***Game of Throne :: In the name of father*** (ตอนที่สอง)

กระทู้สนทนา





เรื่องราวหลังความตายของเหล่าผู้ครองดินแดนแห่งเวสเทอรอส และ อิสต์ซอส
นั่งล้อมวงเล่นไพ่ท่ามกลางบทสนทนาที่เชือดเฉือน ความหมายของคำว่าพ่อและลูก
ถูกตีความไปตามหน้าไพ่และอารมณ์ของผู้เล่นแต่ละคน

ไม่ว่าจะเป็น โรเบิร์ต บาราเธียนผู้บุ่มบ่าม
เอ็ดดาร์ค สตาร์ค ที่หมกมุ่นอยู่กับความเศร้าและความเหน็บหนาว
โอเบริน มาร์เทล ผู้มองเห็นไพ่ทั้งหมดเป็นเกมที่เขาโปรดปราน ราวกับชิงบัลลังก์
และไทวินด์ แลนนิสเตอร์ ที่รอไถ่หว่านเมื่อศัตรูร่วมวงไพ่พลั้งพลาด

ยังไม่รวมไปถึงผู้ดูแลร้านเหล้าที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งยุคอย่าง คาล โดรโก

และตัวละครลึกลับที่จะโผล่มากระตุ้นความสงสัยให้ผู้อ่านในตอนถัดๆไป

ฝากไว้ด้วยครับ แฟนฟิค Game of Throne

In the name of father

ติดตามตอนแรกได้ที่ลิงค์ด้านล่างนะครับ

http://ppantip.com/topic/32364197

ตอนที่สาม ตามลิงค์ด้านล่างนะครับ

http://ppantip.com/topic/32426572

------------------




แสงสว่างวาบที่ไพ่ทั้งสองบนพื้นโต๊ะ ไพ่ จอฟฟรี่ย์ บาราเธียน ตะโกนใส่ไพ่ ทีเรียน แลนนิสเตอร์ว่า ‘ข้าคือราชา ข้าคือราชา คุกเข่า!!!’

             ไพ่ทีเรียนมองด้วยดวงตาข้างที่มีนัยน์ตาสีเขียวมรกต เม้มปากและเงยหน้ามองหลานชายที่ตะโกนสั่งไม่ขาดปาก
    ‘หน้าไม้ในมือเจ้า พูดคุยกับข้าเข้าใจง่ายกว่านะ หลานชาย’
    ‘ข้าคือราชา ไม่จำเป็นต้องให้เจ้ามาสั่งสอน!!!’

             สิ้นเสียงของไพ่จอฟฟรี่ย์ ไพ่ทีเรียนก็ประเคนหนังสือเล่มหนาเตอะว่าด้วยประวัติศาสตร์การสร้างผากำแพงทางเหนือของแบรนด์ ผู้สร้าง อัดเข้าไปที่ขมับของจอฟฟรี่ย์ด้วยความรุนแรง ไพ่จอฟรรี่ย์เซถลา หันไปมองหาบิดาเพื่อขอความช่วยเหลือ

            “เสียใจด้วยบุตรของข้า นี่เป็นการต่อสู้ที่ข้าไม่สามารถเข้าไปยุ่งเกี่ยวได้” โรเบิร์ตตีหน้าเศร้า เฝ้ามองไพ่ที่กำลังต่อสู้กันอย่างเข้มข้น

            “เจ้าราชาโง่ ไม่ยอมรีบขึ้นหน้าไม้ในมือตั้งแต่เริ่ม เจ้าเอาหน้าไม้ฟาดทีเรียนเร็วๆซิ” เอ็ดดาร์ค สตาร์ค เผลอส่งเสียงเอาใจช่วยจอฟฟรี่ย์อย่างไม่  ตั้งใจ เนื่องด้วยเป็นการแข่งขันที่มีการเอาชนะ ความแค้นระหว่างบุคคลจึงถูกหลงลืมลงชั่วขณะ

          ‘ความไวเป็นเรื่องของปีศาจ’ ทีเรียนพูดจบประโยค ก็ฟาดหนังสือเล่มหนาใส่จอฟฟรี่ย์ไม่ยั้ง จนราชาอายุน้อยทรุดกายลง แต่ทีเรียนก็ยังไม่หยุดฟาด เลือดทะลักออกจากปากของจอฟฟรี่ย์ คู้ตัวลงแล้วจึงเอ่ยคำ

          ‘ข้าแพ้แล้ว’

          สิ้นเสียงของไพ่จ๊อฟฟรี่ย์ แสงสีขาวผุดขึ้นอีกครั้ง ไพ่ของจ๊อฟฟรี่ย์หายไปจากโต๊ะ หลงเหลือแต่ไพ่ทีเรียน แลนนิสเตอร์

         ‘ราชาทีดีควรเป็นอย่างไรนะ ท่านพ่อ’ ไพ่ทีเรียนยิ้มยียวน โค้งคำนับผู้เล่นรอบโต๊ะ แล้วหันไปถามคำถามทิ่มแทงต่อ ไทวิน แลนนิสเตอร์

         “ลูกชายท่านชนะน่าจะดีใจนะ ไทวิน” โอเบรินหันไปพูดคุยในทีท่าสบายๆ

         “ข้าไม่นับเขาเป็นลูกชาย” สายตาของไทวิน ยังมองเขม็งไปที่ไพ่ ในใจยังครุ่นคิดคำนึงถึงอดีตที่ผ่านมา เขาใส่ชุดคลุมหลวมด้วยผ้าป่านเบาบางสีเหลือง ลายบนตัวเสื้อบ่งบอกถึงสัญลักษณ์ตระกูลสีแดง ราชสีห์ที่กำลังคำราม ภายในโรงเหล้าแห่งนี้ เขาเป็นผู้เดียวที่เดินเข้าออกห้องน้ำบ่อยที่สุด มันเป็นการกังวลว่าจะทำธุระไม่เสร็จ เป็นบาดแผลฝังลึกก่อนที่เขาจะสิ้นชีพ ไม่ต่างจาก เอ็ดดาร์ค และ โอเบริน เมื่อเห็นหน้าไม้ในมือไพ่ของจอฟฟรี่ย์ เหงื่อแห่งความหวาดผวาก็ไหลออกมาไม่รู้ตัว แต่เขายังเก็บอาการ

         “ลูกชายเจ้ามัวทำอะไรอยู่โรเบิร์ต เป็นราชาที่งี่เง่าที่สุดที่ข้าเคยเจอมา ถ้าไม่นับเจ้าล่ะนะ แย่ที่สุด!!!” เอ็ดดาร์ค ระบายความขุ่นเคืองต่อโรเบิร์ตอย่างหัวเสีย เมื่อไพ่ที่ลงไปแพ้ เขาจึงต้องจั่วไพ่เพิ่มขึ้นมาอีกสามใบ ในมือของ เอ็ดดาร์คตอนนี้มีไพ่อยู่สิบสองใบเข้าไปแล้ว “เป็นอย่างนี้ทุกที ข้าล่ะไม่เข้าใจจริงๆ หนังสือกับหน้าไม้ นี่มันเรื่องตลกโง่เง่าชัดๆ”

         “ความเก่งของบุตรเป็นความภาคภูมิใจของบิดา ส่วนความไม่เอาไหนของบุตรก็ถือเป็นความเจ็บปวดของบิดาเช่นกัน” โรเบิร์ตน้ำตารื้นคลอเบ้า ส่งเสียงสั่นเครือ


          มันเข้าทางของเอ็ดดาร์คบ้างคราวนี้ เขาแอบยิ้มอย่างอารมณ์ดีไม่ให้ใครเห็นเมื่อยั่วโรเบิร์ตได้สำเร็จ เมื่อไพ่ที่จั่วเพิ่มขึ้นมาสามใบ อยู่ในแนวทางที่เขาคาดหวัง

         “ท่านโอเบริน ไพ่ทีเรียนของท่านเป็นฝ่ายชนะ ท่านสามารถลงไพ่อีกใบเพื่อช่วยไพ่ทีเรียน ตามกติกา ท่านจะใช้สิทธิ์เลยหรือไม่” ไทวินถามคำถามต่อโอเบรินด้วยความสุภาพ แต่ในใจกลับคิดว่างแผนการใหญ่

        “ไม่ล่ะท่านลอร์ดไทวิน ข้าขอดูไพ่ของท่านก่อนแล้วค่อยตัดสินใจอีกที” เขายิ้มอย่างรู้ทันสิงห์โตเฒ่าอย่างไทวิน เรื่องอะไรที่จะเปิดไพ่ให้ศัตรูเป็นฝ่ายดูก่อน

        “ทำไมเราไม่กินกันไปคุยกันไปเสียก่อนเล่า สหายร่วมโต๊ะทั้งหลาย ไพ่ก็เป็นแค่เกมที่ทำให้พวกเราเคร่งเครียดกันเกินจริงไปนะ ข้าอยากชวนคุยเรื่องเก่าของตระกูลข้า และก็จะแลกเปลี่ยนเรื่องเล่าของตระกูลพวกท่าน รวมถึงท่านด้วยนะ คาล โดรโก พวกท่านไม่สงสัยบ้างหรือว่าทำไมข้าใส่ตราสัญลักษณ์สิงห์โตสีแดง แทนที่จะเป็นสีทอง” ไทวินเริ่มถ่วงเวลาด้วยการชวนคุย

         “ก็เพราะท่านใส่เสื้อสีเหลืองไงล่ะ ถ้าลายสัญลักษณ์สิงห์โตของท่านเป็นสีทองก็ถูกกลืนและไม่โดดเด่น เรื่องแบบนี้ให้ ทอมมินบุตรข้ามาตอบก็ตอบได้ รีบเล่นเร็วๆเข้าเถอะลอร์ดไทวิน อย่าถ่วงเวลาอยู่เลย” โรเบิร์ตเร่งเร้า เขายังไม่ได้ทิ้งไพ่ลงไปเลยซักใบ

         “ทอมมินหลานข้า อาจจะมีคำตอบที่ต่างจากท่าน และฉลาดกว่าท่านนะ โรเบิร์ต” ไทวินหันไปตอบด้วยเสียงแผ่วเบา

           ‘เพราะสัญลักษณ์สิงห์โตสีแดงนี้เป็นของตระกูลคาสตาเมียร์ไงล่ะท่านพ่อ ท่านอยากจะให้ข้าบอกเหตุผลอีกหรือไม่ว่าทำไมท่านถึงใส่มัน หรือว่าจะรีบทิ้งไพ่ในมือท่านมาให้ข้ารีบกำจัดเสีย’ ไพ่ทีเรียนตะโกนเสียงดังเพื่อให้วงไพ่ได้ยิน

          “หุบปากเจ้าเถอะทีเรียน ข้าภาวนาต่อทวยเทพทั้งเจ็ดเลยทีเดียวว่าอยากจะมีไพ่’เช’อยู่ในมือข้า อยากรู้นักว่าเจ้าจะทำยังไง” หลังจากถูกไพ่ทีเรียนดักคอ ไทวินจึงวางไพ่ลงฝั่งตรงข้ามต่อไพ่ทีเรียน

     เป็นไพ่ลักษณะพิเศษที่มีสีแดงก่ำดั่งเพลิง มุมซ้ายบนและขวาล่างเป็นรูปหัวใจที่ไหม้ไฟ  นักบวชแดง เมลิซานเดร หญิงสาวที่น่าลุ่มหลง ผู้นับถือเทพแห่งแสง รัลลอร์ มาในชุดยาวปิดขาเปิดสัดส่วนบนให้ดูน่าค้นหา กำลังกางมือออก ต่อหน้ากระโจมไฟที่ยังคงแผดเผา

     แต่มือของไทวินยังไม่หยุดอยู่แค่นั้นเขาหยิบไพ่อีกใบมาวางติดกันทันที ไพ่อีกใบสัญลักษณ์เป็นรูปดอกกุหลาบและหนาม มาร์เจอรี่ ไทเรล แห่งไฮการ์เดน  หญิงสาวผู้อ่อนช้อยและงดงาม แต่ถ้าไม่ระวังก็จะเจอหนามแหลมคมทิ่มตำได้ ผ้าลูกไม้แขนยาว คลอสเซ็ตร้อยเชือกถักเอ็นวัว รัดร่างให้เอวบาง ผ้าป่านลวดลายดอกไฮเดรีนเยียร์สีม่วง รับกับใบหน้าหวานของนางยิ่งนัก

    “สำหรับผู้มักมากในกามอย่างเจ้า คงจะเก่งได้แต่กับเด็กและโสเพณีในตรอกถูกๆล่ะนะทีเรียน สุภาพสตรีทั้งคู่เจ้าจะเอาชนะอย่างไรข้าอยากจะรู้นัก”
    “ท่านลอร์ดไทวิน อย่าหาว่าข้าโง่เง่าเลยนะ การจะนำไพ่ประกบช่วยกัน มันต้องมีจุดเชื่อมโยงกันอย่างใดอย่างหนึ่งที่สำคัญ อันนี้ข้ามองไม่เห็นเลยว่ามันเชื่อมโยงกันตรงไหน” โอเบรินทักท้วงเมื่อรู้สึกได้รับความไม่เป็นธรรม

              “จุดเชื่อมโยงแรก ไพ่ทั้งสองใบเป็นไพ่หญิงสาว จุดเชื่อมโยงที่สองไม่มีอาวุธด้วยกันทั้งคู่ จุดเชื่อมโยงที่สามเป็นสตรีที่ชายใดได้เห็นแล้วก็คิดถึงเรื่องราวได้ประการเดียว” ไทวินใช้ความเจ้าเล่ห์ขุดหาเหตุผลมาเถียงข้างๆคูๆ
    
    “ข้าชอบเหตุผลท่าน ข้ายอมรับ เน็ดล่ะเจ้าว่าไง” โรเบิร์ตรีบหันมาถาม
มันจะได้รีบๆเล่นกันใช่ไหม เอ็ดดาร์คคิดในใจ “เอาล่ะ ข้ายอมรับด้วยเชิญเล่นต่อเถิด ท่านลอร์ดโอบเริน ท่านลอร์ดไทวิน

    “ในเมื่อท่านเล่นเอามารยาสตรีมาจัดการกับไพ่ทีเรียนของข้า ก็ถึงเวลาที่ข้าจะต้องนำไพ่ชายผู้เจนจัดในเรื่องกามารมณ์ออกมาเป็นตัวช่วยอย่างเลี่ยงไม่ได้!!” โอเบรินตวาดเสียงลั่น หยิบไพ่ในมืออีกใบนำมาวางเคียงข้างไพ่ทีเรียนของตัวเอง

    “ธีออน เกรย์จอย!!!!” เสียงไทวินประสานพร้อมเพรียงกันกับเอ็ดดาร์คสตาร์ค เมื่อโอเบรินหงายไพ่ให้เห็นหน้าตาชายหนุ่มในไพ่นั้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่