***Game of throne :: In the name of father***

***Game of throne :: In the name of father***





ตอนที่สองตามนี้นะครับ----->http://ppantip.com/topic/32374506  
ตอนที่สามตามนี้นะครับ----->http://ppantip.com/topic/32426572



เหล่าชายผู้ล่วงเลยสิ่งที่เรียกว่าความเยาว์นั่งเล่นไพ่กับบนโต๊ะที่มีเก้าอี้รายล้อมอยู่สี่ตัว ผู้เล่นไม่มากไปกว่าจำนวนเก้าอี้ เป็นโรงเหล้าเล็กๆพื้นที่พอให้นั่งได้ห้าโต๊ะ กลิ่นของไม้โอ๊คที่หมักไวน์จากแดนใต้ ควันจากการรมเนื้อม้าพร้อมใบไทม์ อบเชย และกระวาน ย่างพอสุกให้ฉ่ำเลือดนิดๆ พร้อมเสริฟร์บนโต๊ะไม้แอ๊ชเคลือบชักเงา ลายแกะสลักบนโต๊ะเป็นรูปของทวยเทพผู้จมน้ำ


              โรเบิร์ต บาราเทียน กำลังมือขึ้น เขากระดกไวน์องุ่นเข้าปาก ถ้วยสีเงินสลักรูปกวางเคลือบทองบ่งบอกความภาคภูมิใจของตระกูล พร้อมบ่นอุบอิบอยู่เสมอเมื่อต้องลุกไปรินไวน์ด้วยตัวเองบ่อยครั้ง เขาคิดถึงทหารฝึกหัดของตระกูลแลนนิสเตอร์ที่เคยทำหน้าที่นี้ บัดนี้พุงและส่วนเกินอื่นๆที่ยื่นงอกมาราวกับอวัยวะพิเศษ ทำให้เขาเชื่องช้า งุ่มง่าม เพิ่มเติมความหงุดหงิดให้แก่เขา อาวุธของเขาในตอนนี้มีเพียงสิ่งเดียวที่สามารถต่อกรเหล่าศัตรูในวงไพ่ได้ก็มีแค่ฝีปากซึ่งดูจะโผงผางและไร้เล่ห์เหลี่ยม ไม่เท่าทันผู้เล่นอีกสามคนบนโต๊ะ เขาจึงเลือกจู่โจมคนที่คิดว่าเขาพอจะรับมือไหว

    “รีบๆทิ้งไพ่เสียทีเถิด เน็ด ฤดูหนาวกำลังจะมาเยือนข้าจริงๆแล้วนะ สิ่งที่เจ้าทำอยู่ไม่ได้เรียกว่าสุขุมหรือเย็นชาแต่ประการใด มันเรียกว่าขี้ขลาดต่างหาก” โรเบิร์ต เล่นเกมจิตวิทยากับเพื่อนรักในวัยเยาว์จวบจนวันที่สิ้นชีพ


            “โรเบิร์ต ก็เจ้ามัวแต่เก็บไพ่ของตัวเอง มองย้อนเงาสมัยยังหนุ่มแน่นไว้กับอยู่ตลอดทุกตาที่เจ้ามีไพ่นั้นอยู่ เขาก็รู้กันหมดว่าใบสุดท้ายของเจ้าน่ะคืออะไร ตาที่แล้วเจ้าก็แพ้ให้กับไทวิน จนถึงกับต้องร้องเพลง เรน ออฟ คาสตาเมียร์ โหยหวนและผิดคีย์ราวกับหมูป่าถูกเชือด” เอ็ดดาร์ก สตาร์ค พูดเสร็จก็ดึงไพ่ในมือมาหนึ่งใบทิ้งลงไปที่กลางวง เขาจับคอตัวเองอยู่บ่อยครั้งราวกับว่ามันจะหลุดเคลื่อนไปถ้าไม่ได้สัมผัสมันบ่อยๆ ชุดเกราะเคี่ยวหนังที่ส่วมใส่สีน้ำตาลอ่อน ผ้าคลุมสีเทาจากหนังหมี เขาภูมิใจกับมัน เกียรติ์ยศ ศักดิ์ศรี และเมื่อลองคลำไปที่ข้างเอวอย่างคุ้นชิน เขาก็มักจะลืมอยู่เรื่อยว่าดาบไอซ์ของเขาไม่อยู่ในที่ๆควรจะอยู่เสียแล้ว สายตาจ้องเขม็งไปที่ไทวิน แลนนิสเตอร์ ในขณะที่ปากพูดกับโรเบิร์ต บาราเธียน



             “จากคำเรียกฝ่าบาท บัดนี้แปรเปลี่ยนเป็นคำว่า เจ้า ไวน์แดนใต้นี้รสชาติขมยิ่งนักเน็ด แต่นั่นไม่เจ็บปวดเท่าไพ่ที่เจ้าทิ้งลงมา” โรเบิร์ต บาราเธียน เพ่งมองไพ่ที่อดีตสหายร่วมศึกและหัตถ์ขวาเขาเพิ่งทิ้งลงมา สัญลักษณ์รูปกวางทองบนขอบซ้ายบนและขวาล่างของไพ่ รูปวาดเด็กหนุ่มผมทองที่คล้ายตัวจริง บนศีรษะประดับไปด้วยมงกุฏทำจากทองคำประดับด้วยทับทิมและเพชรสีดำ ลวดลายการออกแบบให้เหมือนเขากวางในตระกูลบาราเธียน เขายิ้มอย่างที่โรเบิร์ตคิดว่าน่ารักน่าใคร่ น่าเอ็นดู ซึ่งอาจจะต่างจากมุมมองของ เอ็ดดาร์ค ในมือทั้งสองของเขาถือหน้าไม้สลักเสลาลายสวยงาม เท้าขวาเหยียบไปที่หมู่ป่าตัวใหญ่ เหยื่อที่เด็กชายผมทองภูมิใจ

            “เจ้าควรจะเก็บมันไว้ท้ายๆนะเน็ด ไพ่แต้มสูงอย่างนี้ บุตรที่น่าเกรงขามของข้า เจ้าทิ้งไพ่แลนนิสเตอร์ทุกตาข้าพอเข้าใจ แต่นี่เจ้าถึงกับทิ้งไพ่ของลูกข้าลงมาที่ตาแรก” โรเบิร์ตส่ายหัวกับความคิดประหลาดของ เอ็ดดาร์ค สตาร์ค ไพ่จอฟฟรีย์ บาราเธียน ทำให้เขาตัดสินใจยากขึ้น


            “หรือเจ้าลืมไปแล้วว่าใครสั่งตัดคอข้า โรเบิร์ต!!!” เอ็ดดาร์ค สตาร์คเริ่มขึ้นเสียงอย่างมีอารมณ์

             มันเข้าทางของโรเบิร์ต พอดิบพอดี เขายิ้มอย่างอารมณ์ดีที่ยั่วสำเร็จ  แกล้งทำเป็นถ่วงเวลาเลือกไพ่นั่งจิบไวน์ในกิริยาที่น่าหมั่นไส้

           “ไพ่โรเบิร์ต บาราเธียนตอนหนุ่มที่เจ้าถืออยู่นั่นไง เอามันออกมาใช้เสียที เจ้าถือไว้มันก็ไม่ได้ช่วยเจ้าย้อนเวลาไปผอมเหมือนคนในไพ่หรอกน่า!!!” เอ็ดดาร์ค สตาร์คยังหยุดความโมโหของตัวเองไม่ได้

           “ข้าขอผ่าน มีพ่อที่ไหนทำร้ายลูกตัวเองบ้าง ตาเจ้าแล้วล่ะ โอเบริน มาร์เทล” โรเบิร์ตผายมือไปยังชายผู้นั่งนิ่ง ยิ้มเป็นบางครั้งแต่มักจะใช้สายตาสอดส่ายพฤติกรรมเพื่อนรวมวง

          “นั่นเพราะท่านยังเดินทางไม่มากนะ โรเบิร์ต จากอีสต์ซอส จนถึงเวสเทอรอส ข้าเห็นมันมานักต่อนัก และส่วนใหญ่จบลงด้วยความเศร้า” โอเบริน มาร์เทล หรือที่ใครๆเรียกกันว่าอสรพิษแดง นั่งไขว้ห้าง มือขวาจับที่เคราหรอมแหรม สีดำสนิทเหมือนหนวด และผมที่หยักศก แต่งกายในชุดลำลองผ้าไหมเนื้อดีสีแดงราวกับสีเลือดของอสรพิษ ปักดิ้นทอง กระดุมเงินห้าเม็ดเรียง ตัวกระดุมเป็นสัญลักษณ์พระอาทิตย์ และหอก ตราประจำตระกูลมาร์เทล มือซ้ายของเขายังไม่ได้จับไพ่เพื่อตัดสินใจ แต่เลือกที่จะชูแก้วที่คล้ายจอกสีเงิน หันหน้าไปยังบุรุษร่างกำยำผู้ที่เป็นทั้งพ่อครัวและผู้ตระเตรียมอาหารให้ในวงไพ่นี้
“โอเบริน ทำไมเจ้าถึงได้สิทธิ์พิเศษในการรินไวน์อยู่คนเดียวนะ” โรเบิร์ต ทำน้ำเสียงฉุนเฉียว


           “นั่นเพราะข้าเข้าใจอย่างลึกซึ้งถึงความเป็นอิสตรี และความเป็นชายไงล่ะท่าน” เขาหันไปยิ้มให้กับชายร่างกำยำ ผิวสีทองแดง ตาสีน้ำตาลเข้ม เปียที่ถักบนหัวยาวมาจรดพื้น

            นักสู้บนหลังม้าที่ว่ากันว่าแข็งแกร่งที่สุดในยุค เดินถือถาดอาหารที่เพิ่งปรุงเสร็จ เนื้อมาที่ฉ่ำไปด้วยน้ำราดสมุนไพรย่างสุก พร้อมทั้งเหยือกที่เปี่ยมด้วยไวน์ โรเบิร์ตทำจมูกฟุตฟิต ดมกลิ่นหอมจากถาดเบื้องหน้า

            “เจ้ามีพรสวรรค์ในการทำอาหารนะ คาล โดรโก” ไทวิน แลนนิสเตอร์ มองการประดับจานอย่างมีศิลปะ ของคาลโดรโก ถึงกับต้องเอ่ยชม

           “สิ่งที่ข้าเสียใจที่สุดหลังการตาย ก็คือสามารถฟังภาษาของพวกเจ้ารู้เรื่องนี่แหล่ะ รีบกินรีบเล่นกันให้เสร็จเสียที ข้าเบื่อที่จะต้องคอยห้ามพวกเจ้าหลังจากทะเลาะกันเป็นเด็กๆอีกต่อไปแล้วนะ” คาลโดรโก พ่นลมออกทางจมูกแสดงอาการไม่พอใจ


           “คาลผู้ยิ่งใหญ่ช่วยข้าหน่อยเถิด ข้ารู้สึกว่าสายตาข้าพร่ามัวเจ้าช่วยข้าดูทีว่าไพ่ใบนี้สามารถชนะไพ่ที่ ลอร์ด เอ็ดดาร์ค ทิ้งลงมาได้หรือไม่ ขออภัยจริงๆ เนื่องจากข้าไหว้วานเจ้าได้ผู้เดียว ไม่งั้นข้าโดนสหายเหล่านี้รู้ไพ่ในมือหมด” ปากเมื่อขยับและมือก็เริ่มจาบจ้วง ลูบไล้ไปบนมัดกล้ามที่เปลือยเปล่าของคาล โดรโก้ อาการตาพร่ามั่วหรือวิตกจริตไปว่ามองไม่เห็นของ โอเบรินนั้นเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ราวกับรอยแผลที่ฝังลึกยากจะลืมเลือน เอ็ดดาร์ค สตาร์ค หันมามองเขาอย่างเข้าใจแต่ก็ค่อนข้างกระอักกระอ่วนในการกระทำของโอเบริน

           “ชนเผ่าข้าเคยมีเสียงร่ำลือว่ากินเนื้อม้าสดๆ ปล้นฆ่าและข่มขืน สมสู่กับม้า แต่ไม่มีซักครั้งที่จะมีจริตทางเพศวิปริตเช่นนี้” คาล โดรโกสะบัดตัว กระแทกเหยือกไวน์ลงบนโต๊ะ จนไวน์สีแดงกระฉอกผ้าปูโต๊ะลายกุหลาบเหมันต์สีน้ำเงิน


           เอ็ดดาร์ค มองไปที่รอยสีแดงราวกับเลือดเปื้อนไปที่ลายกุหลาบเหมันต์สีน้ำเงิน ความเศร้าเข้าปกคลุมจิตใจเขาขั่วขณะ มันเป็นดอกไม้ที่เธอชื่นชอบ


           “ข้าลืมบอกท่านไปอย่างนึงนะ โรเบิร์ต นอกจากพ่อที่ทำร้ายลูกตัวเองที่ข้าเคยประสบมาแล้ว ยังมีลูกที่ทำร้ายพ่อของตัวเองได้ด้วย” โอเบรินหันไปแสยะยิ้มกับไทวิน แลนนิสเตอร์ มันเป็นยิ้มที่น่าขนลุก คล้ายกับยิ้มของ เกรกอร์ คลีแกน ในห้วงเวลาที่ตัวเขาเองก็อยากจะลืมมัน สิ้นเสียงของของโอเบริน เขาก็หยิบไพ่มาวางทับไพ่ จอฟฟรี่ย์ อย่างช้าๆ



          ไพ่สัญลักษณ์สิงห์โตที่มุมซ้ายบน และขวาล่าง รูปวาดของชายผู้มีสัดส่วนผิดเพี้ยนไปจากสำนึกของผู้คนไม่ต่างจากคนแคระ กำลังถือหนังสือเล่มโต ยิ้มอย่างมีเลศนัยให้กับผู้เฝ้ามอง



----------------



to be continue.....
เป็นแฟนฟิคที่ลองแต่งเองนะครับ
ชี้แนะด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่