คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 5
ว่าด้วยเรื่องการพักฟื้นหลังมาราธอน
ในการศึกษาว่าคนเรากว่าจะฟื้นตัวหลังมาราธอน
มาสู่ระดับปกติ เท่าก่อนแข่ง
คนเราต้องการการพักฟื้นเป็นเวลาเท่าไร
เชื่อหรือไม่ ผลการวิจัยออกมาทายผิดกันทุกคน
คุณจะเลือกเชื่อผลการวิจัย หรือเลือกที่จะเชื่อความรู้สึกตัวเองครับ
ผู้ทึ่เชื่อมั่นตนเอง จำนวนมากไม่สามารถวิ่งมาราธอนได้นานปีได้
มีอันเป็นไปเสียหมดสิ้น นี่คือคำเตือนที่ผมบอกให้พวกเรา
เชื่อผลของการวิจัย และทำตังให้สอดคล้องกัยวิทยาศาสตร์การกีฬาแนะนำ
หนึ่งเดือนเต็มคือคำตอบครับ
โอเค...ไม่เชื่อ ไม่เป็นไร เคาะผ่านออกไปเลย
ใครที่รับฟัง อยู่ต่อ
การที่ค่ ร่างกายพักฟื้นแล้วจะทยอยดีขึ้น
ไม่ใช่ดีปุบปับ เพียง 3-4 วัน ร่างกายฟื้นขึ้นมาถึง 70%
แต่อีก 30% ที่เหลือใช้เวลากว่าจะเขยิบขึ้นมาจนเต็มร้อย
เท่าที่หายไป นานรวมกัยทั้งสิ้น ราว 4 สัปดาห์ครับ
และเวลาเดือนหนึ่งนี้ คร่าชีวิตความเป็นนักวิ่งไปเสียนักต่อนักแล้ว
เพราะความที่กลับไปซ้อมกระชั้นชิดเกินไป
นักวิ่งหลายคนเสพติดเอนโดฟินส์ หอมหวนกับฤทธิ์ฮอร์โมนนี้
จนทนไม่ได้กลับไปออกรอบซ้อมแล้ว
และไอ้ 30% นี้แหละตัวแสบ มันเพิ่มอัตราเสี่ยงบาดเจ็บกับผู้งิ่ง
บางรายผ่านมาราธอนอย้างไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
แต่สภาพอยู่ปริ่มขอบ ร่างกายต้องการพักฟื้นอย่างยิ่ง
มาซ้อมเพียงเบาๆ หลังผ่านไปได้ 4-5 วัน ไปอย่างช้า
เพียง 5 โล ก็เกิดเรื่อง มีอาการบาดเจ็บรบกวนไปนานกว่าอีกสองเดือน
ผู้วิ่งไม่ควรไปรบกวนการ Healing ของร่างกายตัวเอง
แผนพักฟื้น....เป็นสิ่งที่คนอยากรู้มาก
ผมขอยกตัวอย่างของแผนพักฟื้นหลังมาราธอนของอัลเบอร์โต ซัลลาซ่า
แชมป์โอลิมปิกมาราธอนไทรอัล อเมริกา ปีไหนจำไม่ได้
เขามีแผนพักฟื้นดังนี้
สัปดาห์แรก หยุดสนิท มียืดเส้นเบาๆ และเดินในชีงิตประจำวันเท่านั้น
นอกนั้ยหยุดพักกาคใช้ขาใดๆในการออกกำลังทุกชนิดกีฬา
สัปดาห์ที่สอง กลับมาอย่างช้าๆในการวิ่ง โดยลดระดับความเข้มข้น
(Intensity) ทุกชนิด ทั้งความเร็วและระยะทางไม่มากกว่า 25% ของของเดิม
สัปดาห์ที่สาม 50%
สัปดาห์ที่4 75%
สัปดาห์ที่ 5 100%
เขียนให้อ่านเข้าใจได้ง่ายๆว่า
สัปดาห์ที่หนึ่ง หยุดสนิท
สัปดาห์ที่สอง 25%
สัปดาห์ที่สาม 50%
สัปดาห์ที่สี่ 75%
สัปดาห์ที่ห้า 100%
โดย Speed works จะทยอยเข้ามาอย่างช้าๆและน้อย
ในสัปดาห์ที่สาม
ที่เล่านี้ เป็นแผนฟื้นตัวหลังมาราธอนของนักวิ่งระดับโลก
ฝีเท้าพระกาฬ ที่มีสถิติมาราธอนต่ำกว่า 2.10
พวกเราเป็นใครกัน เราจะฟื้นตัวได้ดีกว่าแชมป์เหล่านั้น
ใจ....ที่ง่ ว่ายินดีเข้าแลก เอาไปถูลู่ถูกังอย่างโง่เขลา
สิ่งที่นักวิ่งต้องการอย่างยิ่งไม่เพียงแค่การฝึก
แต่เป็นการฝึกด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
ความประการนี้ผมเพียรพยายามบอกเพื่อนนักวิ่งมามากกว่า 20 ปี
ของการเป็นนักวิ่งว่า
อย่าวิ่งกันให้มากนักเลย
มาราธอนนั้น แชมป์ระดับโลก วิ่งกันไม่เกินปีละ 2-3 สนามเท่านั้น
โค้ชห้าม
พวกเราเก่งกว่าแชมป์ เดทอนเดียวล่อมันเสีบหลายมาราธอน
ปีๆหนึ่งหลายสิบมาราธอน
แล้วปรกฏการณ์ที่เห็นคือนักวิ่งไทยสู้ใครไม่ค่อยได้
สถิติมาราธอนชายไทย ยังวิ่งช้ากว่าแชมป์มาราธอนหญิงญี่ปุ่นเป็นสิบกว่ายี่วิบนาที
อะไรเกิดขึ้น มันคือวิ่งกันมั่ว ตามความพอใจ หาได้มีความรู้ไม่
พวกในบอร์ดนี้ก็เถอะ หยุดไม่กี่สัปดาห์ ไปมาราธอนต่อไปแล้ว
ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว มันจะไม่ได้ผล และมีนักวิ่งจำนสนน้อยที่ให้ความเชื่อถือ
ก็ผ่านไป ย้ำ....ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว
ในการศึกษาว่าคนเรากว่าจะฟื้นตัวหลังมาราธอน
มาสู่ระดับปกติ เท่าก่อนแข่ง
คนเราต้องการการพักฟื้นเป็นเวลาเท่าไร
เชื่อหรือไม่ ผลการวิจัยออกมาทายผิดกันทุกคน
คุณจะเลือกเชื่อผลการวิจัย หรือเลือกที่จะเชื่อความรู้สึกตัวเองครับ
ผู้ทึ่เชื่อมั่นตนเอง จำนวนมากไม่สามารถวิ่งมาราธอนได้นานปีได้
มีอันเป็นไปเสียหมดสิ้น นี่คือคำเตือนที่ผมบอกให้พวกเรา
เชื่อผลของการวิจัย และทำตังให้สอดคล้องกัยวิทยาศาสตร์การกีฬาแนะนำ
หนึ่งเดือนเต็มคือคำตอบครับ
โอเค...ไม่เชื่อ ไม่เป็นไร เคาะผ่านออกไปเลย
ใครที่รับฟัง อยู่ต่อ
การที่ค่ ร่างกายพักฟื้นแล้วจะทยอยดีขึ้น
ไม่ใช่ดีปุบปับ เพียง 3-4 วัน ร่างกายฟื้นขึ้นมาถึง 70%
แต่อีก 30% ที่เหลือใช้เวลากว่าจะเขยิบขึ้นมาจนเต็มร้อย
เท่าที่หายไป นานรวมกัยทั้งสิ้น ราว 4 สัปดาห์ครับ
และเวลาเดือนหนึ่งนี้ คร่าชีวิตความเป็นนักวิ่งไปเสียนักต่อนักแล้ว
เพราะความที่กลับไปซ้อมกระชั้นชิดเกินไป
นักวิ่งหลายคนเสพติดเอนโดฟินส์ หอมหวนกับฤทธิ์ฮอร์โมนนี้
จนทนไม่ได้กลับไปออกรอบซ้อมแล้ว
และไอ้ 30% นี้แหละตัวแสบ มันเพิ่มอัตราเสี่ยงบาดเจ็บกับผู้งิ่ง
บางรายผ่านมาราธอนอย้างไม่ได้รับบาดเจ็บใดๆ
แต่สภาพอยู่ปริ่มขอบ ร่างกายต้องการพักฟื้นอย่างยิ่ง
มาซ้อมเพียงเบาๆ หลังผ่านไปได้ 4-5 วัน ไปอย่างช้า
เพียง 5 โล ก็เกิดเรื่อง มีอาการบาดเจ็บรบกวนไปนานกว่าอีกสองเดือน
ผู้วิ่งไม่ควรไปรบกวนการ Healing ของร่างกายตัวเอง
แผนพักฟื้น....เป็นสิ่งที่คนอยากรู้มาก
ผมขอยกตัวอย่างของแผนพักฟื้นหลังมาราธอนของอัลเบอร์โต ซัลลาซ่า
แชมป์โอลิมปิกมาราธอนไทรอัล อเมริกา ปีไหนจำไม่ได้
เขามีแผนพักฟื้นดังนี้
สัปดาห์แรก หยุดสนิท มียืดเส้นเบาๆ และเดินในชีงิตประจำวันเท่านั้น
นอกนั้ยหยุดพักกาคใช้ขาใดๆในการออกกำลังทุกชนิดกีฬา
สัปดาห์ที่สอง กลับมาอย่างช้าๆในการวิ่ง โดยลดระดับความเข้มข้น
(Intensity) ทุกชนิด ทั้งความเร็วและระยะทางไม่มากกว่า 25% ของของเดิม
สัปดาห์ที่สาม 50%
สัปดาห์ที่4 75%
สัปดาห์ที่ 5 100%
เขียนให้อ่านเข้าใจได้ง่ายๆว่า
สัปดาห์ที่หนึ่ง หยุดสนิท
สัปดาห์ที่สอง 25%
สัปดาห์ที่สาม 50%
สัปดาห์ที่สี่ 75%
สัปดาห์ที่ห้า 100%
โดย Speed works จะทยอยเข้ามาอย่างช้าๆและน้อย
ในสัปดาห์ที่สาม
ที่เล่านี้ เป็นแผนฟื้นตัวหลังมาราธอนของนักวิ่งระดับโลก
ฝีเท้าพระกาฬ ที่มีสถิติมาราธอนต่ำกว่า 2.10
พวกเราเป็นใครกัน เราจะฟื้นตัวได้ดีกว่าแชมป์เหล่านั้น
ใจ....ที่ง่ ว่ายินดีเข้าแลก เอาไปถูลู่ถูกังอย่างโง่เขลา
สิ่งที่นักวิ่งต้องการอย่างยิ่งไม่เพียงแค่การฝึก
แต่เป็นการฝึกด้วยวิธีการที่ถูกต้อง
ความประการนี้ผมเพียรพยายามบอกเพื่อนนักวิ่งมามากกว่า 20 ปี
ของการเป็นนักวิ่งว่า
อย่าวิ่งกันให้มากนักเลย
มาราธอนนั้น แชมป์ระดับโลก วิ่งกันไม่เกินปีละ 2-3 สนามเท่านั้น
โค้ชห้าม
พวกเราเก่งกว่าแชมป์ เดทอนเดียวล่อมันเสีบหลายมาราธอน
ปีๆหนึ่งหลายสิบมาราธอน
แล้วปรกฏการณ์ที่เห็นคือนักวิ่งไทยสู้ใครไม่ค่อยได้
สถิติมาราธอนชายไทย ยังวิ่งช้ากว่าแชมป์มาราธอนหญิงญี่ปุ่นเป็นสิบกว่ายี่วิบนาที
อะไรเกิดขึ้น มันคือวิ่งกันมั่ว ตามความพอใจ หาได้มีความรู้ไม่
พวกในบอร์ดนี้ก็เถอะ หยุดไม่กี่สัปดาห์ ไปมาราธอนต่อไปแล้ว
ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว มันจะไม่ได้ผล และมีนักวิ่งจำนสนน้อยที่ให้ความเชื่อถือ
ก็ผ่านไป ย้ำ....ผมทำหน้าที่ของผมแล้ว
แสดงความคิดเห็น
เจ็บที่น่องขาซ้าย หลังจากไปวิ่งมาราธอน มาครับ
ไม่ได้เจ็บปวดอะไรมากยังเดินได้ปกติ
หลังจากผ่านไป 2 วันอาการก็ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เดินเกือบปกติแล้ว
แต่จนเข้าวันที่ 3 มีอาการเจ็บที่บริเวณด้านนอกของเข่าซ้ายค่อนลงมาต่ำกว่ากึ่งกลางเข่า ซึ่งตอนนี้ผ่านไป 2 สัปดาห์ อาการหายแล้วครับ(ตอนนี้ยังไม่ได้ซ้อมวิ่งครับ)
แต่ที่มีปัญหาที่ไม่คิดว่าจะเกิดคือ อาการเจ็บที่น่องขาซ้ายครับ
ตอนเดินเหิน ทั่วไป เล่นเทนนิส(ผมเล่นเทนนิสเป็นหลักครับ) ไม่เจ็บครับ อาจจะมีแค่ตึงๆตรงข้อพับและน่อง แต่ไม่เจ็บปวดขนาดที่รู้สึกว่าต้องหยุด
แต่พอวิ่ง วิ่งซัก 50 เมตร จะมีอาการเจ็บที่น่องซ้ายทันทีเลยครับ อาการจะค่อยๆเจ็บ
เลยอยากขอคำแนะนำ จากทุกท่านหน่อยครับว่า
ผมควรจะพักฟื้นอย่างไรดี และโดยทั่วไปแล้วควรจะใช้เวลาในการรักษาพักฟื้นนานไหมครับ
ปล.ผมเล่นเทนนิสเป็นประจำครับ และยังไม่ใช่นักวิ่งเคยแค่วิ่ง Mini เท่านั้นครับ ก่อนไปมาราธอนก็ซ้อม 10 กิโล ก่อนเดือนนึงครับ
ขอบคุณครับ