ตอนที่ ๑๑
http://ppantip.com/topic/32337668
รถจากัวร์สีดำขับเข้ามาจอดในลานจอดรถ พนักงานรักษาความปลอดภัยมีหมายเลขทะเบียนรถของรพีพัฒน์แปะไว้หน้าจอกล้องวงจรปิดตลอดเวลาห้าปี เพื่อที่เจ้าของรถจะได้เข้าบ้านอย่างสะดวก รพีพัฒน์เดินเข้าบ้าน โดยไม่สนใจบ่าวไพร่ที่กุลีกุจอออกมาต้อนรับ ภูวดลยืนรอน้องชายอยู่ที่โถงด้านหน้า ชายหนุ่มรอเวลานี้มาห้าปี ช่วงระยะเวลาที่น่าจะนานพอที่น้องชายจะอภัยให้เขา
“กลับมาจนได้” ภูวดลกล่าวกับน้องชายด้วยน้ำเสียงดีใจ
“บ้านนี้ไม่เปลี่ยนเลย พี่ก็เหมือนกัน” รพีพัฒน์ยกมือไหว้พี่ชายอย่างเสียไม่ได้
“ไม่เหมือนนายเปลี่ยนไปเยอะเลย ดูเป็นหนุ่มแน่น แถมผิวยังคล้ำขึ้นด้วย”
“ผมทำงานใช้แรง ไม่ได้ทำงานนั่งโต๊ะเหมือนพี่”
“นายคงเดินทางมาไกล ไปพักผ่อนเถอะ ตอนเย็นค่อยคุยกัน” ภูวดลโอบไหล่น้องชาย รพีพัฒน์เบี่ยงตัวออกมา แล้วรีบเดินไปที่ห้องนอนของตัวเอง ปล่อยให้ผู้เป็นพี่มองตามด้วยแววตาเจ็บปวด
คนรับใช้นำสัมภาระของชายหนุ่มมาวางไว้ในห้องแล้ว เครื่องปรับอากาศเปิดให้ความเย็นรอเจ้าของห้อง ชายหนุ่มล้มตัวนอนบนเตียงหนานุ่ม รพีพัฒน์เอื้อมมือไปที่โต๊ะหัวเตียง กดปุ่มปิดไฟและปิดม่านที่ถูกเปิดไว้เพื่อไม่ให้ห้องมืด ขณะกำลังจะเคลิ้มหลับเขาได้ยินเสียงเคาะประตู ตามด้วยเสียงของแม่บ้านเก่าแก่
“ต๊าย คุณหนู ไม่เปิดไฟล่ะค่ะ” สิ้นเสียงห้องก็สว่างขึ้นอีกครั้ง พอลำดวนเห็นชายหนุ่มเจ้าของห้องนอนนิ่ง จึงวางถาดของว่างลงบนโต๊ะริมหน้าต่าง แล้วชะโงกหน้าไปดู
“แบร้” รพีพัฒน์ลืมตาพลางแลบลิ้นใส่ลำดวน
“คุณหนูนี่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ชอบแกล้งลำดวนอยู่เรื่อย” นางพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
“อย่าโกรธเลยน่า ไม่แกล้งลำดวนแล้วจะให้พีไปแกล้งใครที่ไหน”
“ถ้าลำดวนรู้ว่าคุณพีจะพักผ่อนคงไม่เข้ามากวนหรอกค่ะ ไหนๆ ก็ยังไม่นอน ลุกมาทานของว่างก่อนแล้วกัน ลำดวนทำขนมลืมกลืน กรอบเค็ม กับขนมต้มมาให้ค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ”
“คุณพีทานแล้วก็พักผ่อนนะคะ มื้อเย็นลำดวนเตรียมของโปรดของคุณพีไว้แล้ว” ลำดวนพูดด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
“จ้ะ” รพีพัฒน์มองลำดวนที่กำลังรินน้ำในกาน้ำชาใส่ถ้วย
“ลำดวนลงไปข้างล่างนะคะ”
“อ้อ ลำดวน พีของถามอะไรหน่อยสิ”
“ค่ะ”
“คู่หมั้นพี่ภูเป็นใคร”
“อ๋อ แหม ลำดวนก็นึกว่าคุณพีจะไม่ถามเสียแล้ว” ลำดวนกระแอมในคอ แล้วจึงพูดว่า “คู่หมั้นของคุณภูเป็นลูกสาวของทนายพิพัฒน์ คุณพีคงจำทนายพิพัฒน์ได้กระมังคะ”
ลำดวนรอดูอากัปกริยาของรพีพัฒน์ พอเห็นชายหนุ่มนิ่งจึงพูดต่อว่า “เรื่องหมั้นหมายน่ะ เป็นความจำนงของคุณภูมิซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรม” ลำดวนหยุดพูด เพราะกลัวว่าถ้าพูดมากไปกว่านี้ รพีพัฒน์อาจรู้สึกผิด หลังจากเกิดเรื่องในงานแต่งงานของภูวดล รพีพัฒน์ก็หนีออกจากบ้าน ภูมิศักดิ์ไม่ยอมสั่งให้คนตามหา เพราะคิดว่ารพีพัฒน์คงกลับมาเอง เป็นที่รู้กันว่าภูมิศักดิ์รอเห็นหน้าบุตรชายคนเล็กจนวาระสุดท้ายของชีวิต ชายหนุ่มรู้สึกตัวตอนได้ยินเสียงประตูปิด งานศพบิดาเขาไม่ได้ไปร่วมพิธีศพ แต่เขาชดเชยด้วยการไปที่สุสานสัปดาห์ละครั้งเพื่อถอนหญ้า รดน้ำ ใส่ปุ๋ยรอบหลุมฝังศพ เขาคิดว่าพ่อคงยกโทษให้ที่ไม่ยอมมาดูใจ
“ลืมถามว่าคู่หมั้นพี่ภูชื่ออะไร”
พรีมเอนหลังบนเก้าอี้ยาว มีหนังสือเปิดกางอยู่บนหมอนอิง เธอไม่มีกระจิตกระใจอ่านหนังสือ วันนี้เธอก็เบี้ยวไม่ยอมไปดูภูวดลแข่งกอล์ฟ ดีที่คู่หมั้นไม่ได้เซ้าซี้ถามสาเหตุหญิงสาวกึ่งนั่งกึ่งนอนคิดเรื่องไร้สาระจนหลับไป เสียงโทรศัพท์มือถือดังลั่นไปทั่วห้อง พรีมรีบลุกทั้งที่ยังงัวเงีย กว่าจะหาโทรศัพท์เจอ สายก็หลุดไปแล้ว หญิงสาวเลื่อนหน้าจอ เห็นว่าเป็นสายของภูวดลทั้งหมดสามสาย โทร.มาหาเธอระยะเวลาห่างกันหนึ่งชั่วโม' พรีมโทร.กลับ ปลายสายรับแทบจะในทันที
“ตื่นแล้วหรือครับ ผมเป็นห่วงแทบแย่” น้ำเสียงภูวดลฟังดูเป็นกังวล
“พรีมหลับลึกไปหน่อยค่ะ ขอโทษค่ะ”
“ขอโทษอะไรกันล่ะครับ เย็นนี้มาที่บ้านผมนะครับ ผมมีคนสำคัญที่อยากให้คุณพรีมรู้จัก” ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ค่ะ” พรีมหาวพลางยื่นโทรศัพท์ออกห่างตัว คงน่าเกลียดพิลึกถ้าเสียงหาวหลุดออกไป
“ผมมีประชุม แค่นี้ก่อนนะครับ”
พรีมบีบต้นคอ นี่เธอหลับบนเก้าอี้ยาวทั้งคืนเลยหรือนี่ หญิงสาวรู้สึกปวดคอเล็กน้อย การเป็นคนว่างงานนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ พรีมคิด อย่างน้อยเธอก็มีเวลาอ่านหนังสือที่อยากอ่าน ดูหนังที่อยากดู ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่ม หญิงสาวคิดว่าถือเป็นโบนัสล่วงหน้า เพราะหลังจากแต่งงานแล้วเธอคงไม่มีเวลาเป็นของตัวเองแบบนี้แน่
รพีพัฒน์เดินสำรวจรอบบริเวณบ้าน ตอนเด็กๆ เขาคิดว่าอยู่บ้านสนุกดี เพราะมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นมากมาย แถมพวกพี่เลี้ยงก็ตามตัวเขาไม่ค่อยเจอด้วย หลังจากเรียนจบจากต่างประเทศกลับมาอยู่บ้าน เขากลับคิดว่าบ้านหลังนี้ใหญ่เกินไป แล้วเขาก็คิดถึงเพื่อนบ้านสาว ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ จะโกรธเขาหรือเปล่าที่จากมาแบบนี้ แต่คิดอีกทีเธอคงจะดีใจมากกว่าที่ไม่มีคนคอยกวนประสาท
รพีพัฒน์ได้ยินเสียงรถแล่นมาจอด ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ เขานอนอ่านหนังสือในห้องสมุด ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าหนังสือเล่มโปรดที่เขาเคยเขียนความเห็นไว้ในแต่ละหน้า มีคนมาเขียนตอบโต้ ลายมือผู้หญิงเสียด้วย เท่าที่รู้ผู้หญิงของเขาและพี่ชายไม่มีใครชอบอ่านหนังสือเลยสักคนเดียว
“คุณพียิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” ลำดวนวางถาดเครื่องดื่มลงบนโต๊ะข้างตัวชายหนุ่ม
“ใครมาหรือลำดวน” รพีพัฒน์ถามโดยที่ตายังไม่ละจากหน้าหนังสือ
“คู่หมั้นคุณภูค่ะ”
“งั้นหรือ”
“จะไม่ไปทำความรู้จักกันสักหน่อยหรือคะ”
“เดี๋ยวก็ได้ เขามาที่นี่บ่อยไหม”
“คู่หมั้นคุณภูน่ะหรือค่ะ ก็เกือบทุกวันค่ะ เพราะทำงานด้วยกัน”
ลำดวนเห็นรพีพัฒน์ตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือจึงไม่อยากรบกวน พอลำดวนออกไปแล้วเขาจึงนำหนังสือวางบนเก้าอี้แล้วเอาหมอนอิงทับไว้
การรับประทานอาหารครั้งแรกระหว่างสองพี่น้องไม่ได้ดีนัก เขานึกอยากกวนประสาทพี่ชาย แต่ภูวดลก็คือภูวดลคนเดิม เยือกเย็น สุขุม ไม่ยอมตกหลุมพรางน้องชายง่ายๆ แม้ว่าเขาจะพูดแรงถึงขนาดว่า
“หวังว่าคนนี้คงมีชีวิตอยู่ถึงตอนส่งตัวเข้าหอนะครับ”
“ไม่ทันไรก็แช่งพี่ชายตัวเองซะแล้ว”ภูวดลพูดพร้อมกับยิ้ม
“ผมไม่ได้แช่ง ผมก็แค่สงสารผู้หญิงคนนั้น”
เสียงเปิดประตูห้องทำงาน ภูวดลหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสกว่าที่เธอเคยเห็น เขาเดินเข้ามากอดเธอแน่น
“วันนี้ผมดีใจที่สุด มีคนที่ผมอยากให้คุณพรีมรู้จัก”
พรีมเงยหน้ามองคู่หมั้น ก่อนที่เธอจะถามเขาว่าคนคนนั้นเป็นใคร ประตูก็เปิดออก หญิงสาวมองไม่เห็นว่าใครเดินเข้ามาในห้อง ภูวดลหันไปมองพอเห็นว่าเป็นน้องชายจึงรีบพูดว่า
“มาก็ดีเลย มารู้จักกับคู่หมั้นพี่สิ”
รพีพัฒน์มองไม่เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น เพราะพี่ชายยืนบังอยู่ ภูวดลปล่อยพรีมให้เป็นอิสระ สายตาของทั้งสองประสานกัน พรีมยิ้ม เธอแค่ดีใจที่ได้พบเขาอีกครั้ง ส่วนรพีพัฒน์รู้สึกว่าฝันร้ายตามกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง
“นี่นายพี น้องชายผมครับ พี นี่คุณพรีม คู่หมั้นพี่เอง”
“สวัสดีค่ะ” พรีมพูดด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมกับยิ้ม
ภูวดลเห็นน้องชายยืนนิ่ง จึงพูดขึ้นว่า
“พี ไหว้คุณพรีมสิ แกอายุน้อยกว่านะ”
รพีพัฒน์มองหน้าพี่ชายสลับกับพรีม เขาเดินเข้าไปหาคนทั้งสอง ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พรีม
“สวัสดีครับ ว่าที่พี่สะใภ้” ชายหนุ่มยิ้ม แต่แววตาไม่เหมือนรพีพัฒน์ เพื่อนบ้านของเธอ
“พี่สั่งให้คนเตรียมข้าวเย็นไว้แล้ว วันนี้ทานกันเร็วหน่อย คุณพรีมครับ คืนนี้ผมมีงานติดกันสองงาน ไหนๆ ก็มาแล้ว อยู่นั่งเล่นที่นี่สักพักแล้วค่อยกลับนะครับ”
“ค่ะ” พรีมรับคำ หญิงสาวสบตากับรพีพัฒน์ ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตาแข็งกร้าวจนพรีมตกใจ
พรีมนั่งตรงข้ามกับรพีพัฒน์ สายตาที่เขามองเธอทำให้เธออึดอัด อาหารวางเต็มโต๊ะราวกับมีงานเลี้ยงก็ไม่ปาน ภูวดลเป็นฝ่ายคุยซะมากกว่า พรีมได้แต่เออออไปตามเรื่องตามราว
“คุณพิมรักพี่ภูมากแค่ไหนครับ”รพีพัฒน์ถามหลังจากนั่งเงียบมานาน ภูวดลเงียบ ส่วนพรีมก็จ้องหน้าคนถาม เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา อยากรู้จริงหรือแค่อยากกวนประสาท
“ถามอะไรแบบนั้น คุณพรีมก็เขินแย่สิ”ภูวดลาบีบมือคู่หมั้นแน่น
“รักมากค่ะ”พรีมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คนที่นั่งตรงข้ามมองเธออย่างล้อเลียน
“ได้ยินแบบนี้ก็ดีหน่อย นึกว่าแต่งกับพี่ภูเพราะเงิน”
“พี”ภูวดลหันไปมองน้องชายอย่างไม่พอใจ
“คุณพิมเคยได้ยินเรื่องอาถรรพ์ของเจ้าสาวคนก่อนๆ ของพี่ผมไหมครับ”
“พี หยุดได้แล้ว”ภูวดลปราม
“เคยค่ะ เรื่องมันนมนานกาเลแล้วนี่คะ”พรีมเลิกคิ้ว คิดจะมาไม้ไหนนะ
“ไม่กลัวหรือครับ อะไรที่มันเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง มันอาจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่อะไรที่มันเกิดขึ้นสองครั้ง เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม”
“ดูคุณพีจะเป็นห่วงพรีมเหลือเกินนะคะ”หญิงสาว-ดัน
ภูวดลมองหน้าเธอ เขาไม่เคยเห็นคู่หมั้นเถียงกับใครมาก่อน อันที่จริง เขาไม่คิดว่าเธอจะมีอารมณ์ความรู้สึกเสียด้วยซ้ำ
“ผมไม่ได้ห่วงคุณ ผมห่วงพี่ชายผมต่างหาก”รพีพัฒน์ยิ้มเยาะ
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก”ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาหันไปยิ้มให้คู่หมั้นอย่างอ่อนโยน
“อย่าถือสาน้องชายผมเลยนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพีเธอยังเด็ก”พรีมจิกตามองอีกฝ่าย
ส่วนรพีพัฒน์กำช้อนส้อมแน่น ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับประทานอาหารอย่างหัวเสีย
“เจอกันครั้งแรก ก็เป็นแบบนี้ซะแล้ว”ภูวดลมองตามน้องชายพลางสั่นศีรษะ
“พรีมขอโทษค่ะ”
“คุณพรีมไม่ได้ผิดอะไรนี่ครับ น้องชายผมไม่ดีเอง ผมต่างหากที่ต้องขอโทษแทนน้อง”
“พรีมกลับก่อนดีกว่า”หญิงสาวหยิบกระเป๋าถือ เตรียมจะลุกจากเก้าอี้ ภูวดลยังไม่ยอมปล่อยมือจากเธอ
“อดทนหน่อยนะครับ”
“ค่ะ”
พรีมซบศีรษะกับหน้าต่างรถ มีเรื่องให้ต้องอดทนมากมายเหลือเกิน หญิงสาวใช้หลังมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอนึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของรพีพัฒน์ก็น้อยใจ ไม่กี่วันก็จะมาเป็นญาติกันแล้ว แทนที่จะดีใจกลับคอยหาเรื่องเธอ ต่อไปชีวิตครอบครัวของเธอจะเป็นยังไงนะ ดูท่าภูวดลจะรักน้องชายมาก
รพีพัฒน์กระดกแก้ววิสกี้ดื่มอย่างหัวเสีย ทำไมนะ ทำไมต้องเป็นเธอด้วย ชายหนุ่มคิดพลางนึกโกรธบิดากับข้อตกลงในพินัยกรรมบ้าๆ ผู้หญิงที่อยู่ในระดับเดียวกับพี่ชายของเขามีตั้งมากมาย จำเพาะว่าจะต้องเป็นลูกสาวของทนายความประจำตระกูลเท่านั้นหรือ พ่อกับทนายพิพัฒน์มีเหตุผลอะไรนะ บางทีอาจเป็นแผนของทนายพิพัฒน์ก็ได้ รพีพัฒน์นอนคิดหาแผนการให้เธอถอนหมั้นพี่ชายเขาไม่รู้ว่าทำไปเพราะห่วงเธอหรือหวงเธอกันแน่
********************************
หนามหัวใจ ตอนที่ ๑๒
รถจากัวร์สีดำขับเข้ามาจอดในลานจอดรถ พนักงานรักษาความปลอดภัยมีหมายเลขทะเบียนรถของรพีพัฒน์แปะไว้หน้าจอกล้องวงจรปิดตลอดเวลาห้าปี เพื่อที่เจ้าของรถจะได้เข้าบ้านอย่างสะดวก รพีพัฒน์เดินเข้าบ้าน โดยไม่สนใจบ่าวไพร่ที่กุลีกุจอออกมาต้อนรับ ภูวดลยืนรอน้องชายอยู่ที่โถงด้านหน้า ชายหนุ่มรอเวลานี้มาห้าปี ช่วงระยะเวลาที่น่าจะนานพอที่น้องชายจะอภัยให้เขา
“กลับมาจนได้” ภูวดลกล่าวกับน้องชายด้วยน้ำเสียงดีใจ
“บ้านนี้ไม่เปลี่ยนเลย พี่ก็เหมือนกัน” รพีพัฒน์ยกมือไหว้พี่ชายอย่างเสียไม่ได้
“ไม่เหมือนนายเปลี่ยนไปเยอะเลย ดูเป็นหนุ่มแน่น แถมผิวยังคล้ำขึ้นด้วย”
“ผมทำงานใช้แรง ไม่ได้ทำงานนั่งโต๊ะเหมือนพี่”
“นายคงเดินทางมาไกล ไปพักผ่อนเถอะ ตอนเย็นค่อยคุยกัน” ภูวดลโอบไหล่น้องชาย รพีพัฒน์เบี่ยงตัวออกมา แล้วรีบเดินไปที่ห้องนอนของตัวเอง ปล่อยให้ผู้เป็นพี่มองตามด้วยแววตาเจ็บปวด
คนรับใช้นำสัมภาระของชายหนุ่มมาวางไว้ในห้องแล้ว เครื่องปรับอากาศเปิดให้ความเย็นรอเจ้าของห้อง ชายหนุ่มล้มตัวนอนบนเตียงหนานุ่ม รพีพัฒน์เอื้อมมือไปที่โต๊ะหัวเตียง กดปุ่มปิดไฟและปิดม่านที่ถูกเปิดไว้เพื่อไม่ให้ห้องมืด ขณะกำลังจะเคลิ้มหลับเขาได้ยินเสียงเคาะประตู ตามด้วยเสียงของแม่บ้านเก่าแก่
“ต๊าย คุณหนู ไม่เปิดไฟล่ะค่ะ” สิ้นเสียงห้องก็สว่างขึ้นอีกครั้ง พอลำดวนเห็นชายหนุ่มเจ้าของห้องนอนนิ่ง จึงวางถาดของว่างลงบนโต๊ะริมหน้าต่าง แล้วชะโงกหน้าไปดู
“แบร้” รพีพัฒน์ลืมตาพลางแลบลิ้นใส่ลำดวน
“คุณหนูนี่ยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน ชอบแกล้งลำดวนอยู่เรื่อย” นางพูดด้วยน้ำเสียงกระเง้ากระงอด
“อย่าโกรธเลยน่า ไม่แกล้งลำดวนแล้วจะให้พีไปแกล้งใครที่ไหน”
“ถ้าลำดวนรู้ว่าคุณพีจะพักผ่อนคงไม่เข้ามากวนหรอกค่ะ ไหนๆ ก็ยังไม่นอน ลุกมาทานของว่างก่อนแล้วกัน ลำดวนทำขนมลืมกลืน กรอบเค็ม กับขนมต้มมาให้ค่ะ”
“ขอบใจจ้ะ”
“คุณพีทานแล้วก็พักผ่อนนะคะ มื้อเย็นลำดวนเตรียมของโปรดของคุณพีไว้แล้ว” ลำดวนพูดด้วยน้ำเสียงเปี่ยมสุข
“จ้ะ” รพีพัฒน์มองลำดวนที่กำลังรินน้ำในกาน้ำชาใส่ถ้วย
“ลำดวนลงไปข้างล่างนะคะ”
“อ้อ ลำดวน พีของถามอะไรหน่อยสิ”
“ค่ะ”
“คู่หมั้นพี่ภูเป็นใคร”
“อ๋อ แหม ลำดวนก็นึกว่าคุณพีจะไม่ถามเสียแล้ว” ลำดวนกระแอมในคอ แล้วจึงพูดว่า “คู่หมั้นของคุณภูเป็นลูกสาวของทนายพิพัฒน์ คุณพีคงจำทนายพิพัฒน์ได้กระมังคะ”
ลำดวนรอดูอากัปกริยาของรพีพัฒน์ พอเห็นชายหนุ่มนิ่งจึงพูดต่อว่า “เรื่องหมั้นหมายน่ะ เป็นความจำนงของคุณภูมิซึ่งระบุไว้ในพินัยกรรม” ลำดวนหยุดพูด เพราะกลัวว่าถ้าพูดมากไปกว่านี้ รพีพัฒน์อาจรู้สึกผิด หลังจากเกิดเรื่องในงานแต่งงานของภูวดล รพีพัฒน์ก็หนีออกจากบ้าน ภูมิศักดิ์ไม่ยอมสั่งให้คนตามหา เพราะคิดว่ารพีพัฒน์คงกลับมาเอง เป็นที่รู้กันว่าภูมิศักดิ์รอเห็นหน้าบุตรชายคนเล็กจนวาระสุดท้ายของชีวิต ชายหนุ่มรู้สึกตัวตอนได้ยินเสียงประตูปิด งานศพบิดาเขาไม่ได้ไปร่วมพิธีศพ แต่เขาชดเชยด้วยการไปที่สุสานสัปดาห์ละครั้งเพื่อถอนหญ้า รดน้ำ ใส่ปุ๋ยรอบหลุมฝังศพ เขาคิดว่าพ่อคงยกโทษให้ที่ไม่ยอมมาดูใจ
“ลืมถามว่าคู่หมั้นพี่ภูชื่ออะไร”
พรีมเอนหลังบนเก้าอี้ยาว มีหนังสือเปิดกางอยู่บนหมอนอิง เธอไม่มีกระจิตกระใจอ่านหนังสือ วันนี้เธอก็เบี้ยวไม่ยอมไปดูภูวดลแข่งกอล์ฟ ดีที่คู่หมั้นไม่ได้เซ้าซี้ถามสาเหตุหญิงสาวกึ่งนั่งกึ่งนอนคิดเรื่องไร้สาระจนหลับไป เสียงโทรศัพท์มือถือดังลั่นไปทั่วห้อง พรีมรีบลุกทั้งที่ยังงัวเงีย กว่าจะหาโทรศัพท์เจอ สายก็หลุดไปแล้ว หญิงสาวเลื่อนหน้าจอ เห็นว่าเป็นสายของภูวดลทั้งหมดสามสาย โทร.มาหาเธอระยะเวลาห่างกันหนึ่งชั่วโม' พรีมโทร.กลับ ปลายสายรับแทบจะในทันที
“ตื่นแล้วหรือครับ ผมเป็นห่วงแทบแย่” น้ำเสียงภูวดลฟังดูเป็นกังวล
“พรีมหลับลึกไปหน่อยค่ะ ขอโทษค่ะ”
“ขอโทษอะไรกันล่ะครับ เย็นนี้มาที่บ้านผมนะครับ ผมมีคนสำคัญที่อยากให้คุณพรีมรู้จัก” ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“ค่ะ” พรีมหาวพลางยื่นโทรศัพท์ออกห่างตัว คงน่าเกลียดพิลึกถ้าเสียงหาวหลุดออกไป
“ผมมีประชุม แค่นี้ก่อนนะครับ”
พรีมบีบต้นคอ นี่เธอหลับบนเก้าอี้ยาวทั้งคืนเลยหรือนี่ หญิงสาวรู้สึกปวดคอเล็กน้อย การเป็นคนว่างงานนี่มันก็ดีเหมือนกันนะ พรีมคิด อย่างน้อยเธอก็มีเวลาอ่านหนังสือที่อยากอ่าน ดูหนังที่อยากดู ได้นอนหลับพักผ่อนเต็มอิ่ม หญิงสาวคิดว่าถือเป็นโบนัสล่วงหน้า เพราะหลังจากแต่งงานแล้วเธอคงไม่มีเวลาเป็นของตัวเองแบบนี้แน่
รพีพัฒน์เดินสำรวจรอบบริเวณบ้าน ตอนเด็กๆ เขาคิดว่าอยู่บ้านสนุกดี เพราะมีพื้นที่ให้วิ่งเล่นมากมาย แถมพวกพี่เลี้ยงก็ตามตัวเขาไม่ค่อยเจอด้วย หลังจากเรียนจบจากต่างประเทศกลับมาอยู่บ้าน เขากลับคิดว่าบ้านหลังนี้ใหญ่เกินไป แล้วเขาก็คิดถึงเพื่อนบ้านสาว ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไรบ้างนะ จะโกรธเขาหรือเปล่าที่จากมาแบบนี้ แต่คิดอีกทีเธอคงจะดีใจมากกว่าที่ไม่มีคนคอยกวนประสาท
รพีพัฒน์ได้ยินเสียงรถแล่นมาจอด ชายหนุ่มไม่ได้สนใจ เขานอนอ่านหนังสือในห้องสมุด ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เมื่อเห็นว่าหนังสือเล่มโปรดที่เขาเคยเขียนความเห็นไว้ในแต่ละหน้า มีคนมาเขียนตอบโต้ ลายมือผู้หญิงเสียด้วย เท่าที่รู้ผู้หญิงของเขาและพี่ชายไม่มีใครชอบอ่านหนังสือเลยสักคนเดียว
“คุณพียิ้มน้อยยิ้มใหญ่เชียว” ลำดวนวางถาดเครื่องดื่มลงบนโต๊ะข้างตัวชายหนุ่ม
“ใครมาหรือลำดวน” รพีพัฒน์ถามโดยที่ตายังไม่ละจากหน้าหนังสือ
“คู่หมั้นคุณภูค่ะ”
“งั้นหรือ”
“จะไม่ไปทำความรู้จักกันสักหน่อยหรือคะ”
“เดี๋ยวก็ได้ เขามาที่นี่บ่อยไหม”
“คู่หมั้นคุณภูน่ะหรือค่ะ ก็เกือบทุกวันค่ะ เพราะทำงานด้วยกัน”
ลำดวนเห็นรพีพัฒน์ตั้งอกตั้งใจอ่านหนังสือจึงไม่อยากรบกวน พอลำดวนออกไปแล้วเขาจึงนำหนังสือวางบนเก้าอี้แล้วเอาหมอนอิงทับไว้
การรับประทานอาหารครั้งแรกระหว่างสองพี่น้องไม่ได้ดีนัก เขานึกอยากกวนประสาทพี่ชาย แต่ภูวดลก็คือภูวดลคนเดิม เยือกเย็น สุขุม ไม่ยอมตกหลุมพรางน้องชายง่ายๆ แม้ว่าเขาจะพูดแรงถึงขนาดว่า
“หวังว่าคนนี้คงมีชีวิตอยู่ถึงตอนส่งตัวเข้าหอนะครับ”
“ไม่ทันไรก็แช่งพี่ชายตัวเองซะแล้ว”ภูวดลพูดพร้อมกับยิ้ม
“ผมไม่ได้แช่ง ผมก็แค่สงสารผู้หญิงคนนั้น”
เสียงเปิดประตูห้องทำงาน ภูวดลหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสกว่าที่เธอเคยเห็น เขาเดินเข้ามากอดเธอแน่น
“วันนี้ผมดีใจที่สุด มีคนที่ผมอยากให้คุณพรีมรู้จัก”
พรีมเงยหน้ามองคู่หมั้น ก่อนที่เธอจะถามเขาว่าคนคนนั้นเป็นใคร ประตูก็เปิดออก หญิงสาวมองไม่เห็นว่าใครเดินเข้ามาในห้อง ภูวดลหันไปมองพอเห็นว่าเป็นน้องชายจึงรีบพูดว่า
“มาก็ดีเลย มารู้จักกับคู่หมั้นพี่สิ”
รพีพัฒน์มองไม่เห็นหน้าผู้หญิงคนนั้น เพราะพี่ชายยืนบังอยู่ ภูวดลปล่อยพรีมให้เป็นอิสระ สายตาของทั้งสองประสานกัน พรีมยิ้ม เธอแค่ดีใจที่ได้พบเขาอีกครั้ง ส่วนรพีพัฒน์รู้สึกว่าฝันร้ายตามกลับมาหลอกหลอนเขาอีกครั้ง
“นี่นายพี น้องชายผมครับ พี นี่คุณพรีม คู่หมั้นพี่เอง”
“สวัสดีค่ะ” พรีมพูดด้วยน้ำเสียงดีใจพร้อมกับยิ้ม
ภูวดลเห็นน้องชายยืนนิ่ง จึงพูดขึ้นว่า
“พี ไหว้คุณพรีมสิ แกอายุน้อยกว่านะ”
รพีพัฒน์มองหน้าพี่ชายสลับกับพรีม เขาเดินเข้าไปหาคนทั้งสอง ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้พรีม
“สวัสดีครับ ว่าที่พี่สะใภ้” ชายหนุ่มยิ้ม แต่แววตาไม่เหมือนรพีพัฒน์ เพื่อนบ้านของเธอ
“พี่สั่งให้คนเตรียมข้าวเย็นไว้แล้ว วันนี้ทานกันเร็วหน่อย คุณพรีมครับ คืนนี้ผมมีงานติดกันสองงาน ไหนๆ ก็มาแล้ว อยู่นั่งเล่นที่นี่สักพักแล้วค่อยกลับนะครับ”
“ค่ะ” พรีมรับคำ หญิงสาวสบตากับรพีพัฒน์ ชายหนุ่มมองเธอด้วยแววตาแข็งกร้าวจนพรีมตกใจ
พรีมนั่งตรงข้ามกับรพีพัฒน์ สายตาที่เขามองเธอทำให้เธออึดอัด อาหารวางเต็มโต๊ะราวกับมีงานเลี้ยงก็ไม่ปาน ภูวดลเป็นฝ่ายคุยซะมากกว่า พรีมได้แต่เออออไปตามเรื่องตามราว
“คุณพิมรักพี่ภูมากแค่ไหนครับ”รพีพัฒน์ถามหลังจากนั่งเงียบมานาน ภูวดลเงียบ ส่วนพรีมก็จ้องหน้าคนถาม เธอมองลึกเข้าไปในดวงตาของเขา อยากรู้จริงหรือแค่อยากกวนประสาท
“ถามอะไรแบบนั้น คุณพรีมก็เขินแย่สิ”ภูวดลาบีบมือคู่หมั้นแน่น
“รักมากค่ะ”พรีมพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คนที่นั่งตรงข้ามมองเธออย่างล้อเลียน
“ได้ยินแบบนี้ก็ดีหน่อย นึกว่าแต่งกับพี่ภูเพราะเงิน”
“พี”ภูวดลหันไปมองน้องชายอย่างไม่พอใจ
“คุณพิมเคยได้ยินเรื่องอาถรรพ์ของเจ้าสาวคนก่อนๆ ของพี่ผมไหมครับ”
“พี หยุดได้แล้ว”ภูวดลปราม
“เคยค่ะ เรื่องมันนมนานกาเลแล้วนี่คะ”พรีมเลิกคิ้ว คิดจะมาไม้ไหนนะ
“ไม่กลัวหรือครับ อะไรที่มันเกิดขึ้นครั้งหนึ่ง มันอาจะไม่เกิดขึ้นอีก แต่อะไรที่มันเกิดขึ้นสองครั้ง เป็นไปได้ว่าจะเกิดขึ้นเป็นครั้งที่สาม”
“ดูคุณพีจะเป็นห่วงพรีมเหลือเกินนะคะ”หญิงสาว-ดัน
ภูวดลมองหน้าเธอ เขาไม่เคยเห็นคู่หมั้นเถียงกับใครมาก่อน อันที่จริง เขาไม่คิดว่าเธอจะมีอารมณ์ความรู้สึกเสียด้วยซ้ำ
“ผมไม่ได้ห่วงคุณ ผมห่วงพี่ชายผมต่างหาก”รพีพัฒน์ยิ้มเยาะ
“ไม่ต้องห่วงฉันหรอก”ภูวดลพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เขาหันไปยิ้มให้คู่หมั้นอย่างอ่อนโยน
“อย่าถือสาน้องชายผมเลยนะครับ”
“ไม่เป็นไรค่ะ คุณพีเธอยังเด็ก”พรีมจิกตามองอีกฝ่าย
ส่วนรพีพัฒน์กำช้อนส้อมแน่น ชายหนุ่มลุกขึ้นเดินออกจากห้องรับประทานอาหารอย่างหัวเสีย
“เจอกันครั้งแรก ก็เป็นแบบนี้ซะแล้ว”ภูวดลมองตามน้องชายพลางสั่นศีรษะ
“พรีมขอโทษค่ะ”
“คุณพรีมไม่ได้ผิดอะไรนี่ครับ น้องชายผมไม่ดีเอง ผมต่างหากที่ต้องขอโทษแทนน้อง”
“พรีมกลับก่อนดีกว่า”หญิงสาวหยิบกระเป๋าถือ เตรียมจะลุกจากเก้าอี้ ภูวดลยังไม่ยอมปล่อยมือจากเธอ
“อดทนหน่อยนะครับ”
“ค่ะ”
พรีมซบศีรษะกับหน้าต่างรถ มีเรื่องให้ต้องอดทนมากมายเหลือเกิน หญิงสาวใช้หลังมือปาดน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เธอนึกถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปของรพีพัฒน์ก็น้อยใจ ไม่กี่วันก็จะมาเป็นญาติกันแล้ว แทนที่จะดีใจกลับคอยหาเรื่องเธอ ต่อไปชีวิตครอบครัวของเธอจะเป็นยังไงนะ ดูท่าภูวดลจะรักน้องชายมาก
รพีพัฒน์กระดกแก้ววิสกี้ดื่มอย่างหัวเสีย ทำไมนะ ทำไมต้องเป็นเธอด้วย ชายหนุ่มคิดพลางนึกโกรธบิดากับข้อตกลงในพินัยกรรมบ้าๆ ผู้หญิงที่อยู่ในระดับเดียวกับพี่ชายของเขามีตั้งมากมาย จำเพาะว่าจะต้องเป็นลูกสาวของทนายความประจำตระกูลเท่านั้นหรือ พ่อกับทนายพิพัฒน์มีเหตุผลอะไรนะ บางทีอาจเป็นแผนของทนายพิพัฒน์ก็ได้ รพีพัฒน์นอนคิดหาแผนการให้เธอถอนหมั้นพี่ชายเขาไม่รู้ว่าทำไปเพราะห่วงเธอหรือหวงเธอกันแน่
********************************