จากกระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/32300616 สรุปว่าตอนนี้ได้งานทำแล้วค่ะ ดีใจมากๆ จากท้ายๆกระทู้ที่บอกว่ามีสัมภาษณ์วันนั้น สรุปว่าได้งานนั้นล่ะค่ะ จำได้ว่ามีนัดสัมภาษณ์งานวันศุกร์แต่ จขกท ไปสัมภาษณ์งานไม่ทัน เพราะหาตึกไม่เจอ (จะว่าประมาทก็ใช่เลย แต่ไม่มีโอกาสออกไปหาก่อนหน้านั้น) เลยโทรไปขอโทษแล้วขอเลื่อนนัด ทางเขาก็ใจดี บอกว่าไม่เป็นไร เลื่อนเป็นวันจันทร์ อาทิตย์ถัดมา
ถึงวันจันทร์ คราวนี้ไม่พลาดละ ไปแต่เช้า ถึงปุ๊บ กรอกใบสมัคร ทำข้อสอบภาษาอังกฤษ ทำข้อสอบทางเทคนิค(สมัครตำแหน่ง technical support) สอบพิมพ์ดีด เสร็จแล้วรอผลพร้อมรอสัมภาษณ์ผู้จัดการฝ่ายบุคคล กว่าจะได้สัมภาษณ์ก็เกือบบ่ายสามแล้ว คุยไปคุยมา ทำให้มองภาพรวมของบริษัทและงานที่จะทำชัดขึ้น เขาก็แนะนำให้รู้จักหนึ่งในทีมที่เราจะต้องร่วมงานด้วยกัน คือจะบอกว่าโลกกลมมากๆ เพื่อนร่วมทีมคนนั้นคือเพื่อนร่วมงานเก่า คือเคยทำงานด้วยกันเมื่อหลายปีที่แล้ว เจอหน้ากันก็แบบว่า เห้ย มาทำอะไรที่นี่....ผู้จัดการก็บอกว่าดีแล้ว รู้จักกันก็ทำงานได้ง่ายขึ้น แล้วก็คุยกันต่อ จนสุดท้ายก็ถามเขาว่าจะได้รู้ผลการสัมภาษณ์เมื่อไหร่ ผู้จัดการบอกว่าใจจริง 99% เขาอยากรับเราแล้วล่ะ ติดที่ว่าเขายังเหลือผู้สัมภาษณ์อีกสองคน ซึ่งนัดวันสัมภาษณ์ไว้แล้ว เราก็เข้าใจ เขาบอกว่า เขาจะบอกผลภายในวันพุธ ไม่เกินนั้น
วันถัดมา วันอังคารมีสายจากบริษัทว่าเขาขอแสดงความยินดี ทางบริษัทยินดีรับเราเข้าทำงาน ความรู้สึกตอนนั้นแบบว่า โล่งมาก สิ้นสุดซะทีการรอคอย
บรรยากาศ ผู้คน รู้สึกโอเคแล้วล่ะ แต่ข้อเสียคือที่ทำงานไกลจากบ้านพอสมควร แต่อดทนทำไปก่อน
ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังหางานอยู่นะคะ มันอยู่ที่จังหวะจริงๆ งานที่เราไม่ได้แสดงว่ามันอาจจะไม่เหมาะกับเรา เดินหน้า สู้ต่อไปค่ะ
ได้งานแล้วค่า
ถึงวันจันทร์ คราวนี้ไม่พลาดละ ไปแต่เช้า ถึงปุ๊บ กรอกใบสมัคร ทำข้อสอบภาษาอังกฤษ ทำข้อสอบทางเทคนิค(สมัครตำแหน่ง technical support) สอบพิมพ์ดีด เสร็จแล้วรอผลพร้อมรอสัมภาษณ์ผู้จัดการฝ่ายบุคคล กว่าจะได้สัมภาษณ์ก็เกือบบ่ายสามแล้ว คุยไปคุยมา ทำให้มองภาพรวมของบริษัทและงานที่จะทำชัดขึ้น เขาก็แนะนำให้รู้จักหนึ่งในทีมที่เราจะต้องร่วมงานด้วยกัน คือจะบอกว่าโลกกลมมากๆ เพื่อนร่วมทีมคนนั้นคือเพื่อนร่วมงานเก่า คือเคยทำงานด้วยกันเมื่อหลายปีที่แล้ว เจอหน้ากันก็แบบว่า เห้ย มาทำอะไรที่นี่....ผู้จัดการก็บอกว่าดีแล้ว รู้จักกันก็ทำงานได้ง่ายขึ้น แล้วก็คุยกันต่อ จนสุดท้ายก็ถามเขาว่าจะได้รู้ผลการสัมภาษณ์เมื่อไหร่ ผู้จัดการบอกว่าใจจริง 99% เขาอยากรับเราแล้วล่ะ ติดที่ว่าเขายังเหลือผู้สัมภาษณ์อีกสองคน ซึ่งนัดวันสัมภาษณ์ไว้แล้ว เราก็เข้าใจ เขาบอกว่า เขาจะบอกผลภายในวันพุธ ไม่เกินนั้น
วันถัดมา วันอังคารมีสายจากบริษัทว่าเขาขอแสดงความยินดี ทางบริษัทยินดีรับเราเข้าทำงาน ความรู้สึกตอนนั้นแบบว่า โล่งมาก สิ้นสุดซะทีการรอคอย
บรรยากาศ ผู้คน รู้สึกโอเคแล้วล่ะ แต่ข้อเสียคือที่ทำงานไกลจากบ้านพอสมควร แต่อดทนทำไปก่อน
ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่กำลังหางานอยู่นะคะ มันอยู่ที่จังหวะจริงๆ งานที่เราไม่ได้แสดงว่ามันอาจจะไม่เหมาะกับเรา เดินหน้า สู้ต่อไปค่ะ