สวัสดีค่ะ ไม่ขอถอดลอ๊กอินละกัน เพราะคงไม่มีใครรู้จักเรามากมาย 555 ช่วงนี้เห็นกระทู้ single mum หรือ ผู้หญิงที่จับได้ว่าแฟนนอกใจแล้วมาทราบว่าท้องเยอะมาก บางคนตัดสินใจเดินออกมาแต่ยังเสียใจ บางคนก็เข็มแข็งพอที่จะยิ้มได้
กระทู้เก่าๆเราเคยเล่าให้ฟังว่าเราคบกับสามีมาเกือบ 10 ปี เค้าเป็นแฟนคนแรก คบจนแต่งงาน มีลูกชาย 1 คนตอนนี้จะ 3 ขวบแล้วค่ะ
ท้าวความย่อๆคือเมื่อปีที่แล้วอดีตสามีเรา เป็นคนจีนมาเลเซีย หลังจากแต่งงานไม่นานสามีเราก็บินไปทำงานที่ปีนัง แล้วก็บิงโกค่ะ ไปเจอผญ คนนึงที่นั่น เรื่องมาแดงเมื่อตรุษจีนปีที่แล้ว เค้ามาสารภาพ ครั้งแรกยอมรับค่ะว่ายื้อยุด อภัยให้ทุกอย่าง ขอให้เค้ากลับมา กทม กับเรา แต่เค้าขอเวลาสักพัก เราเลยต้องบินกลับมากทม เนื่องจากพาสปอตร์มีอายุแค่ 30 วันค่ะ
หลังเราบินกลับมา เค้าโทรมาหาเรา จำได้ว่าวั้นนั้นคือวันเกิดแม่ของเรา 31 พค เค้าโทรมาหาเราบอกว่าขอเวลาไปอยู่คนเดียวสักสองวัน ใจเราสั่น เราถามเขาว่า ไปคนเดียวหรอ เค้าตอบวาใช่ แล้วก็หายไป เราไม่ถามไม่ตาม ได้แต่นอนร้องไห้จนไม่มีน้ำตา วันอาทิตย์พอเค้ากลับมา เราถามว่าไปหา ผญ มาใช่ไหม เค้าตอบว่าใช่ ขอโทษเรา บอกเราว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย วันนั้นเราตัดสินใจลดความสัมพันธ์เป็นแค่เพื่อนกัน คือยังคุยกันแต่เฉพาะเรื่องลูกเท่านั้น
เล่าถึง ผญ ให้ฟังนิดหน่อย เธอเป็นคนจีนมาเลเซียเหมือนกัน มีลูกสาวอายุพอๆกับลูกเรา แต่งงาน มีสามีอาศัยอยู่ด้วยกัน ในจุดนี้เราไม่ขอว่าฝ่ายหญิงคนเดียว เพราะเราคิดว่าของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
เราไม่ใช่คนโวบวาย ไม่ขี้หึง เราคิดว่าความเชื่อใจคือการให้เกียรติที่ดีที่สุด ถ้าคนสองคนเชื่อใจกันไม่ว่าใครก็ทำร้ายความสัมพันธ์เราไม่ได้ เรากับแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกันก่อนแต่งค่ะ ในสิบปีนี้เจอกันก่อนแต่งประมาณ 5-6 ครั้ง ครั้งละ 7-10 วัน
พอช่วง มิย เราบินไปหาเค้าที่มาเลเซีย เพื่อทำวีซ่า เนื่องจากเราต้องการให้ลูกได้สัญชาติที่นั่น เราอยากให้ลูกได้เรียนที่นั่นค่ะ ถามว่าระหว่างที่อยู่ด้วยกันอึดอัดมาก ส่วนหนึ่งเพราะอดีตสามีพยายามง้อคืนดีตลอด แต่เรารู้อยู่เต็มอกว่าเค้ายังติดต่อ คุยกับ ผญ ตลอด ไม่ได้จับผิดนะคะ แต่มันคือความรู้สึก เราก็ยังก้ำกึ่งใจนึงก็อยากให้ลูกได้มีพ่อ ไม่อยากให้ลูกตั้งคำถามว่าพ่ออยู่ที่ไหนตอนที่เค้าโต
จุดเปลี่ยนเลยเป็นวันที่ 14 กพ ปีนี้ค่ะ จริงๆเราบินไปกลับ มาเลเซีย-ไทย ตลอด เรามีแผนจะต้องกลับวันที่ 11 กพ แต่เนื่องจากเราตกเครื่อง เนื่องจากรถติดมากระหว่างไปสนามบิน เค้ากลับจากทำงานก็ตกใจว่าทำไมเรายังอยู่บ้าน เราเลยอธิบายให้ฟัง เค้าบอกเราว่าดีเลยงั้น 14 เค้าจะพาเราแม่ลูกไปทานอาหารดีๆ เราก็ได้ค่ะ ก็รอ แต่วันที่ 13 กพ เค้าหายไปเลย หลังจากทำงาน 13 14 15 วันที่ 16 กลับมาพร้อมของฝากจากปีนัง จริงๆเราควรจะต้องบินอีกทีวันที่ 16 กพ แต่คราวนี้ติดปัญหาที่วีซ่า ก็เลยตกเครื่องอีกครั้งตามระเบียบ เค้าจงใจกลับมาวันที่ 16 เพราะคิดว่าเราบินกลับ กทม ไปแล้ว แต่เราดันยังอยู่
คืนวันที่ 16 เราถามเค้าตรงๆเลยว่า ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ เราเลิกกันให้เด็ดขาดเลย ครึ่งๆกลางๆแบบนี้คนที่จะเจ็บคือเด็กๆทั้ง 2 ครอบครัว แต่เค้าไม่ยอกรับว่าไปหา ผญ มา แต่เรามีหลักฐานคือ ของขวัญจาก ผญ ลงวันที่ 14 กพ และ ข้อความที่ผญ ส่งให้เรา ตอนนั้นยอมรับว่าเจ็บค่ะ เจ็บเพราะบางส่วนในใจยังเชื่อว่าเค้าไม่ได้โกหก พอเราบอกว่าอย่าโกหกต่อเลย คราวนี้มือมาเลยค่ะ บีบคอแล้วตบเราที่แก้ม บอกเราให้หุบปาก เราไม่สู้นะคะ เราเชื่อว่า ผญ สู้แรง ผช ไม่ได้ ก็ไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนโดนบีบคอมองเห็นหน้าลูกที่นอนอยู่ คิดว่าอย่างน้อยขอกอดลูกอีกครั้งก็ยังดี (ดราม่านะคะ แต่เรื่องจริงทั้งหมดค่ะ) ยังโชคดีที่น้องชายเค้ามาห้ามไว้ แต่เค้ายังอาละวาด เขวี้ยงกระจกบานใหญ่ใส่เรา พ่อแม่เค้ามาห้ามก็ไม่หยุดค่ะ
ลูกเราตื่นขึ้นมาแล้วนอนร้องไห้ เพราะเราตะโกนใส่กัน เราเลยไม่อุ้มลูก ตอนแรกเค้าจะไม่ให้เราอุ้ม เราเลยบอกถ้าไม่ให้ลูกฉันฉันจะวิ่งเข้าไปในครัวแล้วจุดไฟเผาบ้านคุณอุ้มลูกแล้วหนีไป เลือกเอา (แค่ขู่นะคะ ไม่ได้คิดจะทำจริงๆค่ะ) เค้าเลยให้เราอุ้มลูกออกไปห้องนั่งเล่น นั่งมองหน้าลูกแล้วเราพูดกับอดีตสามีเราว่า เราไม่อยากให้ลุกเราโตขึ้นมาเป็นแบบคุณ เค้าสงบลงนิดหน่อยค่ะ
พอเค้าสงบลงนิดหน่อยคนในบ้านก็มารุมด่าอดีตสามีเรา ขอใช้คำนี้เพราะฟังไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่พอออกบ้าง จากนั้นอดีตสามีเราเริ่มดราม่า วิ่งไปที่ระเบียง พูดกับเราว่าถ้าเราจะออกไปแล้วไม่กลับมาอีก เค้าจะโดดลงไป เราบอกว่า ถ้าคุณจะตาย ขอให้เราได้เป็นคนถีบคุณลงไปเองเถอะ เราพูดคำนี้จริงๆค่ะ ฮีไม่โดดค่ะ นั่งกอดเข่าร้องไห้ (หาพ่อเธอหรือ) แล้วคืนนั้นเราก็หอบลูกไปนอน รร เช้าก็บินกลับ กทมค่ะ
เป็นการท้าวความที่นานมาก 555 รายละเอียดมันเยอะจริงๆค่ะ ยิบย่อย วันที่เราบิน เค้าส่ง sms มาบอกว่าขอให้เราโชคดี เราก็ไม่ได้ตอบ พอกลับมา กทม ก็ใช้ชีวิตปกติ ถามว่าเจ็บไหม ไม่แล้วค่ะ ไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่แค้น
หลังเรากลับมา คราวนี้อดีตสามีเริ่มมาแอดทุกอย่าง fb wechat line เรียกว่าทุกโซเชียลที่เรามี (เราบลอกหลังจากกลับมา กทม ค่ะ) ส่วน ผญ ก็มาแอดเราที่เฟซ แต่เราไม่รับ ทั้งคู่เลย แต่เราไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ เพราะต้องใช้ทำงาน แรกๆอดีตสามีมาคุยกับเราทางเฟซแม่เค้า ถ้าเรารู้ว่าเป็นเค้าเราก็ไม่ตอบ เงียบไป หลังๆเค้าเริ่มโทรมาเบอร์มันไม่โชเราก็ต้องรับ เพราะอาจจะเป็นลูกค้า พอรับแล้วเค้าก็จะมาคำเดิมๆคือ เค้าขอโทษเราก็ไม่อยากต่อความ เราบอกว่าอภัยให้ แยกกันไปคนละทาง เราจะไม่ปิดกั้นถ้าลูกโตขึ้นแล้วเค้าอยากจะไปหาพ่อ เพราะเรามั่นใจว่าเราเป็นแม่ที่ดีพอที่ลูกจะไม่ทิ้งเราไปหา ผช ที่ทิ้งเราสองแม่ลุกไป คราวนี้ฮีร้องไห้จนสะอึกสะอึ้น เราเลยตัดสายไป เพราะไม่อยากได้ยินคำขอโทษซ้ำๆ อีก
ที่เล่ามาอยากจะเล่าให้ ผญ ที่คิด หรือกำลังตัดสินใจจะเดินออกมา ให้เข็มแข็ง ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียว ช่วงที่เราอยู่มาเลเซีย เราร้องไห้บ่อยมาก เพราะไม่มีเพื่อน พ่อแม่ บางครั้งลูกชายจะมาจับหัวเรา บอกเราว่า “mommy don’t cry” เหมือนที่เราทำกับเค้า มันทำให้เรารู้สึกว่า เราน่าจะมีความสุขมากกว่านี้ ความสุขของเราหาได้จากคนที่รักเรา ใส่ใจคนที่รักเราให้มากขึ้น แคร์คนที่ไม่รักเราให้น้อยลง ชีวิตจะมีความสุขค่ะ
คั่นโฆษณาค่ะ 5555 เราไม่อายนะคะ เวลามีใครถามว่า เลี้ยงลูกคนเดียว สามีไปไหน เราจะตอบว่า ลูกเรา เราเลี้ยงคนเดียวได้ แล้วจะยิงคำถามกลับเลย ลูกฉันน่ารักไหม 55555
เล่าให้ฟัง ชีวิตหลังเป็น single mum มาสักพักใหญ่
กระทู้เก่าๆเราเคยเล่าให้ฟังว่าเราคบกับสามีมาเกือบ 10 ปี เค้าเป็นแฟนคนแรก คบจนแต่งงาน มีลูกชาย 1 คนตอนนี้จะ 3 ขวบแล้วค่ะ
ท้าวความย่อๆคือเมื่อปีที่แล้วอดีตสามีเรา เป็นคนจีนมาเลเซีย หลังจากแต่งงานไม่นานสามีเราก็บินไปทำงานที่ปีนัง แล้วก็บิงโกค่ะ ไปเจอผญ คนนึงที่นั่น เรื่องมาแดงเมื่อตรุษจีนปีที่แล้ว เค้ามาสารภาพ ครั้งแรกยอมรับค่ะว่ายื้อยุด อภัยให้ทุกอย่าง ขอให้เค้ากลับมา กทม กับเรา แต่เค้าขอเวลาสักพัก เราเลยต้องบินกลับมากทม เนื่องจากพาสปอตร์มีอายุแค่ 30 วันค่ะ
หลังเราบินกลับมา เค้าโทรมาหาเรา จำได้ว่าวั้นนั้นคือวันเกิดแม่ของเรา 31 พค เค้าโทรมาหาเราบอกว่าขอเวลาไปอยู่คนเดียวสักสองวัน ใจเราสั่น เราถามเขาว่า ไปคนเดียวหรอ เค้าตอบวาใช่ แล้วก็หายไป เราไม่ถามไม่ตาม ได้แต่นอนร้องไห้จนไม่มีน้ำตา วันอาทิตย์พอเค้ากลับมา เราถามว่าไปหา ผญ มาใช่ไหม เค้าตอบว่าใช่ ขอโทษเรา บอกเราว่ามันจะเป็นครั้งสุดท้าย วันนั้นเราตัดสินใจลดความสัมพันธ์เป็นแค่เพื่อนกัน คือยังคุยกันแต่เฉพาะเรื่องลูกเท่านั้น
เล่าถึง ผญ ให้ฟังนิดหน่อย เธอเป็นคนจีนมาเลเซียเหมือนกัน มีลูกสาวอายุพอๆกับลูกเรา แต่งงาน มีสามีอาศัยอยู่ด้วยกัน ในจุดนี้เราไม่ขอว่าฝ่ายหญิงคนเดียว เพราะเราคิดว่าของแบบนี้ตบมือข้างเดียวไม่ดัง
เราไม่ใช่คนโวบวาย ไม่ขี้หึง เราคิดว่าความเชื่อใจคือการให้เกียรติที่ดีที่สุด ถ้าคนสองคนเชื่อใจกันไม่ว่าใครก็ทำร้ายความสัมพันธ์เราไม่ได้ เรากับแฟนไม่ได้อยู่ด้วยกันก่อนแต่งค่ะ ในสิบปีนี้เจอกันก่อนแต่งประมาณ 5-6 ครั้ง ครั้งละ 7-10 วัน
พอช่วง มิย เราบินไปหาเค้าที่มาเลเซีย เพื่อทำวีซ่า เนื่องจากเราต้องการให้ลูกได้สัญชาติที่นั่น เราอยากให้ลูกได้เรียนที่นั่นค่ะ ถามว่าระหว่างที่อยู่ด้วยกันอึดอัดมาก ส่วนหนึ่งเพราะอดีตสามีพยายามง้อคืนดีตลอด แต่เรารู้อยู่เต็มอกว่าเค้ายังติดต่อ คุยกับ ผญ ตลอด ไม่ได้จับผิดนะคะ แต่มันคือความรู้สึก เราก็ยังก้ำกึ่งใจนึงก็อยากให้ลูกได้มีพ่อ ไม่อยากให้ลูกตั้งคำถามว่าพ่ออยู่ที่ไหนตอนที่เค้าโต
จุดเปลี่ยนเลยเป็นวันที่ 14 กพ ปีนี้ค่ะ จริงๆเราบินไปกลับ มาเลเซีย-ไทย ตลอด เรามีแผนจะต้องกลับวันที่ 11 กพ แต่เนื่องจากเราตกเครื่อง เนื่องจากรถติดมากระหว่างไปสนามบิน เค้ากลับจากทำงานก็ตกใจว่าทำไมเรายังอยู่บ้าน เราเลยอธิบายให้ฟัง เค้าบอกเราว่าดีเลยงั้น 14 เค้าจะพาเราแม่ลูกไปทานอาหารดีๆ เราก็ได้ค่ะ ก็รอ แต่วันที่ 13 กพ เค้าหายไปเลย หลังจากทำงาน 13 14 15 วันที่ 16 กลับมาพร้อมของฝากจากปีนัง จริงๆเราควรจะต้องบินอีกทีวันที่ 16 กพ แต่คราวนี้ติดปัญหาที่วีซ่า ก็เลยตกเครื่องอีกครั้งตามระเบียบ เค้าจงใจกลับมาวันที่ 16 เพราะคิดว่าเราบินกลับ กทม ไปแล้ว แต่เราดันยังอยู่
คืนวันที่ 16 เราถามเค้าตรงๆเลยว่า ถ้าเป็นแบบนี้ไม่ดีแน่ เราเลิกกันให้เด็ดขาดเลย ครึ่งๆกลางๆแบบนี้คนที่จะเจ็บคือเด็กๆทั้ง 2 ครอบครัว แต่เค้าไม่ยอกรับว่าไปหา ผญ มา แต่เรามีหลักฐานคือ ของขวัญจาก ผญ ลงวันที่ 14 กพ และ ข้อความที่ผญ ส่งให้เรา ตอนนั้นยอมรับว่าเจ็บค่ะ เจ็บเพราะบางส่วนในใจยังเชื่อว่าเค้าไม่ได้โกหก พอเราบอกว่าอย่าโกหกต่อเลย คราวนี้มือมาเลยค่ะ บีบคอแล้วตบเราที่แก้ม บอกเราให้หุบปาก เราไม่สู้นะคะ เราเชื่อว่า ผญ สู้แรง ผช ไม่ได้ ก็ไม่ได้จริงๆค่ะ ตอนโดนบีบคอมองเห็นหน้าลูกที่นอนอยู่ คิดว่าอย่างน้อยขอกอดลูกอีกครั้งก็ยังดี (ดราม่านะคะ แต่เรื่องจริงทั้งหมดค่ะ) ยังโชคดีที่น้องชายเค้ามาห้ามไว้ แต่เค้ายังอาละวาด เขวี้ยงกระจกบานใหญ่ใส่เรา พ่อแม่เค้ามาห้ามก็ไม่หยุดค่ะ
ลูกเราตื่นขึ้นมาแล้วนอนร้องไห้ เพราะเราตะโกนใส่กัน เราเลยไม่อุ้มลูก ตอนแรกเค้าจะไม่ให้เราอุ้ม เราเลยบอกถ้าไม่ให้ลูกฉันฉันจะวิ่งเข้าไปในครัวแล้วจุดไฟเผาบ้านคุณอุ้มลูกแล้วหนีไป เลือกเอา (แค่ขู่นะคะ ไม่ได้คิดจะทำจริงๆค่ะ) เค้าเลยให้เราอุ้มลูกออกไปห้องนั่งเล่น นั่งมองหน้าลูกแล้วเราพูดกับอดีตสามีเราว่า เราไม่อยากให้ลุกเราโตขึ้นมาเป็นแบบคุณ เค้าสงบลงนิดหน่อยค่ะ
พอเค้าสงบลงนิดหน่อยคนในบ้านก็มารุมด่าอดีตสามีเรา ขอใช้คำนี้เพราะฟังไม่รู้เรื่องทั้งหมด แต่พอออกบ้าง จากนั้นอดีตสามีเราเริ่มดราม่า วิ่งไปที่ระเบียง พูดกับเราว่าถ้าเราจะออกไปแล้วไม่กลับมาอีก เค้าจะโดดลงไป เราบอกว่า ถ้าคุณจะตาย ขอให้เราได้เป็นคนถีบคุณลงไปเองเถอะ เราพูดคำนี้จริงๆค่ะ ฮีไม่โดดค่ะ นั่งกอดเข่าร้องไห้ (หาพ่อเธอหรือ) แล้วคืนนั้นเราก็หอบลูกไปนอน รร เช้าก็บินกลับ กทมค่ะ
เป็นการท้าวความที่นานมาก 555 รายละเอียดมันเยอะจริงๆค่ะ ยิบย่อย วันที่เราบิน เค้าส่ง sms มาบอกว่าขอให้เราโชคดี เราก็ไม่ได้ตอบ พอกลับมา กทม ก็ใช้ชีวิตปกติ ถามว่าเจ็บไหม ไม่แล้วค่ะ ไม่เจ็บ ไม่คัน ไม่แค้น
หลังเรากลับมา คราวนี้อดีตสามีเริ่มมาแอดทุกอย่าง fb wechat line เรียกว่าทุกโซเชียลที่เรามี (เราบลอกหลังจากกลับมา กทม ค่ะ) ส่วน ผญ ก็มาแอดเราที่เฟซ แต่เราไม่รับ ทั้งคู่เลย แต่เราไม่ได้เปลี่ยนเบอร์ เพราะต้องใช้ทำงาน แรกๆอดีตสามีมาคุยกับเราทางเฟซแม่เค้า ถ้าเรารู้ว่าเป็นเค้าเราก็ไม่ตอบ เงียบไป หลังๆเค้าเริ่มโทรมาเบอร์มันไม่โชเราก็ต้องรับ เพราะอาจจะเป็นลูกค้า พอรับแล้วเค้าก็จะมาคำเดิมๆคือ เค้าขอโทษเราก็ไม่อยากต่อความ เราบอกว่าอภัยให้ แยกกันไปคนละทาง เราจะไม่ปิดกั้นถ้าลูกโตขึ้นแล้วเค้าอยากจะไปหาพ่อ เพราะเรามั่นใจว่าเราเป็นแม่ที่ดีพอที่ลูกจะไม่ทิ้งเราไปหา ผช ที่ทิ้งเราสองแม่ลุกไป คราวนี้ฮีร้องไห้จนสะอึกสะอึ้น เราเลยตัดสายไป เพราะไม่อยากได้ยินคำขอโทษซ้ำๆ อีก
ที่เล่ามาอยากจะเล่าให้ ผญ ที่คิด หรือกำลังตัดสินใจจะเดินออกมา ให้เข็มแข็ง ไม่ใช่เพื่อตัวเองคนเดียว ช่วงที่เราอยู่มาเลเซีย เราร้องไห้บ่อยมาก เพราะไม่มีเพื่อน พ่อแม่ บางครั้งลูกชายจะมาจับหัวเรา บอกเราว่า “mommy don’t cry” เหมือนที่เราทำกับเค้า มันทำให้เรารู้สึกว่า เราน่าจะมีความสุขมากกว่านี้ ความสุขของเราหาได้จากคนที่รักเรา ใส่ใจคนที่รักเราให้มากขึ้น แคร์คนที่ไม่รักเราให้น้อยลง ชีวิตจะมีความสุขค่ะ
คั่นโฆษณาค่ะ 5555 เราไม่อายนะคะ เวลามีใครถามว่า เลี้ยงลูกคนเดียว สามีไปไหน เราจะตอบว่า ลูกเรา เราเลี้ยงคนเดียวได้ แล้วจะยิงคำถามกลับเลย ลูกฉันน่ารักไหม 55555