เรื่องมีอยู่ว่า เราเดินไปซื้อเลย์ให้คนที่บ้าน ที่ร้านสะดวกซื้อเจ้าประจำแถวบางนา โดยกำเงินไป100บาท เข้าไปในร้าน ก็ตรงไปหยิบเลย์ถุงละ20บาท 3ถุง และก็เดินไปหยิบทิวลี่ 5 บาท 1 ชิ้น กับเบง เบง 5 บาท 1 ชิ้น ซึ่งตอนนั้นพนักงานในร้านมีการทะเลาะกันนิดหน่อยเรื่องทำงาน ซึ่งคนที่ทะเลาะก็เป็นหัวหน้าพนักงานผู้หญิงร่างใหญ่กับเพื่อนพนักงาน เราก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะร้านนี้พนักงานชอบทะเลาะเสียงดังจนถือเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว(ก็ไม่รู้นะว่าเมื่อไรจะพัฒนา) ก็เดินไปเพื่อจะคิดเงินที่เคาน์เตอร์ เราก็เดินไปที่เคาร์เตอร์ที่1 เพราะเห็นหัวหน้าพนักงานยืนอยู่ที่เคาน์เตอร์นั้น แต่พอไปถึงที่เคาน์เตอร์หัวหน้าพนักงานก็ให้เราย้ายของมาจ่ายที่เคาน์เตอร์ที่2 เราก็ย้ายของตามที่เขาบอก(ซึ่งตอนนั้นเคาน์เตอร์จ่ายเงินทั้งหมดว่างไม่มีลูกค้า) เขาก็สแกนบาร์โค้ดคิดเงินอยู่ ส่วนเราก็มองไปรอบๆร้าน
และเขาก็พูดขึ้นมาว่า "จะรับเลย์อีกถุงไหม ถ้าซื้อสองถุงมันจะลดราคา...นะ" ซึ่งตอนนั้นเลย์ที่เราหยิบมามี3ถุง แล้วถ้าเราไปหยิบอีกถุง ก็จะเป็น4ถุง มันจะมีส่วนลดแบบคู่พอดี แต่ตอนนั้นฟังไม่ชัดว่าราคาจะลดไปเท่าไร เราก็คิดสักพัก ก็เลยบอกโอเคเดียวไปเอาเพิ่มมาอีกถุงละกัน เราก็เลยเดินไปหยิบเลย์ถุงละ20บาทมาอีกถุง ซึ่งตอนจะเดินไปหยิบเห็นราคารวมคิดเงินตรงเคาน์เตอร์โชว์เป็น80บาท ตอนนั้นรีบและ งงๆ อยู่ ก็ไม่ได้คิดอะไร พอหยิบเลย์แล้วเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ปรากฎมีลูกค้ามายืนต่อแถว3-4คน ซึ่งเคาน์เตอร์อื่นก็ว่าง เราก็เลยรีบยื่นเลย์ไปให้เพราะไม่อยากให้ลูกค้าคนอื่นรอนาน หัวหน้าพนักงานก็สแกนบาร์โค้ด แล้วก็พูดขึ้นมาว่า "100 บาท พอดี" เราก็ งงๆ และแปลกใจ ว่าทำไม100บาทพอดี แล้วเขาบอกต้องขอใบเสร็จไว้เป็นสิทธิส่วนลดตะกี้(คือไม่ให้ใบเสร็จเราว่างั้น) ด้วยความรีบเพราะเห็นคนเริ่มต่อแถวยาว และพนักงานแต่ละคนทำหน้ามุ่ยเพราะทะเลาะกัน ก็เลยรีบเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงขนม เราก็ลองคิดค่าสินค้าที่ซื้อมา ต่อให้ไม่มีส่วนลดทั้งหมดก็แค่ 90 บาท ไหงเป็น 100 บาทไปได้ พอถึงบ้าน(พอดีบ้านกับร้านห่างกันไม่กี่ก้าว) ก็เลยเทสินค้ามาดูว่ามีอะไรเกินมาหรือป่าว สินค้าทั้งหมดมีดังต่อไปนี้
เลย์ 4 ถุง ถุงละ 20 บาท รวมเป็น 80 บาท
ทิวลี่ 1 ชิ้น ชิ้นละ 5 บาท
เบง เบง 1 ชิ้น ชิ้นละ 5 บาท
รวมทั้งหมด 80+5+5 = 90 บาท แล้วไหงมันคิดเป็น 100 บาท แล้วไหนละส่วนลด? พอจะออกกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อไปทวงถาม คนที่บ้านก็บอกว่าไม่ต้องไปหรอก ทะเลาะกันเปล่าๆเพราะเราไม่มีบิลมาด้วย(ใช่สิ!! มันยึดบิลไปนิ) คนที่บ้านบอกแค่ 10 บาท อย่าไปทะเลาะกับมันเลยเสียเวลาเสียสุขภาพจิตเปล่า ถือเป็นค่าโง่ค่าสะเพร่าในความไม่ละเอียดของเราเองละกัน(เพราะปกติคิดเงินเสร็จจะเช็คสินค้าและราคาที่หน้าร้านเลย ที่วันนี้ไม่ทำเพราะเห็นพนักงานมันทะเลาะกันหน้ามุ่ย และลูกค้าเยอะเลยรีบๆเดินออกมา)
ประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นความโง่เขลาและความสะเพร่าของเราเอง ที่รีบ ไม่ละเอียดเช็คราคาและสินค้าให้ดีก่อนออกมาจากร้าน
แต่ถือว่าคุ้มที่ 10 บาท สามารถซื้อความไม่เชื่อใจในการบริการของพนักงารในร้านนี้ได้ ทำให้เราเกิดความระมัดระวังยิ่งขึ้นกว่าเดิม
วันนี้มีเรื่องเสียความรู้สึก เพราะตัวเองสะเพร่ากับร้านสะดวกซื้อชื่อดัง
และเขาก็พูดขึ้นมาว่า "จะรับเลย์อีกถุงไหม ถ้าซื้อสองถุงมันจะลดราคา...นะ" ซึ่งตอนนั้นเลย์ที่เราหยิบมามี3ถุง แล้วถ้าเราไปหยิบอีกถุง ก็จะเป็น4ถุง มันจะมีส่วนลดแบบคู่พอดี แต่ตอนนั้นฟังไม่ชัดว่าราคาจะลดไปเท่าไร เราก็คิดสักพัก ก็เลยบอกโอเคเดียวไปเอาเพิ่มมาอีกถุงละกัน เราก็เลยเดินไปหยิบเลย์ถุงละ20บาทมาอีกถุง ซึ่งตอนจะเดินไปหยิบเห็นราคารวมคิดเงินตรงเคาน์เตอร์โชว์เป็น80บาท ตอนนั้นรีบและ งงๆ อยู่ ก็ไม่ได้คิดอะไร พอหยิบเลย์แล้วเดินกลับมาที่เคาน์เตอร์จ่ายเงิน ปรากฎมีลูกค้ามายืนต่อแถว3-4คน ซึ่งเคาน์เตอร์อื่นก็ว่าง เราก็เลยรีบยื่นเลย์ไปให้เพราะไม่อยากให้ลูกค้าคนอื่นรอนาน หัวหน้าพนักงานก็สแกนบาร์โค้ด แล้วก็พูดขึ้นมาว่า "100 บาท พอดี" เราก็ งงๆ และแปลกใจ ว่าทำไม100บาทพอดี แล้วเขาบอกต้องขอใบเสร็จไว้เป็นสิทธิส่วนลดตะกี้(คือไม่ให้ใบเสร็จเราว่างั้น) ด้วยความรีบเพราะเห็นคนเริ่มต่อแถวยาว และพนักงานแต่ละคนทำหน้ามุ่ยเพราะทะเลาะกัน ก็เลยรีบเดินออกมาจากร้านพร้อมถุงขนม เราก็ลองคิดค่าสินค้าที่ซื้อมา ต่อให้ไม่มีส่วนลดทั้งหมดก็แค่ 90 บาท ไหงเป็น 100 บาทไปได้ พอถึงบ้าน(พอดีบ้านกับร้านห่างกันไม่กี่ก้าว) ก็เลยเทสินค้ามาดูว่ามีอะไรเกินมาหรือป่าว สินค้าทั้งหมดมีดังต่อไปนี้
เลย์ 4 ถุง ถุงละ 20 บาท รวมเป็น 80 บาท
ทิวลี่ 1 ชิ้น ชิ้นละ 5 บาท
เบง เบง 1 ชิ้น ชิ้นละ 5 บาท
รวมทั้งหมด 80+5+5 = 90 บาท แล้วไหงมันคิดเป็น 100 บาท แล้วไหนละส่วนลด? พอจะออกกลับไปที่ร้านสะดวกซื้อเพื่อไปทวงถาม คนที่บ้านก็บอกว่าไม่ต้องไปหรอก ทะเลาะกันเปล่าๆเพราะเราไม่มีบิลมาด้วย(ใช่สิ!! มันยึดบิลไปนิ) คนที่บ้านบอกแค่ 10 บาท อย่าไปทะเลาะกับมันเลยเสียเวลาเสียสุขภาพจิตเปล่า ถือเป็นค่าโง่ค่าสะเพร่าในความไม่ละเอียดของเราเองละกัน(เพราะปกติคิดเงินเสร็จจะเช็คสินค้าและราคาที่หน้าร้านเลย ที่วันนี้ไม่ทำเพราะเห็นพนักงานมันทะเลาะกันหน้ามุ่ย และลูกค้าเยอะเลยรีบๆเดินออกมา)
ประสบการณ์ครั้งนี้ถือว่าเป็นความโง่เขลาและความสะเพร่าของเราเอง ที่รีบ ไม่ละเอียดเช็คราคาและสินค้าให้ดีก่อนออกมาจากร้าน
แต่ถือว่าคุ้มที่ 10 บาท สามารถซื้อความไม่เชื่อใจในการบริการของพนักงารในร้านนี้ได้ ทำให้เราเกิดความระมัดระวังยิ่งขึ้นกว่าเดิม