างที่ใจอยากจะทำได้ แม้ว่าจะมีเงินมีทองมาก
มาย มีลูกน้องบริวารอยู่รายรอบ แต่ตัวโกเบเอง กลับไม่เคยรู้สึกว่า
ตัวเองนั้น มีความสุขจริงๆเลย เพราะจากความรู้สึกถึงการไม่ยอมรับ
ในตัวของเค้า จากญาติๆ ที่มีปฏิกิริยาในทางลบ ทีมีต่อตัวเค้า
โกเบรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก จึงมีความคิดว่า เค้าจะเลิกทำธุรกิจ
สีเทาทั้งหมดที่มี ขายทรัพย์สินมีทั้งหมด เพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับ
การกุศล หลังจากที่เหลือจากการปลูกบ้านให้ญาติๆเค้าทั้งหมด คน
ละหลัง ซื้อรถยนต์ให้คนละค้น กับเงินที่เหลืออยู่แค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น
จากหลายร้อยล้าน ที่เค้ายกให้การกุศลทั้งหมด เพื่อคืนให้กับสังคม
บ้าง ซึ่งโกเบก็ได้แสดงความรู้สึกของเค้า ที่มีต่อญาติๆ และแสดง
เจตนาที่ดี ที่อยากจะเลิกทำธุรกิจผิดกฏหมายนั้น เพื่อมาเปิดธุรกิจ
เล็กๆ ที่ถูกกฏหมายแทน และเป็นที่ยอมรับจากสังคม
ญาติๆ ก็รู้สึกยินดี ที่โกเบกลับตัวกลับใจได้ หันไปทำในสิ่งที่ถูกต้อง
จากปฏิกิริยาที่เคยมีต่อโกเบเป็นไปในทางลบ ก็เปลี่ยนไปเป็นในทาง
ที่เป็นบวก ญาติๆแสดงการยอมรับในตัวโกเบ เข้าใจโกเบมากยิ่งขึ้น
แม้มูลค่าธุรกิจของโกเบในเวลานี้ อาจเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย กับ
ธุรกิจสีเทาที่เค้าเคยทำมา แต่เมื่อเทียบกับความสุขแล้ว ความสุขจาก
การได้รับการยอมรับจากญาติพี่น้อง ความสุขที่ได้รับการแสดงออก
ต่อตัวเค้าไปในทางที่ดี แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
โกเบเข้าใจความจริงที่ว่า แม้มีเงินเป็นร้อยล้าน พันล้าน แต่หากไม่ได้
รับการยอมรับจากสังคม เงินก็ทำได้แค่การให้ความสุขทางกายแค่นั้น
แต่ไม่อาจให้ความสุขทางใจได้เลย ชีวิตคนเรา หากสุขกาย แต่ใจไม่สุข
ไปด้วย ก็เหมือนตายทั้งเป็น
และหากเป็นคุณล่ะ ... ถ้าคุณเป็นเหมือนกับโกเบ คุณจะเลือกความสุข
ที่ได้จากการครอบครองทรัพย์สินเงินทอง หรือจะเลือกความสุขที่ได้รับ
การยอมรับจากสังคมรอบข้างของคุณ ถ้าให้คุณเลือก คุณจะเลือกอะไร ??
เงินร้อยล้าน กับการยอมรับจากสังคม ถ้าให้คุณเลือก ??
แต่คือการที่เรานั้น ได้รับการยอมรับจากสังคม สังคมมีปฏิกิริยาต่อ
ตัวเราในทางบวก ??
หรือเมื่อคุณมีทรัพย์สินเงินทอง ตามที่คุณปรารถนาสมใจแล้ว
ความสุขของการได้ครอบครองทรัพย์สินเงินทองนั้น จะอยู่กับคุณ
ไปได้ไม่นาน จะเป็นความรู้สึกปลื้มปิติแบบพีคขึ้นไปยอดสูงสุด
แล้วจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ เรื่อยๆ จากนี้ไป ค่อยๆลดลง จนไปถึง
จุดต่ำสุด ซึ่งเป็นจุดที่มันเพิ่งขึ้นมาก่อนหน้านั้น โดยคุณเองก็อาจ
ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ ว่าความสุขเหล่านั้น ได้เลือนหายไปหมดแล้ว
โกเบ ชายหนุ่มวัย 32 ที่ร่ำรวยมาจากการทำธุรกิจผิดกฏหมาย เป็น
ธุรกิจสีเทา ธุรกิจที่สังคมไม่ยอมรับ โกเบใช้ชีวิตค่อนข้างสันโดด
กับลูกน้องคนสนิทหลายคนของเขา กับสังคมสีเทาในกลุ่มเล็กๆ
ของเค้า โกเบมีญาติพี่น้องหลายคน แต่ตัวของโกเบเอง ไม่เคยได้
ติดต่อหรือไปมาหาสู่กับเหล่าญาติๆเลย เพราะเมื่อญาติๆ ได้รู้ว่า
โกเบทำธุรกิจผิดกฏหมาย ก็ไม่มีญาติคนไหน ที่อยากเกี่ยวข้องด้วย
หรือไม่มีใครยอมรับนั่นเอง
ซึ่งตัวโกเบเอง แท้ๆจริงแล้ว เค้าเป็นคนที่อ่อนโยนมากๆ หากคนที่
ได้รู้จักตัวตนเค้าจริงๆ โกเบเป็นคนรักพวกพ้อง ใจกว้าง เป็นที่รักของ
ลูกน้อง มิตรสหาย ในสังคมสีเทาสังคมเล็กๆ ของเค้าแค่นั้น ซึ่งผิด
กับญาติๆ ที่มีต่อตัวโกเบ
ความรู้สึกที่ไม่ดีนี่เอง ที่เป็นเหตุผลหนึ่ง ที่ทำให้โกเบ ไม่ได้ติดต่อ
ักับทางญาติของเค้า ทั้งๆที่ตัวเค้าเอง อยากจะไปหา ไปเยี่ยมเยียน
ลึกๆโกเบเอง ก็ยังห่วงญาติๆของเค้า ว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง แต่
ไม่อาจแสดงออกอย่างที่ใจอยากจะทำได้ แม้ว่าจะมีเงินมีทองมาก
มาย มีลูกน้องบริวารอยู่รายรอบ แต่ตัวโกเบเอง กลับไม่เคยรู้สึกว่า
ตัวเองนั้น มีความสุขจริงๆเลย เพราะจากความรู้สึกถึงการไม่ยอมรับ
ในตัวของเค้า จากญาติๆ ที่มีปฏิกิริยาในทางลบ ทีมีต่อตัวเค้า
โกเบรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก จึงมีความคิดว่า เค้าจะเลิกทำธุรกิจ
สีเทาทั้งหมดที่มี ขายทรัพย์สินมีทั้งหมด เพื่อนำเงินไปบริจาคให้กับ
การกุศล หลังจากที่เหลือจากการปลูกบ้านให้ญาติๆเค้าทั้งหมด คน
ละหลัง ซื้อรถยนต์ให้คนละค้น กับเงินที่เหลืออยู่แค่ไม่กี่ล้านเท่านั้น
จากหลายร้อยล้าน ที่เค้ายกให้การกุศลทั้งหมด เพื่อคืนให้กับสังคม
บ้าง ซึ่งโกเบก็ได้แสดงความรู้สึกของเค้า ที่มีต่อญาติๆ และแสดง
เจตนาที่ดี ที่อยากจะเลิกทำธุรกิจผิดกฏหมายนั้น เพื่อมาเปิดธุรกิจ
เล็กๆ ที่ถูกกฏหมายแทน และเป็นที่ยอมรับจากสังคม
ญาติๆ ก็รู้สึกยินดี ที่โกเบกลับตัวกลับใจได้ หันไปทำในสิ่งที่ถูกต้อง
จากปฏิกิริยาที่เคยมีต่อโกเบเป็นไปในทางลบ ก็เปลี่ยนไปเป็นในทาง
ที่เป็นบวก ญาติๆแสดงการยอมรับในตัวโกเบ เข้าใจโกเบมากยิ่งขึ้น
แม้มูลค่าธุรกิจของโกเบในเวลานี้ อาจเทียบไม่ได้เลยแม้แต่น้อย กับ
ธุรกิจสีเทาที่เค้าเคยทำมา แต่เมื่อเทียบกับความสุขแล้ว ความสุขจาก
การได้รับการยอมรับจากญาติพี่น้อง ความสุขที่ได้รับการแสดงออก
ต่อตัวเค้าไปในทางที่ดี แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
โกเบเข้าใจความจริงที่ว่า แม้มีเงินเป็นร้อยล้าน พันล้าน แต่หากไม่ได้
รับการยอมรับจากสังคม เงินก็ทำได้แค่การให้ความสุขทางกายแค่นั้น
แต่ไม่อาจให้ความสุขทางใจได้เลย ชีวิตคนเรา หากสุขกาย แต่ใจไม่สุข
ไปด้วย ก็เหมือนตายทั้งเป็น
และหากเป็นคุณล่ะ ... ถ้าคุณเป็นเหมือนกับโกเบ คุณจะเลือกความสุข
ที่ได้จากการครอบครองทรัพย์สินเงินทอง หรือจะเลือกความสุขที่ได้รับ
การยอมรับจากสังคมรอบข้างของคุณ ถ้าให้คุณเลือก คุณจะเลือกอะไร ??