อยากจะถามคุณที่เป็นคนรวยว่าเงินเป็นความสุขขนาดไหนครับ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 3
มันดีตรงที่คุณสามารถเลือกที่จะกินอยู่อย่างแพง หรือกินอย่างถูกก็ได้ คนละความหมายกับพอเพียง
ทำให้เราสามารถซื้อสินค้าและบริการได้ตามความพอใจ โดยไม่ต้องกังวลเปิดกระเป๋ามาเช็คเงิน
วันนี้คุณอยากเดินเข้าโรงแรม 5-6 ดาว กินมื้อเย็นราคาหลักพัน หลักหมื่นก็ได้
หรือจะเดินไปข้างถนน สั่งก๋วยเตี๋ยวไก่มะระชามละ 30 บาทมานั่งกิน ก็ไม่มีปัญหา

อยากจะดูแลคนในครอบครัว ช่วยเหลือพี่น้องก็ทำได้ตามที่เห็นสมควร โดยไม่ต้องกังวลว่าเค้าจะคืนหรือเปล่า คืนเมื่อไหร่
อยากจะซื้อรถดี ๆ ซักคัน ก็มีตัวเลือกให้มากมายตามขอบเขตของกำลังทรัพย์ที่มี ไม่จำกัดอยู่ที่คันละไม่เกินกี่แสนกี่ล้าน
ไม่ต้องมานั่งกังวล ก่นด่าเวลาได้ยินข่าวขึ้นค่าน้ำมัน ขึ้นค่าก๊าซ ไข่ใบละกี่บาท มะนาวถูกหรือแพง
ไม่ต้องแย่งรุมทึ้งข้าวสาร น้ำมันพืชกับใครในห้าง เวลาขาดแคลน

พูดง่าย ๆ คือเป็นความสุขที่ไม่ถูกจำกัดด้วยความสามารถในการจ่าย

คนบางคนชอบที่จะพูดว่า เงินไม่สำคัญ นั่นเพราะคน ๆ นั้นยังไม่เคยขาดเงินจริงจัง
หรือไม่ก็คน ๆ นั้นไม่เคยต้องมีความรับผิดชอบอะไรนอกจากตัวเอง จะสุขจะทุกข์จะหิวจะอิ่มก็ตัวเอง เลยไม่สนใจ
ลองถ้าต้องดูแลลูกหลาน ญาติผู้ใหญ่ คนในบ้าน คุณหิวได้ ลูกคุณหิวไม่ได้ คุณเจ็บป่วยได้ พ่อแม่เจ็บป่วยต้องรักษา
ของเหล่านี้ใช้เงินทั้งนั้น หากคุณเป็นคนที่เป็นที่พึ่งพาของทุกคน คงไม่มีความคิดประเภทที่ว่า "เงินไม่สำคัญ"

แต่จะว่าไป เงินมันสำคัญก็แค่จำนวณที่ต้องใช้ และจำเป็นอาจจะต้องใช้เพื่อประกันความเสี่ยงในอนาคต
มากไปกว่านี้ ค่าของเงินก็จะลดลงไปเลย ๆ ตามความโลภที่ลดลง
คนที่มีความพอเพียงกับวิถีชีวิตการกินอยู่ ไม่ว่าจะแบบถูกหรือแบบแพง หากคนนั้นไม่โลภ อยากได้อยากมีมากกว่าคนอื่น
เงินที่เป็นส่วนเกินในชีวิต มันก็แค่เศษกระดาษที่ไม่มีค่าอะไร หรือมีน้อยมาก ๆ
เอาไปช่วยเหลือคนที่ยังจำเป็นต้องใช้ คนที่สมควรจะช่วยจริง ๆ ก็ยังจะดีซะกว่า
เงิน 100 ล้านบาท กับเงิน 1 พันล้านบาทในธนาคาร มันต่างกันแค่เลข 0 ตัวเดียว หากมันยังอยู่ในธนาคารต่อไป
ดอกเบี้ยที่ต่างกัน 10 เท่าก็ไม่มีความหมายอะไร เพราะเงินต้น คุณยังไม่จำเป็นต้องเอามาใช้เลย ....
ความคิดเห็นที่ 2
ขอตอบครับ คิดว่าฐานะผมคงจะใกล้เคียงกับนิยามคนรวยที่ จขกท ให้ไว้

มนุษย์จะมีระดับความทุกข์สุขเท่ากันทุกคน 5 ระดับ ตามกฏของ Maslow

ขออภัยนะครับวิชาการนิดเดียว คนรวยจะมีความสุขแบบคนรวย แต่จะมีความทุกข์แบบคนรวยในระดับดีกรีเดียวกับคนจน

ถามผม ผมซื้อสินทรัพย์ไว้หนึ่งตัวมูลค่า 22ล แต่ขายไม่ออก เสียโอกาสตีว่า 3.5 ต่อปี เงินหายไป 7.7แสนต่อปี หรือ 2.11พันต่อวัน

มันเป็นความทุกข์ดีกรีเดียวกับมหาเศรษฐีคุณเจริญที่ไม่สามารถขับไล่ผู้ค้าละแวกเวิ้งนครเกษม เพื่อนำมาพัฒนาเพื่อให้มีรายได้ปีละหลายร้อยล้าน จากการซื้อที่ผืนนั้นมาผมไม่แน่ใจหลายพันล้านบาทจากตะกูลบริพัฒน์

ท้ายที่สุดสรุปสั้นๆนะครับ ความสุขทุกข์เท่ากันทุกคนไม่แบ่งแยกฐานะ ชาติพันธ์ วงศ์ตะกูล

มีครอบครัวที่อบอุ่น มีเพื่อนที่จริงใจ ไปไหนมาไหนมีแต่คนรัก แค่นี้น่าจะมีความสุขแล้วตามสมควร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่