รักจริง หรือแค่ลวง (ตอนที่ 2 จุดเปลี่ยน)

ณ สนามบินดอนเมือง ในวันที่ ๓ ธันวาคม ๒๕๔๗ จะมีใครรู้บ้างว่าวันนั้นจะเป็นจุดเปลี่ยนของชีวิตหนุ่มสาวทั้งสามคู่ กับมิตรภาพของคำว่าเพื่อนและความรัก กับการมาถึงของจุดเปลี่ยน
        หลังจากที่ นรต.ธาดา ได้นัดแนะกับเพื่อนของตนคือไมตรี และ สุพัชชัย นักเรียนนายร้อยตำรวจหนุ่มปีสุดท้าย เรื่องที่ ธาดา นัดสาวนักเรียนพยาบาล
จะไปเที่ยวที่พัทยา ในวัดหยุดสุดสัปดาห์นี้  โดยตกลงที่จะนัดเจอกับสาวสามที่สนามบินดอนเมือง  ทำให้หัวใจชายหนุ่มทั้งสามพองโตเพราะจะได้พบสาวๆที่พวกตนได้เพียงแต่ฟังเสียงในโทรศัพท์มาสักระยะ  ต่างก็มีความหวังไปต่างๆนาๆกับนางในฝันของแต่ละคนว่าจะสวยบาดตาแค่ไหน  ไมตรีนักเรียนนายร้อยตำรวจหนุ่มหน้าตามคมเข้ม บุคลิกดี โดยเฉพาะนัยตาของเข้านั้น สีน้ำตาล คมเข้ม มีเสน่ห์  ซึ่งสาวใดได้มองเป็นอันต้องอ่อนไหวกับสายของเขา อีกทั้งเขามาจากตระกูลข้าราชการมาหลายรุ่น  จึงทำให้เป็นหนุ่มเนื้อหอมที่มีสาวๆหมายตาไว้หลายคน แต่วันนี้เป็นวันที่เขาตื่นเต้นมากที่สุดวันหนึ่งที่จะได้พบกับ อรดี ซึ่งเขาตกหลุมรักตั้งแต่แรกเห็นหล่อนในภาพถ่าย  ซึ่งมันก็เป็นเรื่องอยากเพราะอรดีนั้นได้คุยอยู่กับ สุพัชชัย เพื่อนของเขา  ไมตรีจึงได้แต่เก็บความรู้สักที่มีไว้แต่เพียงคนเดียว   ที่สนามบิน ไมตรีกับธาดา ได้ขับรถยนต์เก๋งยี่ห้อหรูมารับ ปราณี ปานวาด และ อรดี  เพียงได้เห็นหน้าอรดีครั้งแรกทำให้ไมตรี หัวใจพองโต หลงรักหญิงสาวอย่างจับใจ ความรู้สักเหมือนผูกพันธ์กันมาแสนนาน  แต่ในความเป็นจริงอรดีเขาเป็นหญิงสาวที่เพื่อนสนิทของตนหมายปอง ทำให้เขารู้สึกผิดหวังลึกๆแต่ก็ต้องเก็บความรู้สึกไว้ ไมตรี กล่าวทักทายสาวๆแนะนำตัวให้สาวๆรู้จัก  ขณะเดียวกัน ปานวาดเพียงได้เห็นไมตรี ครั้งแรกก็ประทับใจและตกหลุมรักเข้าอย่างจัง กับหน้าตาและบุคลิก มาดแมนสมชายของไมตรี  ส่วน ธาดา และปราณี พ่อสื่อและแม่สื่อ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของเรื่อง เจอกันครั้งแรกถึงกับผงะ กับนายและนางในฝันของแต่ละคน  มีเพียง อรดีเท่านั้นไม่มีโอกาสได้พบหน้า สุพัชชัย ชายหนุ่มที่ตนคุยโทรศัพท์ด้วยทำให้รู้สึกผิดหวังอยู่ลึกๆ หลังจากแนะนำตัวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สุภาพบุรุษทั้งสองจึงยกสัมภาระของทั้งสามสาวขึ้นรถ  และขับรถมุ่งหน้าสู่ทะเลตะวันออก  ดินแดนที่ไม่เคยหลับ พัทยา
                  ณ บ้านพักตากอากาศริมหาดหรู  หญิงสาวทั้งสามคนต่างประทับใจในความเป็นสุภาพบุรุษและความมีนำ้ใจของไมตรี กับบุคลิกที่ขี้เล่นพูดจาไพเราะไม่ถือตัว  ตามแบบฉบับสุภาพบุรุษ ๓๘ ประการของนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน  ส่วน ธาดา และ สุพัชชัยชัย นั้นไปกินไปเที่ยวด้วยตลอดแต่ไม่เคยออกเงินช่วยไมตรีเลย ซึ่งเมื่อมีค่าใช้จ่าย ธาดาและสุพัชชัย ก็จะหาเรื่องปลีกตัวออกมาตลอด ซึ่งก็อยู่ในสายตาของทั้งสามสาวตลอดเวลา กล่าวถึงหัวใจไมตรีนั้นตอนนี้ก็ถวิลหาแต่อรดี  แต่ก็ไม่สามารถแสดงออกได้และเขาก็อยากจะรู้ว่านางในฝันของเขาคิดอย่างไรกับเขาเช่นกัน โดยช่วงที่อยู่บ้านพักตากอากาศ สุพัชชัย ก็ทำคะแนนหวังชนะใจ อรดีให้ได้  ปานวาดก็พยายามเอาใจ ไมตรีหวังจะพิชิตใจชายหนุ่มให้ได้  ส่วนคู่ของธาดานั้นท่ามกลางแสงสุดท้ายของพระอาทิตย์  ริมหาดทราย  มีเท้าสองคู่ของชายหนุ่มหญิงสาวเดินริมหาดทราย  เกลียวคลื่นนั้นกระทบกับขาทั้งสองคู่ของหนุ่มสาว  ซึ่งเป็นห้วงบรรยากาศที่โรแมนติกมากๆ  ทันใดนั้น ธาดา ก็พูดขึ้นว่า  ปราณีจ๋า ความรักของหนุ่มสาวนั้นมันไม่ยั่งยืนมันเป็นความรักไม่บริสุทธิ์ พี่ว่าเรามาเป็นพี่น้องกันเถอะนะ ซึ่ง ปราณี ก็รอจังหวะนี้อยู่แล้วจึงตอบตกลงด้วยความโล่งใจ  แล้วทั้งสองก็เดินขึ้นจากทะเลเดินตรงมาบ้านพักเพื่อหาข้าวกินเพราะหิว ส่วนคู่ของ ไมตรีและปานวาดน้ัน ไมตรีพยายามทุกอย่างที่จะให้ตัดใจจากอรดีได้ ซึ่งยิ่งคิดก็ยิ่งปวดใจไม่สามารถลืมใบหน้าหวานใส มีลักยิ้ม ผิวพรรณขาวนวลของ อรดีได้ นี่หรือที่เขาเรียกว่าความรัก  รักแท้ห่วงอาทรอย่างนี้เลยหรือ  รักแท้เจ็บปวดอย่างนี้เลยหรือ ซึ่งไมตรีเขาก็เคยมีความรักหลายครั้ง แต่ไม่มีครั้งใดรู้สึก  ยิ่งใหญ่ สุขใจ ปวดใจเท่าครั้งนี้อีกแล้ว  แล้วนางในฝันของเขาหล่ะคิดอย่างไร

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่