ตั้งใจจะทำแกงเขียวหวานมาหลายวันแล้ว  และคงต้องเป็นแกงเขียวหวานปลา  ด้วยเหตุแรงบันดาลใจจาก
กระทู้แกงเขียวหวานปลาดุก ของ อ.Swin ซึ่งดูยังไง ๆ ก็น่ากินมากมาย  อีกประการหนึ่งก็คือช่วงนี้มีปลา
อยู่ในสต๊อคมากเหลือเกินทั้งปลากดและปลาค้าว

พอดีมีรีเควสจากกลุ่มผู้สูงอายุ (พูดซะแบบวอนทีเดียว) อยากกินแกงเขียวหวานหมูกับขนมจีน ช่วยจัดให้หน่อย
เสนอไปว่าเอาเป็นแกงปลาไหม? พรรคพวกไม่เอาขอเป็นหมู ก็เลยไม่กล้าขัด

เมื่อวานนี้ก็จัดแกงกระเจี๊ยบเขียวใส่ปลากด เป็นแกงส้มแบบพื้นบ้านของเมืองเหนือ ไปให้เป็นมื้อกลางวันไปทีหนึ่งแล้ว
พอดีงานพวกเขาไม่เสร็จต้องต่ออีก 1 วัน



แกงวันนี้ค่อนข้างจะแย้ง ๆ กับความเป็น สว. สักหน่อย  แต่ถ้าถือว่านาน ๆ ครั้งก็พออนุโลม

หมู 1 ก.ก. นำไปล้างสะอาดแล้วซอยหั่นเป็นชิ้นบาง พอคำ



น้ำพริกวันนี้ เตรียมเครื่องปรุงเอง ปั่นเอง  ก็ได้แก่น้ำพริกแกงเขียวหวานทั่วไป



เทหัวกะทิ ลงไปผัดด้วยกัน จนกะทิแตกมันน้ำพริกหอมได้ที่





เอาหมูลงผัดกับน้ำพริก เติมหางกะทิไปหน่อยหนึ่ง  ผัดจนหมูหดตัว





ย้ายลงหม้อหางกะทิ ที่ตั้งไฟอุ่นทิ้งไว้แล้ว



แกงหมูสุกง่าย เปื่อยเร็ว  สักพักใส่มะเขือพวง  ตามด้วยมะเขือขาว





มะเขือไม่นานนะครับ แค่สลด  จัดการใส่โหระพาหน้าฝน  ของฟรีเก็บข้างบ้านไม่ได้ซื้อ
จัดไปอย่างเต็มที่  ปรุงรสตามชอบใจครั้งสุดท้าย โรยพริกชี้ฟ้าสุก ปิดไฟ





ก่อนจัดการส่ง นำมาตรวจสอบมาตรฐานความอร่อยก่อน  ด้วยชามตราไก่สัญลักษณ์เมืองรถม้า



หน้าตาพอดูได้ครับ  รสชาติไม่บอก 555  คนเมืองแกงไทย ดูแล้วน่ากลัว (สำหรับ สว.) กับความน่ากินพอๆ กันเลยครับ









จัดให้ครบสูตรไปเลย  กินก่อนได้เปรียบ





พร้อมออกเดินทาง



ทุกวันนี้ยังงง ๆ อยู่ว่าฝีมือเราเข้าขั้นหรือเป็นเบ๊ชั้นดี ยังหาคำตอบให้กับตัวเองไม่ได้

สวัสดีครับ