คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ความจริงก็คือ
เรื่องนี้ไม่ใช่ความจริงนะคะ
เคยมีการ FWD กันมาตั้งกะปี 43
จนต้องมีการออกมาให้ความกระจ่างเรื่องนี้ ที่
http://www.breakthechain.org/exclusives/lipstick.html
เนื้อหาก็เป็น ดังนี้ ค่ะ
What makes the chain letter above very popular is the contention that scratching a stripe of lipstick with a gold ring reveal if it contains lead. This claim appears to be drawn from an old alchemist's trick of testing the purity of gold by rubbing ore on a dark stone (often containing lead) and comparing the streak with another of known quality. However, the process does not work in reverse. Even if it did, there would not be a large enough concentration of lead in a strip of lipstick to produce a visible change.
Yet, many readers have written to say they've tried the "scratch test" and found that their gold jewelry does indeed produce dark streaks in the lipstick. This is much more likely a reaction to the wax in the product than to lead. In fact, a variety of waxes will produce similar reactions with gold. Reliable detection of lead in a product requires rigorous scientific testing, and cannot be achieved "on the cheap" using normal household products.
BreakTheChain.org recommends against relying upon or forwarding any health advice via e-mail chain letters. What we have above is an anonymous person's work with no cited source. Even published research on the subject is met with a great deal of skepticism. Do your own research. Read both sides of the story, then decide for yourself. Break this chain.
References: Snopes.com, Hoax-Slayer.com, Campaign for Safe Cosmetics, "Poison Kiss" report, AP Report, Cleveland Plain Dealer
สรุปว่า เสียดายแหวนค่ะ ไม่ใช่วิธีทดสอบที่ถูกต้องนะคะ
เพื่อนๆคนไหนที่เรียนสายวิทย์จะรู้ว่า การทดสอบตะกั่วไม่ได้ทำได้ง่ายๆแบบนี้ค่ะ
จริงๆแล้ว มันเป็นการทดสอบแบบโบราณที่ช่างทองสมัยก่อนใช้ทดสอบความบริสุทธิ์ของทองค่ะ
โดยการเอาทองที่ต้องสงสัยมาขูดกับหินสีดำที่มีตะกั่วเป็นส่วนประกอบ
แต่วิธีนี้ใช้ทดสอบย้อนกลับมาที่การพิสูจน์ว่ามีสารตะกั่วรึเปล่าไม่ได้ค่ะ
แต่ที่พบว่าลิปสติกมีสีคล้ำหรือดำขึ้น
เป็นเพราะส่วนประกอบของตัวแวกซ์ที่เปนส่วนประกอบสำคัญในลิปสติก
ขอซักนิดนะคะ อย่าตื่นตูมกับ FWD mail ด้านสุขภาพ
ขอให้สอบถามจากผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในสาขาด้านนั้นๆก่อนจะเชื่อตาม
อยากขอร้องรายการนี้ว่า เลิกซะทีนิสัยแบบนี้
มันสร้างความเดือดร้อนนะคะ
ก่อนจะเอาขี้ปากใครมาพูดต่อ หาข้อมูล ทำการบ้านซักนิดนะคะ
คราวก่อน เคยถูกคอลัมนิสต์ นิตยสาร GM เล่มนึง กระแนะกระะแหนเอาเกี่ยวกับ
การนำเสนอ เรืองเปอร์เซนต์ของหญิงที่ถูกล็อตเตอรี่แล้วเก็บไว้ในเสื้อใน ว่ามีนไม่ได้มีแหล่งอ้างอิงชัดเจน แน่นอน เป็นแค่เรืองแทรกขำๆ ในนิตยสาร GM เท่านั้น หุหุ
แนะนำว่า พวก FW mail หรือ พวกข่าว ที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงอ่ะค่ะ เลิกเถอะค่ะ ไม่สมควรนำมานำเสนอ เพราะหากชาวบ้านที่ไม่รู้ความจริง เค้าอาจเชื่อ ในสิ่งที่คุณกำลังนำเสนอก็ได้ หรือหากคุณต้องการนำเสนอข่าวหลังนี้จริง ก็ควารที่จะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนนำเสนอค่ะ
อ้างอิงจาก .... http://www.ppantip.com/cafe/woman/topic/Q7945174/Q7945174.html cited in http://www.millimedthailand.com/index.php?option=com_mamboboard&Itemid=42&func=view&view=threaded&id=10&catid=3
เรื่องนี้ไม่ใช่ความจริงนะคะ
เคยมีการ FWD กันมาตั้งกะปี 43
จนต้องมีการออกมาให้ความกระจ่างเรื่องนี้ ที่
http://www.breakthechain.org/exclusives/lipstick.html
เนื้อหาก็เป็น ดังนี้ ค่ะ
What makes the chain letter above very popular is the contention that scratching a stripe of lipstick with a gold ring reveal if it contains lead. This claim appears to be drawn from an old alchemist's trick of testing the purity of gold by rubbing ore on a dark stone (often containing lead) and comparing the streak with another of known quality. However, the process does not work in reverse. Even if it did, there would not be a large enough concentration of lead in a strip of lipstick to produce a visible change.
Yet, many readers have written to say they've tried the "scratch test" and found that their gold jewelry does indeed produce dark streaks in the lipstick. This is much more likely a reaction to the wax in the product than to lead. In fact, a variety of waxes will produce similar reactions with gold. Reliable detection of lead in a product requires rigorous scientific testing, and cannot be achieved "on the cheap" using normal household products.
BreakTheChain.org recommends against relying upon or forwarding any health advice via e-mail chain letters. What we have above is an anonymous person's work with no cited source. Even published research on the subject is met with a great deal of skepticism. Do your own research. Read both sides of the story, then decide for yourself. Break this chain.
References: Snopes.com, Hoax-Slayer.com, Campaign for Safe Cosmetics, "Poison Kiss" report, AP Report, Cleveland Plain Dealer
สรุปว่า เสียดายแหวนค่ะ ไม่ใช่วิธีทดสอบที่ถูกต้องนะคะ
เพื่อนๆคนไหนที่เรียนสายวิทย์จะรู้ว่า การทดสอบตะกั่วไม่ได้ทำได้ง่ายๆแบบนี้ค่ะ
จริงๆแล้ว มันเป็นการทดสอบแบบโบราณที่ช่างทองสมัยก่อนใช้ทดสอบความบริสุทธิ์ของทองค่ะ
โดยการเอาทองที่ต้องสงสัยมาขูดกับหินสีดำที่มีตะกั่วเป็นส่วนประกอบ
แต่วิธีนี้ใช้ทดสอบย้อนกลับมาที่การพิสูจน์ว่ามีสารตะกั่วรึเปล่าไม่ได้ค่ะ
แต่ที่พบว่าลิปสติกมีสีคล้ำหรือดำขึ้น
เป็นเพราะส่วนประกอบของตัวแวกซ์ที่เปนส่วนประกอบสำคัญในลิปสติก
ขอซักนิดนะคะ อย่าตื่นตูมกับ FWD mail ด้านสุขภาพ
ขอให้สอบถามจากผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในสาขาด้านนั้นๆก่อนจะเชื่อตาม
อยากขอร้องรายการนี้ว่า เลิกซะทีนิสัยแบบนี้
มันสร้างความเดือดร้อนนะคะ
ก่อนจะเอาขี้ปากใครมาพูดต่อ หาข้อมูล ทำการบ้านซักนิดนะคะ
คราวก่อน เคยถูกคอลัมนิสต์ นิตยสาร GM เล่มนึง กระแนะกระะแหนเอาเกี่ยวกับ
การนำเสนอ เรืองเปอร์เซนต์ของหญิงที่ถูกล็อตเตอรี่แล้วเก็บไว้ในเสื้อใน ว่ามีนไม่ได้มีแหล่งอ้างอิงชัดเจน แน่นอน เป็นแค่เรืองแทรกขำๆ ในนิตยสาร GM เท่านั้น หุหุ
แนะนำว่า พวก FW mail หรือ พวกข่าว ที่ไม่มีแหล่งอ้างอิงอ่ะค่ะ เลิกเถอะค่ะ ไม่สมควรนำมานำเสนอ เพราะหากชาวบ้านที่ไม่รู้ความจริง เค้าอาจเชื่อ ในสิ่งที่คุณกำลังนำเสนอก็ได้ หรือหากคุณต้องการนำเสนอข่าวหลังนี้จริง ก็ควารที่จะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลก่อนนำเสนอค่ะ
อ้างอิงจาก .... http://www.ppantip.com/cafe/woman/topic/Q7945174/Q7945174.html cited in http://www.millimedthailand.com/index.php?option=com_mamboboard&Itemid=42&func=view&view=threaded&id=10&catid=3
แสดงความคิดเห็น
จริงหรือไม่ที่ลิปสติกมีสารอันตราย?
" แปล..
ข้อมูลเกี่ยวกับลิปสติคนี้ มาจากคนที่ทำงานเกี่ยวกับมะเร็งเต้านมอยู่ที่ รพ.Mt. , in Toronto ..(โตรอนโต)
From: Dr. Nahid Nema 💕ถ้ามีผู้หญิงที่สนใจเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม ให้แชร์สิ่งนี้กับเธอคนนั้น
🔹เร็วๆนี้มีลิปสติคแบรนด์ R ลดราคาจาก 67 US$ ลดเหลือ 9.90 US$ ลิปสติคนี้มีสารตะกั่ว แบรนด์ลิปสติคที่มีสารนี้ ได้แก่
C
L
C
Y
E
S
R
C
M
มีสารตะกั่วสูงเท่าไร ก็มีโอกาสเป็นมะเร็งมากเท่านั้น หลังจากที่ทดสอบลิปสติคเหล่านี้ พบว่าลิปสติคของ Yมีสารนี้มากที่สุด ให้ระวังลิปสติคเหล่านี้ ยิ่งลิปสติคติดทนนานเท่าไรก็ยิ่งมีสารตะกั่วมากเท่านั้น นี่คือการทดสอบที่ทำได้ด้วยตนเอง 1. ทาลิปสติคบนมือของคุณ 2.ใช้แหวนทองถูบนลิปสติค. 3. ถ้าสีของลิปสติคเปลี่ยนเป็นสีดำ ก็แสดงว่าลิปสติคนี้มีสารก่อมะเร็ง.
กรุณาส่งข้อมูลนี้ให้แก่พี่สาว น้องสาว แฟน ภรรยา และสมาชิกในครอบครัวที่เป็นผู้หญิง. ข้อมูลนี้ได้มีการแผยแพร่ที่ศูนย์การแพทย์. Walter Reed Army Medical Centre
สารไดออกซิน คาร์ซิโนเจน (Dioxin Carcinogens) เป็นสาเหตุการเกิดมะเร็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง'มะเร็งเต้านม' "
สมาชิกในกลุ่มจึงได้ทำการทดสอบ ได้ผลดังนี้ค่ะ
ทุกยี่ห้อที่สุ่มมาทดสอบ แม้แต่ยี่ห้อที่ไม่ถูกระบุไว้ในข้อความส่งต่อล้วนเปลี่ยนสี จึงทำให้คิดว่าไม่น่าจะเป็นความจริง
แต่ไม่ทราบว่าเพราะเหตุใดจึงเกิดการเปลี่ยนสี? สิ่งใดทำปฏิกิริยากันจึงเกิดผลลัพธ์เช่นนี้คะ?
และเป็นเรื่องอันตรายจริงหรือไม่คะ?
ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ
ขออนุญาตยกบางข้อความของคุณ Le lait de coco ในความเห็นที่ ๒ มาแปะไว้นะคะ
"สรุปว่า เสียดายแหวนค่ะ ไม่ใช่วิธีทดสอบที่ถูกต้องนะคะ
เพื่อนๆคนไหนที่เรียนสายวิทย์จะรู้ว่า การทดสอบตะกั่วไม่ได้ทำได้ง่ายๆแบบนี้ค่ะ
จริงๆแล้ว มันเป็นการทดสอบแบบโบราณที่ช่างทองสมัยก่อนใช้ทดสอบความบริสุทธิ์ของทองค่ะ
โดยการเอาทองที่ต้องสงสัยมาขูดกับหินสีดำที่มีตะกั่วเป็นส่วนประกอบ
แต่วิธีนี้ใช้ทดสอบย้อนกลับมาที่การพิสูจน์ว่ามีสารตะกั่วรึเปล่าไม่ได้ค่ะ
แต่ที่พบว่าลิปสติกมีสีคล้ำหรือดำขึ้น
เป็นเพราะส่วนประกอบของตัวแวกซ์ที่เปนส่วนประกอบสำคัญในลิปสติก
ขอซักนิดนะคะ อย่าตื่นตูมกับ FWD mail ด้านสุขภาพ
ขอให้สอบถามจากผู้เกี่ยวข้องที่อยู่ในสาขาด้านนั้นๆก่อนจะเชื่อตาม"