ระหว่างช่วงวันสุดสัปดาห์ หลังจากคืนวันศุกร์ที่ได้พบปะสังสรรค์กันพอดึก ต่างคนก็ต่างกลับบ้านแยกย้ายกันไป สามสาวก็นอนที่พักที่หนุ่มๆจัดเตรียมไว้ให้ พอรุ่งเช้ามีเพี่ยงไมตรีเท่านั้นที่ยังคงอยู่ดูแลกลุ่มสามสาว เช้าวันเสาร์เที่ยวกันที่ทะเล บ่ายวันเสาร์ไมตรีพามาเที่ยวชม บรรยากาศของโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ดูสระน้ำในโรงเรียน พาให้อาหารปลา ดูอาคารสถานที่ อรดีจดจำเอาภาพความประทับใจนี้ไว้ เพราะคิดว่าเมื่อกลับไปที่วิทยาลัยอาจไม่มีโอกาสได้มาเยี่ยมชมอีก เพราะต่างคนก็คงต่างไป เนื่องจากปราณีและธาดาก็จบความรักฉันชู้สาวมาเป็นแบบพี่น้องไปเสียแล้ว เมื่อเที่ยวชมโรงเรียนเสร็จ ไมตรีก็ขับรถพาสามสาวเดินทางเข้ากรุงเทพ ดูแลเรื่องที่พักอาหาร การกินทุกอย่างให้กับสามสาว ไม่ใช่แค่ปานวาดที่เขาคุยด้วยเท่านั้น อรดีรู้สึกว่าความรู้สึกที่ไมตรีเคยบอกกับปราณีว่าหลงรักเธอคงจะไม่ใช่แน่นอน เพราะระหว่างที่กินเที่ยวด้วยกันเขาจะมองดูด้วยแววตาแปลกๆ และชอบพูดประชดประชันเรื่องของเธอที่คุยกับสุพัชชัย ว่าสุพัชชัยน่าจะตามมาดูแลคนของตัวเองนะ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นติ่งห้อย ในการมาเที่ยวในทริปนี้ และดูเหมือนว่าไมตรีจะไม่ชอบขี้หน้าเธอเลย ก็แน่อยู่แล้วล่ะเพราะปานวาดน่ารักขนาดนั้น เห็นตัวจริงแล้วก็ต้องเปลี่ยนใจเป็นธรรมดา ต่อมาในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์สุพัชชัยโทรมาบอกว่าเคลียร์ธุระที่บ้านเสร็จแล้วจะตามมาส่งอรดีกลับที่สนามบิน ไมตรีก็แขวะเธอว่าแฟนตามมาส่งแล้ว เธอก็ตอบไปว่ายังไม่ได้เป็นแฟนกันเลย ก่อนจะขึ้นเครื่องในใจอรดีคิดว่าหลังจากนี้คงไม่ได้มีโอกาสเจอกันอีกแล้ว เธอจึงถอดกำไรแขนที่ใส่มาให้เป็นที่ระลึกให้กับสุพัชชัยในมิตรภาพในครั้งนี้ พอไมตรีเห็น ก็พูดขึ้นมาว่าให้แค่คนเดียวเหรอพี่ก็อยู่ดูแลมาตลอดทริปเลยนะ เธอไม่มีอะไรจะให้นอกจากกำไรแขนอีกอันหนึ่งให้ไว้กับไมตรี แล้วไมตรีก็พูดจาหยอกย้อปานวาดตาประสาคนกำลังจีบกัน ซึ่งอรดีก็ไม่ได้สนใจเพราะเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
เมื่อกลับมาที่วิทยาลัยพยาบาล ชีวิตก็ดำเนินไปตามปกติ ตื่นเช้าเข้าเรียน ตกเย็นก็ทำการบ้าน อ่านหนังสือ เป็นกิจวัตรทั่วไปของนักศึกษาพยาบาล เวลาประมาณสามทุ่มหลังจากกลับมาจากทะเลได้สามวัน ปราณีได้มาเล่าให้อรดีฟังว่าไมตรีโทรหาเธอทุกวัน บอกว่าเค้าหลงรักอรดีเป็นอย่างมาก เค้ายอมที่จะเป็นผู้ร้ายและยอมที่จะผิดใจกับเพื่อนเพียงแค่ได้รักกับอรดีผู้ที่จะมาใช้ชีวิตกับเขาเพียงเท่านั้น อรดีได้ฟังยังไม่เชื่อ ปราณีจึงโทรหาไมตรีโดยไม่ให้ไมตรีรู้ว่าอรดีแอบฟังการสนทนาของเขาและปราณี ปราณีถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับอรดี เขาก็พร่ำพรอด พรรณนาความรู้สึกๆต่างๆนา จนทำให้อรดีซาบซึ้งและคิดว่าจะมีผู้ชายแบบนี้อีกมั้ยที่เข้ามาในชีวิตและรักเธอจนสุดหัวใจ เพราะด้วยไม่เคยผ่านประสบการณ์ความรักวัยรุ่นที่คบใครเป็นแฟนแบบจริงจัง เพราะพ่อแม่หวงมาก เธอเป็นลูกสาวข้าราชการทหาร เมื่อได้ฟังคำหวานจากผู้ชายที่เพียบพร้อมด้วยความเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย เป็นชายในเครื่องแบบที่เธอเคยใฝ่ฝัน บัดนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าแล้วเพียงแค่เธอตอบตกลงเท่านั้น แต่เธอก็ได้ฟังการสนทนาอย่างเงียบจนกระทั่งวางสาย รุ่งเช้าอรดีเธอได้สำนึกถึงความดีที่ไมตรีดูแลเธอและเพื่อนๆตลอดทริปการเที่ยวทะเล จึงได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์ไปขอบคุณไมตรีที่ดูแลเธอ หลังจากนั้นไมตรีก็จะส่งข้อความหวานๆมาหาเธอทุกวัน
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาโทรมาหาเธอในตอนดึกและได้พูดความรู้สึกว่าเค้ารักเธอมากมายแค่ไหน จนทำให้เธอหวั่นไหว และถามเรื่องเค้ากับปานวาดเพื่อนของเธอ ไมตรีบอกกับเธอว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรกับปานวาดเกินน้องสาวและไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เขาขอไปรับเธอที่วิทยาลัยและขอส่งเธอที่บ้านในวันหยุดวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ อรดีก็ยินดีและเริ่มมีใจให้กับไมตรี และคิดว่าเค้ากับปานวาดไม่ได้คุยอะไรกันเกินมิตรภาพระหว่างพี่น้อง อรดีจึงชวนปราณีแม่สื่อไปเที่ยวที่บ้านของเธอด้วยเพราะเธอไม่อยากจะนั่งรถกลับบ้านต่างจังหวัดตามลำพังกับไมตรีเพียงสองคน เดี๋ยวจะดูไม่งามเพราะเพิ่งรู้จักกัน ระหว่างทางที่เดินทางกลับบ้านด้วยกัน เขาได้พูดพร่ำพรรณนาถึงความรักที่มีให้ไม่หยุดหย่อน และไม่รู้สึกอายปราณีบ้างเลยที่นั่งรถมาด้วยกัน เมื่ออรดีใจอ่อนและตกลงว่าจะคบกัน และเราต้องอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับปานวาดได้รับรู้
เมื่อกลับเข้าเรียนอีกครั้ง หลังเลิกเรียนปราณีและอรดี จึงหาโอกาสเล่าเรื่องราวให้ปานวาดฟัง พอปานวาดได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด อรดีคิดว่าเธอจะเข้าใจในการคบกันครั้งนี้ของเธอและไมตรี ว่าไมตรีนั้นหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบในรูปถ่ายและก็บอกความในใจให้ปราณีฟังเรื่อยมา ปานวาดเธอเสียใจมากเพราะเธอก็หลงรักผู้ชายคนนี้เหมือนกันอย่างสุดหัวใจ เธอเอากลอนรักหวานๆหลายบทกลอนที่เธอเตรียมไว้เพื่อจะส่งให้ไมตรีชายคนรักให้อรดีอ่าน และบอกกับอรดีว่าเค้าเตรียมไว้ให้กับพี่ไมตรี อรดีลำบากใจมากกับสถานการณ์นี้ เธอบอกกับปานวาดว่าเธอตกลงคบกันกับไมตรีไปแล้ว ปานวาดบอกกับเธอว่าเมื่อคบกันแล้วจะมาบอกเค้าทำไม หลังจากวันนั้นมิตรภาพความเป็นเพื่อนก็ได้ห่างเหินกันไป ปานวาดเธอเศร้าซึมมากจนเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ประณามอรดีว่าแย่งแฟนเพื่อน และถูกนินทา เพื่อนในกลุ่มทำเฉยชาใส่อรดีเพราะทุกคนต่างเห็นใจปานวาด อรดีได้แต่อดทนและไปเล่นกับเพื่อนกลุ่มใหม่ แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนเพื่อนกลุ่มเดิมที่เคยคบกันมา
ทางด้านของไมตรี ก็โดนเพื่อนๆเฉยชาใส่ เพราะถูกมองว่าไปแย่งแฟนสุพัชชัย และทำให้สุพัชชัยเสียใจมาก เขาก็ได้แต่อดทน และบอกกับอรดีว่าเราอย่าทิ้งกันเพราะพี่เลือกเธอพี่ต้องเสียเพื่อน เธอก็บอกกับไมตรีว่าเธอก็จะอดทนเช่นกันเพราะเธอก็ได้เลือกไมตรี ผู้ที่บอกว่าจะอาสาดูแลเธอไปตลอดชีวิต
ก่อนที่อรดีจะตกลงคบกับไมตรีเธอบอกว่า พี่ไมตรีต้องมีเธอเพียงผู้เดียวไม่เจ้าชู้ เธอถึงจะยอมคบด้วย เขาบอกเธอว่าตอนนี้โสดที่ผ่านมาแม้จะเจ้าชู้แต่วันนี้ได้หยุดแล้ว หยุดที่เธอผู้นี้ผู้เดียว อรดีซาบซึ้งและดีใจในความรักที่สุดแสนหวานและเธอก็เชื่อเค้าอย่างสนิทใจ รักครั้งนี้เป็นดังความฝันมีสาวๆหลายคนใฝ่ฝันที่จะมีแฟนเป็นหนุ่มนายร้อยห้อยกระบี่ และเธอก็ฝันเป็นจริงแล้ว เธอเป็นหนึ่งในสาวผู้โชคดีคนนั้น
(ปล หากใครเป็นสาวๆกลุ่มที่คลั่งไคล้ชายในเครื่องแบบ จะเข้าใจอารมณ์ นี้ดีค่ะ โปรดติดตาม รักจริงหรือแค่ลวง ตอน 4 ปัญหาที่ตามมา นะคะ ผู้อ่านอ่านแล้วแสดงความคิดเห็นไว้ให้กำลังใจในการเขียน ด้วยนะคะ และฝากกันติดตามเยอะๆนะคะ )
รักจริง หรือแค่ลวง ตอน3 มิตรภาพที่เปลี่ยนไป
เมื่อกลับมาที่วิทยาลัยพยาบาล ชีวิตก็ดำเนินไปตามปกติ ตื่นเช้าเข้าเรียน ตกเย็นก็ทำการบ้าน อ่านหนังสือ เป็นกิจวัตรทั่วไปของนักศึกษาพยาบาล เวลาประมาณสามทุ่มหลังจากกลับมาจากทะเลได้สามวัน ปราณีได้มาเล่าให้อรดีฟังว่าไมตรีโทรหาเธอทุกวัน บอกว่าเค้าหลงรักอรดีเป็นอย่างมาก เค้ายอมที่จะเป็นผู้ร้ายและยอมที่จะผิดใจกับเพื่อนเพียงแค่ได้รักกับอรดีผู้ที่จะมาใช้ชีวิตกับเขาเพียงเท่านั้น อรดีได้ฟังยังไม่เชื่อ ปราณีจึงโทรหาไมตรีโดยไม่ให้ไมตรีรู้ว่าอรดีแอบฟังการสนทนาของเขาและปราณี ปราณีถามว่าเขารู้สึกอย่างไรกับอรดี เขาก็พร่ำพรอด พรรณนาความรู้สึกๆต่างๆนา จนทำให้อรดีซาบซึ้งและคิดว่าจะมีผู้ชายแบบนี้อีกมั้ยที่เข้ามาในชีวิตและรักเธอจนสุดหัวใจ เพราะด้วยไม่เคยผ่านประสบการณ์ความรักวัยรุ่นที่คบใครเป็นแฟนแบบจริงจัง เพราะพ่อแม่หวงมาก เธอเป็นลูกสาวข้าราชการทหาร เมื่อได้ฟังคำหวานจากผู้ชายที่เพียบพร้อมด้วยความเป็นสุภาพบุรุษลูกผู้ชาย เป็นชายในเครื่องแบบที่เธอเคยใฝ่ฝัน บัดนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าแล้วเพียงแค่เธอตอบตกลงเท่านั้น แต่เธอก็ได้ฟังการสนทนาอย่างเงียบจนกระทั่งวางสาย รุ่งเช้าอรดีเธอได้สำนึกถึงความดีที่ไมตรีดูแลเธอและเพื่อนๆตลอดทริปการเที่ยวทะเล จึงได้ส่งข้อความทางโทรศัพท์ไปขอบคุณไมตรีที่ดูแลเธอ หลังจากนั้นไมตรีก็จะส่งข้อความหวานๆมาหาเธอทุกวัน
จนกระทั่งวันหนึ่งเขาโทรมาหาเธอในตอนดึกและได้พูดความรู้สึกว่าเค้ารักเธอมากมายแค่ไหน จนทำให้เธอหวั่นไหว และถามเรื่องเค้ากับปานวาดเพื่อนของเธอ ไมตรีบอกกับเธอว่าเค้าไม่ได้คิดอะไรกับปานวาดเกินน้องสาวและไม่ได้ตกลงเป็นแฟนกัน เขาขอไปรับเธอที่วิทยาลัยและขอส่งเธอที่บ้านในวันหยุดวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ อรดีก็ยินดีและเริ่มมีใจให้กับไมตรี และคิดว่าเค้ากับปานวาดไม่ได้คุยอะไรกันเกินมิตรภาพระหว่างพี่น้อง อรดีจึงชวนปราณีแม่สื่อไปเที่ยวที่บ้านของเธอด้วยเพราะเธอไม่อยากจะนั่งรถกลับบ้านต่างจังหวัดตามลำพังกับไมตรีเพียงสองคน เดี๋ยวจะดูไม่งามเพราะเพิ่งรู้จักกัน ระหว่างทางที่เดินทางกลับบ้านด้วยกัน เขาได้พูดพร่ำพรรณนาถึงความรักที่มีให้ไม่หยุดหย่อน และไม่รู้สึกอายปราณีบ้างเลยที่นั่งรถมาด้วยกัน เมื่ออรดีใจอ่อนและตกลงว่าจะคบกัน และเราต้องอธิบายเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับปานวาดได้รับรู้
เมื่อกลับเข้าเรียนอีกครั้ง หลังเลิกเรียนปราณีและอรดี จึงหาโอกาสเล่าเรื่องราวให้ปานวาดฟัง พอปานวาดได้รับรู้เรื่องราวทั้งหมด อรดีคิดว่าเธอจะเข้าใจในการคบกันครั้งนี้ของเธอและไมตรี ว่าไมตรีนั้นหลงรักเธอตั้งแต่แรกพบในรูปถ่ายและก็บอกความในใจให้ปราณีฟังเรื่อยมา ปานวาดเธอเสียใจมากเพราะเธอก็หลงรักผู้ชายคนนี้เหมือนกันอย่างสุดหัวใจ เธอเอากลอนรักหวานๆหลายบทกลอนที่เธอเตรียมไว้เพื่อจะส่งให้ไมตรีชายคนรักให้อรดีอ่าน และบอกกับอรดีว่าเค้าเตรียมไว้ให้กับพี่ไมตรี อรดีลำบากใจมากกับสถานการณ์นี้ เธอบอกกับปานวาดว่าเธอตกลงคบกันกับไมตรีไปแล้ว ปานวาดบอกกับเธอว่าเมื่อคบกันแล้วจะมาบอกเค้าทำไม หลังจากวันนั้นมิตรภาพความเป็นเพื่อนก็ได้ห่างเหินกันไป ปานวาดเธอเศร้าซึมมากจนเพื่อนที่เห็นเหตุการณ์ได้แต่ประณามอรดีว่าแย่งแฟนเพื่อน และถูกนินทา เพื่อนในกลุ่มทำเฉยชาใส่อรดีเพราะทุกคนต่างเห็นใจปานวาด อรดีได้แต่อดทนและไปเล่นกับเพื่อนกลุ่มใหม่ แต่ยังไงมันก็ไม่เหมือนเพื่อนกลุ่มเดิมที่เคยคบกันมา
ทางด้านของไมตรี ก็โดนเพื่อนๆเฉยชาใส่ เพราะถูกมองว่าไปแย่งแฟนสุพัชชัย และทำให้สุพัชชัยเสียใจมาก เขาก็ได้แต่อดทน และบอกกับอรดีว่าเราอย่าทิ้งกันเพราะพี่เลือกเธอพี่ต้องเสียเพื่อน เธอก็บอกกับไมตรีว่าเธอก็จะอดทนเช่นกันเพราะเธอก็ได้เลือกไมตรี ผู้ที่บอกว่าจะอาสาดูแลเธอไปตลอดชีวิต
ก่อนที่อรดีจะตกลงคบกับไมตรีเธอบอกว่า พี่ไมตรีต้องมีเธอเพียงผู้เดียวไม่เจ้าชู้ เธอถึงจะยอมคบด้วย เขาบอกเธอว่าตอนนี้โสดที่ผ่านมาแม้จะเจ้าชู้แต่วันนี้ได้หยุดแล้ว หยุดที่เธอผู้นี้ผู้เดียว อรดีซาบซึ้งและดีใจในความรักที่สุดแสนหวานและเธอก็เชื่อเค้าอย่างสนิทใจ รักครั้งนี้เป็นดังความฝันมีสาวๆหลายคนใฝ่ฝันที่จะมีแฟนเป็นหนุ่มนายร้อยห้อยกระบี่ และเธอก็ฝันเป็นจริงแล้ว เธอเป็นหนึ่งในสาวผู้โชคดีคนนั้น
(ปล หากใครเป็นสาวๆกลุ่มที่คลั่งไคล้ชายในเครื่องแบบ จะเข้าใจอารมณ์ นี้ดีค่ะ โปรดติดตาม รักจริงหรือแค่ลวง ตอน 4 ปัญหาที่ตามมา นะคะ ผู้อ่านอ่านแล้วแสดงความคิดเห็นไว้ให้กำลังใจในการเขียน ด้วยนะคะ และฝากกันติดตามเยอะๆนะคะ )